บทที่ 143 ลองโพสต์วีแชทโมเมนต์

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

บทที่ 143 ลองโพสต์วีแชทโมเมนต์

“เป็นวีแชทจริงดิเฮ้ย?”

หลินเป่ยเฉินคิดว่าตนเองตาฝาด

เขายกมือขยี้ตาแล้วลองพินิจดูอีกรอบ

เขาไม่ได้ตาฝาด

นี่คือแอปวีแชทจริงๆ

“แต่ในโลกที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตแบบนี้ ถึงโหลดลงเครื่องเอาไว้ จะมีประโยชน์อะไร?”

บัดนี้ หลินเป่ยเฉินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้เสียแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผ่านมาแอปพลิเคชั่นที่อยู่ในโทรศัพท์เครื่องนี้ เหมือนจะได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ใช้งานได้ในโลกจอมยุทธ์เป็นอย่างดี

“บางทีวีแชทอาจมีฟังก์ชั่นบางอย่างที่ทำให้เราตาโตก็ได้ เช่น…เราอาจแอดเพื่อนที่อยู่ในโลกมนุษย์ และสามารถพูดคุยติดต่อกันได้จากที่นี่?”

“เสี่ยวจี้ ดาวน์โหลดวีแชทลงเครื่องได้เลย” เด็กหนุ่มพูดอย่างร้อนรน

เสี่ยวจี้ตอบกลับมาทันทีว่า “การติดตั้งต้องใช้การโอนถ่ายข้อมูล 30 GB เจ้าค่ะ แต่เมื่อสักครู่นี้ พลังลมปราณในร่างกายของนายท่านมีอยู่ทั้งหมด 30.5 GB นายท่านใช้งานไปกับการอัพเดตระบบแล้ว 10 GB ขณะนี้จึงยังเหลือพลังลมปราณอยู่ในร่างกายอีก 21 GB ถ้าฝืนดาวน์โหลดวีแชทลงเครื่องขณะนี้ อาจเกิดผลลัพธ์ร้ายแรงตามมาได้เจ้าค่ะ”

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้ว “ร้ายแรงยังไง?”

“นายท่านอาจเสียชีวิตได้เจ้าค่ะ” เสี่ยวจี้ตอบ

“ว่าไงนะ!” หลินเป่ยเฉินถึงกับอุทานด้วยความตกตะลึง

เขาพอจะคาดเดาได้นานแล้วว่าพลังลมปราณน่าจะมีส่วนสำคัญกับพลังชีวิต แต่หลังจากได้รับคำยืนยัน ก็ยังอดตกใจไม่ได้อยู่ดี

ถึงแม้หลังจากนั้น เสี่ยวจี้จะกล่าวต่อว่า “แต่มันก็เป็นเพียงความเป็นไปได้เท่านั้นเจ้าค่ะ” ก็ตาม

แต่หลินเป่ยเฉินก็ไม่ควรเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

“วีแชทที่โลกมนุษย์มีขนาดไม่ถึง 200 MB แต่ทำไมพอมาอยู่ในโลกจอมยุทธ์ ถึงได้มีขนาด 30 GB ได้ละเนี่ย บ้าจริง!” เด็กหนุ่มพูดกับตัวเอง

แต่ยิ่งขนาดแอปใหญ่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความสามารถเยอะมากเท่านั้น

พิสูจน์แล้วจากบรรดาแอปพลิเคชันก่อนหน้านี้ที่เขาดาวน์โหลดลงโทรศัพท์

ดังนั้น หลินเป่ยเฉินจึงได้ตัดสินใจปิดการทำงานของแอปทุกชนิดในโทรศัพท์ เปิดไว้แต่เพียงแอปสำหรับโคจรพลังลมปราณ เพื่อเติมพลังให้แก่ร่างกายเท่านั้น

ครึ่งชั่วยามต่อมา พลังลมปราณก็เติมกลับมาเต็มเปี่ยมในร่างกายอีกครั้ง

หลินเป่ยเฉินพร้อมแล้วสำหรับการดาวน์โหลดแอปวีแชท

“อ๊า!”

“อู้วว์!”

“โอ้วว์…!”

เสียงครวญครางของหลินเป่ยเฉินดังกังวานทั่วห้องนอนอีกครั้ง

ที่หน้าประตูห้อง พ่อบ้านหวังจงยืนนิ่ง ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มอีกแล้ว

“นายน้อยหายเข้าไปในห้องพักไม่ถึงครึ่งชั่วยาม กลับทำเรื่องนั้นอีกแล้วหรือ?”

“ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ร่างกายของนายน้อยคงต้องทรุดโทรมเป็นแน่ แล้วนายน้อยจะเจริญเติบโตเต็มที่ได้อย่างไร?”

“ไม่ได้การ ข้าต้องหาทางคุยกับนายน้อยเสียแล้ว” หวังจงพูดกับตัวเองด้วยความเป็นกังวล

เสียงครวญครางนั้นดังถึงครึ่งชั่วยามเต็ม

หลังจากนั้น เสียงก็ค่อยๆ จางหายไป

หลินเป่ยเฉินนอนหงายอยู่บนเตียง หอบหายใจหนักหน่วง ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ ใบหน้าซีดขาว ดวงตาเหม่อลอย ริมฝีปากสั่นระริก เหมือนเพิ่งถูกปล่อยตัวมาจากห้องทรมานอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่นิ้วมือก็ขยับไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

“สะ…เสี่ยวจี้ ตะ…ตะ…ติดตั้งวีแชท” เด็กหนุ่มออกคำสั่งด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง

“รับทราบเจ้าค่ะ”

หลังผ่านการอัพเดทระบบครั้งที่สาม เสี่ยวจี้ก็มีความฉลาดเฉลียวมากขึ้น แม้จะเป็นเพียงการออกคำสั่งห้วนสั้นจากหลินเป่ยเฉิน ก็ยังสามารถปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี

ผ่านไปชั่ว 2 ก้านธูป

“ติ๊ง! การติดตั้งเสร็จสมบูรณ์”

ไอคอนสีเขียวที่คุ้นตาปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์

หลินเป่ยเฉินลุกขึ้นนั่ง

พลังลมปราณในร่างกายฟื้นฟูเกือบสมบูรณ์แล้ว

เด็กหนุ่มรู้สึกตื่นเต้น

“จะติดต่อคนที่โลกมนุษย์ได้บ้างไหมหว่า?”

หลินเป่ยเฉินกดเข้าไปในแอปวีแชทด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

“อ้าว ไม่ต้องกรอกชื่อผู้ใช้กับรหัสผ่านเลยเรอะ?”

หลินเป่ยเฉินเข้าใจว่าตนเองจะต้องกรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชีวีแชทส่วนตัว แต่ที่ไหนได้ เขากลับสามารถเข้าใช้งานตัวแอปได้เลยโดยตรง

แต่ก็คิดเอาไว้ไม่มีผิด ในแอปวีแชทไม่มีรายชื่อติดต่อของใครเลยสักคน

เด็กหนุ่มกดเข้าไปตรงแถบ ‘เพิ่มเพื่อน’ แล้วลองค้นหาบัญชีวีแชทของบิดา

ก่อนที่นิ้วมือจะสัมผัสลงไปบนปุ่มค้นหา หลินเป่ยเฉินต้องใช้เวลารวบรวมความกล้าอยู่หลายนาที ก่อนที่จะจิ้มนิ้วมืออันสั่นเทาลงไป

ผลการค้นหาปรากฏขึ้นแทบจะทันที…

‘ไม่พบชื่อผู้ใช้’

หลินเป่ยเฉินถึงกับงงงันวูบ

ถึงจะเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกผิดหวังไม่น้อย

แต่หลินเป่ยเฉินไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาลองเปลี่ยนมาค้นหาชื่อบัญชีของมารดา ของเด็กสาวที่เขาแอบชอบ ของเพื่อนๆ ของอาจารย์ ของคนส่งอาหารที่สนิทกัน ของคนส่งของ รวมไปถึงชื่อบัญชีของทุกคนที่เขานึกได้ แต่ผลการค้นหาก็ยังเป็นเหมือนเดิม

‘ไม่พบผู้ใช้งาน’

สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจยาวแรง ทิ้งตัวกลับลงไปนอนอีกครั้ง

ณ จุดนี้ เขาอยากร้องไห้ออกมาแล้วจริงๆ

เป็นอีกครั้งที่ความหวังพังทลาย

นั่นหมายความว่าอย่างน้อยหลินเป่ยเฉินก็คงยังกลับโลกมนุษย์ไม่ได้ไปอีกพักใหญ่ เช่นเดียวกับความหวังที่อยากจะแจ้งข่าวให้พ่อแม่พี่น้องได้รับทราบว่าเขาปลอดภัยดี ก็พังทลายลงไปต่อหน้าต่อตาเช่นกัน

หลังปล่อยตนเองอยู่ในสภาวะทิ้งตัวบนเตียงนอนเป็นเวลาอีกครึ่งชั่วยาม หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกดีขึ้น

เขาลุกขึ้นมานั่งและเปิดเข้าไปในแอปวีแชทอีกครั้ง

“ประวัติการแชท รายชื่อเพื่อน สำรวจ ตัวฉัน…ทุกอย่างก็เหมือนแอปในโลกมนุษย์หมดเลยนี่หว่า นี่มันวีแชทเวอร์ชั่นอัพเดทล่าสุดชัดๆ การตั้งค่าทุกอย่างปกติดี แค่ไม่มีรายชื่อเพื่อน กับพวกบัญชีออฟฟิเชียลอะไรพวกนั้น…เดี๋ยวก่อนนะ มีวีแชท เพย์ด้วยเว้ย อย่าบอกนะว่าในนี้มีเงินอยู่…หืม?”

เด็กหนุ่มกดเข้าไปในตัวเลือก “วีแชท เพย์”

แล้วก็ต้องเบิกตาโตเมื่อพบว่าในกระเป๋าเงินของแอปวีแชท…มีทองคำอยู่ 4110 เหรียญ

“อะไรวะเนี่ย? ค่าเงินในแอปไม่ใช่เงินหยวน แต่เป็นเหรียญทองคำ?”

หลินเป่ยเฉินเข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร

จำนวนเงินที่เขามีติดตัวอยู่ในตอนนี้ กลายเป็นจำนวนเงินที่มีอยู่ในแอป

“สรุปว่าวีแชทก็เหมือนกับแอปอื่นๆ ในโทรศัพท์เครื่องนี้ อย่างน้อยก็สามารถบอกได้ว่าเจ้าของมีเงินติดตัวอยู่เท่าไหร่หรือเปล่านะ?”

แต่พูดก็พูดเถอะ ความสามารถแบบนี้มันไร้ประโยชน์เกินไป

หลินเป่ยเฉินกดเข้าไปตรงหัวข้อวีแชท โมเมนต์

พบเจอเพียงความว่างเปล่า

มีเพียงกระดานข่าวสีขาวโล่งโจ้ง

“เฮ้อ หรือว่าเราจะลองโพสต์โมเมนต์แรก บันทึกชีวิตการอยู่ต่างโลกดีไหมหว่า”

หลังจากใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินเป่ยเฉินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเซลฟี่

แช๊ะ!

ถ่ายรูปเรียบร้อย

“อุ๊วะ ไอ้เราก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย”

หลินเป่ยเฉินอดอุทานออกมาไม่ได้เมื่อเห็นรูปถ่ายของตัวเอง

“ทำไมถึงได้หล่อแบบนี้วะ”

ถ้าเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิง เขาก็คงอยากพุ่งตัวเข้าหาเด็กหนุ่มในรูปเหมือนกัน…

“เฮ้อ ชักจะฟุ้งซ่านใหญ่แล้วเรา”

เมื่อได้รูปสำหรับโพสต์วีแชท โมเมนต์เรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็เขียนแคปชั่นด้วยความตั้งอกตั้งใจว่า

“ยามเช้าตื่นขึ้นมากอดแสงอาทิตย์เพื่อรับพลังงานบวก คนเราถ้าไม่ยิ้มก็อาจจะต้องหลงทางในชีวิต ขอเพียงยิ้มสักเล็กน้อยก็จะมีอนาคตที่สดใส จงก้าวเดินไปบนเส้นทางที่ยังไม่เคยมีใครข้ามผ่าน เมื่อเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ ถนนแห่งความหวังสายนี้ จะต้องราบรื่นขึ้นอย่างแน่นอน…”

ตอนแรกตั้งใจจะเขียนแปะหัวเอาไว้ด้วยว่า “บทบันทึกวันแรกของการอยู่ต่างโลก” แต่คิดไปคิดมา หลินเป่ยเฉินก็กดลบทิ้งทั้งหมด

เพราะอาจมีคนมาเห็นเข้าก็ได้

เกิดมีคนในโลกนี้สามารถเข้าอ่านได้ขึ้นมา เรื่องที่เขาเป็นวิญญาณจากต่างโลกก็คงถูกเปิดโปงกันพอดี และบางทีการถูกจับมัดติดกับเสาเพื่อเผาไฟทั้งเป็นหน้าวิหาร ก็คงไม่ใช่อนาคตที่ไกลเกินไปอีกแล้ว

เรื่องราวเหล่านี้ เก็บเอาไว้เป็นความลับในใจดีกว่า

สุดท้าย หลินเป่ยเฉินก็โพสต์โมเมนต์ลงไปเพียงรูปเซลฟี่ที่ไม่มีแคปชั่น หลังจากนั้น เขาก็สำรวจดูความสามารถอื่นๆ ในตัวแอปต่อไป

แต่เมื่อพบว่าไม่มีฟังก์ชั่นไหนใช้งานได้เลย เด็กหนุ่มก็ลองกดมาที่ตัวเลือก ‘ค้นหาเพื่อนรอบตัว’ ในที่สุด