ส่วนที่ 9 ภาคอุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี ตอนที่ 10 อุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี (10)

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

หลังจากนั้น ในขณะที่หลิงลี่ได้เห็นแววตาอันโมโหของแม่ตัวเอง หลิงลี่จึงได้กล่าวขอโทษซูหว่านอย่างไม่เต็มใจ พ่อหนุ่มน้อยก็ทำหน้าบึ้งลากแล้วดึงแม่ของตัวเข้าบ้าน

 

ซูเสี่ยวซูขึ้นบ้านไปพักผ่อนตั้งนานแล้ว เหลือเพียงแค่ซูรุ่ยกับซูหว่านที่อยู่ข้างล่าง ส่วนซูเจี้ยนจวินและภรรยาของเขาเนี่ย? สามีภรรยาคู่นี้ถือว่าเป็นคู่ที่โด่งดังมาก ๆ เลยแหละ หลังจากที่พวกเขาปิดการถ่ายทอดสดลง พวกเขาทั้งสองคนก็มีคนโทรเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน บริษัทที่พวกเขาเป็นหนี้ก็ได้โทรหาพวกเขาด้วยตัวเองแล้วบอกว่า “ไม่ต้องชำระหนี้ยอดที่เหลือแล้วนะ” ญาติห่าง ๆ ต่างก็แห่กันเข้ามาหาพวกเขากัน

 

ถ้าพูดถึงคนประเภทนี้ ใครจะไม่หยิ่งยโสล่ะ? ตัวเองใช้ชีวิตสบายแล้ว ยังอยากที่จะป่าวประกาศให้ทั้งโลกได้รับรู้ ซูรุ่ยเข้าใจความคิดของของซูเจี้ยนจวินเป็นอย่างดี

 

นี่มันไม่ใช่ ซูรุ่ยสั่งจัดเตรียมบอดี้การ์ดและคนขับรถ แล้วยังทำบัตรใช้จ่ายให้พวกเข้าอีกสองใบ ตอนนี้พวกเขาสองคนไม่รู้จะไปใช้เงินที่ไหนแล้วนะเนี่ย

 

โลกใบนี้มันชั่งกว้างใหญ่ การใช้เงินนี่แหละสำคัญที่สุด

 

สำหรับคู่สามีภรรยาที่ชอบใช้เงินฟุ้งเฟ้อคู่นี้ ซูรุ่ยไม่ได้จะอะไรกับพวกเขา ขอเพียงแค่พวกเขาไม่หาเรื่องให้ซูรุ่ยกับซูหว่าน ใช้เงินตามกำลังทรัพย์ของตระกลูตู้ เลี้ยงดูพวกเขาสิบชาติก็ไม่เป็นปัญหาอะไร

 

ถ้าพูดถึงซูรุ่ยกับซูหว่านก็เคยเป็นประธานบริษัทและเป็นลูกคนมีเงินมาก่อน แต่ความจริงแล้ว ในโลกใบนี้ พวกเขาพึ่งเข้าใจคำว่า “เงินเป็นเพียงแค่ตัวเลข” ที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร

 

ถูกต้องแล้วแหละ ตระกูลตู้จัดว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยเทียบเท่าระดับประเทศ นี่มันสุดยอดทะลุฟ้าไปเลยนะเนี่ย

 

“ที่รัก เราขึ้นไปนอนกันดีไหม? ”

 

ซูรุ่ยเห็นว่าผู้คนกลับกันไปหมดแล้ว เลยอดใจไม่ไหวที่จะพิงที่รักของตัวเองแล้วพูดว่า “ฉันคิดถึงคุณนะ”

 

“คิดถึงอะไรกัน วันนี้เราตัวติดกันไม่ห่างกันทั้งวันเลยนะ”

 

“นี่…” แม่ทัพซูยังหน้าด้านพูดต่อไปอีกว่า “จริง ๆ แล้ว คือซูรุ่ยคิดถึงคุณต่างหาก”

 

“คุณนี่มันโรคจิตจริง ๆ เลย”

 

ซูหว่านรู้สึกว่าแม่ทัพซูนับวันยิ่งหน้าไม่อาย

 

“ถึงฉันจะเป็นโรคจิต แต่ฉันก็โรคจิตแต่กับคุณแค่คนเดียว”

 

ขณะที่พูดคุยกัน ซูรุ่ยหัวเราะอยู่ดี ๆ ก็ล้มลงไปทับร่างกายของซูหว่าน และซูหว่านก็โดนทับอยู่ด้างล่างของร่างกายซูรุ่ย

 

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ยืนอยู่ที่มุมห้องรับแขกรอให้คนมาบังคับใช้งาน พอเห็นฉากที่บนโซฟาเท่านั่นแหละ ตาทั้งสองข้างก็เป็นสีแดงประกายขึ้นมา

 

ติง! แสกนเห็นฉากที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก ปิดฟังชั่นการถ่ายวิดีโอและการบันทึกเสียง

 

ซีพียูหยุดทำงานอัตโนมัติ

 

จะว่าไป เทคโนโลยีขั้นเทพเนี่ย มันเจ๋งจริง ๆ เลยนะ

 

ในขณะที่ซูรุ่ยและซูหว่านกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ประตูใหญ่ของคฤหาสน์จู่ ๆ ก็มีคนผลักเข้ามาผลักเข้ามาอย่างรุนแรง ตู้เฉินวิ่งเข้าห้องอย่างล้มลุกคลุกคลาน

 

เสียงดัง “ปัง” เขาปิดประตูใหญ่คฤหาสน์อย่างสุดกำลัง

 

เอิ๊กกก

 

สีหน้าของตู้เฉินก็ยังระคายเคืองอยู่ ในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมา สายตาของเขาก็ได้ไปจ้องตากันกับสองคนที่อยู่บนโซฟาพอดี

 

“พวกคุณทำอะไรกันอยู่น่ะ? ”

 

ฉากที่อยู่ต่อหน้ามันทำให้สีหน้าของเขานั้นหงอยไปเลย

 

ซูหว่านขยิบตา มองสายตาของแม่ทัพซู และยังเห็นใบหน้าของตู้เฉินที่อยู่ดี ๆ ก็หงอยลง

 

“น้องชายคนรอง กลับมาแล้วหรอ? จะให้พวกพี่ทำอะไรกันล่ะ? นี่พวกพี่กำลังเตรียมตัวจะกลับเข้าห้องไปนอนกันแล้ว”

 

พอพูดเสร็จ ซูหวานก็เอามือทั้งสองไปโอบกอดคอของซูรุ่ย แล้วพูดว่า “คุณสามี ขอกอดหน่อย เรากลับไปนอนกันเถอะ”

 

“อย่าดื้อนะ”

 

พอแม่ทัพซูได้ยินคำพูดของที่รักตัวเอง สีหน้าของแม่ทัพซูก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที อุ้มที่รักของตัวเองโดยไม่สนใจตู้เฉินที่อยู่ตรงประตู และซูรุ่ยหันหลังก้าวขาวิ่งขึ้นห้องอย่างรวดเร็ว

 

ตู้เฉิน ”……”

 

คุณชายรองตู้ผู้ที่ต้องใช้ความพยาพยามเป็นอย่างมากถึงจะจากหนีออกมาจากสื่อที่มากวนใจได้ เขารู้สึกเสียใจมาก

 

ฉันดูดี เลิศหรูขนาดนี้ แต่กลับโดนพี่ชายตัวเองเมินเฉยเลย

 

แน่นอน นี่มันไม่ใช่จุดสำคัญ แต่ที่สำคัญคือเข้าห้องแค่ชั่วพริบตาเดียวและได้เห็นตู้หันตัวชิดกันกับซูหว่านเต็มตาตู้เฉินรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก และซูหว่านยังเรียกว่าเขาว่า ”น้องชายคนรอง” มันสะกิดใจจริง ๆ เลย ทำให้ตู้เฉินรู้สึกเหมือนว่าใจจะสลาย ใช่ไหมล่ะ?

 

ไม่รู้เราจะรีบร้อนกลับมาทำไม เพื่ออะไร

 

ก็แค่อยากจะพูดกับเธอให้เข้าใจ เวลานี้ทำให้ตู้เฉินสับสนอย่างมาก

 

จู่ ๆ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ มันคืออะไรกันแน่

 

เขานั่งลงที่บนโซฟาอย่างหมดอาลัยตายอยาก นั่งก้มหน้าลง มือสองมือกุมขมับ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเหงาหงอยอย่างมาก

 

หลิงชีเย่ว์หลังจากที่กล่อมหลิงลี่นอนเสร็จก็ออกมาจากห้องนอน และพอได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งโดดเดี่ยวคนเดียวที่บนโซฟา เธอก็หยุดชะงักแบบไม่ได้ตั้งใจ

 

ฉันยังรักเขาอยู่หรอ?

 

ตอบแรกเขาเป็นคนลบหลู่เหยียดหยามฉัน หลินชีเย่ว์เดินออกมาด้วยความแค้นใจ ในตอนนี้เธอกำลังอุ้มท้องหลิงลี่อยู่ ตอนที่ใช้ชีวิตลำบาก ไม่เคยคิดว่าจะกลับไปหาเขา จนกระทั่ง……

 

ก็เหมือนที่ซูหว่านได้ให้สัมภาษณ์ไปอย่างนั้นไปว่า ผู้หญิงทุกคนต่างก็มีความเซ็กซี่และคิดไปเองกันหมด

 

ตอนนั้นหลิงชีเย่ว์ก็เคยจินตนาการว่า ถ้าวันนึงตู้เฉินได้มายืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง ใช้สีหน้าที่อ่อนโอนและพูดกับตัวเองว่า “ภรรยา ฉันมารับคุณกลับบ้าน”

 

แต่ว่า ในความเป็นจริงฉันก็แค่ได้แต่คิดไปเอง ซึ่งมันขัดแย้งกับความเป็นจริง

 

เรื่องราวของซูหว่านกับตู้หัน ทำให้หลิงชีเย่ว์ได้รู้ว่าความไร้เดียงสาของตัวเอง ความรักที่ลึกซึ้งที่แท้จริงควรจะเหมือนตู้หันที่ปฏิบัติต่อซูหว่านแบบนั้น

 

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ตอนที่คุณตกระกำลำบาก ฉันจะอยู่เคียงเข้าคุณ ยิ้มแบบจริงใจและพูดกับคุณว่า “กลับบ้านกับฉันนะ ฉันอยู่ตรงนี้ อะไรก็ไม่ต้องไปกลัว”

 

นั่นถึงจะเป็นความรักไม่ใช่หรอ?

 

หลินชีย์ถอนหายใจสุดลมหายใจ กำลังจะกลับหลังกลับไป แต่กลับเห็นตู้เฉินแหงนหน้ามองขึ้นมาจากข้างล่างบ้าน และสบตากับหลินชีเย่ว์

 

หลินชีเย่ว์นิ่งอึ้งไปซักพัก ถึงจะพูดออกมาเบาๆว่า “คุณกลับมาแล้วหรอ? ”

 

พอตู้เฉินเห็นใบหน้าของหลินชีเย่ว์ จู่เขาก็นึกถึงคำพูดที่อยู่ในคลิปที่พูดทุกวัน

 

“นังจิ้งจอก” ”นังมือที่สาม” ลูกอายุเพียงห้าขวบ ในหัวคิดแต่เรื่องอะไรแบบนี้หรอ?

 

“หลินชีเย่ว์ หลายปีที่ผ่านมาคุณสอนลูกยังไงกัน คำพูดที่ดูถูกซูหว่าน คุณเป็นคนสอนลูกใช่ไหม”

 

“คุณคิดว่าฉันเป็นคนสอนหรอ? ”

 

เป็นไปอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย เขาไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเลย คิดเองเออเองตลอด

 

“ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใครหล่ะ? ”

 

พอหลินชีเย่ว์ถามกลับ ตู้เฉินหัวเราะเยาะและตอบกลับไปว่า “คุณกลับมาครั้งนี้ คือจะมากลับมาหย่าร้างกับฉันใช่ไหม? ทำไมคุณไม่ส่งเอกสารการหย่าร้างไปที่บริษัทฉัน? แต่กลับต้องรอให้ฉันกลับมาตอบรับเองที่บ้านหรอ? หลินชีเย่ว์ คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ”

 

ถ้าคลิปที่ซูหว่านเผยแพร่ไปเป็นเรื่องจริง ถ้าอย่างนั้นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ คนนึงทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้นได้ ต้องมีคนแอบสอนเขาแน่ ๆ ทุกวันที่อยู่ข้าง ๆ ลูกนอกจากตู้เฉินก็มีแค่หลินชีเย่ว์แค่นั้น

 

“ตู้เฉิน คุณก็โทษฉันเป็นแบบนี้ตลอด ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้วนะ เรื่องเอกสารการอย่างร้างฉันได้ทำการเซ็นเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เช้าหวังว่าคุณจะเซ็นชื่อคุณลงไปด้วย พอแค่นี้แล้วกัน”

 

พอหลินชีเย่ว์พูดเสร็จก็หลังหลังกลับไปแบบไร้เยื่อใย ครั้งนี้จะไม่มีความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิดเลย

 

คำของลูกทีทำให้เธอเปลี่ยนไป ณ เวลานี้ก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม

 

พอเห็นหลินชีเย่ว์เดินจากไป ตู้เฉินก็ก้มลงไปทำลายข้าวของบนโต๊ะชา

 

คุณอยากจะหย่าร้างอย่างนั้นหรอ? ได้ แต่เขาเป็นลูกของฉัน ลูกของฉันก็ต้องอยู่กับฉัน

 

……

 

วันต่อมา สื่อมวลชนที่มาอ้อมล้อมคฤหาสน์ของตระกลูตู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก กระแสดังขึ้นมากเพราะคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ไป จะให้ไปลูกเข้าเรียนอนุบาลก็ไม่ได้แล้ว และเรื่องงานภายในประเทศหลินชีเย่ว์ก็ติดต่อประสานใกล้จะเสร็จแล้ว ตอนนี้รอแค่ตู้เฉินเซ็นเอกการการหย่าร้าง เธอก็จะภาษลูกหนีไปทันที

 

ซูรุ่ยและซูหว่านไม่ได้ลงมากินข้าวเช้าตามปกติ ผู้ที่พักผ่อนเต็มอิ่มและมีชีวิตชีวาอย่างซูเสี่ยวซูกลับนั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย

 

“เหอะ ไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาซะเลย”

 

พอเห็นลักษณะท่าของการกินของซูเสี่ยวซู เทียนเทียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทนไม่ได้ที่จะไม่เอ่ยปากพูดเยาะเย้ยไปว่า

 

”อาหารเต็มปากก็ปิดปากคุณไม่ได้ คุณจะมองฉันทำไม ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง”

 

ซูเสี่ยวซูพูดประชดกลับไปอย่างไม่ลังเลว่า “เหอะ ๆ ๆ จะมาแข่งกับพี่อย่างนั้นหรอ ไอ้น้องชาย แกเทียบฉันไม่ติดหรอก”

 

“ตู้อวี่ หลินลี่ ตั้งใจกินข้าว หยุดทะเลาะกันได้แล้ว”

 

 ตู้เฉินที่กำลังรับประทานอาหารอยู่อย่างเงียบ ๆ พอได้ยินเสียงของพวกเขาทั้งสองคน ก็ได้ทำเสียงดื่มน้ำเสียงดังเพื่อให้พวกเขาหยุดทะเลาะกัน

 

“ฉันชื่อว่าซูเสี่ยวซู ไม่ได้ชื่อว่าตู้อวี่”

 

ซูเสี่ยวซูแก้คำที่ตัวเองได้พูดไป

 

“ตู้อวี่อะไรกัน จะมาเทียบความน่ารักของแม่นางซูได้ยังไง”

 

”ซูเสี่ยวซูอย่างนั้นหรอ”

 

พอตู้เฉินได้สติ เขาไม่ได้สังเกตหุ่นยนต์เครื่องนี้ คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าพี่ชายจะเปลี่ยนชื่อให้เธอ แถมยังแซ่ ”ซู” อีก

 

นี่เขาจะประกาศยึดอำนาจอธิปไตยแล้วรึไง