บทที่ 4 ผู้หญิงของฉัน ห้ามดูถูก

เทพสงครามพิทักษ์โลก

ผ่านไปสักพัก
หยางเฟิงอุ้มหยางพั่นพั่นขึ้นมาแล้วถามว่า : “หวางหมินคนนั้นคือใคร ?”
เมื่อใดยินดังนั้น แววตาของเย่เมิ่งเหยียนก็เผยความรู้สึกหวาดกลัวออกมา
“หวางหมิงเป็นหัวหน้าของพื้นที่สีเทาในเมืองตงไห่ มีลูกสมุนนับพันคน มีอิทธิพลอย่างยิ่งในตงไห่ วันนี้คุณทำร้ายเขา เขาไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่นอน……”
หยางเฟิงขมวดคิ้ว หวางหมิงคนนี้รนหาที่ตายหรืออย่างไร ?
ปัง !
เขาตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ จนโต๊ะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“กล้ารังแกผู้หญิงของผม ไม่ว่ามันเป็นใครก็ต้องตายแน่นอน ! จริงสิ โรคของพั่นพั่น ตระกูลเย่ไม่สนใจเลยหรือ ?”
ไม่ว่าอย่างไร เย่เมิ่เหยียนก็เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเย่ หยางพั่นพั่นก็เป็นหลานสาวคนโตของตระกูลเย่ หรือว่าตระกูลเย่จะไม่ดูดำดูดีเลยหรือ ?
เย่เมิ่งเหยียนตกใจกับการกระทำของหยางเฟิง จากนั้นจึงฝืนยิ้มออกมา : “ในสายตาของตระกูลเย่ พั่นพั่นคือเด็กเหลือขอที่ทำให้ตระกูลต้องอับอาย พวกเขาอยากให้พั่นพั่นตายไปเร็ว ๆ ด้วยซ้ำ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ภาพที่หยางพั่นพั่นถูกตีอย่างหนักอยู่ด้านหน้าตระกูลเย่ ก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาไม่หยุด
หยางเฟิงลุกขึ้น แววตาของเขาปรากฏเจตนาฆ่าอันรุนแรงออกมา !
“ไม่ต้องเป็นห่วง อาการป่วยของพั่นพั่น ผมจะจัดการเอง ตั้งแต่นี้ไป ผมจะปกป้องพวกคุณสองคนแม่ลูกเอง”
……
กลางดึก ภายในคฤหาสน์หรูหราแห่งหนึ่งในตงไห่
ศีรษะของหวางหมิงถูกพันด้วยผ้าก๊อซ ใบหน้าเขียวช้ำ
“เย่เมิ่งเหยียน นังผู้หญิงแพศยา กล้าทำร้ายฉันแบบนี้ ฉันจะต้องทำให้เธอเหมือนตายทั้งเป็นให้ได้ ยังมีไอ้สารเลวนั่นอีกคน อย่าให้ฉันหาตัวแกเจอนะ ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีวันปล่อยแกเอาไว้แน่ !”
เมื่อคิดถึงตอนที่ตนเองถูกหยางเฟิงต่อยจนลอยกระเด็นไป ใบหน้าของหวางหมิงก็เต็มไปด้วยความแค้น
ปัง !
ปัง !
ปัง !
ตอนนี้เอง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านนอก ลอยกระเด็นเข้ามาสองสามคน
“แกไม่ต้องไปหาฉันหรอก ตอนนี้ฉันมาด้วยตนเองแล้ว!”
ทันทีที่พูดจบ หยางเฟิงก็เดินเข้ามาจากประตูคฤหาสน์
เมื่อหวางหมิงเห็นหยางเฟิง สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมากทันที เขากัดฟันแล้วถามว่า : “เจ้าหนู แกเข้ามาได้อย่างไร ?”
หยางเฟิงนั่งลงบนโซฟา หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า : “แกก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือ ? ฉันต่อสู้เข้ามา !”
ด้านนอกมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่สิบนาย ล้วนแต่เป็นราชาทหารที่ปลดประจำการทั้งสิ้น หรือว่าจะถูกผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ จัดการจนราบคาบหมดแล้ว ?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หวางหมิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวในใจ
“เจ้าหนู แกคิดจะทำอะไรกันแน่ ?”
“ฉันชื่อหยางเฟิง เป็นสามีของเย่เมิ่งเหยียน !”
“แกก็คือลูกเขยของตระกูลเย่เมื่อห้าปีก่อนคนนั้น……”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฟิง หวางหมิงก็แสดงสีหน้าตกใจทันที
ไอ้สวะนี่ กลับมาอีกแล้ว ?
“ฮ่า ๆ ๆ !”
หวางหมิงหัวเราะเสียงดังทันที
“ฉันคิดว่าเป็นใคร ที่แก้ก็ไอ้สวะนี่เอง ! เจ้าหนู ฉันคิดว่าจะไปหาแกอยู่พอดี คิดไม่ถึงว่าแกจะพาตนเองมาส่งถึงที่ คืนนี้ แกอย่าคิดจะกลับออกไปจากที่นี่อีกเลย”
หยางเฟิงหรี่ตาลง ทำแววตาขี้เล่น : “จริงหรือ ?”
ตุบ ๆ ๆ !
ตอนนี้เอง มีเสียงฝีเท้าที่วิ่งอย่างรวดเร็วดังขึ้น
ด้านนอกมีนักเลงกว่าร้อยคนถือมีดและกระบองครบมือวิ่งกรูเข้ามา
คนพวกนี้ ล้วนเป็นลูกสมุนของหวางหมิง
หลังจากนักเลงกว่าร้อยคนเข้ามาในคฤหาสน์ ก็เข้ามายืนล้อมหยางเฟิงเอาไว้ทันที
หวางหมิงลุกขึ้นยืน หัวเราะเสียงดังด้วยใบหน้าหยิ่งยโส : “ฮ่า ๆ ๆ เจ้าหนู แกคงกลัวแล้วสินะ วันนี้ฉันจะให้แกตายโดยไร้ที่ฝัง !”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักเลงกว่าร้อยคน หยางเฟิงยังคงมีสีหน้าที่สงบนิ่ง
หยางเฟิงพูดขึ้นเบา ๆ ว่า : “นี่คือสิ่งที่ทำให้แกกล้าเย่อหยิ่งอย่างนั้นหรือ ? แกกล้ารังแกผู้หญิงของฉัน หากตอนนี้แกยอมคุกเข่าลงแล้วคำนับฉันสามครั้ง จากนั้นก็ตัดแขนตัดขาของตนเองซะ ฉันอาจจะยอมละเว้นชีวิตแกสักครั้ง”
หวางหมิงตกตะลึงทันที เขาจ้องมองหยางเฟิงราวกับกำลังมองเจ้าโง่คนหนึ่งอยู่
“เจ้าหนู แกบ้าไปแล้วหรือ ? หวางหมิงยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูดว่า : “จัดการมัน ให้มันได้เห็นความแข็งแกร่งของฉัน”
ฆ่ามัน !
หวางหมิงออกคำสั่ง ลูกสมุนกว่าร้อยคนกระโจนเข้าใส่หยางเฟิงพร้อมด้วยอาวุธครบมือ
ผับ ๆ ๆ !
ตอนนี้เอง เสียงของใบพัดเฮลิคอปเตอร์ดังสนั่นมาจากด้านนอก
หวางหมิงเงยหน้าขึ้นมอง บนท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์ มีเฮลิคอปเตอร์จอดอยู่กว่าสิบลำ
จากนั้น มีพลทหารติดอาวุธครบมือ ค่อย ๆ ลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ทีละคน ๆ
พลทหารหนึ่งพันคนลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ และปิดล้อมคฤหาสน์เอาไว้
เมื่อลูกสมุนกว่าร้อยคนเห็นสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ก็ดวงตาเบิกโพลง ไม่กล้ากระดุกกระดิก
ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง สวมใส่เครื่องแบบทหาร มีดาวสี่ดวงประดับอยู่บนบ่า เดินเข้ามาในคฤหาสน์
ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็คือเสือขาว หนึ่งในผู้บัญชาการกองทัพทั้งห้าของหยางเฟิง !
“ท่านแม่ทัพ ขออภัยที่กระผมมาช้า !”
เสือขาวเดินเข้ามาหาหยางเฟิง แล้วพูดขึ้นด้วยความเคารพ
หยางเฟิงโบกมือแล้วพูดว่า : “จับพวกสวะพวกนี้ไว้ให้หมด แล้วส่งตัวให้กองทหารรักษาการณ์ท้องถิ่น ให้พวกเขาเป็นคนจัดการ”
“ครับ !”
เสือขาวโบกมือ พลทหารนับไม่ถ้วนพร้อมปืนบรรจุกระสุนจริงเดินตรงเข้ามา
ลูกสมุนกว่าร้อยคนไม่กล้าขยับเขยื้อน วางอาวุธที่ถืออยู่ในมือลง และยอมจำนนแต่โดยดี
หวางหมิงตกตะลึงอ้าปากค้างไปพักใหญ่แล้ว
“แกเป็นใครกันแน่ ?”
หวางหมิงชี้นิ้วไปที่หยางเฟิง ด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
“หรือว่าแกก็คือเทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าเซี่ย ที่เดินทางมาถึงตงไห่วันนี้……”
ทันใดนั้น ความคิดที่น่าเหลือเชื่อก็ผุดขึ้นในหัวของหวางหมิง
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ใบหน้าของหวางหมิงก็ซีดเผือดทันที
เขาล้มลงกับพื้น ด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ
“เป็นไปไม่ได้ เทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าซื่อ คือลูกเขยของตระกูลเย่ได้อย่างไร ?”
ถึงแม้หวางหมิงไม่เต็มใจจะเชื่อ แต่คนที่สามารถใช้เฮลิคอปเตอร์กว่าสิบลำ พลทหารที่ติดอาวุธครบมือกว่าพันนาย ซ้ำยังทำให้ขุนพลสี่ดาวเรียกตนเองว่าท่านแม่ทัพได้ ทั่วทั้งประเทศต้าเซี่ยเห็นจะมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ——เทพมรณะ!
เมื่อเทพมรณะมาถึง ทุกชาติยอมจำนน !
“แกรู้ตัวตอนนี้ก็สายไปแล้ว !”
หยางเฟิงค่อย ๆ เดินเข้ามาหาหวางหมิงทีละก้าว ๆ ด้วยสีหน้าดุดัน
หวางหมิงรีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที และโขกหัวคำนับหยางเฟิงไม่หยุด พร้อมพูดว่า : “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่รู้ว่าท่าคือเทพมรณะ ได้โปรดไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะครับ……”
หยางเฟิงตบหน้าหวางหมิงอย่างแรง จนฟันของเขาหลุดกระเด็นออกมา
“ตอนที่แกรังแกผู้หญิงของฉัน เคยคิดถึงวันนี้บ้างไหม ?”
เผียะ !
ฝ่ามือตบลงไปบนใบหน้าของหวางหมิงอีกครั้งจนเลือดกบปาก
“ผู้หญิงของหยางเฟิง ให้แกรังแกได้อย่างนั้นหรือ ?”
เผียะ !
ฝ่ามือตบลงไปบนหน้าของหวางหมิงเป็นครั้งที่สาม เขาล้มลงไปนอนกระตุกอยู่บนพื้นไม่หยุด
“จำเอาไว้ ผู้หญิงของหยางเฟิง จะดูถูกไม่ได้ !”
หลังจากตบหน้าไปสามครั้ง หยางเฟิงก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
เสือขาวหันมองหวางหมิงที่นอนอยู่บนพื้น ด้วยใบหน้าที่โชกเลือด ก็พูดเยาะเย้ยขึ้นว่า : “จัดการคนที่กล้ารังแกผู้หญิงของท่านแม่ทัพ ความผิดนี้จะยกโทษให้ไม่ได้ !”
“ครับ !”
ไม่ช้า พลทหารสองสามนายก็เดินเข้ามา แล้วลากหวางหมิงออกไปราวกับศพสุนัข
“ท่านแม่ทัพ งานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบแปดสิบปีของนายท่านเย่ จะจัดขึ้นที่โรงแรมตงไห่ในวันพรุ่งนี้ นี่คือบัตรเชิญที่ตระกูลเย่ส่งมาให้ท่านครับ”
เสือขาวเดินเข้าไป แล้วยื่นบัตรเชิญสีทองใบหนึ่งให้กับหยางเฟิง
ตระกูลเย่ ตระกูลอันดับรองของตงไห่
ตอนนี้คิดจะเชิญเทพมรณะ เพื่อตีสนิทผู้มีอำนาจ !
หยางเฟิงเหลือบมองบัตรเชิญแล้วพูดเบา ๆ ว่า : “บอกตระกูลเย่ว่า ฉันจะไปร่วมงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ !”
ตระกูลเย่ขับไล่ครอบครัวของเย่เมิ่งเหยียน ซ้ำยังกล้ารังแกลูกสาวของตนเอง บัญชีนี้ ควรที่จะชำระสักครั้ง !
พูดจบ หยางเฟิงก็เงยหน้าขึ้น แววตาเจ้าเล่ห์เผยแสงเย็นวาบออกมา !