ตอนที่ 177: เซียนปฐพี
เมื่อได้ยินชายวัยกลางคนพูดออกมา หัวใจของทุกคนก็เต้นแรงไปชั่วขณะ พวกเขาอ้าปากค้างจ้องมองชายในชุดเทา ไม่มีใครคิดว่าคนที่จ่าย 100,000 เหรียญม่วงให้กับสัตว์อสูรขั้นที่ห้านั้นจะเป็นชายชราที่ดูธรรมดามากตรงหน้าพวกเขา
ชายชุดเทาหัวเราะ “ถูกต้อง ข้าเป็นคนซื้อเอง” น้ำเสียงของเขาเฉยเมย
เมื่อได้ยินดังนี้ ชายวัยกลางคนที่พูดออกมาก่อนหน้านี้ก็แสดงสีหน้าสุขใจออกมา เขาจ้องไปที่ชายชุดเทาเพื่อที่จะประเมินความแข็งแกร่งของเขาแล้วพูดออกมา “ดี เจ้ากล้าที่จะต่อต้านตระกูลยู่หลันของข้า ! ช่างเป็นการกระทำที่ไม่ยั้งคิดจริงจริง ทำตัวให้ฉลาดแล้วส่งสัตว์อสูรขั้นที่ห้ามาซะ ไม่งั้นเจ้าจะไม่ได้อยู่สบายแน่”
“ถ้างั้นคนพวกนี้ก็คือส่วนหนึ่งของตระกูลยู่หลันที่คิดว่าตัวเองนั้นหยิ่งยโสจนกระทั่งเอาคนเข้ามาในโรงประมูลแล้วจะทำอะไรก็ได้” เมื่อได้เห็นคนของตระกูลยู่หลันอาละวาด เจี้ยนเฉินก็ขมวดคิ้วคิด
ผู้อาวุโสชุดเทาและชายที่อยู่ถัดจากเขามองหน้ากันและกันพร้อมทั้งยิ้มเล็กน้อย จากนั้น หน้าตาที่เฉยเมยของผู้อาวุโสก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นก่อนที่จะหันไปหาชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเขา “ตระกูลยู่หลันไม่มีค่าอะไรในสายตาของข้า ไสหัวไป!”
“เจ้าอยากตายอย่างนั้นหรือ?! ดูจากที่เจ้าทำเรื่องให้ยุ่งยากแล้ว เจ้ามันคงเป็นตาแก่โง่เขลาที่ดื้อรั้น ! “
คนของตระกูลยู่หลันโกรธเกรี้ยวในขณะที่เขาบินไปทางชายชราพร้อมด้วยแขนที่ยื่นไปข้างหน้า
ในตอนที่ชายวัยกลางคนยื่นมือออกไป ตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเขาสัมผัสได้ว่าแขนของชายชราคนนั้นบีบอยู่รอบคอของเขาแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายชรายื่นมือมาถึงเขาได้ไง และเขาก็รู้สึกว่าคอถูกบีบรัดทำให้เขาหายใจไม่ออก
ตาของชายวัยกลางคนเบิกกว้างออกในขณะที่เขามองลงไปที่มือที่กำลังบีบคอของเขาอย่างเหลือเชื่อ มันเป็นความตกใจที่เขาไม่ได้สังเกตเลยในตอนที่ชายชราบีบคอของเขา
ชายชรายังคงบีบคอของชายวัยกลางคนต่อพร้อมกับมองอย่างเหยียดหยาม ขณะที่เขาพูดออกมา “เจ้าหนู เจ้าวู่วามเกินไป ถ้าเจ้าต้องมาตายที่นี่ ก็ไม่ต้องโทษใครแล้วล่ะ”
หลังจากที่พูดแบบนั้น ชายชราก็เหวี่ยงแขนและร่างกายที่หนักอึ้งของชายวัยกลางคนก็ลอยไปไกลทันทีเหมือนว่าเขาเป็นแค่ลูกเจี๊ยบตัวเบา ๆ เขากระแทกไปที่กำแพง แรงที่เขากระทบกำแพงทำให้กำแพงสั่น
ด้วยเหตุการณ์ที่ตามมาอย่างกะทันหันนี้ คนของตระกูลยู่หลันคนอื่นก็อึ้งไป เมื่อเห็นว่าคนของพวกเขาลอยไปที่กำแพง บางคนในกลุ่มก็หน้าซีด พวกเขาทั้งหมดเอาอาวุธเซียนออกมาและพุ่งไปที่ชายชราอย่างลังเล
“หืม เจ้าตีค่าตัวเองมากไปแล้ว!” ชายชุดเทาพ่นลมออกมาทางจมูกและทำสายตาเย็นชา แสงสีแดงสว่างปรากฎขึ้นมาที่มือขวาของเขาในขณะที่อุณหภูมิของห้องก็เพิ่มขึ้นทันที
ในขณะที่ชายวัยกลางคนหลายคนกำลังพุ่งมาทางเขา แสงที่รุนแรงในมือของเขาก็กระจายออกไปทุกทิศทางเหมือนดาวตกทันที ประกายลอยออกไปจากฝ่ามือของเขาและกระแทกไปที่อาวุธเซียนทุกชิ้นที่เล็งมายังเขา
“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง…”
ในตอนที่ประกายและอาวุธเซียนปะทะกัน เสียงกังวานใสก็ดังออกมาในขณะที่อาวุธเซียนของตระกูลยู่หลันก็หักออกเป็นสองส่วนทันที
“อุ๊บ ! ” ชายที่พุ่งเข้ามากระอักเลือดออกมาทันทีเหมือนว่าพวกเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรง พวกเขาถอยไปหลายก้าว ใบหน้าของพวกเขาซีดไม่มีสีเลือดเลย บางคนลุกขึ้นมาอย่างโซเซ สักพักต่อมาพวกเขาก็ล้มลงไปที่พื้นอีกครั้งแล้วลุกขึ้นมาไม่ได้
เมื่อคนที่ดูอยู่เห็นว่าอาวุธเซียนถูกทำลาย พวกเขาก็มีสีหน้ายินดีออกมา ในใจของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดเข้าใจว่าความเย่อหยิ่งที่หาใดเทียบไม่ได้ของตระกูลยู่หลันได้สิ้นสุดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าคนของตระกูลยู่หลันจะรอดชีวิต พวกเขาก็คงเป็นได้แค่คนไร้ค่าที่ต่ำที่สุดในทวีปเทียนหยวน อย่างไรตาม ทุกคนทึ่งมากกว่าในความแข็งแกร่งของชายชราผู้นี้
แค่ดีดนิ้ว เขาก็ทำลายบรรดาอาวุธเซียนของชายที่แข็งแกร่งเหล่านั้นไปได้ ด้วยการโจมตีที่รุนแรงขนาดนั้น เขามีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับไหนกันนะ?
“นายน้อย สำหรับคนแบบพวกนี้ แค่ส่งให้ผู้อาวุโสซุยก็พอ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปจัดการเองหรอก” แสงอ่อนอ่อนปรากฏอยู่ในตาของชายชราในขณะที่เขาหันไปหาชายวัยกลางคนข้าง ๆ แล้วพูด้วยน้ำเสียงเคารพ
ชายวัยกลางคนปล่อยแขนลงในขณะที่เขาเดินไปที่ชายที่ไม่ได้สติและพูดอย่างเฉยเมย “ข้าทนคนพวกนี้ไม่ได้ นี่คือการลงโทษถ้าพวกเขามีชีวิตรอดไปได้ ดูซิว่าพวกนี้จะมีโชคแค่ไหน สำหรับตระกูลยู่หลันเล็ก ๆ ที่บ้าทำตัวไร้ขอบเขตแบบนี้ หืม!” หลังจากที่พูดแบบนั้น เขาก็นั่งยอง ๆ ลงไปดูคนงานที่ถูกกระแทกในตอนแรกและดูบาดแผลของเขา
“แผลพวกนี้เป็นแผลเล็ก ๆ ตื้น ๆ ไม่มีอะไรร้ายแรง” หลังจากที่ดูแล้ว ชายวัยกลางคนก็ถอนหายใจโล่งในขณะที่เขาเอาแหวนที่ซ่อนอยู่ในสาบเสื้อของเขาออกมาเพื่อสวม
เขาเอายาออกมาจากแหวนมิติ เขาเริ่มทามันลงไปบนหัวของชายคนนั้น
เมื่อได้เห็นการกระทำของชายวัยกลางคนในตอนนี้ ชายชราชุดเทาก็ได้แต่สายหัว นายน้อยคนนี้เหี้ยมโหดกับศัตรูแต่ใจดีและซื่อสัตว์กับคนธรรมดา เขาไม่ค่อยเห็นคนที่มีทัศนคติอย่างนี้บ่อยนัก
“สำหรับตระกูลยู่หลันที่ทำอะไรแบบนี้ พวกนั้นมันรนหาเรื่อง” ผู้อาวุโสหวงถอนหายใจออกมาแล้วหันไปทางเจี้ยนเฉิน “ท่านวู่หยุน กรุณาตามข้ามา”
เจี้ยนเฉินพยักหน้าในขณะที่เขามองไปที่ชายชุดเทาสองคนก่อนที่จะตามผู้อาวุโสซุยออกไปจากที่นั่น ในใจของเขา เขาไม่โล่งใจเหมือนที่เขาอยู่ด้านนอก
“ข้าไม่คิดเลยว่าชายสองคนนี้จะเป็นจอมยุทธที่เก่งกาจอย่างคาดไม่ถึง ถ้าข้าประมาณการไม่ผิด ชายวัยกลางคนคนนั้นก็น่าจะเป็นเซียนปฐพีด้วย”
เจี้ยนเฉินตามหลังผู้อาวุโสหวงไปยังชั้นที่สองของโรงประมูลและเข้าไปในห้องที่สวยงาม
หลังจากที่เขาไปที่ห้องรับแขก เจี้ยนเฉินก็เห็นผู้จัดการของโรงประมูลฟีนิกซ์ ยูลเลี่ยน ซึ่งกำลังนั่งอยู่อย่างสงบที่โต๊ะหนึ่ง มันดูเหมือนว่าเขานั่งมาที่นั่นสักพักแล้ว
“ท่านวู่หยุน หลังจากที่หายไปนาน ท่านก็กลับมาในที่สุด” ยูลเลี่ยนยิ้มอย่างสุภาพบนใบหน้าของนาง
เจี้ยนเฉินหัวเราะกลับไปโดยไม่พูดอะไรและนั่งลงที่โซฟาด้านหน้ายูลเลี่ยน ผู้อาวุโสหวงที่ให้เขาเข้ามาในห้องไม่ได้ตามเข้ามา และปิดประตูเดินจากไป