ตอนที่ 236 ได้รับข่าวสำคัญ!
หม่าหนานมองเย่เฉินที่ดวงตาเหมือนจะอ่อนโยนแต่กลับฉายแววโหดเหี้ยมชัดออกมา ตอบกลับมาด้วยท่าทางหวาดกลัว

“ไม่…ไม่ได้จูงมือเลยครับ…พวกเราแค่ไปดูภาพยนตร์กันแค่ครั้งเดียว พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกัน ผมไม่ได้คิดอะไรกับหล่อนเลย!”

ตอนนี้จะมาทำตัวเป็นคนดีเอาในเวลานี้ เย่เฉินจะเชื่อได้อย่างไร?เพราะหม่าหนานเตี้ยมาก เย่เฉินก็ลากคอเขาเดินไปทางอุปกรณ์เวทเทรนนิ่งแล้วพูดไปกับเขาไปด้วย “อ้อ แค่ไปดูหนังด้วยกันเฉยๆ เหรอ ดูหนังอะไรล่ะ?”

หม่าหนานไม่รู้ว่าเย่เฉินคืดจะทำอะไร เขาจึงเดินไปพลางกล่าว “Detective Chinatown 3 ครับ”

เย่เฉินถามต่อ “หนังนานเท่าไหร่?”

หม่าหนานตอบกลับอย่างหวาดกลัว “สอง…สองชั่วโมง”ทั้งสองคนค่อยๆ เดินไปที่เครื่องออกกำลังกายแล้วถึงหยุดลง

จากนั้นเย่เฉินก็เดินไปที่หยิบลูกเหล็กที่มีขนาด 10 กก. ส่งให้หม่าหนานแล้วกล่าว “ชูมันขึ้น ชูไปสองชั่วโมง”

“อะไรนะครับ? สองชั่วโมงเหรอ?” หม่าหนานได้ยินแล้วชะงักไป

เย่เฉินกล่าวอย่างตึงเครียด “ถ้าหากว่าหยุดล่ะก็ ผมจะส่งคุณไปอยู่กับเพื่อนเลยล่ะ”

เย่เฉินรู้ว่าหม่าหนานจงใจโกหกหลอกลวงความรู้สึกของฉินเสี่ยวตั่ว หลอกล่อหล่อน แถมยังจับมือหล่อน

เย่เฉินล้างแค้นหม่าหนาน จึงเลือกล้างแค้นกับมือเขา ส่วนอื่นๆ เขาจะไม่แตะต้อง

“พี่ครับ”

“เรียกพี่ไปก็ไม่มีประโยชน์ เร็วๆ ถ้าไม่รีบยกอีก ผมจะโยนคุณไปแล้วนะ!”

“ครับๆ ผมยกแล้ว ผมยกแล้ว!”

หม่าหนานค่อยๆ ยกขึ้นช้าๆ แล้วก็ยกลงมาช้าๆ

“เร็วๆ หน่อย เร็วๆ!”

เย่เฉินเป็นเหมือนเทรนเนอร์ส่วนตัว เริ่มสั่งสอนเขาขึ้นมา

หม่าหนานเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่นานนักมือของเขาก็เหนื่อยล้าจนยกไม่ขึ้น

แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าวางลูกเหล็กในมือ เพราะเขากลัวว่าทันทีที่วางลูกเหล็กลงเขาจะโดนเย่เฉินโยนเขาไปฟากนั้น แล้วโดนน้ำลายถ่มใส่หน้า

ทว่าเวลาผ่านไปสิบกว่านาที หม่าหนานก็ทนไม่ไหวลูกเหล็กก็ร่วงจากมือลงพื้น

เย่เฉินก็ไม่พูดไม่จา แล้วคว้าตัวเขาโยนไปฝั่งนั้นทันที

หม่าหนานร้องไห้ออกมาทันที “พี่เย่! อย่าเลยครับ พี่เย่ ผมผิดไปแล้ว! ผมไม่ควรไปแตะเนื้อต้องตัวฉินเสี่ยวตั่ว ก็เป็นฝีมือของไอ้สารเลวจินเซียวข่าย ตัวเองจีบสาวไม่ติด ยังจะให้ผมไปตามจีบหล่อน ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ!”

เย่เฉินแค่นเสียงเย็น “ตอนนี้โทษเพื่อนตัวเองแล้วเหรอ? คุณจีบไม่ติดแล้วทำไมต้องบอกให้หลิ่วอวี่เจ๋อไปจีบต่อล่ะ! พวกสารเลวเอ้ย! ”

ยิ่งคิดเย่เฉินก็ยิ่งหัวเสีย จนอยากจะเตะอีกฝ่ายเต็มแรง

หม่าหนานตะโกนโดยไม่หยุดหายใจสักนิด

“ขอ…ขอโทษครับ”

เมื่อน้ำลายของคนทั้งร้อยคนก็ถ่มรดใบหน้าของจินเซียวข่ายเรียบร้อยแล้ว หลิวเจิ้งคุนก็เดินมารายงานกับเย่เฉิน

“จะให้ลากเจ้านั่นมาไหมครับ?” หลิวเจิ้งคุนถาม

เย่เฉินมองจินเซียวข่ายจากที่ไกลๆ เช่นกัน เมื่อพบว่าใบหน้าและเนื้อตัวของเขาล้วนแต่เปื้อนน้ำลาย ดูน่าขยะแขยงอย่างมาก

“พาเขาเข้าไปอาบน้ำด้านใน แล้วค่อยลากเขาออกมา” เย่เฉินกำชับ

“ครับ!”

ลูกน้องของหลิวเจิ้งคุนพาเขาไปอาบน้ำ จินเซียวข่ายถึงได้เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เฉินเหมือนกับหม่าหนาน

“ขอโทษด้วยนะครับ คุณชายเย่ พวกเราไม่กล้าทำอีกแล้วครับ คุณชายได้โปรดปล่อยมไปเถอะ ผมผิดไปแล้ว คุณชายเย่ เป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง อย่าถือสาหาความพวกเราเลย”

ลูกชายเศรษฐีที่ยิ่งใหญ่สองคนในเทียนไห่ถูกเย่เฉินดัดสันดานแล้ว

เย่เฉินไม่ใช่คนที่จะไม่เว้นทางรอดให้ใคร เขาถามทั้งสองคน “แล้วจะยังเล่นเกมน่าเบื่อนี่ต่อไปอีกไหม? ที่จีบใครไม่ติดแล้วจะให้เพื่อนไปจีบต่อน่ะ?”

จินเซียวข่ายรีบร้อนกล่าว “ไม่กล้าแล้วครับ ไม่กล้าอีกแล้ว ชีวิตนี้ผมจะไม่ตามจีบผู้หญิงอีกแล้ว!”

หม่าหนานเองก็กล่าวว่า “ที่จริงแล้ว ตั้งแต่ตามจีบสาวแล้วโดนซ้อม ผมก็ไม่อยากจะเล่นเกมนี้ต่อไปแล้ว ต่อไปกลุ่มนี้ของพวกเราจะต้องแยกย้ายสลายตัว จะไม่มีอีกแล้ว!”

พอเย่เฉินได้ยินเขาก็เกิดสงสัย “จีบสาวติดแล้วโดนซ่อมเหรอ? ผู้หญิงคนนั้นคือฉินเสี่ยวตั่วไหม? โดนใครซ้อมล่ะ?”

หม่าหนานส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับ เป็นเจ้าของร้านกาแฟที่หน้าตาสวยๆ ถึงจะมีลูกแล้วก็เถอะ แต่ผมตกหลุมรักหล่อนตั้งแต่แรกเห็นเลย แต่ตอนที่ลองตามจีบหล่อน กลับโดนใครไม่รู้ซ้อมเฉยเลย ข่ายจื่อเองก็โดนซ้อมเหมือนกัน แต่โดนพ่อของเขาซ้อม”

จู่ๆ เย่เฉินก็มีท่าทีตั้งอกตั้งใจขึ้นมา เจ้าของร้านแฟคนนั้นก็คือคนที่เขาเข้าใจผิด่าเป็นพี่สะใภ้รองไม่ใช่หรือ?!

ทันใดนั้นเองเขาก็หวนนึกถึงรูปภาพใบนั้นที่เหอเหวินเจี้ยนเห็นในตู้ ที่จินเซียวข่ายแปะข้อความเอาไว้ ‘พื้นเพครอบครัวลึกล้ำเกินไป จะล่วงเกินไม่ได้’

เย่เฉินสงสัยในตัว ‘สะใภ้รอง’ คนนี้อย่างมาก ดังนั้นจึงกล่าวถามจินเซียวข่าย “พ่อคุณซ้อมคุณทำไม? เพราะอะไร?”

จินเซียวข่ายพยักหน้ารับ “หลังจากที่หม่าหนานล้มเหลว ผมก็ตั้งใจจะไปตามจีบเถ้าแก่ร้านกาแฟคนที่ว่า แต่ผมอยากจะลองสืบดูก่อนว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครมาจากไหน ผมก็เลยให้พ่อผมลองไปสืบดู แต่ใครจะไปรู้หลังจากที่พอพ่อผมไปสืบแล้วจะกลับมาตบผม แต่ยังเตือนผมด้วยว่า จะไปคั่วผู้หญิงคนไหนก็ได้ ฉันไม่สนใจ แต่ผู้หญิงคนนี้แกห้ามแตะต้องหล่อนเด็ดขาด ถ้าแกแตะต้องหล่อนแม้แต่ปลายก้อย บ้านเราจบเห่แน่!”

เย่เฉินชะงักไป จินเซียวข่ายนับว่าเป็นลูกหลานเศรษฐีคนร่ำรวยในสายงานธนาคาร

ถ้าเป็นแบบนี้ พื้นเพของสาวสวยคนนี้น่าจะอยู่เหนือจินเซียวข่าย?

เป็นผู้หญิงในตระกูลที่ร่ำรวยแน่นอนอยู่แล้ว!

เย่เฉินกล่าวถาม “ผู้หญิงคนนั้น เป็นใครกันแน่”

จินเซียวข่ายกล่าว “ตอนนั้นผมก็ถามพ่อเรื่องนี้ แต่พ่อผมบอกว่าจะถามอะไรมากมายนักหนา บอกว่าอย่าแตะต้องก็อย่าสิ แค่ไม่ไปแตะหล่อนก็พอแล้ว ต่อมาผมก็ยังเซ้าซี้เว้าวอนเขาถึงได้ยอมบอกผม ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนมาจากเมืองหลวง ตระกูลของหล่อนยิ่งใหญ่ ไม่ได้แค่มีเงินเท่านั้น”

เย่เฉินพยักหน้ารับ ประเทศนี้มีพยัคฆ์หมอบเต็มไปหมด โดยเฉพาะที่อย่างยิ่งสถานที่อย่างเมืองหลวงและเทียไห่

ต่อให้เป็นสถานที่อย่างอวิ๋นโจว ทายาทของตระกูลลึกลับอย่างเย่เฉินยังอยู่ที่นั่นตั้งสามปี

เถ้าแก่ของร้านกาแฟเล็กๆ จะเป็นทายาทของตระกูลร่ำรวยยิ่งใหญ่ในเมืองหลวง ก็คงจะไม่แปลก

พอนึกถึงตรงนี้แล้วเย่เฉินถึงได้ยิ่งสนใจผู้หญิงคนนี้มากขึ้น

ทำไมพี่รองถึงได้ฝากกุญแจไว้ที่นั่นนะ? หรือว่าเป็นเหมือนที่น้องสี่บอกเอาไว้ว่าเห็นหล่อนสวยดี ก็เลยอยากจะแนะนำให้รู้จัก ? แต่ว่าพี่รองจะต้องรู้เรื่องที่บ้านหล่อนแน่ ถ้าเกิดไปตามจีบหล่อนจริงๆ จะไม่ซวยโดนสามีของหล่อนซ้อมเหมือนไอ้พวกหน้าโง่พวกนี้เหรอ?”

เย่เฉินคิดในใจแล้วหันมองทั้งสองคน จากนั้นก็ถาม “หลิ่วอวี่เจ๋อก็จีบไม่ติดเหรอ?”

ในบรรดาพวกเขาห้าคน หลิ่วอวี่เจ๋อหล่อที่สุด รวยที่สุด ตัวสูงที่สุด เขายังเอาหวังเจียเหยามาครอบรองได้ โดยปกติแล้วน่าจะมีผู้หญิงจำนวนน้อยนิดที่เขาจีบไม่ติด

จินเซียวข่ายกล่าว “หลิ่วอวี่เจ๋อเกิดใจป๊อดขึ้นมาครับเลยไม่กล้าตามจีบ เขาไปชิมกาแฟที่ร้านกาแฟของเจ้าหล่อน แล้วแปะสติ๊กเกอร์กากบาทยอมแพ้เอง นี่เป็นผู้หญิงคนเดียวที่จัดการพวกเราทุกคนได้อย่างราบคาบตั้งแต่มีกลุ่มของพวกเรามา! ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!”

ถุย!

เย่เฉินถ่มน้ำลายใส่หน้าจินเซียวข่าย เพราะเมื่อครู่คนถ่มน้ำลายครบร้อยคนแล้ว เขายังไม่ได้ถ่มน้ำลายใส่อีกฝ่ายเลย

เย่เฉินกล่าว “อะไรคือแค่คนเดียวเท่านั้น? ฉินเสี่ยวตั่วก็เหมือนกัน! คุณคิดว่าหลิ่วอวี่เจ๋อได้นอนกับหล่อนหรือไง? ชาติหน้าก็อย่าหวังว่าจะได้แตะต้องฉินเสี่ยวตั่ว!”

“ครับๆ ผมผิดไปแล้ว” จินเซียวข่ายโดนน้ำลายถ่มใส่หน้า คิดไม่ถึงว่าจะไม่รู้สึกเสียหน้าแต่อย่างใด เขารีบเอามือปาดหน้าลวกๆ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ดูไปแล้วสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือโดนถ่มน้ำลายใส่หน้ามากๆ เข้าก็ไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไป

และในตอนนี้เองจู่ๆ หม่าหนานก็กล่าวขึ้นมา “ถึงแม้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อจะเป็นฝ่ายขอยอมแพ้ ไม่กล้าตามจีบ แต่ว่าเขาคุยกับหล่อนถูกคอมากทีเดียว เขาเลยได้ข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมากกลับมาด้วย!”

“ข้อมูลอะไร?” เย่เฉินถาม

หม่าหนานและจินเซียวข่ายประสานเสียง “ผู้หญิงคนนั้นไม่มีสามี!”