บทที่ 279 บุรุษก็ต้องใหญ่!
ทุกคนรู้ว่าแก่นพลังทองมีความหมายลึกซึ้งที่จะเปลี่ยนไปตามวิชาที่ผู้บำเพ็ญฝึกฝน
ยิ่งวิชาที่ผู้บำเพ็ญฝึกแข็งแกร่งมากเท่าไร ลายเทพที่ได้ตอนทะลวงแก่นพลังทองก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น
ศิษย์แกนหลักของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝึกฝนเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม ปกติจะสำเร็จแก่นพลังทองสามรอบขึ้นไป
ตามหลักแล้วเสิ่นเทียนรวมแก่นพลังทองด้วยเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมระดับสมบูรณ์ รวมปัญจธาตุหยินหยางครบถ้วน ก็ไม่มีทางด้อยกว่าจางอวิ๋นซีแน่นอน
ทว่าเสิ่นเทียนไม่คาดคิดเลยว่าแก่นพลังทองที่ลอยอยู่เหนือศีรษะตนตอนนี้จะไม่มีลายเทพเลยสักลาย
ใช่ เขาขยี้ตาหลายรอบ มั่นใจว่าตนเองมองไม่ผิด
แก่นพลังทองที่ลอยอยู่เหนือศีรษะตอนนี้ไม่มีลายเทพเลยจริงๆ
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าแก่นพลังทองของเสิ่นเทียนธรรมดา ในทางตรงข้าม แก่นพลังทองของเขาไม่ธรรมดาเลยสักนิด กระทั่ง…กระทั่งยังเป็นที่น่าตื่นตกใจ
มองไปทั้งห้าดินแดนตลอดหมื่นปีมานี้ มีแก่นพลังทองของใครบ้างที่ไม่มีขนาดเท่าตามังกร
ต่อให้เป็นแก่นพลังทองที่เหนือชั้นกว่านั้น ก็แค่มีปรากฏการณ์กับลายเทพรอบๆ แก่นพลังทองต่างกันเท่านั้น ขนาดไม่ได้เปลี่ยนไป
แต่เสิ่นเทียนพบว่าแก่นพลังทองของตนกลับมีขนาดเท่าผลแอปเปิล วัดจากขนาดแล้วใหญ่กว่าแก่นพลังทองของคนปกติสิบเท่า
แก่นพลังทองนี้เปล่งแสงสีทองสว่างจ้าทุกส่วน ไม่มีลายเทพแกะสลักใดๆ แต่กลับมีสายฟ้าวนเวียน
สายฟ้าวนเวียนรอบแก่นพลังทองของเสิ่นเทียนไม่หยุด แผ่ความน่าเกรงขามเด่นชัด
กระทั่งทำให้แก่นพลังทองของเสิ่นเทียนดูคล้ายกับลูกสายฟ้าพอควร
………
เมื่อเห็นลูกสายฟ้าสีทองเด้งไปเด้งมาเหนือศีรษะของตนแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับมุมปากกระตุก
เจ้านี่เรียกว่าแก่นพลังทองได้หรือ แก่นพลังทองบ้านใครใหญ่ขนาดนี้บ้าง
และยังมีแก่นพลังทองลงท้อง ชะตาข้าข้าลิขิตเองมิใช่สวรรค์อีก
ใช่ คำพูดนี้พูดไว้ไม่มีผิดเลย
หากกินก้อนใหญ่ขนาดนี้ลงไป ดีไม่ดีได้กลับสวรรค์จริงๆ แน่
แต่ก็มีหมื่นโชคในความโชคร้าย เสิ่นเทียนยื่นมือไปคลำแก่นพลังทองลูกใหญ่ของตน
เขาพบว่าสายฟ้ากำเนิดฟ้าที่วนเวียนรอบผิวแก่นพลังทองไม่ทำอันตรายต่อเขาเลย แต่ทำให้ดูรู้สึกสบายด้วยซ้ำ
อีกทั้งถึงแก่นพลังทองนี่จะมีขนาดเท่าแอปเปิล ในสถานการณ์ปกติคงจะกินลงไปไม่ได้ แต่มันก็หลอมรวมเข้าไปในตันเถียนของเสิ่นเทียนได้ในทันที
หลังจากหลอมรวมเข้าไปแล้ว ตันเถียนขยายใหญ่ขึ้นนิดๆ มักจะรู้สึกว่าหากออกแรงก็อาจคายมันออกมาได้
เยี่ยฉิงชางยิ้ม ไม่รู้ว่ากำลังมีความสุขที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์หรือไม่ ตอนนี้พูดปลอบใจ “เทียนเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล แก่นพลังทองชนิดนี้น่าจะเป็นแก่นพลังทองแบบแปลก ถึงจะพบเห็นได้ยากในโลกข้างล่าง แต่ในโลกเซียนไม่ได้หายากเลย
ก็แค่แก่นพลังทองใหญ่หน่อยเดียวไม่ใช่รึ! มีคำกล่าวไว้ว่าแรงเยอะอิฐลอยขึ้นฟ้า บุรุษก็ต้องใหญ่ด้วย!
ความพิเศษที่มากที่สุดของระดับแก่นพลังทองคือใช้แก่นพลังทองรวมเป็นเขตแดนคุ้มกันได้ ขณะเดียวกันยังเสริมอานุภาพของวิชาได้
ลายเทพบนผิวแก่นพลังทองเป็นเพียงการแสดงให้เห็นรูปแบบเท่านั้น ไม่ใช่รากฐาน รากฐานต่างหากที่เสริมกำลังรบ เจ้าลองดูอานุภาพของมันสิ!”
แม้คำปลอบใจของเยี่ยฉิงชางจะขอไปที แต่มีคนปลอบใจก็ดีกว่าไม่มีเลย
เสิ่นเทียนถอนหายใจ ปล่อยแก่นพลังทองลูกใหญ่ของตนออกมาอีกครั้ง และเริ่มศึกษาวิธีใช้งาน
สิ่งที่ผู้บำเพ็ญแก่นพลังทองมองดูมากที่สุดคือเขตแดนเวทแก่นพลังทอง ว่าจะเริ่มรวมเขตแดนกฎเกณฑ์นอกผิวกายได้หรือไม่
แม้เขตแดนกฎเกณฑ์ของระดับแก่นพลังทองจะคนละความหมายกับเขตแดนกฎเกณฑ์ของผู้อริยะ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ
เสิ่นเทียนสงบจิตใจลงและเริ่มสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของตนเองเงียบๆ
ไม่นาน อากาศรอบตัวเสิ่นเทียนในระยะหลายจั้งก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
สายฟ้าสีทองขยับวูบไหวในอากาศ สวยงามอย่างยิ่ง กระทั่งมีเงามายาสัตว์เทพลอยขึ้นมารางๆ
เสิ่นเทียนยืนอยู่ตรงกลางอย่างเฉยชาประหนึ่งราชาเทพผู้ควบคุมสายฟ้า องอาจเหนือธรรมดา ทำให้จิ่วเอ๋อร์ด้านข้างตาเป็นประกายดาว
“นายท่านสุดยอดมาก~ แรงกดดันของเขตแดนสายฟ้านี่แกร่งมาก!”
เสิ่นเทียนหลอมรวมแก่นพลังทองไปเจ็ดวันเต็มๆ
เจ็ดวันนี้จิ่วเอ๋อร์ก็ไม่ได้ว่าง นางเองก็ได้รับมหาโชคลิขิตสะท้านฟ้าอย่างหนึ่ง ตอนอยู่ในแดนปรโลกนั้น เยี่ยฉิงชางรับปากว่าจะให้โชคลิขิตกับจิ่วเอ๋อร์ ตอนนี้ทำตามสัญญาแล้ว
เขาเด็ดกลีบดอกจักรพรรดิบุปผาฟากฝั่งมากลีบหนึ่ง ให้มันหลอมรวมเข้าไปในกายผีสาวจิ่วเอ๋อร์ และยังถ่ายทอดคัมภีร์ภูตผีเงามืดให้ส่วนหนึ่ง
เดิมทีจิ่วเอ๋อร์เป็นสตรีหยินบริสุทธิ์ที่มีรูปแบบชะตาพิเศษอยู่แล้ว เทียบกับผีสาวปกติแล้วเหมาะจะฝึกวิชาเงามืดลับมากกว่า
พลังของดอกไม้ฟากฝั่งยังถือว่าเป็นมหาโชคลิขิตที่หาได้ยากในหมื่นปีสำหรับผู้บำเพ็ญภูตผี
เจ็ดวันนี้ จิ่วเอ๋อร์ย้ายไปฝึกมรดกคัมภีร์ภูตผีเงามืด หลอมรวมพลังของกลีบดอกไม้ฟากฝั่งนั้นเรียบร้อย
ไม่ใช่แค่ระดับพลังพุ่งพรวดไปถึงจุดสูงสุดระดับแก่นพลังทองเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนร่างภูตผีปกติในตอนแรกเป็นคุณสมบัติกายพิเศษ
ตอนนี้นางรับความสามารถส่วนหนึ่งของดอกไม้ฟากฝั่งมา สามารถเปลี่ยนกายเนื้อระหว่างหยินหยางและความจริงกับมายาได้
ไม่ใช่แค่ศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก ใบหน้า รูปร่าง และเอกลักษณ์ยังเย้ายวนมากขึ้นอีก
ไม่ว่าจะขมวดคิ้วหรือยิ้มก็มากพอจะทำให้คนถูกกระชากวิญญาณได้
จากคำอธิบายของเยี่ยฉิงชาง หากหญิงคนนี้อยู่ในโลกเซียน โอรสสวรรค์เผ่าภูตผีพวกนั้นจะต้องคลุ้มคลั่งอย่างแน่นอน
จิ๊ๆ ทำให้เจ้าหนูนี่ลำบากเสียแล้ว
……
“ยอดค่ายกลพิทักษ์ ปรับเป็นการโจมตีระดับสองใส่ข้า”
เสิ่นเทียนคุมป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เริ่มสั่งการให้สายฟ้าพิทักษ์ของยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์โจมตีตัวเอง
เขาอยากทดสอบว่าพลังป้องกันของเขตแดนเวทแก่นพลังทองของตนจะแข็งแกร่งเพียงใด ตอนนี้บนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่มีใคร ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าการใช้ยอดค่ายกลพิทักษ์ทดสอบแล้ว
ยอดค่ายกลพิทักษ์ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์รูปแบบที่สองเทียบเท่ากับการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับดวงจิตดรุณ มากพอจะต้านแขกที่ไม่ได้รับเชิญส่วนใหญ่ที่มาบุกยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์
ยามนี้เสิ่นเทียนเร่งรัดยอดค่ายกลพิทักษ์ให้โจมตีตัวเอง ทันใดนั้นก็เกิดสายฟ้าขึ้นบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ อัสนีเทพต่างๆ รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
อัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่ง อัสนีเทพธาตุไม้ลำดับสอง อัสนีเทพธาตุไฟลำดับสาม อัสนีเทพธาตุไฟลำดับสี่…
สายฟ้าสีสันต่างๆ ผ่าลงมายังเสิ่นเทียน นั่นคือการโจมตีของระดับดวงจิตดรุณ
จิ่วเอ๋อร์หลบไปด้านข้างนานแล้ว แม้ด้วยคุณสมบัติกายและระดับพลังของนางในตอนนี้จะต้านผู้บำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณส่วนใหญ่ได้
แต่การโจมตีของยอดค่ายกลพิทักษ์สวรรค์ถือว่าค่อนข้างแข็งแกร่งในผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณ อีกทั้งการโจมตีธาตุสายฟ้ายังเป็นปฏิปักษ์กับผู้บำเพ็ญภูตผี
ตอนนี้จิ่วเอ๋อร์เพิ่งหลอมรวมพลังส่วนหนึ่งของดอกไม้ฟากฝั่ง ยังไม่คุ้นชินดี จึงไม่กล้าบุ่มบ่ามเผชิญหน้ากับค่ายกลนี้
“เขตแดนเวทแก่นพลังทอง เปิด!”
เสิ่นเทียนประสานมุทรา แก่นพลังทองขนาดเท่าแอปเปิลเปล่งแสงสว่างจ้า
มิติหลายจั้งรอบตัวเสิ่นเทียนกลายเป็นทะเลสายฟ้าสีทองทันที แฝงไว้ด้วยสายฟ้าน่าพรั่นพรึงไม่มีที่สิ้นสุด
ตอนที่อัสนีเทพปัญจธาตุที่ปล่อยมาจากยอดค่ายกลพิทักษ์พวกนั้นผ่าลงเขตแดนเวทแก่นพลังทองของเสิ่นเทียน ไม่มีแม้แต่รอยร้าวปรากฏด้วยซ้ำ
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ยังโดนเขตแดนเวทแก่นพลังทองของเสิ่นเทียนดูดกินไปทั้งหมด ทำให้สายฟ้าในเขตแดนเวทแก่นพลังทองแกร่งขึ้น
เยี่ยฉิงชางพยักหน้าเล็กน้อย “ตอนนี้ดูแล้ว อานุภาพของแก่นพลังทองเจ้าไม่ธรรมดาเลย ความแกร่งของเขตแดนก็มีอย่างน้อยเทียบเท่ากับหกรอบขึ้นไป
อีกทั้งเขตแดนของเจ้ายังหลอมรวมกับอัสนีกำเนิดฟ้า มีความแข็งสูงสุด เป็นหยางสูงสุดและแกร่งที่สุด หากเจอกับผู้ฝึกวิชาอัสนี ผู้บำเพ็ญชั่วร้าย หรือผู้บำเพ็ญภูตผี ก็จะยิ่งชนะทางพวกเขาไปอีก”
เสิ่นเทียนเองก็ได้สัมผัสถึงความแกร่งของแก่นพลังทองตัวเอง ตอนนี้ความกังวลในใจลดน้อยลงไปมาก
ผู้บำเพ็ญเพิ่งทะลวงแก่นพลังทอง พลังจิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ช่วงเวลานี้การตระหนักรู้ก็จะเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน
หลังจากสัมผัสการเปลี่ยนแปลงในตัวเองแล้ว เสิ่นเทียนเตรียมจะพักสักครู่แล้วเริ่มฝึกวิชาลับ
ช่วยไม่ได้ มรดกที่เขาเรียนมีมากไปหน่อยจริงๆ
ลำพังแค่มรดกคัมภีร์จักรพรรดิขึ้นไปก็มีคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริง คัมภีร์เทพสงครามคบเพลิง คัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ และแสงเทพห้าสีเป็นต้น
ตอนนี้กว่าจะได้เปิดโปรสติปัญญาไม่ใช่ง่ายๆ เลย เสิ่นเทียนจึงตัดสินใจจะฝึกมรดกวิชาพวกนี้อย่างจริงจังสักรอบ
ประจวบเหมาะกับที่เขาเพิ่งไปล่วงเกินเจ้าผู้คุ้มกฎอู๋เซิงมา ช่วงนี้คงไม่ออกไปข้างนอกแล้ว
เฮ้อ ข้าช่างมั่นคงมากจริงๆ
………
ชั่วขณะที่เสิ่นเทียนเก็บตัวอยู่ในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ออกมา ทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับไม่เงียบสงบ
เพราะมีคนมาหาเรื่อง!
ใช่แล้ว มีคนมาท้าทายถึงแดนศักดิ์สิทธิ์
คนที่มาก็คือบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงฉีเซ่าเสวียน ผู้ที่ได้รับขนานนามว่าบุรุษผู้มีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ
ก่อนหน้านี้เขากวาดล้างแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ทั้งดินแดนบูรพา ผ่านไปที่ใด โอรสสวรรค์รุ่นเดียวกันต่างพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แทบทุกคนรับมือได้ไม่เกินสิบกระบวนท่า อย่างดีที่สุดก็ยื้อได้ถึงยี่สิบกระบวนท่าอย่างยากลำบากก่อนจะพ่ายแพ้ กระทั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นก่อนของบางแดนศักดิ์สิทธิ์ยังออกมือ ใช้ระดับพลังดวงจิตดรุณสู้กับแก่นพลังทอง ก็ยังพ่ายแพ้อนาถ
มือถือง้าวมังกรสวรรค์บุกฝ่าไร้พ่ายประหนึ่งราชาเทพหนุ่ม นี่ก็คือฉีเซ่าเสวียน!
หากบอกว่าก่อนเริ่มการท้าประลอง คนส่วนใหญ่ยังสงสัยในศักยภาพของฉีเซ่าเสวียน คิดว่าเขาเพียงแค่โชคดีเท่านั้น
เช่นนั้นจนถึงตอนนี้ ฐานะโอรสสวรรค์อันดับหนึ่งของดินแดนบูรพาได้เป็นที่ประจักษ์แล้ว ไม่มีใครกล้าคัดค้านอีก!
หลังจากเขากวาดล้างโอรสสวรรค์แทบทั้งหมดในดินแดนบูรพา เขาก็จ้องมาที่เทพสวรรค์
สามวันก่อน แดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงได้ส่งสารท้ารบมายังโลกเล็กเทพสวรรค์
ในสารท้ารบนั้นฉีเซ่าเสวียนแจ้งไว้ว่าจะขอชื่นชมความสง่าของสี่โอรสสวรรค์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ด้วยตัวคนเดียว
หรือก็คือเขาจะสู้กับเสิ่นเทียน ฟางฉาง จางอวิ๋นถิง และจางอวิ๋นซีสี่คนด้วยตัวคนเดียว เปลวไฟแห่งความโอหังได้สั่นสะเทือนทั้งดินแดนบูรพา
เวลานี้ ทั้งดินแดนบูรพาต่างสนใจในการต่อสู้ครั้งนี้ เกิดการเดิมพันนับไม่ถ้วนขึ้น
บางคนเชื่อมั่นว่าฉีเซ่าเสวียนจะเป็นตำนานไร้พ่ายต่อไป สั่งสมอำนาจไร้พ่าย ใช้แก่นพลังทองสิบรอบสมบูรณ์ทุบแก่นเป็นดรุณ
แต่มีคนที่มากกว่าคิดว่าถึงฉีเซ่าเสวียนจะไร้พ่าย แต่สามหัวกะทิเทพสวรรค์ก็เป็นผู้โดดเด่นสิบอันดับแรกในรายนามแก่นพลังทอง
หากฉีเซ่าเสวียนสู้หนึ่งต่อหนึ่งย่อมชนะอย่างแน่นอน ทว่าหนึ่งสู้สามยังสรุปไม่ได้
มิหนำซ้ำนอกจากหนึ่งมังกร หนึ่งพยัคฆ์และหนึ่งกิเลนแล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังมีบุตรศักดิ์สิทธิ์ลึกลับ
แม้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนจะเพิ่งมีชื่อเสียงไม่กี่เดือน แต่ก็โด่งดังมีรากฐานฝังรากลึกยิ่งกว่าพวกฟางฉางไปไกล
ลำพังแค่เขาอยู่เหนือกว่าฟางฉางกับจางอวิ๋นถิง ได้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นนี้ ก็มากพอจะทำให้ทุกคนไม่กล้ามองข้ามคนผู้นี้แล้ว
มิหนำซ้ำจากข่าวในตลาดมืดและข่าวซุบซิบตามท้องตลาดยังกระจายเรื่องราวมหัศจรรย์ต่างๆ เกี่ยวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
ข่าวลึกลับที่เล่าลือว่ามาจากคนในของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดูเกินจริงและไร้เหตุผลยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เช่นว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีใบหน้าหล่อเหลาที่สุด มีเอกลักษณ์เหนือธรรมดามากที่สุด ไม่ว่าเขาไปที่ใดจะได้หมื่นโชคลิขิตกลับมา ไม่ใช่แค่ดอกไม้เหี่ยวเฉาจะเบ่งบานอีกครั้ง แม้แต่หัวใจของเด็กสาวยังกระเพื่อมตาม
เช่นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เคยเลือกหินแร่สิบก้อนในสวนแร่วิญญาณบางแห่ง ปรากฏว่าในเจ็ดก้อนออกมาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดิน ในสองก้อนออกมาเป็นสมบัติเซียน ยังมีหนึ่งในนั้นออกมาเป็นจี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
เช่นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เคยบุกฝ่าไปส่วนลึกของที่ราบหมอกลับแลเพียงลำพัง สังหารปีศาจเถาระดับเตรียมอริยะตรงส่วนลึกหมอกลับแลนั้นด้วยตัวคนเดียว ช่วยชีวิตคนไว้มากมาย
เช่นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บุกหอคอยเทพสงครามอาวุธเทพสูงสุดในสนามรบบรรพกาลรวดเดียวเก้าชั้น ได้รับการยอมรับจากหอคอยเทพสงครามว่าอยู่สูงสุด เป็นโอรสสวรรค์เก้าดาวเพียงหนึ่งเดียวตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ดังนั้นจึงได้เป็นนายหอคอยเทพสงครามและมาตั้งในเทพสวรรค์
หรือเช่นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ เพิ่งทะลวงแก่นพลังทองก็มีลายเทพเก้าลาย อยู่จุดสูงสุด!
…….
กล่าวคือมีข่าวลือไร้เหตุผลมากมาย ไม่รู้ว่าตอนที่กระจายข่าวลือโดนใครแต่งเสริมปรุงแต่งมากี่คน
ทว่าข่าวลือที่เชื่อถือไม่ได้พวกนี้กลับโด่งดังไป ไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนมีชื่อเสียงเท่าไรในดินแดนบูรพาแล้ว
ถึงจะไม่ค่อยมีใครเชื่อข่าวลือพวกนี้ แต่เกิดข่าวลือได้มันต้องมีเหตุ
ในเมื่อบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ในคำเล่าลือเก่งกาจขนาดนั้น จะต้องมีความสามารถอยู่บ้างแน่นอน
ถึงอย่างไรหากเป็นขยะ ก็คงไม่มีใครสร้างอำนาจบารมีให้เขา
เวลานี้คนมากมายกำลังเฝ้ารอการปะทะกันระหว่างโอรสสวรรค์ยุคนี้ของเคหาสน์ม่วงและเทพสวรรค์
ฉีเซ่าเสวียนไม่ได้ให้คนเฝ้ารอนานนัก เขามาถึงภายในสามวัน
รถสงครามมังกรคะนองน้ำสีดำน่าเกรงขามแล่นเข้ามาอย่างอึกทึก
พายุลูกใหม่พัดมาเยือนเทพสวรรค์!
โอรสสวรรค์และยอดฝีมือทั้งดินแดนบูรพาต่างจับจ้องการปะทะของสองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่
ฟางฉาง จางอวิ๋นถิงและจางอวิ๋นซีนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ ปรับสภาพร่างกายเงียบๆ รอรับการท้าประลอง
ส่วนเสิ่นเทียนตอนนี้กำลังอาบน้ำด้วยของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน เสพสุขชีวิตเงียบสงบที่พบเจอได้ยาก
แน่นอน เขาคิดได้ว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานของตนเหลือไม่มากจริงๆ ครั้งนี้จึงไม่ได้สิ้นเปลืองเกินไป เขาใส่น้ำไปราวๆ ครึ่งหนึ่งในของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานด้วย
แบบนี้จากของเหลวศักดิ์สิทธิ์ที่แช่ได้ครั้งเดียวก็จะแช่ได้สองครั้ง อีกทั้งยังพลิกฟ้าดั่งบรรลุเป็นเซียนเช่นกัน
เมื่อสัมผัสได้ว่ากายเนื้อแกร่งขึ้นมีพลังขึ้นจากการบำรุงด้วยของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน เสิ่นเทียนก็อดยกยิ้มไม่ได้
ข้านี่ฉลาดจริงๆ!
โลกนี้คงจะมีบุรุษที่บริหารบ้านเรือนเช่นข้าได้ไม่เยอะแล้ว!
……………………..