ตอนที่ 515 บังคับ เฉพาะกับคนรัก / ตอนที่ 516 ชอบหาเรื่องจริงจังจริงใจ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 515 บังคับ เฉพาะกับคนรัก

 

 

อวี๋กานกานลากเหอสือกุยมานั่งที่โซฟาแล้วทำการตรวจให้อยากละเอียด “ถึงจะบอกว่าไม่ร้ายแรงแต่ก็ยังมีอาการสาหัสอยู่บ้างนะคะ อาจารย์เหม่ยเหรินเลอะเลือนจริงๆ น่าจะบอกหนูเร็วกว่านี้หน่อย”

 

 

เหอสือกุยยิ้มให้อย่างอบอุ่น “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่ต้องบอก แต่ถึงอย่างไรเธอก็รีบมาแล้วไม่ใช่เหรอ อีกสองวันฉันก็ไปหาอยู่แล้ว”

 

 

“ทำไมถึงไม่บอกคะ อาจารย์หนูเป็นลูกศิษย์เป็นญาติกับอาจารย์ต่อให้แค่ปวดหัวตัวร้อนอาจารย์ก็ควรจะบอกหนูสักคำนะคะ”

 

 

“โอเคๆๆ ต่อไปนี้อาจารย์จะบอกเธอทุกเรื่องเลย”

 

 

ทั้งสองพูดคุยกันในบรรยากาศอบอุ่น

 

 

ฟังจือหันผู้ที่ถูกทิ้งในความหนาวเย็นเมื่ออวี๋กานกานไม่สนใจตัวเอง ในสายตาของเธอมีแต่อาจารย์ สองคนนั้นพูดคุยกันระริกระรี้มีเสียงหัวเราะ

 

 

เขาเดินตรงเข้ามานั่งข้างเหอสือกุยด้วยท่าทีเย็นชาก่อนจะหันไปพูดกับอวี๋กานกาน “คุณนี่ไม่ใส่ใจเอาซะเลย ไม่ดูกี่โมงกี่ยามแล้ว อาจารย์คุณเป็นคนป่วยอยู่ควรให้เขาพักผ่อนเร็วๆ”

 

 

อวี๋กานกานตบหน้าผากดังฉาดจากนั้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกผิด “ดูฉันสิลืมได้ยังไง อาจารย์ค่ะนี่ก็ดึกมากแล้วรีบไปพักผ่อนเถอะค่ะมีอะไรไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้”

 

 

เหอสือกุยพนักหน้าแล้วปราดสายตามองฟังจือหัน “คุณฟังจองโรงแรมแล้วเหรอ”

 

 

ถามเช่นนี้หมายความได้ชัดว่าไม่อยากให้ฟังจือหันอยู่ที่บ้าน

 

 

อวี๋กานกานกระแอมไอพูดอย่างระแวดระวัง “อาจารย์คะ เพราะเป็นห่วงอาจารย์พวกเราตรงมาที่นี่เลยไม่ได้จองโรงแรมเอาไว้ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ฉันคิดว่า…ให้พวกคุณได้ใกล้ชิดกันสักหน่อย”

 

 

ผู้ชายสองคนตอบพร้อมเพียงกัน “ไม่ได้”

 

 

ให้พวกเขานอนด้วยกันนี่ล้อเล่นหรือเปล่า

 

 

อวี๋กานกานยกมือขึ้น “งั้นจะให้ทำยังไงคะ หรือว่าจะให้ฉันนอนกับใครคนใดคนหนึ่ง”

 

 

ทั้งสองปฏิเสธพร้อมกันอีก “ไม่ได้”

 

 

อวี๋กานกานมองพวกเขาหวังว่าพวกเขาจะเข้ากันได้จากใจจริง เธอคิดว่าเวลานี้แหละที่เหมาะสมกับการเชื่อมความสัมพันธ์กัน

 

 

เธอยกยิ้ม “งั้นตกลงตามนี้นะคะ ฉันรีบไปอาบน้ำเข้านอนก่อน”

 

 

ฟังจือหัน “…”

 

 

เหอสือกุย “…”

 

 

ทั้งสองสบตากันจากนั้นก็หันหน้าหนีเห็นได้ชัดว่าต่างคนต่างไม่ชอบหน้ากัน

 

 

หลังจากที่อวี๋กานกานอาบน้ำเสร็จแล้วเธอจึงค่อยๆ ผลักประตูเบาๆ อยากแอบดูสักหน่อยว่าฟังจือหันกับอาจารย์เหม่ยเหรินนอนแล้วหรือยัง

 

 

เมื่อผลักเข้าไปก็เห็นฟังจือหันยืนอยู่ตรงประตูพอดี

 

 

เธอยิ้มให้ทันที ฟังจือหันยื่นแขนลูบไล้ใบหน้าเธอเบาๆ

 

 

อวี๋กานกานถามอยากแปลกใจเมื่อเห็นกองผ้าห่มวางที่โซฟา “คุณไม่ได้นอนกับอาจารย์ฉัน คุณจะนอนที่โซฟาเหรอคะ”

 

 

โซฟาบ้านเธอสั้นมากฟังจือหันสูงเกือบร้อยเก้าสิบได้มั้ง ขดตัวนอนที่โซฟาไม่รู้ว่าจะทรมานยังไง

 

 

“คุณรีบไปนอนกับอาจารย์ฉันเถอะค่ะ นอนโซฟานี่ทรมานเปล่าๆ”

 

 

“ผ้าห่มนี่อาจารย์คุณเป็นหยิบเอามาให้ผม” แม้เขาจะอยากนอกับเหอสือกุยแต่เขาต้องทำให้อวี๋กานกานเข้าใจให้ชัดเจนว่าไม่ใช่เขาไม่นอนกับเหอสือกุยแต่เป็นเหอสือกุยต่างหากที่ไม่อยากนอนกับเขา

 

 

ไฟในห้องของเหอสือกุยดับลงแล้ว

 

 

ฟังจือหันรู้ดีว่าเหอสือกุยยังไม่หลับ

 

 

อวี๋กานกานบังคับเขา แต่ไม่สามารถบังคับเหอสือกุยซึ่งนี่ถือเป็นข้อแตกต่างระหว่างพวกเขา

 

 

เขามีศักดิ์เท่ากัน อยู่ด้วยกันมาตลอดชีวิตและเหอสือกุยคือผู้อาวุโสกว่า

 

 

นี่คือช่องว่างระหว่างเธอกับเขาที่ไม่มีวันข้ามผ่านไปได้

 

 

เมื่อได้ฟังคำของฟังจือหันแล้วอวี๋กานกานก็ไม่ขอร้องฟังจือหันอีก

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 516 ชอบหาเรื่องจริงจังจริงใจ

 

 

เธอลองมองเหอสือกุยในห้อง มองดูผ้าห่มบนโซฟา ค่อยมองไปที่ฟังจือหันจากนั้นก็เอ่ยขึ้นมา “คุณนอนห้องฉัน ฉันนอนที่โซฟาสินะ?”

 

 

ฟังจือหันพยักหน้าไม่เกรงใจเลยสักนิด “ได้”

 

 

จากนั้นก็ลากกระเป๋าเข้าห้องไปแล้ว

 

 

อวี๋กานกาน “…”

 

 

แม้แต่เกรงใจสักหน่อยก็ไม่มีเลย

 

 

ถ้าเธอแค่เกรงใจสักหน่อยล่ะ

 

 

เธอตามฟังจือหันเข้าห้องไป เห็นฟังจือหันเปิดตู้เสื้อผ้าทันที ครั้งก่อนเขาทิ้งเสื้อผ้าไว้ที่นี่กองหนึ่งแล้ว หยิบชุดนอนมาชุดหนึ่งและเดินเข้าห้องน้ำในทันที

 

 

ไม่เกรงใจกันเลยจริงๆ สินะ ไม่พูดอะไรสักคำก็ตกลงให้เธอนอนโซฟาทันที

 

 

ช่างเถอะ ใครให้เขาสูงเกินไปล่ะ นอนโซฟาอาจยืดเท้าให้ตรงยังทำไม่ได้ เดิมทีเธอก็ตั้งใจกลับกัน อยากให้เขานอนสบายหน่อย

 

 

ก็ถามตื้อเขาอยู่ กลับกันเห็นได้ชัดว่าเธอแสร้งมีน้ำใจ

 

 

มิน่าใครๆ ต่างก็พูดกันว่าผู้หญิงไม่มีหรอกที่ไม่เสแสร้ง

 

 

เธอพูดกับฟังจือหันในห้องน้ำ “หันหันเอ๊ย ต่อไปต้องเป็นเด็กดีกับฉันล่ะ ไม่งั้นก็จะพูดถากถางคุณแน่”

 

 

เสียงน้ำเปาะแปะ ฟังจือหันไม่ได้ยินที่เธอพูดเป็นธรรมดา รอให้เขาออกมาจากห้องน้ำ อวี๋กานกานก็นอนหลับไปบนโซฟาด้านนอกแล้ว

 

 

เขาก็ไม่ได้ออกไป นั่งอยู่ในห้องพลางใช้โทรศัพท์มือถือจัดการธุระ

 

 

เป็นเวลาดึกมากแล้ว ฟังจือหันถึงค่อยออกไป อวี๋กานกานนอนอยู่บนโซฟาส่งเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ

 

 

มั่นใจว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ฟังจือหันอุ้มอวี๋กานกานขึ้นมาเบาๆ ด้วยความระมัดระวัง

 

 

หญิงสาวตัวเบามาก แต่ฟังจือหันอุ้มอย่างระมัดระวัง เกรงว่าการกระทำของตนเองจะทำให้เธอตื่น

 

 

ย่องไปวางเธอไว้บนเตียง ห่มผ้าห่มให้ เขาปิดประตู นอนลงข้างเธอและเอื้อมมือไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน

 

 

วันถัดมา ตอนที่อวี๋กานกานตื่นขึ้นก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงในห้องนอน แต่ฟังจือหันไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว ทิ้งแค่กระดาษโน้ตให้เธอ บอกว่ามีธุระจึงออกไปแล้ว ตอนเย็นก็จะไม่กลับมา ให้เธอไปหาเขาที่โรงแรม XX

 

 

อวี๋กานกานยิ้มบางๆ

 

 

พูดโกหกแต่การกระทำชัดเจนจริงด้วย ปากบอกไม่ การกระทำกลับเป็นอีกแบบ ไม่เพียงให้เธอนอนบนเตียง และยังให้เธอจองห้องพัก

 

 

อวี๋กานกานหยิบโทรศัพท์มือถือมาตอบกลับข้อความฟังจือหัน [ตอนเย็นหน่อยฉันจะไปหาคุณ]

 

 

เหอสือกุยก็ไม่ได้ถามถึงที่อยู่ของฟังจือหันกับอวี๋กานกาน เหมือนกับว่าเขาคนนี้ไม่เคยปรากฏตัวในห้องเลย

 

 

ในเมื่ออวี๋กานกานกลับเมืองไป๋หยางมาแล้ว งั้นก็ต้องไปอวี้หมิงถางสักรอบเป็นธรรมดา และค่อยไปเยี่ยมผู้อำนวยการเฉินที่โรงพยาบาล

 

 

ถนนหนานเจิ้นยังมีร้านค้าทำการค้าขาย แต่ส่วนใหญ่ต่างก็ย้ายไปแล้ว เหลือไว้ร้านค้าเก่าบ้าง และเตรียมรอเวลาย้ายออก

 

 

หนึ่งเดือนกว่า สรรพสิ่งคงเดิม ผู้คนแปรเปลี่ยน

 

 

ผู้อำนวยการเฉินเห็นอวี๋กานกานกลับมาแล้วก็ดีใจสุดขีด ดึงอวี๋กานกานไปคุยตลอดทั้งบ่าย และยังบอกว่าจะรอหลังจากอวี๋กานกานกลับเมืองไป๋หยาง อยู่คลินิกผู้ป่วยนอกสักสองวันเหมือนกับที่สำนักแพทย์หลวง

 

 

อวี๋กานกานรู้สึกขอบคุณ จึงตกลงเป็นธรรมดา

 

 

ตอนที่ออกมาสีของท้องฟ้าก็มืดแล้ว ฟ้าแลบฟ้าร้องเป็นระยะ ฝนตกลงมายกใหญ่ ขณะที่อวี๋กานกานยืนหลบฝนอยู่ข้างทาง รถเก๋งสีดำคันหนึ่งก็จอดลงตรงหน้าเธอ

 

 

ลมฝนรวดเร็ว และยังเป็นเวลาเลิกงานจึงเรียกรถได้ยาก

 

 

ในตอนนี้เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นซย่าเฉิงโจวที่โทรมา “ผมได้ยินว่าคุณกลับมาแล้ว ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน เจอกันสักหน่อยไหม”

 

 

“ตอนอยู่ทางเข้าโรงพยาบาล กำลังเรียกรถ…”

 

 

สตรีวัยกลางคนคนนึ่งซึ่งยืนอยู่ข้างเธอ เนื้อตัวโงนเงน พลันล้มตัวมาที่อวี๋กานกาน

 

 

อวี๋กานกานยื่นมือไปประคองเธอ “คุณป้าคะ เป็นอะไรไหมคะ”

 

 

สตรีวัยกลางคนซบไหล่อวี๋กานกานอย่างอ่อนแรง “ฉันเวียนหัวตาลาย ไม่มีแรงไปทั้งตัว…ขอโทษด้วยนะ…”