ตอนที่ 965-966

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 965+966 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 965 ฉากนี้ช่างอุจาดตาโดยแท้!

ห้องโดยสารของรถม้าคันที่พวกกู้ซีจิ่วนั่งอยู่นี้กว้างขวางมาก แต่ยามนี้การยัดคนแปดคนเข้ามาในคราวเดียวก็ค่อนข้างแอดอัดอยู่บ้าง ร่างกายของทุกคนแทบจะแนบชิดเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว นี่ล้วนเป็นสิ่งที่พอรับได้ แต่สิ่งที่ทำให้คนใจหายใจคว่ำที่สุดคือ ยามนี้เห็นได้ชัดว่ารถคันนี้บรรทุกเกินน้ำหนัก การลากกินแรงสิงโตตัวนั้นยิ่งนัก มันลากรถส่ายไปส่ายมาอยู่ในอากาศ ราวกับพร้อมจะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำได้ทุกเมื่อ

เห็นได้ชัดว่าพวกเยี่ยนเฉินก็นึกไม่ถึงว่าผีดิบที่ทะลักออกมาด้านล่างจะมากมายถึงเพียงนี้ ทุกคนล้วนตกตะลึง บัดนี้เมื่อเห็นว่าคลื่นผีดิบด้านล่างเริ่มกระจายตัวออกไปรอบๆ ก็หน้าซีดเผือดจนปัญญาจะต่อกร

ผีดิบที่ด้านล่างมากมายสุดลูกหูลูกตา ไม่อาจควบคุมได้แล้ว เนื่องจากสูญเสียเป้าหมายที่ต้องการฉีกทึ้งไป พวกมันจึงเริ่มกระจายออกไปรอบๆ…

ทุกคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี ผีดิบเหล่านี้มีนิสัยดุร้ายทุกตัว แถมยังมีวรยุทธ์สูง หากปล่อยให้หลุดเข้าไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน จะกลายเป็นหายนะทันที!

และแหล่งชุมชนที่อยู่ใกล้ที่นี่ที่สุดอยู่ห่างออกไปประมาณห้าหกสิบลี้ ด้วยความเร็วของผีดิบเหล่านี้คิดจะเดินทางไปยังที่แห่งนั้นก็ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ!

ทำยังไงดี? ทำยังไงดี?! ทำยังไงดี?!

ในดวงตาของทุกคนแทบจะเขียนอักษรตัวใหญ่สี่คำนี้ไว้

ถึงแม้ทุกคนล้วนเป็นมือดีในการสังหารผีดิบทั้งสิ้น แต่ยามนี้ผีดิบที่อยู่ด้านล่างมีมากมายเกินไป พยัคฆ์ห้าวหาญมิอาจต้านทานฝูงหมาป่าได้!

ยิ่งไปกว่านั้นคือผีดิบเหล่านี้กระจายออกไปทั่วสารทิศ กำลังคนของพวกเขาน้อยเกินไป ต่อให้คิดจะขวางก็ขวางไม่อยู่!

สายตาของทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปยังตัวต้นเหตุที่อยู่กลางอากาศสองคนนั้น

เห็นได้ชัดว่าดรุณีที่ขี่มังกรเจียวนางนั้นก็โง่งมไปแล้วเช่นกัน นางนึกว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านล่างจะเป็นสัตว์ร้ายขนาดใหญ่สักตัว ไม่นึกเลยว่าจะเป็นกองทัพผีดิบจำนวนมหาศาลเช่นนี้! นางขี่มังกรเจียวสาดกระบวนท่าชุดใหญ่ใส่คลื่นผีดิบอย่างต่อเนื่อง วรยุทธ์ของนางยอดเยี่ยมยิ่งนัก สายฟ้าเส้นแล้วเส้นเล่าฟาดลงไป ทุกสายล้วนสามารถฟาดผีดิบสักตัวให้ล้มคว่ำได้ แม้แต่มังกรเจียวที่อยู่ใต้ร่างเธอก็พ่นไฟออกมาด้วยความโกรธ ลามเผาคลื่นผีดิบเป็นทรงใบพัด…

หลังจากเปลวไฟเผาผลาญแล้ว ชุดขาวบนร่างผีดิบเหล่านั้นก็มอดไหม้ไป แต่ผีดิบยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่ ร่างของพวกมันถูกเผาจนดำ แต่ไม่บุบสลายเลยสักนิด ทันทีที่ดรุณีขี่เจียวนางนั้นก้มหน้าลง ก็เห็นผีดิบเปลือยเปล่าดำมะเมื่อมฝูงใหญ่ทั้งกระโดดทั้งกระโจนเข้าใส่นาง

ผีดิบเหล่านี้แทบจะเป็นบุรุษทั้งสิ้น น่าจะเป็นเพราะผลกระทบจากตัวยา จุดนั้นของพวกมันจึงคักคักอยู่ตลอด ด้วยเหตุนี้นางจึงเห็น ‘ปูขน’ นับไม่ถ้วน แถมยังเป็นปูขนที่ลุกผงาดอีกด้วย…

ฉากนี้ช่างอุจาดตาโดยแท้!

ดวงหน้าเฉิดฉันของดรุณีขี่เจียวนางนั้นเขียวครึ้ม ตะโกนใส่คนยักษ์เกราะทองที่เป็นข้ารับใช้ของนางอย่างขุ่นเคือง “เจ้าหยุดมือซะ!”

ข้ารับใช้ร่างยักษ์ผู้นั้นจึงไม่กล้าลงมือสะเปะสะปะอีก

ทุกคนที่อยู่บนรถม้าย่อมมองเห็นฉากนี้เช่นกัน เยี่ยนเฉินปิดตาจิ้งจอกน้อยไว้ทันที เลี่ยงมิให้จิตใจอันบริสุทธิ์ไร้มลทินของนางต้องแปดเปื้อน

เล่อชิงซิ่งสบถออกมาคราหนึ่งยกมือปิดตาน้องสาวเอาไว้เช่นกัน

ส่วนจางฉูฉู่ เดิมทีนางก็เป็นหญิงแกร่งห้าวหาญอยู่แล้ว ทุกคนจึงไม่สนใจนางไปชั่วขณะ นางมองตาปริบๆ อย่างสนอกสนใจนัก เอ่ยโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “ที่แท้ส่วนนี้ของบุรุษก็ยืดยาวเช่นนี้! ช่างน่าเกลียดเสียจริง!”

ประโยคนี้ของนางทำให้บุรุษที่เหลืออยู่ภายในรถมองมาด้วยสายตาขุ่นเคือง

ดวงตาของกู้ซีจิ่วก็ถูกคนใช้แขนเสื้อบดบังไว้ เสียงอิงเหยียนนั่วดังขึ้นริมหูเธอ “อย่ามองของแสลงตา ห้ามแอบดูนะ!”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก เธอจะอยากแอบดูไปทำไม? ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นเสียหน่อย!

กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่อวลอยู่ในแขนเสื้อเขาทำให้จิตใจเธอว้าวุ่น เธอยกมือดึงแขนเสื้อของเขาลง จากนั้นก็พบว่าม่านรถปลดลงมาแล้ว ไม่มีทางมองเห็นด้านนอกจากในห้องโดยสารได้

————————————————————————————-

บทที่ 966 เขาไม่อยากถูกผู้อื่นดูแคลนแล้ว

“ซีจิ่ว เจ้ากับพวกเด็กผู้หญิงอยู่บนนี้ก่อน ข้าจะลงไปล่อผีดิบพวกนี้ จะปล่อยให้พวกมันบุกเข้าเมืองไปทำร้ายผู้คนไม่ได้เด็ดขาด!”

น้ำเสียงอิงเหยียนนั่วดังขึ้นริมหูเธอ เขากอดเธอคราหนึ่ง “ระวังตัวด้วย!”

จากนั้นเขาก็ถอยหลังไป เอ่ยขึ้นว่า “ผู้ที่เป็นบุรุษ ลงไปพร้อมข้าให้หมด! ตามข้าไปล่อผีดิบพวกนี้ ล่อมันไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ที่นั่นมีหล่มโคลมอยู่ พยายามล่อผีดิบพวกนี้ไปที่นั่น…ก่อนหน้านี้ข้าจุดพลุขอความช่วยเหลือแล้ว คนของเราน่าจะมาถึงที่นี่อย่างรวดเร็วนัก พอถึงเวลาพวกเราค่อยล้อมโจมตี! เยี่ยนเฉิน เจ้าล่อผีดิบด้านตะวันออกเฉียงใต้ เล่อชิงซิ่ง เจ้าล่อด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ข้าจะไปล่อด้านตะวันตกเฉียงใต้…”

เงาร่างไหววูบ เหินทะยานออกไปนอกรถทันที

พริบตาเดียวก็อยู่บนอากาศใกล้กับเหล่าผีดิบ ผีดิบเหล่านั้นได้กลิ่นคนเป็น พากันเงยหน้าหมายจะตะครุบเขา…

แต่ท่าร่างของเขาว่องไวปานสายฟ้า ปลายเท้าพลันแตะลงบนยอดศีรษะของผีดิบ ทะยานหนึ่งคราไกลหลายสิบจั้ง พริบตาเดียวเขาก็ไล่ตามคลื่นผีดิบด้านตะวันตกเฉียงใต้จนขึ้นนำ…

ผีดิบเหล่านั้นย่อมต้องการจะตะครุบเขา พากันไล่ตามฝีเท้าของเขา ถึงแม้ความเร็วของผีดิบเหล่านี้จะรวดเร็วยิ่ง แต่คิดจะตะครุบเขาก็ค่อนข้างลำบากนัก เขาวิ่งไม่เร็วไม่ช้า เป็นระยะห่างที่ผีดิบตะครุบไม่ถึงพอดี อีกทั้งไม่ห่างจากพวกมันเกินไป ด้วยเหตุนี้คลื่นผีดิบมหาศาลลูกแรกจึงเริ่มไล่ตามเขา ถูกเขาล่อให้หันหลังวิ่งกลับไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ…

เยี่ยนเฉินและเล่อชิงซิ่งย่อมมิใช่ผู้ที่ยินยอมล้าหลังเช่นกัน พากันกระโจนลงจากรถ ทำตามแผนที่อิงเหยียนนั่วบอก ต่างคนต่างล่อผีดิบจากทิศทางหนึ่งไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ผีดิบที่เดิมทีกระจายไปทั่วสารทิศในที่สุดก็เริ่มมีทิศทางที่เข้ารวมตัวกัน ไล่ล่ามนุษย์สามคนที่วิ่งนำอยู่ด้านหน้า ดั่งกระแสน้ำหลาก วิ่งไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ภายในตัวรถมีเพียงกู้ซีจิ่ว จางฉูฉู่ จิ้งจอกน้อย เล่อจื่อซิ่ง และเชียนหลิงอวี่ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ

ก่อนหน้านี้เชียนหลิงอวี่ก็คิดจะกระโดดลงไปโดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บ ทว่าถูกกู้ซีจิ่วกดไว้ทันที “เจ้าไปไม่ได้!”

เชียนหลิงอวี่กำมือ “ข้าก็เป็นบุรุษเช่นกัน!” เขาไม่อยากถูกผู้อื่นดูแคลนแล้ว

“เมื่อเจ้าหายดีเจ้าจะมีโอกาสเป็นบุรุษแน่!” กู้ซีจิ่วตัดบทเขา เธอเลิกม่านรถมองลงไปแวบหนึ่ง ทันใดนั้นพบว่ามีผีดิบกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งไม่ได้ตามฝูงทั้งหมดไป แต่มุ่งตรงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ…

จางฉูฉู่ก็เห็นเช่นกัน นางทำตาโตทันที “ข้าจะลงไปล่อผีดิบพวกนั้น!”

กู้ซีจิ่วกดไหล่นางไว้ “พวกเจ้าทุกคนจับตามองอยู่บนรถ ข้าจะลงไปล่อเอง!”

พลันใช้วิชาเคลื่อนย้าย ไปปรากฏด้านหน้าของผีดิบกลุ่มเล็กๆ นั้น ดึงดูดความสนใจของผีดิบเหล่านั้น แล้วล่อผีดิบกลุ่มนี้ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเช่นกัน

จะว่าไปก็แปลก สำหรับผู้อื่นขอเพียงวิ่งอยู่เบื้องหน้าผีดิบก็สามารถทำให้ผีดิบวิ่งตามดั่งสุนัขเห็นเนื้อติดกระดูกได้

ทว่าผีดิบที่กู้ซีจิ่วล่อกลุ่มนี้ค่อนข้างประหลาดอยู่บ้าง ถ้ากู้ซีจิ่ววิ่งเร็วขึ้นเล็กน้อย ทิ้งระยะห่างจากพวกมันสองจั้ง ผีดิบเหล่านี้ก็ไม่ไล่ตามแล้วประหนึ่งตาบอดก็มิปาน ซ้ำยังคิดจะหันหลังวิ่งกลับไปด้วย…

กู้ซีจิ่วสบถด่าอยู่ในใจคราหนึ่ง ดูเหมือนร่างกายเธอจะพิเศษอยู่บ้างจริงๆ

ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในเขตแดนส่วนใหญ่แล้วผีดิบเหล่านั้นก็ไม่เป็นฝ่ายโจมตีเธอเช่นกัน ตอนที่เธอวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในเมืองร้างแห่งนั้น ก็ไม่พบผีดิบสักเท่าไหร่ ตอนนั้นเธอยังนึกอยู่เลยว่าตัวเองดวงดี ยามนี้ดูเหมือนปัญหาจะอยู่ที่ร่างกายเธอ

คุณสมบัติพิเศษนี้ทำให้ไม่ถูกผีดิบโจมตีง่ายๆ ก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่กลับไม่ค่อยเป็นผลดีต่อเรื่องที่เธอกระทำในยามนี้ ราวกับเธอถูกผีดิบพวกนี้รังเกียจ ไม่อยากจะไล่ตามเธอ

————————————————————————————-