บทที่ 227 แหวนห้วงมิติ
“ที่นี่คือเมืองหลักของคนแคระไม่ใช่เหรอ? มันมาอยู่ในอาณาจักรออร์คได้ยังไง?”
เซียวเฟิงและซือเยี่ยจิ๋งปรากฏตัวในเมืองเฮ่ยฉียังจุดเทเลพอร์ต หลังจากที่ซือเยี่ยจิ๋งมองดูรูปแบบสถาปัตยกรรมของเมืองหลักแล้ว เธอก็สงสัยและพูดขึ้นมา
“คงเป็นเพราะจำนวนผู้เล่นเผ่าคนแคระน้อยเกินไป และพวกเขาก็มีเมืองหลักเพียงไม่กี่แห่ง ดังนั้นระบบจึงไม่คิดจะตั้งอาณาจักรเพิ่มและรวมมันเข้ากับอาณาจักรออร์ค” เซียวเฟิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจและเดินไปที่ถนนสายอุตสาหกรรม
“ดูเหมือนว่ามีผู้เล่นไม่กี่คนที่เลือกเผ่าคนแคระสินะ แล้วนายมาที่นี่เพื่ออะไร? มีภารกิจอะไรงั้นเหรอ?” ซือเยี่ยจิ๋งเดินตามเซียวเฟิงและถามหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
อันที่จริง คนแคระมีความสามารถค่อนข้างดี ทุกครั้งที่พวกเขาเลเวลอัปพวกเขาจะได้ค่าความแข็งแกร่งเพิ่มเติมหนึ่งหน่วยและค่าความว่องไวอีกหนึ่งหน่วย ซึ่งเป็นสองเท่าของการเพิ่มค่าสถานะเพิ่มเติมของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ และค่อนข้างได้เปรียบ แต่เมื่อพิจารณาจากภาพลักษณ์ของคนแคระแล้ว คงมีผู้เล่นจำนวนไม่มากที่ชื่นชอบมาตรฐานรูปลักษณ์ที่สวยงามแล้วยังจะเลือกพวกเขา
“มาเอาของสวมใส่” เซียวเฟิงไม่รู้ว่าทำไมซือเยี่ยจิ๋งถึงช่างพูดราวกับว่าเธอจะตามติดเขาไปตลอด
“เอาของสวมใส่? มันอยู่ระหว่างการซ่อมแซมเหรอ? ไม่สิ นี่คือเมืองหลักของคนแคระ พวกเขากำลังหลอมของสวมใส่งั้นเหรอ?”
เนื่องจากมีผู้เล่นไม่มากในเมืองเฮ่ยฉี และซือเยี่ยจิ๋งก็ปกปิดชื่อตัวละครของเธอไว้ การสวมชุดพรางตัวตอนกลางคืนจึงกลายเป็นแฟชั่น มือสังหารส่วนใหญ่ก็จะแต่งตัวแบบนี้ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจำได้และพูดคุยได้อย่างอิสระ
“ฉันสงสัยมานานแล้วว่าทำไมของสวมใส่ของนายถึงดีมาก ทั้งที่เราทุกคนต่างแสวงหาของสวมใส่ระดับเงินกับระดับทอง นายก็ใส่ของระดับอาร์ติแฟกต์และระดับพระเจ้า ของสวมใส่ระดับสูง ๆ สามารถสร้างได้จากการหลอมหรือเปล่า? และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมของสวมใส่นายถึงดีมากใช่ไหม?”
เห็นได้ชัดว่าซือเยี่ยจิ๋งค่อนข้างสนใจในหัวข้อนี้ ราวกับว่าเธอได้ค้นพบความลับว่าทำไมของสวมใส่ของเซียวเฟิงถึงดีกว่าผู้เล่นทั่วไป มันเป็นวิธีเล่นเกมนี้ที่ถูกต้องใช่ไหม?
“ใช่แล้ว แม้ว่าของสวมใส่ของฉันจะดร็อปมาระหว่างตีบอส แต่ของสวมใส่ชั้นยอดก็สามารถหลอมขึ้นได้หากคลาสรองของผู้หลอมพัฒนาขึ้นแล้ว” เซียวเฟิงกล่าวหลังจากคิดอย่างถี่ถ้วน เขาคิดว่าอาจารย์ตี้เคยสอนสกิลหลอมบางอย่างให้เขาด้วย
เพราะตัดสินจากการสนทนาระหว่างอาจารย์ตี้กับอาจารย์ตี้อู่หยาแล้ว พวกเขาสามารถสร้างของสวมใส่ระดับอาร์ติแฟกต์ได้ ไม่ต้องพูดถึงของสวมใส่ระดับเทพเจ้าเลย ทว่าน่าเศร้าที่เซียวเฟิงไม่ค่อยสนใจคลาสรองและพวกสกิลจิปาถะ
“สกิลหลอมอะไร? ใช่พวกสกิลจิปาถะที่เรียกว่าการหล่อหรือเปล่า? ฉันเคยเลือกช่างตีเหล็กเป็นคลาสรองมาก่อน ตอนนี้ก็ยังอยู่ในระดับเริ่มต้นอยู่เลย นายจำผิดหรือเปล่า?”
ซือเยี่ยจิ๋งพูดกับเซียวเฟิงแปลก ๆ หลังจากที่เธอตรวจสอบคลาสรองของเธอ เธอช่างกวนเขาจริง ๆ
“หา? สกิลการหล่อ? แน่ใจนะว่ามันไม่ใช่สกิลการหลอม?”
เซียวเฟิงรู้สึกงงงวย สิ่งที่อาจารย์ตี้สอนเขาไม่ใช่สกิลจิปาถะทั่วไป แต่เป็นสกิลหายากงั้นหรือ?
มันเป็นไปไม่ได้ที่เซียวเฟิงจะจำชื่อผิด เขาค่อนข้างมั่นใจในความทรงจำของเขา
“ดูเอาเองแล้วกัน ฉันจะโกหกนายไปทำไม?”
ซือเยี่ยจิ๋งแสดงคลาสรองของเธอให้เซียวเฟิงดู ซึ่งทำให้เขาแน่ใจว่าสิ่งที่อาจารย์ตี้สอนเขาเป็นคลาสรองที่หายาก
ทันใดนั้น เซียวเฟิงก็มีความคิด คลาสรองที่หายากพอสมควรได้รับการพัฒนา และเขาคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะขอให้เฉียนโตวโตวจัดตั้งทีมผู้เล่นสายใช้ชีวิตซึ่งเชี่ยวชาญสกิลการหลอมขึ้น
มันเป็นคลาสรองที่หายากซึ่งสามารถสร้างของสวมใส่ระดับเทพเจ้าและอาร์ติแฟกต์ได้ หากผู้เล่นสายใช้ชีวิตคนไหนพัฒนาสกิลการหลอมไปถึงระดับนั้น ชีวิตคนนั้นจะต้องรุ่งอย่างมากแน่นอน
ใครก็รู้ว่าตลาดในอนาคตจะใหญ่แค่ไหนจากจำนวนผู้เล่นของเขตฮัวเซีย
ด้วยความสามารถทางการเงินและทรัพยากรในปัจจุบันของร้านค้ามหาสมบัติ มันสามารถจ่ายค่าใช้จ่ายในการฝึกฝนความสามารถได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เซียวเฟิงก็ส่งข้อความไปถึงเฉียนโตวโตวทันทีเพื่อถามว่าเธอรู้เกี่ยวกับผู้เล่นสายใช้ชีวิตมากกว่าที่เขารู้หรือเปล่า
เนื่องจากตอนนี้เป็นตอนเช้า เฉียนโตวโตวอาจกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการประมูล ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่สามารถเชื่อมต่อกับเธอได้
“พี่เซียว มันไม่ยากเลยที่จะฝึกฝนผู้เล่นสายใช้ชีวิตระดับสูง แต่ปัญหามันอยู่ที่เราไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่าผู้เล่นจะไม่มีแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัว ถ้าผู้เล่นไม่น่าเชื่อถือและมีความคิดที่จะแยกตัวออกจากทีมเราจะทำยังไง? สกิลจิปาถะทั้งหมดจะเป็นของเขาเลยนะ”
แต่เฉียนโตวโตวตอบกลับเซียวเฟิงทันทีที่เธอเห็นข้อความจากเขา แม้ว่าจะตอบด้วยน้ำเสียงที่หมดหนทาง แต่มันก็ทำให้เกิดคำถามที่ว่า “ต่อให้ร้านค้ามหาสมบัติจะรักษาอิทธิพลที่ดีไว้ได้ แต่ก็ยังขาดภูมิหลังที่มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับขั้วอำนาจอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหอการค้าใหญ่หรือกิลด์ใหญ่ มันก็ยังขาดทีมหลัก แม้ว่าเราจะเต็มใจที่จะทุ่มทุนมหาศาลเพื่อเลี้ยงดูผู้เล่นสายใช้ชีวิตระดับแนวหน้าขึ้นมา แต่เราก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าคนคนนั้นจะภักดีต่อร้านค้ามหาสมบัติอย่างแน่นอนได้”
“อืม นั่นสินะ” เซียวเฟิงตอบอย่างหมดหนทางหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ
“แต่ถ้าพี่มีสกิลชีวิตที่หายาก พี่ก็สามารถให้ฉันเรียนรู้มันได้นะ สกิลจิปาถะของฉันอยู่ในระดับสูงหมด ถ้าไม่ใช่เพื่อร้านค้ามหาสมบัติฉันก็คงเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของเขตฮัวเซียไปแล้ว” เฉียนโตวโตวตอบอย่างภาคภูมิใจทันที
“ไว้ฉันจะคุยเรื่องนี้ทีหลัง”
เซียวเฟิงจำเรื่องนี้ได้ มันเป็นความจริงที่เฉียนโตวโตวเป็นผู้เล่นระดับสูงในหมู่ผู้เล่นสายใช้ชีวิต ครั้งแรกที่เขาพบเธอในหมู่บ้านเริ่มต้น สกิลจิปาถะของเธอก็อยู่ในระดับสูงทั้งที่เกมเปิดให้บริการได้ไม่ถึงวัน ดังนั้นไม่ว่าใครก็เข้าใจได้เลยว่าความรู้ของเธอเกี่ยวกับสกิลชีวิตและคลาสรองนั้นลึกซึ้งถึงเพียงใด และเธอยังได้เรียนรู้สกิลประเมิน สกิลชีวิตลับ และสกิลประยุกต์ซึ่งทำให้เซียวเฟิงอิจฉา
“แล้วก็ การประมูลจะเริ่มในหนึ่งชั่วโมง พี่เข้ามาดูหน่อยได้ไหม?” เฉียนโตวโตวตอบกลับในไม่ช้า
“ไม่ค่อยแน่ใจน่ะ ตอนนี้ฉันยังยุ่งอยู่เลย ถ้าฉันไปไม่ทัน ขอให้พี่น้องนิโคลัสและคนอื่น ๆ ช่วยฉันซื้อคทานักปราชญ์ด้วยล่ะกัน” เซียวเฟิงตอบ
เนื่องจากเซียวเฟิงได้ซื้อไอเทมประมูลในการประมูลครั้งแรกไป เฉียนโตวโตวเลยจะแจ้งให้เขารู้เกี่ยวกับไอเทมที่จะประมูลก่อนการประมูลจะเริ่มขึ้นเพื่อที่เขาจะได้ไม่พลาดไอเทมใด ๆ ที่เขาต้องการ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน เซียวเฟิงได้เห็นข้อมูลของไอเทม 10 อย่างนี้ ทว่านอกเหนือจากคทานักปราชญ์ที่เป็นไอเทมที่ดีที่สุดซึ่งเขาก็ตัดสินใจล่วงหน้าไปแล้ว เก้ารายการที่เหลือนั้นไม่แม้แต่จะสะดุดตาเขาเลย
“ได้เลย”
เฉียนโตวโตวจบการสนทนาและไปทำงานประมูลต่อ แต่แล้วเมื่อเธอต้องการจะขอให้พี่น้องนิโคลัสเป็นตัวแทนประมูลเท่านั้น เธอก็พบว่าพวกเขาไม่ได้ออนไลน์ ดังนั้นเธอจึงค้นรายชื่อเพื่อนของเธอทันที และโชคดีที่พบว่าซางกวน อาโอเชินออนไลน์อยู่
“ถึงแล้ว”
ในเวลาเดียวกันเซียวเฟิงและซือเยี่ยจิ๋งมาถึงหน้าร้านของอาจารย์ตี้
“อาจารย์ตี้อู่หยา”
เซียวเฟิงเห็นอาจารย์ตี้อู่หยาเพิ่งเดินออกมาจากข้างในพอดี ดังนั้นเขาจึงตะโกนทันที
“โฮ่ นั่นมันท่านอาร์คบิชอปนี่นา มารับแหวนสินะ มันเสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ ฉันกำลังคิดอยู่เลยว่าถ้าคุณไม่มา ฉันจะส่งคนไปที่วิหารแห่งแสงเพื่อแจ้งให้คุณทราบ”
อาจารย์ตี้อู่หยากล่าวหลังจากเห็นเซียวเฟิงทันที ซึ่งเขาดูค่อนข้างรีบ “โปรดรอสักครู่”
อาจารย์ตี้อู่หยากลับไปที่ห้องหลอม และในไม่ช้าก็เดินออกมาพร้อมกับแหวนเงิน จากนั้นเขาก็มอบให้เซียวเฟิง
[ติ๊ง! คุณได้รับแหวนห้วงมิติ!]
ทันทีที่เขาเข้ารับแหวนมา เขาก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบ และเขาแทบรอไม่ไหวที่จะตรวจสอบคุณสมบัติของมัน
แหวนห้วงมิติ
คุณภาพ: เทพเจ้า
ประเภทของของสวมใส่: แหวน
เลเวล: 20
ข้อจำกัดของสวมใส่: คลาสใดก็ได้
คุณสมบัติ:
โอกาสหลบหลีก +30%
สกิล:
ป้ายมิติ – กดใช้: สามารถทำเครื่องหมายพิกัดของคุณได้เป็นเวลา 48 ชั่วโมง สามารถเปิดใช้งานป้ายและเคลื่อนย้ายคุณจากที่ใดก็ได้ไปยังพิกัดที่ทำเครื่องหมายไว้ คุณสามารถมีป้ายมิติได้ไม่เกินสามป้ายในเวลาเดียวกัน
คลังมิติ – ติดตัว: แหวนห้วงมิติมีพื้นที่จัดเก็บ 1,000 ช่องและไม่เกี่ยวข้องกับช่องเก็บของของผู้เล่น เมื่อผู้เล่นเสียชีวิต สิ่งของในคลังมิติจะไม่ดร็อป แต่ถ้าตัวแหวนห้วงมิติดร็อป ไอเทมทั้งหมดในนั้นก็จะดร็อปไปด้วย
นี่เป็นของสวมใส่ระดับเทพเจ้าอย่างแน่นอน! แหวนระดับเทพเจ้าเลเวล 20!
แม้ว่าจะมีคุณสมบัติเป็นเพิ่มโอกาสในการหลบหลีกเพียงอย่างเดียว แต่มันก็เพิ่มขึ้นถึง 30% มันคู่ควรกับชื่อแหวนระดับเทพเจ้าอย่างแน่นอน!
นี่เป็นคุณสมบัติที่น่าทึ่ง ลองคิดดู ถ้าโอกาสในการหลบของคุณเพิ่มขึ้นหนึ่งในสามระหว่างการต่อสู้ หมายความว่าถ้ามีคนอื่นโจมตีคุณสามครั้งก็จะมีการเพียงโจมตีสองครั้งเท่านั้นที่โดน แต่การโจมตีของคุณนั้นโดนหมดทั้งสามครั้ง ใครสามารถเอาชนะคุณได้?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเซียวเฟิง โอกาสในการปัดป้องของเขาได้ไปถึงค่าสูงสุดแล้ว เฉพาะเมื่อชายหนุ่มกำลังจะจมอยู่ใต้ทะเลเท่านั้นที่โอกาสปัดป้องพื้นฐานจะทำงาน ตอนนี้คุณสมบัติการปัดป้องพื้นฐานเพิ่มขึ้น 30% ซึ่งเอฟเฟกต์นี้ถือว่าค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว
นอกจากนี้แหวนห้วงมิติยังมีสกิลพิเศษที่มีผลดีเช่นเดียวกันอีกสองสกิล สกิลแรกคือการเคลื่อนย้ายแบบพิเศษ ซึ่งสามารถทำเครื่องหมาย 3 จุดพร้อมกันได้และสะดวกเป็นพิเศษ
ตัวอย่างเช่น ถ้าเซียวเฟิงทิ้งเครื่องหมายมิติไว้ที่ชั้นสองของมหาสุสานใต้พิภพ เขาก็สามารถใช้แหวนเพื่อเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังจุดนี้ได้โดยตรงโดยไม่ต้องเคลียร์มอนเตอร์ในชั้นแรก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นกำแพงเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นอื่นที่มีอยู่มาสำรวจมหาสุสานใต้พิภพได้
สกิลที่สองคือเพิ่มช่องเก็บของที่ชายหนุ่มต้องการอย่างมากหนึ่งช่อง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันมีขนาดใหญ่กว่ากระเป๋าเก็บของถึงสิบเท่า
สิ่งเดียวที่ทำให้เซียวเฟิงกังวลคือคุณสมบัติของมัน เพราะช่องเก็บของ 1,000 ช่องติดอยู่กับแหวนห้วงมิติ ถ้ามันหล่น ของที่เก็บไว้ในนั้นก็จะหล่นไปด้วยทั้งหมด และการกระทำที่ประมาทจะนำไปสู่ความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
แต่โชคดีที่เขาเป็นนักบวชที่มีสกิลช่วยชีวิตเพียงพอและไม่ได้ถูกฆ่าง่าย ๆ ดังนั้นไม่ต้องใส่ใจข้อเสียของคุณสมบัตินี้เลยแม้แต่น้อย
เมื่อกำลังจะสวมแหวนห้วงมิติ เซียวเฟิงก็พบว่าเขาใส่แหวนครบสี่วงแล้ว ตอนนี้เขาต้องแทนที่หนึ่งในนั้น ดังนั้นชายหนุ่มจึงเปรียบเทียบคุณสมบัติของแหวนทั้งสี่ที่ตัวเองสวมอยู่
สูงสุดคือแหวนของราชาโครงกระดูกทองคำเลเวล 20 คุณสมบัตินั้นสมบูรณ์แบบและไม่สามารถแทนที่ได้ อันต่อไปคือแหวนความเร็วเลเวล 15 เป็นระดับน้ำเงินซึ่งเพิ่มความเร็วและค่อนข้างสะดวก
จากนั้นก็เป็นแหวนแห่งศรัทธาเลเวล 10 มันไม่เพียงแต่ทำจากเงิน ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่าทึ่งที่สามารถเพิ่มพลังชีวิตได้ 50 แต้ม แต่ยังมีเอฟเฟกต์พิเศษอีกด้วย จึงไม่สามารถทดแทนได้
แหวนวงสุดท้าย เจตจำนงของฮันเตอร์ ได้รับตอนที่เซียวเฟิงอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้น มันเป็นของสวมใส่ระดับเขียวเลเวล 1 และสามารถเพิ่มอัตราคริติคอลได้หนึ่งหน่วย
ของสวมใส่ชิ้นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเซียวเฟิงเพราะมันเป็นรางวัลที่เขาได้มาจากการเริ่มทำภารกิจหลังจากเข้าเกม และเป็นเพราะมันชายหนุ่มถึงสามารถก้าวนำหน้าผู้เล่นคนอื่นได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเปลี่ยนมันออกแล้ว