ส่วนที่ 9 ภาคอุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี ตอนที่ 15 อุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี (15)

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

ตระกูลตู้

 

 

การส่งมอบบริษัทซิงหง อิเล็กทรอนิกส์ผ่านไปอย่างราบรื่น ในตอนเช้าตรู่พนักงานระดับสูงของตระกูลตู้ล้วนแต่ได้รับข่าวนี้ รู้ว่าคุณชายใหญ่เอาบริษัทซิงหง อิเล็กทรอนิกส์แยกออกมาบริหารงานเองแล้ว

 

 

พนักงานฝ่ายอื่นยังคงแยกกันทำงานของใครของมัน การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้สำหรับพวกเขาแล้วไม่ส่งผลกระทบใดใด แต่พนักงานเก่าแก่ของซิงหง อิเล็กทรอนิกส์นั้นล้วนแต่กระวนกระวายใจ เปลี่ยนแผ่นดินก็เปลี่ยนข้าราชบริพาร ตอนนี้หลายคนกำลังถกเถียงกันอย่างลับๆ เรื่องการขัดแย้งกันเนื่องจากเรื่องความรักของคุณชายใหญ่และคุณชายสอง ตอนนี้คุณชายใหญ่แยกตัวบริษัทซิงหง อิเล็กทรอนิกส์ออกมาแล้ว พนักงานเก่าแก่ของบริษัทตัวเองนั้นก็พลันตกอยู่ในอันตราย

 

 

ทั่วทั้งฮวากั๋วใครจะไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่ตระกูลตู้มีห้องทดลองเป็นของตัวเอง ใช้สำหรับทดลองหุ่นยนต์โดยเฉพาะ และภายในห้องทดลองนั้นมีเจ้าหน้าที่เทคนิคระดับสูงเฉพาะทางอยู่เป็นจำนวนมาก แค่เลือกๆ มาเสียคนก็เก่งกว่าพนักงานธรรมดาของซิงหงไม่รู้กี่เท่า

 

 

ในตอนที่บรรยากาศของซิงหง อิเล็กทรอนิกส์บนชั้นยี่สิบแปดกำลังปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกแห่งความระทมนั้น ตู้เฉินที่นั่งอยู่บนห้องทำงานสูงสุดกำลังเปิดดูข้อมูลที่หยูเฟิงจัดการมาให้เกี่ยวกับซูเจี้ยนจวินและหลี่เหม่ยเจวียน

 

 

“นายซูเจี้ยนจวินคนนี้เรื่องแย่ๆ นี่มีไม่น้อยเลยนะ”

 

 

ตู้เฉินปิดแฟ้มเอกสารลง และนวดหัวคิ้วตัวเองอย่างเบามือ ซูเจี้ยนจวินละโมบโลภมาก ลามกอนาจาร ขี้ขลาดขี้ระแวง คนแบบนี้ถึงแม้จะยังพอเรียกใช้งานได้ แต่ความเป็นจริงแล้วกลับไม่สามารถใช้ทำงานใหญ่ได้ มีอะไรมาทำให้เอนเอียงได้ง่ายดาย มั่นใจเลยว่าจะต้องรีบหันปลายกระบอกปืนไปอีกด้านกลายเป็นคนทรยศไปแน่นอน

 

 

หากจะเทียบกันแล้ว หลี่เหม่ยเจวียนกลับเป็นคนที่น่าใช้งานมากที่สุด

 

 

ความทะเยอทะยาน ความชอบมีหน้ามีตา และละโมบ ผู้หญิงแบบนี้ขอแค่คุณให้ความหวังเธอหน่อยเท่านั้น ทำให้ตัวเธอค่อยๆ จองหองพองขน เธอก็จะหลงระเริงอยู่ในโลกแห่งอำนาจและเงินตรา

 

 

“หลี่เหม่ยเจวียนสนใจกิจการเสริมความงามของตระกูลตู้”

 

 

ตู้เฉินยกมือขึ้นมาเคาะที่เอกสารเหล่านั้นเบาเบา กล่าวถามเสียงต่ำ

 

 

“ใช่ครับ หัวหน้า ตามที่เราไปสืบมาเธอพูดต่อหน้าเพื่อนสนิทและเหล่าวงศาคณาญาติหลายต่อหลายครั้ง ลูกเขยในอนาคตของเธอจะให้สถานบันเสริมความงามอีฝูที่มีหลายสาขาให้เธอบริหารดูแล”

 

 

หยูเฟิงยืนอยู่ข้างหนึ่ง ตอบคำถามของตู้เฉินด้วยสีหน้าตั้งอกตั้งใจ

 

 

“ดี ช่วยฉันร่างสัญญาฉบับหนึ่ง นับแต่วันนี้ไปหลี่เหม่ยเจวียนจะกลายเป็นซีอีโอของสถาบันเสริมความงามอีฝูทันที! ”

 

 

ตู้เฉินแย้มยิ้มเล็กน้อย ในระหว่างที่พูดไปก็กำลังกำหนดอนาคตให้หลี่เหม่ยเจวียนอยู่

 

 

“บอส! คุณนายหลีถึงแม้ว่าจะเป็นมารดาของคุณหนูซู แต่เธอไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับธุรกิจเสริมความงาม และอีฝูของพวกเราให้บริการแต่กับชนชั้นสูงที่มีฐานะทางสังคมทั้งนั้น หากทำแบบนี้ น่าจะไม่เหมาะสมหรือเปล่าครับ”

 

 

เป็นครั้งแรกที่หยูเฟิงมีความคิดเห็นขัดแย้งกับตู้เฉิน เมื่อได้ฟังคำกล่าวของเขา ตู้เฉินกลับแค่นยิ้มเย็นชา “ฉันรู้ว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนที่ไม่รู้เป็นคนที่บงการได้ง่ายที่สุด และเมื่อไปอยู่ที่อีฝูได้ทำความรู้จักกับคุณหญิงในวงสังคมชั้นสูงทั้งวัน คนที่ชอบมีหน้ามีตาแบบหลี่เหม่ยเจวียน เธอจะทำอย่างไรกัน นี่มันน่าติดตามมากๆ ! “

 

 

รอยยิ้มเย็นชาปรากฏบนหน้าของตู้เฉินเพียงพริบตาเดียว หยูเฟิงรีบก้มหน้าลงต่ำยืนอยู่ด้านข้างกล่าวว่า “ผมทราบแล้วว่าต้องทำอย่างไร”

 

 

ใช้เงินมาเป็นเหยื่อล่อ ในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่จะปฏิเสธ

 

 

 

 

นับแต่ที่ซูรุ่ยเริ่มรับถ่ายทอดกิจการซิงหง อิเล็กทรอนิกส์ ชีวิตของเขาก็พลันกลายเป็นยุ่งเหยิงขึ้นมาในทันที เป็นเพราะเขาไม่ได้มีการปลดพนักงาน แต่กลับยกระดับสวัสดิการและเงินเดือนของพนักงานเก่าทั้งหมด นี่ทำให้ความกังวลใจอันหนักอึ้งของพนักงานซิงหง อิเล็กทรอนิกส์ หายไป หากเทียบกับตระกูลตู้เมื่อก่อน ตอนนี้ทุกคนกลับเหมือนมีพลังในการทำงานมากขึ้นไปอีก

 

 

แต่ละวันกลับจากที่ทำงาน ซูเสี่ยวซูจะออกปากพูดถึงเรื่องราวที่สนุกสนานในบริษัทให้กับซูหว่านได้รับฟัง เนื่องจากเสียงของเธอดังเกินไป รบกวนหลิงลี่เพื่อนตัวน้อยที่อยู่ด้านข้างถึงกับขมวดคิ้ว แต่ว่า…

 

 

หลิงลี่นั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่อีกด้าน กับอีแค่ไปเล่นที่บริษัทของพ่อ มีอะไรน่าอวดกัน

 

 

ฉันนายเทียนไม่อยากจะไปหรอก เด็กน้อย

 

 

“เทียนเทียน”

 

 

ในเวลานี้ซูรุ่ยที่เปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ สีดำก็ปรากฏตัวมาที่ด้านหน้าของหลิงลี่ตอนไหนก็ไม่รู้

 

 

“คุณลุงใหญ่”

 

 

สำหรับคุณลุงใหญ่คนนี้ของตอนเอง หลิงลี่นั้นให้ความเคารพเป็นอย่างมาก ทำยังไงได้ นับแต่ได้เห็นคุณลุงใหญ่ในสวนที่ลอยตัวลงมาจากอาคารสูงหลายชั้นลงมาที่สวนดอกไม้เพื่อรับซูเสี่ยวซู ในชั่วพริบตานั้น หลิงลี่ก็รู้ได้ทันทีว่าคุณลุงใหญ่ของตนเองไม่ใช่คนธรรมดา

 

 

“เทียนเทียน คอมของบริษัทเราตอนนี้จะต้องอัพเกรดระบบป้องกันความปลอดภัยใหม่ พรุ่งนี้ไปดูที่บริษัทด้วยกันดีไหม”

 

 

“อืม”

 

 

เมื่อได้เห็นเด็กน้อยที่ตัวดำกลับแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องใส่ตัวเอง ซูรุ่ยก็ยกเปลือกตาขึ้น “ระบบความปลอดภัยนั้นก็คือโปรแกรมที่ใช้ป้องกันข้อมูลจากการโจมตีภายนอก ถึงแม้ว่าบริษัทของเราเทคโนโลยีนั้นจะล้ำหน้าไปเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน ฝีมือของแฮ็คเกอร์ตอนนี้ก็เก่งไม่แพ้กัน เช่น แฮ็คเกอร์มือฉกาจที่มีสมญานามดับเบิ้ลเจ็ด เทียนเทียนเคยได้ยินมาก่อนไหม”

 

 

หลิงลี่ “…”

 

 

ดับเบิ้ลเจ็ดคืออะไรกันเล่า เทียนในตอนนั้นทิ้งลายเซ็นไว้ว่าเป็น “L L” เป็นอักษรย่อชื่อหลิงลี่หรอก

 

 

สรุปว่าเป็นคนตาไม่ดีคนไหนที่มองเห็นเป็นเลขเจ็ดสองตัวได้ แล้วท้ายที่สุดก็มาตั้งชื่อว่าดับเบิ้ลเจ็ดกันหา

 

 

“เทียนเทียน”

 

 

ซูรุ่ยเรียกอีกครั้งหนึ่ง หลิงลี่พลันได้สติกลับมา “คุณลุงใหญ่ พี่ซูซูบอกว่าที่บริษัทนั้นน่าสนุกมาก งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปเล่นที่บริษัทด้วยแล้วกัน”

 

 

“เด็กดี”

 

 

เห็นว่าเจ้าเด็กนี่รู้งาน ซูรุ่ยจึงได้ยิ้มออกอย่างพึงพอใจ ลุกขึ้นยืน โบกมือไปทางภรรยาของตัวเอง “ที่รัก ขึ้นไปพักข้างบนกันเถอะ ผมง่วงแล้ว”

 

 

“อ้อ”

 

 

ซูหว่านจุ๊บซูเสี่ยวซูแล้วจึงได้ตามซูรุ่ยขึ้นข้างบนไป รอจนกระทั่งทั้งสองคนจากไปแล้ว ด้านล่างก็เหลือแค่ซูเสี่ยวซูกับหลิงลี่เท่านั้น

 

 

เด็กทั้งสองคนมองสบตากัน ทั้งสองคนก็หันหน้ากลับอย่างไม่ถูกกัน…

 

 

ห้องนอนด้านบน ซูรุ่ยดึงซูหว่านเข้ามาในห้อง ทั้งสองคนก็เร่าร้อนกันอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เปิดน้ำร้อนอาบน้ำ ในตอนที่ซูหว่านลุกออกมาจากอ่างอาบน้ำ ก็เห็นซูรุ่ยนั่งอยู่บนโซฟาข้างเตียงกำลังอ่านเอกสารอยู่

 

 

“อ่านอะไร”

 

 

ซูหว่านโอบกอดจากด้านหลัง แขนงามทั้งสองค่อยๆ โอบรอบคอของซูรุ่ย เส้นผมนั้นยังมีกลิ่นหอมจางๆ และความชื้น ซึ่งทั้งหมดแผ่อยู่บนไหล่ของซูรุ่ย

 

 

“นี่เป็นเอกสารบางส่วนของตระกูลตู้”

 

 

ซูรุ่ยกล่าวไปพลาง อีกมือหนึ่งก็ยกขึ้น ใช้นิ้วมือเกี่ยวปอยผมของซูหว่าน พลิกเล่นบนปลายนิ้วไปมา “ที่รัก ไม่กี่วันมานี้คุณเห็นหลี่เหม่ยเจวียนและซูเสี้ยนจวินบ้างรึเปล่า”

 

 

“พวกนั้นเหรอ ไม่เห็นเลยนะ ไม่ใช่ว่าไปก่อเรื่องอะไรข้างนอกนะ”

 

 

ได้ฟังที่ซูรุ่ยถาม ซูหว่านก็รู้เลยว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้น

 

 

“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

 

 

น้ำเสียงของซูรุ่ยนั้นอ้อยอิ่งอย่างไม่ใส่ใจ “ตระกูลตู้ยกตำแหน่งซีอีโอสถาบันเสริมความงามให้กับหลี่เหม่ยเจวียน”

 

 

“อะไรนะ”

 

 

เมื่อได้ฟังที่ซูรุ่ยกล่าว ซูหว่านก็ตกตะลึงตาค้างโพลง “ตู้เฉินเจ้านั่นสมองมีปัญหาเหรอ”

 

 

เขาทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร

 

 

จะผูกมิตรกับหลี่เหม่ยเจวียน หรือทำร้ายหลี่เหม่ยเจวียน

 

 

สิ่งเหล่านี้คล้ายกับว่าจะไม่เป็นประโยชน์อะไรกับเขาสักอย่างเลย

 

 

เอ่อ

 

 

ได้ฟังคำถามของซูหว่าน ซูรุ่ยก็พลันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เขารู้สึกนะว่า หลักๆ แล้วคือตัวเองเก่งเกินไป อืม และก็นะเนื่องจากภรรยาของตัวเองอยู่ข้างกายเขามานานเกินไป พลันก็ปิดการรับรู้เกี่ยวกับผู้ชายในโลกภายนอกไป ดังนั้น

 

 

ซูเสียวหว่าน จริงๆ แล้วตู้เฉินยังคงชอบเธออยู่ เธอไม่รู้ล่ะสิ เธอมองไม่ออกใช่ไหม

 

 

ใช่ ที่อยากได้ก็คือผลแบบนี้

 

 

แฟนเก่าสิ่งมีชีวิตแบบนั้น แค่ทำเป็นไม่เห็นก็พอแล้ว