บทที่ 503 อย่าห่วงเรื่องอาหารและเสื้อผ้า + บทที่ 504 ถ้าข้ากลายเป็นข้ารับใช้

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

บทที่ 503 อย่าห่วงเรื่องอาหารและเสื้อผ้า

จากนั้นนางหยางก็ดึงตัวหยางเล่อเล่อไปแล้วพรั่งพรูสิ่งต่างๆ ในใจออกมา หยางเล่อเล่อรู้สึกเจ็บปวดในใจ น้ำตาคลอตรงขอบตาเมื่อนางได้ยินคำพูดเหล่านั้น

“ท่านแม่ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านอย่าห่วงเลย แล้วข้าจะมาเยี่ยมท่านบ่อยๆ” ที่นั่นมีแค่นางกับเหลยอัน ถ้านางอยากจะมาเยี่ยมก็เดินทางไม่ไกล

นางหยางนึกขันขณะมองบุตรสาว นางเอื้อมมือไปช่วยจัดเสื้อผ้า “เจ้าเด็กโง่ แต่งงานแล้วจะคอยกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ได้อย่างไร ถึงแม้บ้านเหลยอันจะไม่มีใครอื่น เจ้าก็ต้องอยู่กับสามีหลังแต่งงาน อย่าดื้อ เข้าใจหรือไม่”

“ท่านแม่ ข้าเข้าใจ”

นางหยางอยากจะพูดมากกว่านี้ แต่นางได้ยินเสียงดังจากข้างนอก จึงทำอะไรไม่ได้แล้วได้แต่ช่วยหยางเล่อเล่อเอาผ้าคลุมศีรษะแล้วพานางออกไป

นางหยางรู้สึกเศร้าใจขณะมองบุตรสาวขึ้นไปบนเกี้ยวแล้วโดนยกขึ้น มีเสียงประทัดดังอยู่บนพื้น

หนิงเมิ่งเหยาลูบไหล่นางหยาง นางยิ้มพลางกล่าว “ท่านป้า เล่อเล่อจะมีชีวิตที่ดีแน่นอน”

“ข้ารู้ ข้าเพียงเศร้าขึ้นมา ลูกสาวที่ข้าเลี้ยงมาแต่เล็กกำลังจะแต่งงานแล้ว” นางหยางพูดพร้อมเช็ดตรงหางตา

หนิงเมิ่งเหยาไม่รู้จะปลอบนางหยางเช่นไร แต่นางหยางก็สงบใจลงเอง “ป้าไม่เป็นอะไร ไปฉลองที่บ้านของเหลยอันกันเถอะ”

หยางซู่อวิ๋นและบิดามารดาของนางไปบ้านของเหลยอันด้วยกัน นางอยากจะเห็นว่าคนที่หยางเล่อเล่อแต่งงานด้วยหน้าตาเป็นเช่นไร

ตอนนางได้ยินว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า นางก็คิดว่าความเป็นมาของเขาต้องไม่ดีแน่นอน หยางเล่อเล่อจะต้องเป็นทุกข์หลังแต่งงานกับเขา

แต่นางก็ต้องตะลึงเหมือนคนโง่เมื่อได้เห็นบ้านที่สวยงาม

คนที่หยางเล่อเล่อแต่งงานด้วยแท้จริงแล้วเป็นชายมีฐานะ หยางซู่อวิ๋นกัดฟันกรอด นางมองบ้านหลังใหญ่แล้วก็ยิ่งโมโห

นางเฉิงคอยมองหยางซู่อวิ๋นอยู่ตอนนางทำหน้าน่าเกลียด ดั่งว่ากำลังโกรธจัด นางรีบเดินไปดึงบุตรสาวไว้ สีหน้านางน่าก็ยังเกลียดน่ากลัวยิ่งนัก “ซู่อวิ๋น เจ้าไม่สบายหรือ ไปพักตรงนั้นไป” น้ำเสียงนางแกมบังคับ ไม่ยอมให้หยางซู่อวิ๋นได้เถียงตอนโดนนางเฉิงลากตัวออกไป

ผู้เฒ่าหยางทำเสียงฮึดฮัด ถ้าหยางซู่อวิ๋นกล้าก่อเรื่องที่นี่ในงานแต่งงานหลานสาวของเขา เขาสาบานว่าจะลงโทษนางอย่างหนัก

พิธีแต่งงานเป็นไปโดยราบรื่นโดยไม่มีหยางซู่อวิ๋นก่อปัญหาแต่อย่างใด หลังจากทำความเคารพบรรพชน หยางเล่อเล่อก็ถูกส่งตัวไปยังห้องเจ้าสาว

หยางเล่อเล่อรู้สึกเบื่อขณะนั่งอยู่ในห้องหอ แล้วบานประตูก็เปิดออก หนิงเมิ่งเหยาเข้ามาพร้อมกับอาหาร

“เอ้า เหลยอันขอให้ข้าเตรียมอาหารให้เจ้า เขากลัวว่าเจ้าจะหิว” หนิงเมิ่งเย้าหยอกเย้า

หยางเล่อเล่อรู้สึกเขินอายยิ่งนัก แก้มนางแดงก่ำด้วยความเขิน

“เหยาเหยา”

“เอาล่ะ อย่ามัวอาย ดูหน้าเจ้าแดงไปหมดแล้ว รีบมากินเสีย” หนิงเมิ่งเหยาวางจานลงข้างๆ

หยางเล่อเล่อนั่งตรงหน้าโต๊ะ นางหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วกินอาหารคำโต “ข้าหิวยิ่งนัก ข้าไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า”

“เช่นนั้นก็กินอีก” หนิงเมิ่งเหยายิ้มให้นาง จังหวะนั้นก็หยิบเอาปึกเงินมาจากในแขนเสื้อ มีอย่างน้อยสิบใบ “นี่เป็นของขวัญจากพี่เหมยและคนอื่นๆ ให้เจ้าเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน”

“เข้าใจแล้ว” หยางเล่อเล่อไม่เถียง นางรับเงินไว้ รู้ว่าเหมยรั่วหลินและคนอื่นๆ ให้ด้วยเจตนาดี

หยางเล่อเล่อเพิ่งเก็บเงินเสร็จตอนที่หยางซู่อวิ๋นเข้ามา นางขมวดคิ้วเมื่อเห็นของตกแต่งภายในบ้านแล้วกล่าว “ยินดีกับเจ้าด้วยนะ เจ้าได้แต่งงานเข้าตระกูลดี วันข้างหน้าก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารและเสื้อผ้าแล้ว” ถ้อยคำของนางตั้งใจจะเสียดสีหยางเล่อเล่อ โดยหาว่านางเล็งสมบัติคนอื่นไว้

“ต่อให้ไม่แต่งงานข้าก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารและเสื้อผ้า ข้าเลี้ยงดูตัวเองได้” หยางเล่อเล่อพูดอย่างเย็นชาและเหยียดหยาม

นางได้เงินกว่าร้อยตำลึงเงินต่อเดือน เงินที่นางได้มาตลอดสองปีนี้ ครึ่งหนึ่งให้บิดามารดาเก็บไว้เป็นสินเดิม และนางก็ไม่เคยแตะเงินส่วนนั้น พวกนางเก็บเงินได้มากทีเดียว

“เจ้ามาที่นี่ทำไม” หยางเล่อเล่อถามอย่างหมดความอดทน

“ข้ามาแสดงความยินดีกับเจ้าไม่ได้หรือ” หยางซู่อวิ๋นขมวดคิ้วโก่งเรียว ดั่งว่าตนกำลังโดนเข้าใจผิด

นางเข้ามาข้างในเพราะนางไม่เห็นเฉียวเทียนช่างข้างนอก

นางอยากได้ข่าวของเขาจากลูกพี่ลูกน้อง

บทที่ 504 ถ้าข้ากลายเป็นข้ารับใช้

หยางซู่อวิ๋นยิ้มอ่อนโยน นางมองหยางเล่อเล่อแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า ข้าก็ควรมาคุยกับเจ้าตอนเจ้าแต่งงานมิใช่หรือ” จากนั้นนางก็มองหนิงเมิ่งเหยาพลางทำสีหน้าลำบากใจ “ฮูหยินเฉียว ข้าอยากจะขอคุยกับลูกพี่ลูกน้องของข้าตามลำพังจะได้หรือไม่”

คำพูดจานางสุภาพ แต่สายตานางไล่หนิงเมิ่งเหยาให้ออกไปและอย่ามาขัดบทสนทนาของพี่สาวน้องสาว

หนิงเมิ่งเหยาไม่ใช่คนที่จะอ่านคนไม่ออก นางยิ้มแล้วมองหยางซู่อวิ๋น จากนั้นก็หันไปหาหยางเล่อเล่อ “เล่อเล่อ ข้าจะกลับบ้านไปดูเจ้าลิงน้อยของข้าก่อน แล้วข้าจะมาหาเจ้าภายหลัง”

“ตกลง” แม้หยางเล่อเล่อจะไม่พอใจหยางซู่อวิ๋น แต่นางก็ยังผงกศีรษะ

หลังจากหนิงเมิ่งเหยาไปแล้ว หยางเล่อเล่อก็กล่าวอย่างมีน้ำโห “เจ้าอยากจะพูดอะไร”

หยางซู่อวิ๋นมองหยางเล่อเล่ออย่างโกรธๆ “ข้ากับเจ้าเป็นญาติกัน ทำไมเจ้าถึงมีท่าทีเช่นนี้”

หยางเล่อเล่อแสยะยิ้มพร้อมกับมองหยางซู่อวิ๋น “ถ้าไม่ใช่เพราะสามีข้ากับพี่ใหญ่เฉียวเป็นพี่น้องกัน หรือถ้าไม่ใช่เพราะข้าสนิทสนมกับพี่ใหญ่เฉียว เจ้าจะมาคุยกับข้าหรือ”

หยางซู่อวิ๋นสำลัก นางมองหยางเล่อเล่ออย่างไม่พอใจ “ทำไมเจ้าจึงโง่เช่นนี้ เจ้าใกล้ชิดกับหนิงเมิ่งเหยา แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เครือญาติกัน ตราบใดที่เจ้าช่วยให้ข้าได้เฉียวเทียนช่างมา ข้าสัญญาว่าเจ้าจะได้ผลประโยชน์มากมาย เจ้าคิดเช่นไร”

หยางเล่อเล่อมองหยางซู่อวิ๋น แววตาครุ่นคิด พอหยางซู่อวิ๋นคิดว่านางกำลังจะทำสำเร็จ หยางเล่อเล่อกลับพูดขึ้น “ข้าสงสัยนักว่าหน้าเจ้าหนาขนาดนี้ได้อย่างไร ให้เจ้าได้พี่ใหญ่เฉียวรึ เจ้าคิดว่าเจ้าวิเศษวิโสนักหรือ เจ้าประเมินตัวเองสูงไปแล้ว”

ท่าทีชิงชังของหยางเล่อเล่อทำให้ใบหน้าของหยางซู่อวิ๋นเปลี่ยนสีไปมาระหว่างเขียวกับขาว

“หยางเล่อเล่อ นี่เจ้า…”

หยางซู่อวิ๋นกำลังจะแสดงโทสะ แต่มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก มีร่างสูงประคองเหลยอันเข้ามา หน้าของเหลยอันแดงก่ำ

มองแวบแรกนางก็รู้ว่าเขาเมา

ทว่าสายตาหยางซู่อวิ๋นไม่ได้สนใจเรื่องนั้น นางกำลังมองเฉียวเทียนช่างที่เป็นคนประคองเหลยอัน สายตานางเต็มไปด้วยความหมกมุ่น นางคาดเดาถูกแล้ว เฉียวเทียนช่างมาจริงๆ

หยางเล่อเล่อถลึงตามองหยางซู่อวิ๋น นางรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปช่วยเฉียวเทียนช่างพยุงเหลยอัน “พี่ใหญ่เฉียว ขอโทษด้วยที่ต้องรบกวนท่าน”

“ไม่เป็นไร เหยาเหยาไปไหนเสียแล้ว”

“เหยาเหยาบอกจะกลับไปดูเจ้าลูกลิงของนาง” หยางเล่อเล่อออกแรงพาเหลยอันไปนอนบนเตียง จากนั้นก็หันมายิ้มพร้อมบอกเขา

เฉียวเทียนช่างพยักหน้า เขาส่งเสียง ‘อืม’ ปรายตามองเหลยอัน แล้วเดินออกไป ไม่แม้แต่จะมองหยางซู่อวิ๋นที่ยืนอยู่ตรงด้านข้าง

แต่หยางซู่อวิ๋นจะยอมให้เฉียวเทียนช่างเมินนางหรือ ไม่มีทางหรอก นางรีบตามหลังเขาไป แล้วไปขวางทางเฉียวเทียนช่าง “พี่ใหญ่เฉียว ไยรีบร้อนนัก ข้าอยากจะทำงานที่โรงงาน ท่านพอจะช่วยข้าได้หรือไม่” นางใช้สายตาเอียงอายเมียงมองเฉียวเทียนช่างขณะพูด

เฉียวเทียนช่างมองหยางซู่อวิ๋นอย่างรังเกียจ เขาเอ่ยเสียงเย็นชา

“เจ้ากับข้าไม่ได้สนิทกัน”

หน้านางซีดไป หยางซู่อวิ๋นปั้นยิ้มแล้วกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน

“เรื่องนั้น…ข้าเชื่อว่าวันหน้าเราก็จะสนิทกันเอง”

“เจ้าอยากจะพูดอะไร” เฉียวเทียนช่างมองหยางซู่อวิ๋นอย่างหมดความอดทน สายตาของเขาแสดงความรังเกียจ

หยางซู่อวิ๋นทำตาเป็นประกาย นางรู้สึกว่าตนได้โอกาสแล้ว จึงเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเทียนช่างอย่างหลงใหล “พี่ใหญ่เฉียว ข้าชอบท่าน ข้าอยากจะอยู่เคียงข้างท่าน ให้ข้าเป็นข้ารับใช้ของท่านก็ได้” นางก้มหน้าลงอย่างเขินอายหลังพูดจบ รอคอยให้เฉียวเทียนช่างตอบ หวังว่าเขาจะ…

ทว่าเฉียวเทียนช่างมองหยางซู่อวิ๋นอย่างดูถูก แล้วกล่าวอย่างหมดความอดทน “ข้ามีข้ารับใช้มากพอแล้วที่บ้าน”

ทั้งตัวหยางซู่อวิ๋นสั่นเทาเล็กน้อย นางเงยหน้าขึ้น ดวงตารื้นน้ำตา หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้ม

“พี่ใหญ่เฉียว เหตุใดท่านต้องโหดร้ายนัก ข้าชอบท่านจริงๆ นะ” คนอื่นอาจรู้สึกหวั่นไหวพอได้เห็นหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูของหยางซู่อวิ๋น แต่คนตรงหน้านางคือเฉียวเทียนช่าง ชายผู้ไม่รู้ว่าความสงสารคืออะไร

เฉียวเทียนช่างไม่มีเวลาจะมาเสียกับหยางซู่อวิ๋น ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วเผยรอยยิ้มเอ็นดู เมื่อหยางซู่อวิ๋นคิดว่าตนทำสำเร็จแล้ว เฉียวเทียนช่างก็พูดขึ้น “เหยาเหยา ซางเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง”