เมื่อสบตาที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็หายใจติดขัด รู้สึกทำตัวไม่ถูก
เธอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว และทันใดนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็ยื่นมือออกมาโอบรอบเอวของเธอไว้ จากนั้นก็ขยับไปข้างหน้าด้วยแรงเล็กน้อย ทำให้ซูฉิงตกเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“ซูฉิง ซูฉิง…” ฮ่อหยุนเฉิง เรียกชื่อของเธอด้วยเสียงแหบแห้ง
เรือนร่างอันน่าดึงดูดของหญิงสาวตรงหน้าเขา ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้
เขาจ้องไปที่ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงราวกับกำลังมีไฟลุกโชน และจากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงจูบริมฝีปากสีแดงระเรื่อที่น่าดึงดูดของซูฉิงโดยไม่ลังเล
ริมฝีปากของเธอเนียนนุ่ม และหวาน เป็นความรู้สึกคุ้นเคยและเย้ายวน ทำให้ฮ่อหยุนเฉิงสติหลุดไปชั่วขณะ
เขาคิดถึงเธอ!
คิดถึงเธอแทบบ้า!
ตั้งแต่เธอย้ายออกไป เขาเอาแต่คิดถึงเธอทุกเวลา!
จูบที่รุนแรงของฮ่อหยุนเฉิงทำให้ซูฉิงตั้งตัวไม่ทัน
ซูฉิงรู้สึกเพียงว่าลมหายใจของเธอเหมือนจะถูกฮ่อหยุนเฉิงกลืนกินไป แทบจะหายใจไม่ออก
การกระทำที่ใกล้ชิดกันเช่นนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเคยมีมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเหมือนครั้งนี้เลย จึงทำให้ซูฉิงรู้สึกบ้าคลั่งและเขินอาย
หัวใจของเธอเต้นแรงเหมือนเจ้ากวางน้อย
ไม่ จะเป็นแบบนี้ไม่ได้!
ซูฉิงออกแรงผลักฮ่อหยุนเฉิงออกไป ขมวดคิ้วและถาม “ฮ่อหยุนเฉิงนายกำลังทำอะไรน่ะ?”
เมื่อรู้สึกถึงการต่อต้านของซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงจึงหยุดและจ้องเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำ
ซูฉิงเปลี่ยนเรื่อง “นายบอกว่าโครงการอ่าวเป๋ยไห่มีเรื่องด่วนไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่” ในที่สุดฮ่อหยุนเฉิงก็ถอนสายตาจากเธอ และพูดอย่างเคร่งขรึม “เธอมากับฉันสิ”
เมื่อพูดจบ ฮ่อหยุนเฉิงก็เดินไปที่ห้องหนังสือ
ซูฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเดินตามไป
ฮ่อหยุนเฉิงเปิดคอมพิวเตอร์ คลิกเข้าไปที่อีเมล และใช้นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วพูดว่า “พรุ่งนี้เวลาสิบโมงเช้าจะมีการประชุมการประมูลโครงการอ่าวเป๋ยไห่ เป็นการแนะนำขั้นตอนการประมูลอย่างละเอียด เธอไปกับฉัน”
“แค่นี้เหรอ?” ซูฉิงเหลือบมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แค่ไปประชุมเนี่ยนะ งานด่วนอะไรล่ะ?
ฮ่อหยุนเฉิงเม้มริมฝีปากและพูดอย่างเย็นชาว่า “การประชุมพรุ่งนี้สำคัญมาก และหลี่เฉิงหยางประธาน BPL จะเข้าร่วมด้วย”
เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้พบกับประธาน BPL ผู้ลึกลับ และเก่งกาจ
หลี่เฉิงหยาง?
ในหัวของเธอก็ปรากฏภาพผู้ชายสวมสูทสีเทา ผิวสีขาวนวล ซูฉิงจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย
“โอเค เข้าใจแล้ว” ซูฉิงพยักหน้า “พรุ่งนี้ฉันจะไปประชุมให้ตรงเวลา ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”
เมื่อพูดจบซูฉิงก็หันหลังเดินไปที่ประตูห้องหนังสือ
“ซูฉิง” ฮ่อหยุนเฉิงยืนขึ้นทันที และก้าวเท้ายาวของเขาไปขวางทางซูฉิง
ซูฉิงเม้มปาก “มีอะไรอีกล่ะ?”
“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คืนนี้เธอนอนที่นี่แหละ” ฮ่อหยุนเฉิงมองไปที่ซูฉิงด้วยดวงตาที่ลึกล้ำ
ซูฉิงส่ายหัวปฏิเสธ “ฉันกลับก่อนจะดีกว่า”
จูบเมื่อกี้ทำให้ซูฉิงกลัวนิดหน่อย
เมื่อเห็นท่าทางที่ระมัดระวังของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของฮ่อหยุนเฉิงก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ไม่ต้องกังวล ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทำอะไรเธออีก”
“งั้นก็… โอเค!” ซูฉิงไม่ดื้อดึงอีกต่อไป เธอรู้สึกเหนื่อยล้า และต้องการพักผ่อน
เมื่อกลับมาที่ห้องรับรองแขก เธอก็นอนลงบนเตียงขนาดใหญ่ที่คุ้นเคย ความคิดของซูฉิงก็วุ่นวายเล็กน้อย
ทุกอย่างที่นี่ยังเหมือนเดิม แต่หัวใจของเธอกลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่ฮ่อหยุนเฉิงทำในคืนนี้ทำให้ซูฉิงรู้สึกว่าพวกเขาดูเหมือนจะย้อนกลับไปสู่อดีตอีกครั้ง
แต่ทว่า–
ถังรั่วอิ่งก็เป็นตัวขั้นกลางระหว่างพวกเขา
ถังรั่วอิ่ง…
ซูฉิงนวดหว่างคิ้วของเธอ และภาพของถังรั่วอิ่งก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธอ
บางทีเธออาจทำให้ถังรั่วอิ่งโกรธ และทำให้ถังรั่วอิ่งต้องมาลงที่เธอ
ตราบใดที่ถังรั่วอิ่งเคลื่อนไหว ซูฉิงก็มั่นใจว่าเธอจะสามารถจับพิรุธของเธอได้ และเธอไม่สามารถหนีรอดไปได้!
เรื่องต่างๆ ในคืนนี้ทำให้ซูฉิงนอนไม่หลับ
วันรุ่งขึ้น เธอตื่นขึ้นพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาสองข้าง เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว แล้วลงไปข้างล่าง
ชั้นล่างมีกลิ่นของอาหารเช้าลอยมา
ซูฉิงมองไปที่ห้องครัว และเห็นฮ่อหยุนเฉิงทำอาหารเช้าอยู่ในห้องครัว
ฉากนี้ช่างคุ้นเคย
เมื่อก่อนฮ่อหยุนเฉิงเคยพูดกับเธอว่า “ซูฉิง ถ้าเธอชอบ ฉันจะทำอาหารเช้าให้เธอทุกวัน ทำให้เธอตลอดชีวิตเลย โอ้ ไม่สิ ชาตินี้ ชาติหน้า… ชาติหน้าๆๆด้วย”
คำพูดนั้นยังก้องอยู่ในหูของเธอ และหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นเล็กน้อย
“ซูฉิงเธอตื่นแล้วเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงได้ยินเสียงฝีเท้า จึงหันกลับมามองซูฉิง
ดวงตาที่ลึกล้ำนั้นนุ่มนวลต่อหน้าซูฉิงเท่านั้น
“อือ” ซูฉิงได้สติ และพยักหน้าเล็กน้อย
“เดี๋ยวก่อน อาหารเช้าจะเสร็จแล้ว” ฮ่อหยุนเฉิงเม้มมริมฝีปากของเขา
ไม่กี่นาทีต่อมา ฮ่อหยุนเฉิงก็นำอาหารเช้ามาวางลงบนโต๊ะ วางจานทุกจานไว้ตรงหน้าซูชิง และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ซูฉิง ลองกินสิ”
“ขอบใจนะ” ซูฉิงก้มลงมอง ทุกจานเป็นอาหารเช้าที่เธอชอบทั้งนั้น
เธอหยิบตะเกียบขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย
เป็นรสชาติที่คุ้นเคย และเป็นรสชาติที่ถูกปากเธอมาก
ซูฉิงกำลังตั้งใจกินอาหารเช้าของเธอ และทันใดนั้นมือใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงก็เอื้อมออกไปที่ริมฝีปากของเธอ
ตะเกียบในมือของเธอหยุดนิ่งทันที เธอเงยหน้าขึ้นมา “นายทำอะไรน่ะ?”
“อย่าขยับ” ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะเบา ๆ “ปากเธอมีเมล็ดข้าวติดอยู่น่ะ ฉันจะเช็ดให้”
ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง… ซูฉิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
ปลายนิ้วอุ่นของฮ่อหยุนเฉิงลูบไล้ผ่านริมฝีปากของเธอไป ซูฉิงรู้สึกเหมือนกับถูกไฟฟ้าช็อต ชาไปทั่วร่าง
ความรู้สึกนี้มันอบอุ่นมาก และหวานมาก
ในขณะนั้นเอง เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นทำลายบรรยากาศอันอบอุ่นในขณะนั้น
“พี่เฉิง อยู่ไหมคะ?” เสียงของถังรั่วอิ่งดังขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงของถังรั่วอิ่ง ฮ่อหยุนเฉิงก็ขมวดคิ้ว
ทำไมจู่ๆ ถังรั่วอิ่งถึงมาที่นี่แต่เช้า?
เสียงกริ่งประตูดังขึ้นไม่หยุด ฮ่อหยุนเฉิงจึงยืนขึ้นและเดินไปที่ประตู
เมื่อเปิดประตู ก็เห็นถังรั่วอิ่งถือกระติกน้ำร้อนอยู่ในมือ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เฉิง ดีนะที่พี่อยู่บ้าน ฉันตั้งใจทำอาหารเช้ามาให้พี่…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ถังรั่วอิ่งก็เห็นซูฉิงนั่งอยู่ในห้อง และรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ชะงักไปในทันใด “ทำไมซูฉิงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ?”
รับรู้ได้ถึงความเกลียดชังของถังรั่วอิ่ง หัวใจของซูฉิงก็กระตุกวูบ เธอลุกขึ้นเดินไปข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิง และเลิกคิ้วขึ้น “ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?”
ถังรั่วอิ่งมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิง จากนั้นก็มองไปที่ซูฉิง และกัดริมฝีปากของเธอ “พวกเธอ…พวกเธอ…”
ซูฉิงคล้องแขนฮ่อหยุนเฉิง และริมฝีปากของเธอก็ยกขึ้นเป็นโค้งบาง ๆ “เมื่อคืนนี้เราอยู่ด้วยกัน”