เช้าวันรุ่งขึ้น
เย่เมิ่งเหยียนลุกขึ้นแต่เช้า
เมื่อหยางเฟิงลุกขึ้น เย่เมิ่งเหยียนก็เตรียมอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ผมติดต่อหมอที่เก่งที่สุดในตงไห่ได้แล้ว อีกสองสามวันก็สามารถส่งพั่นพั่นเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาลได้”
หยางเฟิงหยิบปาท่องโก๋ขึ้นมากินแล้วพูดขึ้น
“จริงหรือคะ ?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฟิงพูด เย่เมิ่งเหยียนก็แสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา
หยางเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า : “จริงสิ ผมจะโกหกคุณทำไม ?”
เย่เมิ่งเหยียนลังเลอยู่สักพักแล้วพูดว่า : “แต่ว่าการผ่าตัดแพงมาก ต้องใช้เงินกว่าแสนหยวน คุณจะเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน ?”
“คุณวางใจเถอะ ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว ปัญหาทุกอย่างผมจะแก้ไขเอง เงินสำหรับผมแล้วไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด”
ในฐานะที่เป็นเทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าเซี่ย หยางเฟิงครอบครองคลังสมบัติลับหนึ่งแห่ง ภายในมีทรัพย์สินเงินทองนับไม่ถ้วน”
เงินเพียงแค่หนึ่งแสนหยวน สำหรับเขาแล้ว เทียบไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ
ตอนนี้ เย่เมิ่งเหยียนรู้สึกในใจว่า ในที่สุดก็มีที่พึ่งแล้ว
เย่เมิ่งเหยียนพูดว่า : “หยางเฟิง คุณดูข่าวหรือยัง ? เมื่อคืนหวางหมิงถูกจับแล้ว อีกทั้งธุรกิจภายใต้ชื่อของเขาทั้งหมดก็ถูกอายัด นับว่าคนชั่วต้องได้รับกรรมจริง ๆ”
หยางเฟิงยิ้มโดยไม่พูดอะไร
หวางหมิงทำแต่เรื่องชั่วร้าย ครั้งนี้ก็ปล่อยให้เขาได้รับโทษตามกฎหมาย
“ผมเคยบอกแล้วว่าผมจะปกป้องพวกคุณสองแม่ลูกเอง จะไม่ให้พวกคุณต้องถูกรังแกได้อีก” หยางเฟิงพูดเบา ๆ
เย่เมิ่งเหยียนผงะไป จากนั้นจึงถามด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ : “หรือว่าหวางหมิงถูกจับก็เพราะคุณ ?”
หยางเฟิงพยักหน้าแล้วพูดว่า : “ถูกต้อง……”
หยางเฟิงยังไม่ทันจะพูดจบ เย่เมิ่งเหยียนก็จ้องเขาตาเขม็งแล้วพูดว่า : “คุณเลิกล้อเล่นได้แล้ว หยางเฟิง ห้าปีมานี้คุณหายไปไหนมากันแน่ ?”
เย่เมิ่งเหยียนไม่เชื่อสักนิด ว่าหยางเฟิงจะโค่นล้มหวางหมิงได้
เป็นที่รู้กันดีว่า หวางหมิงเป็นหัวหน้าพื้นที่สีเทาที่มีชื่อเสียงของตงไห่ ส่วนหยางเฟิงเป็นเพียงแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเท่านั้น เขาจะเอาอะไรไปโค่นล้มหวางหมิงได้ ?
เดิมทีหยางเฟิงคิดจะเปิดเผยฐานะของตนเองต่อเย่เมิ่งเหยียน แต่เมื่อเห็นท่าทีของเย่เมิ่งเหยียนก็คิดว่า หากพูดออกไปเธอก็คงไม่เชื่อ
อนาคตยังอีกยาวไกล ต่อไปยังมีเวลาให้อธิบายอีกมาก
“ตอนนั้นหลังจากแต่งงานได้สองวัน ประเทศมีประกาศคำสั่งทางทหาร ผมจึงไปเป็นทหารแล้ว”
“อ้อ !”
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรต่อ
เธอคิดว่าหยางเฟิงคงจะเป็นทหารเกณฑ์ที่ปลดประจำการกลับมา
“หยางเฟิง วันนี้คุณปู่โทรศัพท์มา บอกว่าคืนนี้จะจัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของท่าน คุณไปกับฉันได้ไหม ?” เย่เมิ่งเหยียนหันมองหยางเฟิงด้วยความคาดหวัง
หยางเฟิงพยักหน้า : “แน่นอน ผมเองก็ไม่ได้พบกับคุณปู่ของคุณนานแล้ว ครั้งนี้ จะต้องไปเยี่ยมเยียนท่านอย่างจริงจังสักครั้ง ! ผมตั้งใจจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับท่านหนึ่งชิ้น ให้ท่านได้รู้สึกประหลาดใจสักครั้ง !”
ขณะที่พูดประโยคนี้ หยางเฟิงก็แสยะยิ้มออกมา
……
โรงแรมตงไห่
ตระกูลเย่
งานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของนายท่านเย่ เย่เทียน
บรรยากาศภายในโรงแรมเต็มไปด้วยความคึกคัก แขกที่มีชื่อเสียงจำนวนมากเดินทางมาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิด
ในฐานะที่ตระกูลเย่เป็นตระกูลอันดับรอง จึงถือว่ามีอิทธิพลไม่น้อยในตงไห่
“มีคุณธรรมและชื่อเสียงสูงส่ง ปิ่นปักผมหงส์ทองหนึ่งชิ้น !”
“สมดังใจปรารถนา คทาหยกหนึ่งชิ้น !”
“อุดมสมบูรณ์และสมปรารถนา กำไลทองหนึ่งคู่ !”
“ความรักมั่นคง ตุ้มหูทองหนึ่งคู่ !”
……
เมื่อเห็นแขกนำของขวัญมามอบให้อย่างต่อเนื่อง สีหน้าของนายท่านเย่ก็เต็มไปด้วยความสดใส
“ขอบคุณทุกคนมากที่มาร่วมงานวันเกิดของฉัน ขอพระเจ้าทรงอวยพรฉัน ให้ลูกหลานในอนาคตล้วนเป็นมังกรและหงส์”
บรรดาแขกที่มาร่วมงานวันเกิด ล้วนเป็นคนมีชื่อเสียงของตงไห่ ทุกคนกำลังพูดคุยถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างคึกคัก”
“นายท่านเย่ คุณรู้หรือไม่ ? วันนี้มีบุคคลสำคัญอย่างยิ่งเดินทางมายังตงไห่ของเรา มีเครื่องบินรบหลายสิบลำคอยคุ้มกัน และมีนายพลอีกกว่าสามพันนายอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก”
“ผมได้ยินมาว่า แม้แต่อภิมหาเศรษฐีตงไห่ขอเข้าพบ ยังถูกขวางเอาไว้ด้านนอก”
“นี่ยังน้อยไป แม้แต่ผู้ว่าเมืองตงไห่รออยู่ด้านนอกสนามบินสามชั่วโมงเต็ม ๆ ยังไม่มีโอกาสได้พบหน้ากับบุคคลสำคัญผู้นี้เลย”
เย่เทียนพยักหน้าแล้วพูดว่า : “ฉันย่อมรู้แน่นอน อีกทั้งฉันยังส่งบัตรเชิญไปแล้วด้วย เพื่อเชิญให้บุคคลสำคัญผู้นี้มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉัน”
“เป็นไปไม่ได้หรอก บุคคลสำคัญขนาดนี้ จะมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณได้อย่างไร ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างไม่เชื่อ
เย่เทียนเองก็ไม่มั่นใจนัก เขาเพียงแค่ลองดูเท่านั้น
ตอนนี้เอง นายท่านรองตระกูลเย่ เย่กวงเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“คุณพ่อ เมื่อครู่เพิ่งได้รับข่าวมาว่า บุคคลสำคัญผู้นั้น รับปากที่จะมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณพ่อในคืนนี้ครับ”
“อะไรนะ สวรรค์เข้าข้างตระกูลเย่ของเราแล้ว !”
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเย่เทียนก็เต็มไปด้วยความยินดี
จู่ ๆ หวางลี่ ภรรยาของเย่กวงก็พูดขึ้นว่า : “คุณพ่อคะ งานเลี้ยงวันเกิดครบรอบแปดสิบปีที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าเย่เมิ่งเหยียนจะไม่ยอมมาร่วมงาน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็เงียบไปทันที
ทุกคนต่างรู้ดีว่า เย่เมิ่งเหยียนคือความอัปยศของตระกูลเย่ !
ใบหน้าของเย่เทียนหมองหม่นลงทันที : “วันนี้เป็นวันดี อย่าพูดถึงหญิงแพศยาที่เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล อย่างเย่เมิ่งเหยียนเลย เธอแต่งงานกับไอ้สวะก็ไม่ว่า ยังจะให้กำเนิดเด็กเหลือขอออกมาอีก ทำให้ตระกูลเย่ต้องอับอายจริง ๆ”
หวางลี่พูดขึ้นด้วยความสงสัย : “จะว่าไป หวางเฟิงคนนั้นก็แปลก ไม่ง่ายเลยที่จะได้แต่งเข้ามาในตระกูลเย่ ซ้ำยังแต่งกับคุณหนูใหญ่ซึ่งเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของตงไห่อีก แต่กลับหนีไปในวันที่สองของการแต่งงาน ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ”
เย่กวงพูดเยาะเย้ย : “มีอะไรน่าแปลกใจกัน คงเป็นเพราะหยางเฟิงไม่คู่ควรกับตระกูลเย่ของเรา เป็นได้เพียงแค่สุนัขข้างถนนเท่านั้น……”
“ฮ่า ๆ ๆ !”
ได้ยินดังนั้น แขกทุกคนก็หัวเราะให้กัน
เศษสวะในสายตาของกลุ่มคนชั้นสูง ก็เป็นเพียงแค่เรื่องตลกหลังมื้อค่ำเท่านั้น
ตอนนี้เอง เย่เทียนลุกยืนขึ้น แล้วพูดเสียงดัง : “ทุกคนเงียบก่อน ฉันมีเรื่องจะประกาศ วันนี้จะมีบุคคลสำคัญมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉัน !”
แปะ ๆ ๆ !
เมื่อได้ยินดังนั้น เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องขึ้น
ตอนนี้เอง มีชายรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามายังห้องโถงใหญ่ของโรงแรม
ท่าทางที่น่าเกรงขาม ทำให้ทุกคนแทบหยุดหายใจ
“หยางเฟิง !”
เย่กวงและหวางลี่อุทานออกมาพร้อมกันด้วยความประหลาดใจ
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยาเฟิง
คนที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับหยางเฟิงก็คือเย่เมิ่งเหยียนและหยางพั่นพั่น
“หยางเฟิง แกกลับมาได้อย่างไร ?”
เมื่อเห็นหยางเฟิงปรากฏตัวขึ้น เย่เทียนหน้าถอดสีทันที
“ได้ยินว่าวันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของท่าน ผมจึงตั้งใจพาภรรยาและลูกสาวมาอวยพรท่าน ขอบคุณที่หลายปีมานี้ ตระกูลเย่ของท่านช่วยดูแลภรรยาและลูกสาวของผมเป็นอย่างดี !”
ใบหน้าของหยางเฟิง เผยให้เห็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมายออกมา !
“เด็ก ๆ ยกของขวัญวันเกิดที่ฉันเตรียมไว้เข้ามา !”
ทันทีที่พูดจบ ชายสวมใส่ชุดสูทสีดำสองสามคน ก็ยกระฆังสีทองใบใหญ่เดินเข้ามา
ส่งศพ?
ทุกคนหน้าถอดสีในทันที