พอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนถามอาเหม็ดก็ได้สติ เขาพูดอธิบายด้วยความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
“ตอนแรกผมลองใช้กระดาษเป็นเชื้อไฟ แต่ก็รู้สึกว่ามันเปลืองแรงมาก ผมเลยคิดหาวิธีลองเอากิ่งไม้มาใช้ แต่พวกคุณก็รู้ว่า ความชื้นในกิ่งไม้มีมาก จากนั้นผมก็เลยไปเก็บกิ่งไม้แหง้มา แถมยังได้ลองเอาน้ำหมดราดลงไปบนกิ่งไม้ แต่ไฟก็ยังไม่ติดอยู่ดี ครั้นแล้วผมก็เลยลองใช้ประโยชน์จากพลังลม เอาพัดพัด ถึงขั้นตอนมันจะยุ่งยาก แต่ผมก็ทำได้”
หลิวเหมยกับสุ่ยเซียนกำลังตั้งใจหมักปลากันอยู่ พอได้ยินอาเหม็ดพูดแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามอง พอเห็นของที่อยู่ในมืออวี๋หมิงหลางทั้งสองคนก็หัวเราะออกมา
เสี่ยวเชี่ยนเองก็หัวเราะ แถมยังเสียงดังด้วย
จากที่อาเหม็ดได้เจอเสี่ยวเชี่ยนไม่กี่ครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเห็นเธอในมุมที่เจ้าเล่ห์สุขุมมากกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอหัวเราะร่าขนาดนี้ พอเห็นท่าทางของเธอแล้วในใจของอาเหม็ดรู้สึกเหมือนลมที่พัดมาบนทะเลสาบทำให้สดชื่น เคลิบเคลิ้ม—เอ๋
อาเหม็ดหงุดหงิดที่ถูกบดบังสายตาที่กำลังมองเสี่ยวเชี่ยน อวี๋หมิงหลางบังเขาซะมิด เมียข้าใครอย่าแตะ
อาเหม็ดเซ็งที่ถูกขัดจังหวะ แต่เขาก็ยังเชิ่ดหน้าอย่างภูมิใจ
“ผมก่อไฟได้แล้ว”
“วิธีก่อไฟของนายไม่ต่างจากที่พวกมนุษย์ถ้ำใช้ มีอะไรน่าภูมิใจ”
“คุณมีสิทธิ์อะไรต่อหน้าเธอ…มีสิทธิ์อะไรพูดกับผมแบบนี้” อาเหม็ดไม่ยอมที่ถูกอวี๋หมิงหลางฉีกหน้าต่อหน้าเสี่ยวเชี่ยน เขาอยากแสดงให้เสี่ยวเชี่ยนเห็นว่าตัวเองไม่ใช่ ‘น้องชาย’ ที่ทำอะไรไม่เป็น
“ก็สิทธิ์ที่…” อวี๋หมิงหลางแกว่งของในมือแล้วยิ้มยิงฟันให้อาเหม็ด
“ความก้าวหน้าของการผลิตอุปกรณ์ต่างๆเป็นตัวขับเคลื่อนให้มนุษย์มีการพัฒนา เป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอารยธรรม ดังนั้นมนุษย์ยุคนี้อย่างพวกเราเวลาจะก่อไฟข้างนอกชอบใช้พัดลมแทนมากกว่า”
มีพัดลมไม่รู้จักใช้ จะใช้วิธีโง่ๆก่อไฟให้ได้ ปัญญาอ่อนปะเนี่ย
อาเหม็ดชี้ไปที่พัดลมขนาดเล็กในมือของอวี๋หมิงหลาง ก็เวลาเขาไปปิ้งBBQข้างนอกตอนอยู่ต่างประเทศก็ใช้วิธีนี้นี่นา
เขาเป็นคนไปซื้ออุปกรณ์ปิ้งย่าง เขาเองก็ไม่รู้ว่าต้องใช้อะไรบ้างเลยบอกทางร้านว่าเอาแบบครบชุด ของพวกนี้ถูกโยนมากองรวมกันในถุงถ่าน เขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำไง
ดังนั้นเสียงหัวเราะร่าเริงของเสี่ยวเชี่ยนเมื่อครู่จริงๆแล้วเป็นการหัวเราะเยาะ ไม่ใช่ให้กำลังใจเขา
“หมูจ๋าหมู หมูที่ ถูกเผาขน เมียจ๋า ต่อซิ” อวี๋หมิงหลางพอเห็นสีหน้าของอาเหม็ดก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มแต่งกลอน
“โอ้คนโง่ เปิดเผย ระดับสมอง”
“เอ๊ะ เมียพี่นี่สุดยอดเลย”
อวี๋หมิงหลางคิดสักพัก “จริงหรือหลอก หลอกหรือจริง ไม่ตรึกตรอง”
เนื้อหาตอนแรกเป็นตอนที่อาเหม็ดถูกไฟไหม้ผม ต่อมาเป็นความสนุกที่อวี๋เสี่ยวเฉียงอยากแซะอาเหม็ดที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนปั่นหัว
“ไงน้องชาย เอ็งน่ะ เล็กหรือใหญ่”
สองสามีภรรยาที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเอามือแตะกันอย่างมีความสุข คู่รักหัวกะทิ รวมพลังปราบศัตรูพ่าย
เห็นเสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางต่อกลอนกันอย่างสนุกสนานสุ่ยเซียนก็อดไม่ได้ที่จะร่วมด้วย
เธอไม่ถนัดเรื่องแต่งกลอน แต่จำคำพูดที่ดีเจตะโกนตอนไปเที่ยวกลางคืนได้
“ปลาเผายุคใหม่ คนยุคใหม่—”
ประธานเชี่ยนก็เคยได้ยิน จึงพูดต่อ
“อาเหม็ดยุคใหม่อาบน้ำไม่ปิดประตู”
“ทำไมไม่ปิดประตู” อวี๋หมิงหลางก็เอาด้วย
“เพราะข้างนอกมีสาวไง…”
“โอ้เยส~” อวี๋หมิงหลางแปะมือเสี่ยวเชี่ยนสองมือ
อาเหม็ดถูกยั่วโมโหอีกแล้ว หลิวเหมยมองอาเหม็ดที่หน้าตามอมแมม แล้วหันไปมองพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่เข้าขากันได้ดี เธอตะโกนคำพูดแบบสุ่ยเซียนไม่เป็น ไม่มีความสุนทรีย์เรื่องกาพย์กลอนแบบพี่ชายพี่สะใภ้ แต่เธอร้องเพลงพอไหว
สีหน้าของอาเหม็ดทำให้หลิวเหมยนึกถึงเพลงป๊อบที่ดังมากเมื่อสองสามปีก่อน เธอจึงเผลอร้องออกมา
“ผมควรจะอยู่ใต้ท้องรถ ไม่ควรอยู่ในรถ เห็นพวกคุณหวานดูดดื่ม แบบนั้นผมจะได้ตัดใจได้ง่าย ได้โปรดให้ความกล้าที่จะจากไปแก่ผม”
อาเหม็ดอยากออกไปจากตรงนั้นจริงๆ ทำไมเพลงนี้เข้ากับบรรยากาศขนาดนี้
“ฉันงงเนื้อเพลงอยู่นานว่าทำไมต้องใต้ท้องรถด้วย” หลิวเหมยถามหลังจากร้องเสร็จ
“สงสัยเพราะเขาเป็นช่างซ่อมมั้ง หน้าดำขนาดนี้” อวี๋หมิงหลางหันไปมองอาเหม็ด เสี่ยวเชี่ยนเองก็หันไป เหมือนช่างซ่อมรถจริงๆ อุ๊บ
เธอหัวเราะอีกแล้ว…แต่กลับเป็นการหัวเราะเยาะเขา อาเหม็ดมองเสี่ยวเชี่ยน มองไปมองมาก็กลายเป็นหน้าอวี๋หมิงหลาง
ใช่ พี่หลางถนัดมากเรื่องกันซีนผู้ชายที่จะมายุ่งกับเมียตัวเอง เยี่ยมไหมล่ะ
“พี่ หมักด้วยพวกนี้โอเคไหม” หลิวเหมยถามอวี๋หมิงหลาง
“ไม่ได้ หลบไป พี่เอง” อวี๋หมิงหลางพับแขนเสื้อขึ้นแล้วใส่เครื่องปรุงอย่างคล่องแคล่ว ระหว่างที่หมักปลานั้นก็ตั้งหม้อทำซุปปลาไปด้วย เขาใช้พัดลมสาธิตการจุดไฟอย่างรวดเร็วให้อาเหม็ดดู เขาก่อไฟทำซุปปลาข้างๆเตาย่างปลา
เวลาเขาทำงานให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมีความสุขกับการได้ทำ ท่าทางคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง การตั้งแคมป์ทำอาหารข้างนอกเป็นช่วงที่ผู้ชายจะได้แสดงเสน่ห์ของตัวเอง ของที่สมัยดึกดำบรรพ์ใช้กันก็ได้ถูกนำมาใช้ ถ้าทำได้ดีก็จะเป็นขวัญใจสาวๆอย่างพี่หลางในตอนนี้
แน่นอนว่าคนที่ทำได้แย่ก็จะได้ผลตรงกันข้าม อย่างเช่นอาเหม็ด
อวี๋หมิงหลางแสดงความสามารถของผู้ชายที่แท้จริงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดึงดูดสายตาของสามสาวได้สำเร็จ
“เชี่ยนเอ๋อ มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ไหม” สุ่ยเซียนถามเสี่ยวเชี่ยน รู้สึกว่านี่คือผู้ชายเพอร์เฟค เก่งมันทุกอย่าง
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า “มีสิ”
“อะไร” อาเหม็ดสนใจทันที
“เขาไม่มีทางทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากอย่างนายได้หรอก”
ฉึก แทงใจดำ
อวี๋หมิงหลางชอบใจ “ฉันก่อไฟแบบนายไม่ได้หรอกนะ เห็นแก่ที่น้องเลือกคนเป็น พี่จะให้ปลาย่างตัวแรกเป็นรางวัลแล้วกัน พี่ตัดสินใจยกโทษเรื่องที่น้องเป็นกบฏให้”
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ~” เสี่ยวเชี่ยนโค้งให้ อาเหม็ดเห็นแล้วก็ตาร้อน พูดอย่างเคืองๆ
“ที่ประเทศของผม ผู้ชายไม่ต้องทำงานครัว มันเป็นงานของผู้หญิง”
“อืม ดังนั้นพอนายมาที่นี่ถึงได้หาเมียไม่ได้ไง” อวี๋หมิงหลางเอาคืนอย่างเจ็บแสบ
อาเหม็ดเจ็บใจ เขาสู้อวี๋หมิงหลางไม่ได้ ฝีปากก็สู้ไม่ได้
“เชี่ยนเอ๋อ เสี่ยวเฉียงของเธอยังมีพี่น้องผู้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงานไหม แนะนำให้ฉันรู้จักหน่อยสิ” สุ่ยเซียนพูดติดตลก
“ผมมีพี่น้องที่ยังไม่ได้แต่งงานจริงๆนะ” อวี๋หมิงหลางพูด
“ใคร พี่น้องนายแต่งกันหมดแล้วไม่ใช่เหรอ” สุ่ยเซียนเคยเจอพี่น้องของอวี๋หมิงหลางหมดแล้ว ล้วนเป็นคนที่เก่งมากความสามารถของแท้ แต่ดูเหมือนลูกจะโตแล้วนะ
“จูเต๋อซียังไม่แต่งงาน เขาก็เป็นพี่น้องของผมเหมือนกัน ได้ยินว่าหลังจากที่ครอบครัวเขารู้ว่าเขาถูกทิ้งก็กำลังเตรียมหาผู้หญิงมาดูตัวให้ เหมยจื่อ เธออยากจะทิ้งไอ้เตี้ยแฟนไม่เอาไหนของเธอไหม พี่จะได้แนะนำให้”
คนที่ถูกแทงใจกลายเป็นสุ่ยเซียน จูขี้บ่นจะไปดูตัว
ดีมากตาบ้า สุ่ยเซียนกัดฟันโกรธ เธอส่งข้อความไปบอกเลิก เขากลับยอมรับอย่างเงียบๆไม่ตอบกลับ แล้วนี่อะไร จะไปดูตัวกับผู้หญิงอื่น