บทที่ 6 เวลาเจ็ดวัน

เทพสงครามพิทักษ์โลก

เหง่ง !
ระฆังสีทองกระแทกลงกับพื้น จนพื้นทั้งหมดสั่นสะเทือน
เย่เทียนเห็นดังนั้น สีหน้าก็มืดมนลงอย่างยิ่ง
ไม่มีใครคาดคิดว่า ลูกเขยของตระกูลเย่ที่หนีหายไปเมื่อห้าปีก่อนจะกลับมาแล้ว
เมื่อเพียงกลับมาแล้วเท่านั้น แต่ยังนำระฆังสีทองมาด้วยหนึ่งใบ นี่เท่ากับตบหน้ากัน อย่างโจ่งแจ้งชัด ๆ !
หยางเฟิงไม่สนสายตาประหลาดใจของทุกคน เข้าค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเย่เทียนทีละก้าว ๆ
“ระฆังใบใหญ่นี้ ใช้ทองคำกว่าห้าสิบกิโล เชิญช่างฝีมืออันดับหนึ่งเป็นผู้หลอมข้ามวันข้ามคืนจนเสร็จสิ้น มีมูลค่ากว่าร้อยล้าน เย่เทียน ของขวัญวันเกิดของผมชิ้นนี้ ท่านพอใจหรือไม่ ?”
เย่เทียนโกรธจนตัวสั่นและตะคอกออกมาด้วยความโมโห : “ไอ้สวะ แกกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่อย่างนั้นหรือ ? ตอนนั้นแกเร่ร่อนอยู่ข้างถนน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันสงสารแก ให้แกแต่งงานเข้ามาในตระกูลเย่ แกคงอดตายไปนานแล้ว !”
“วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของฉัน เป็นวันมงคล แกกลับให้ระฆังฉันหนึ่งใบ ไอ้สวะ แกอยากรนหาที่ตายหรือ ?”
เย่เทียนโกรธจัด !
วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของเขา มีแขกมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ทุกคนต่างมีความสุข
แต่จู่ ๆ หยางเฟิงกลับมองระฆังให้หนึ่งใบ มันหมายความว่าอย่างไร ?
เย่กวงลุกขึ้นและพูดด้วยความโมโห : “หยางเฟิง แกยังจะกล้ากลับมาอีก วันนี้ฉันจะตีแกให้ตาย !”
หยางเฟิงหันมองเย่กวงด้วยสีหน้าเย้ยหยัน : “คุณลองดูสิ ?”
เมื่อเห็นท่าทางที่ปราศจากความกลัวของหยางเฟิง คนของตระกูลเย่ก็รู้สึกโมโหยิ่งขึ้น
“ไอ้คนจรจัดชั้นต่ำ เป็นเพราะตระกูลเย่ของเราสงสารแก แกถึงยังไม่อดตาย !”
“แกกลับทำให้ตระกูลเย่ของเราต้องถูกผู้คนหัวเราะเยาะ วันนี้ยังจะนำระฆังมามอบให้ในงานวันเกิดของนายท่านอีก คิดว่าตระกูลเย่ของเราไม่มีใครหรืออย่างไร ?”
“วันนี้แกอย่าคิดว่าจะกลับออกไปได้อีก ฉันจะทำให้แกต้องตายทั้งเป็น !”
ในห้องโถงใหญ่ คนของตระกูลเย่ทั้งหมด ต่างจ้องมองมาที่หยางเฟิงด้วยความโกรธเคือง
เพราะหยางเฟิง ทำให้ชื่อเสียงตระกูลเย่ของพวกเขาต้องถูกทำลาย !
เพราะหยางเฟิง ทำให้พวกเขาโงหัวไม่ขึ้น !
วันนี้ยังกล้าหาเรื่องอย่างเปิดเผยอีก ความผิดนี้อภัยให้ไม่ได้ !
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการกล่าวโทษของคนตระกูลเย่ หยางเฟิงกลับไม่สะทกสะท้าน
เย่เทียนจ้องหยางเฟิงตาเขม็ง และพูดด้วยสีหน้าดุดัน : “หยางเฟิง วันนี้แกรนหาที่ตายเอง จะโทษฉันไม่ได้ เด็ก ๆ !”
ทันทีที่ออกคำสั่ง บอดี้การ์ดกว่าร้อยคนของตระกูลเย่ก็วิ่งกรูเข้ามาล้อมหยางเฟิงเอาไว้
แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ต่างมองหยางเฟิงด้วยสีหน้าที่แสดงความเห็นใจ
ทุกคนต่างคิดว่า วันนี้หยางเฟิงคงต้องจบชีวิตอย่างแน่นอน !
“คุณปู่คะ โปรดไว้ชีวิตหยางเฟิงเถอะนะคะ !”
เมื่อเห็นดังนั้น เย่เมิ่งเหยียนก็เอ่ยปากอ้อนวอน เธอไม่รู้ว่าหยาเฟิงได้เตรียมของขวัญที่น่าเกลียดเช่นนี้เอาไว้
เย่เทียนส่งเสียงฟึดฟัด : “หญิงแพศยาที่น่าอับอายอย่างแก ยังจะกล้าขอความเห็นใจให้หยางเฟิงอีกหรือ ? ฉันจะบอกแกให้นะ ตั้งแต่นี้ไป แกถูกขับไล่ออกจากตระกูลเย่แล้ว !”
เปรี้ยง !
เมื่อได้ยินดังนั้น ย่เมิ่งเหยียนก็มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เย่เทียนจะไร้ความเมตตา ถึงขั้นขับไล่เธอออกจากตระกูลเย่ !
หวางลี่หันมองเย่เมิ่งเหยียนด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง : “นังแพศยา ! ตระกูลเย่ของเราต้องอับอายก็เพราะแก ถ้าหากฉันเป็นแก ฉันคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว !”
“จริงด้วย !”
“คนเนรคุณ หลายปีมานี้หากไม่ใช่เพราะพวกเรา พวกแกสองแม่ลูกคงอดตายไปนานแล้ว !”
“หากรู้อย่างนี้คงปล่อยให้พวกแกอดตายอยู่ข้างถนนไปนานแล้ว !”
คนของตระกูลเย่หันมองเย่เมิ่งเหยียน และพูดเยาะเย้ยด้วยคำพูดที่เชือดเฉือน
“พวกคุณพูดพอหรือยัง ?”
จู่ ๆ หยางเฟิงก็ตะโกนขึ้นด้วยความโมโห
ออร่าอันน่าเกรงขามของผู้บัญชาการสูงสุด แผ่ขยายออกมา !
ทันใดนั้น ทุกคนต่างนิ่งเงียบลงทันที
บรรยากาศในห้องโถงใหญ่เงียบสงัด !
สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่หยางเฟิง
หยางเฟิงสีหน้าเรียบเฉย เขากวาดสายตามองคนของตระกูลเย่ทุกคน และสุดท้าย สายตาก็หยุดนิ่งอยู่ที่เย่เทียน
คนของตระกูลเย่ทุกคนที่ถูกหยางเฟิงจ้องมอง ต่างรู้สึกเสียวสันหลัง
โดยเฉพาะเย่เทียน เขารู้สึกได้ถึงความกดดันอันน่าหวาดกลัวที่ปกคลุมอยู่ แม้กระทั่งลมหายใจก็หยุดนิ่ง
“เย่เทียน เมื่อห้าปีก่อน คุณป่วยเจียนตาย เพื่อประโยชน์ส่วนตัว กลับเสียสละความสุขของเมิ่งเหยียน ให้เธอแต่งงานกับผม”
“หลังจากที่ผมจากไป เพราะหน้าตาของตระกูลเย่ ความอับอายจึงแปลเปลี่ยนเป็นความโกรธ ขับไล่ครอบครัวของภรรยาผมออกจากบ้าน ภรรยาของผมต้องอาศัยอยู่ในห้องใต้ดินอันมืดมิดและอับชื้น ลูกสาวของผมต้องถูกคนรับใช้ของตระกูลเย่เฆี่ยนตีอย่างโหดเหี้ยม”
“วันนี้ ผมกลับมาแล้ว ผมจะทวงคืนความยุติธรรมให้ภรรยาและลูกสาวของผม !”
ทันทีที่หยางเฟิงพูดจบ ก็ราวกับมีฟ้าผ่าลงมายังพื้นดิน !
เย่เทียนหน้าถอดสีทันที เขากัดฟันแล้วถามว่า : “หยางเฟิง แกคิดจะทำอะไร ?”
หยางเฟิงกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่โดยรอบ ไม่มีใครกล้าสบตากับเขาสักคน !
“ที่ผมมาวันนี้ ก็เพื่อมาพูดบางอย่างกับพวกคุณ ! ภายในเจ็ดวัน ผมต้องการให้คนของตระกูลเย่ทั้งหมด คุกเข่าต่อหน้าภรรยาของผม เพื่อสำนึกผิดเป็นเวลาสามคืนสามวัน”
ฮ่า ๆ ๆ !
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในตระกูลเย่หัวเราะลั่นออกมา
“หยางเฟิง ห้าปีมานี้แกกลายเป็นไอ้โง่ไปแล้วอย่างนั้นหรือ ? กล้าพูดจาโอหังเช่นนี้ออกมาได้ ?”
“อาศัยแกเพียงแค่คนเดียว ก็คิดจะล้มล้างตระกูลเย่ เพ้อฝันสิ้นดี !”
เพื่อเผชิญหน้ากับคำเยาะเย้ยของทุกคน หยางเฟิงก็พูดขึ้นเบา ๆ ว่า : “ถ้าหากเจ็ดวันให้หลัง ผมยังไม่เห็นใครละก็ ตระกูลเย่จบเห่แน่ !”
พูดจบ หยางเฟิงก็พาเย่เมิ่งเหยียนและหยางพั่นพั่น หันหลังเดินจากไป
“หยางเฟิง หยุดเดี๋ยวนี้ ฉันอนุญาตให้แกไปแล้วหรือ ?”
“แกเข้ามาสร้างความวุ่นวายในงานวันเกิดของฉัน ซ้ำยังพูดจาหยิ่งยโส วันนี้ฉันจะหักแขนหักขาของแก ให้แกกลายเป็นคนพิการ”
เย่เทียนแสดงสีหน้าดุร้าย เขาเกลียดหยางเฟิงจนเข้ากระดูกดำ หากไม่ได้สั่งสอนหยางเฟิงสักครั้ง คงยากที่จะบรรเทาความโกรธลงได้
ฆ่ามัน !
ทันทีที่ออกคำสั่ง บอดี้การ์ดกว่าร้อยคนของตระกูลเย่ก็พุ่งเข้าใส่หยางเฟิง
ทันใดนั้น เสียงการต่อสู้ก็ดังสนั่น !
เมื่อเห็นดังนั้น เย่เมิ่งเหยียนและหยางพั่นพั่นก็มีสีหน้าตื่นตระหนก
หยางเฟิงส่งเสียงฟึดฟัดแล้วพูดว่า : “ก็แค่พวกหางแถว กล้ามาอวดดีต่อหน้าฉันอย่างนั้นหรือ”
ขณะที่พูด เขาก็หันหาเย่เมิ่งเหยียน ซึ่งยืนหน้าซีดอยู่ตรงข้ามแล้วพูดว่า : “ดูแลลูกให้ดี !”
พูดจบ หยางเฟิงก็หายตัวไป
เห็นเพียงเงาที่หายวับไป !
ตุบ !
ตุบ !
ตุบ !
หมัดแล้วหมัดเล่า ต่อยบอดี้การ์ดของตระกูลเย่จนลอยกระเด็นออกมาทีละคน ๆ
หลังจากผ่านไปสิบวินาที ไม่มีบอดี้การ์ดของตระกูลเย่แม้แต่คนเดียวที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ทุกคนล้มลงไปนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
นี่มัน……
เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนต่างตัวแข็งทื่อทันที
นี่ใช่มนุษย์จริงหรือ ?
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว !
โดยเฉพาะเย่เทียน ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง !!!