บทที่ 83 จับปลาตัวใหญ่ สายตาจากดินแดนต้องห้าม

จอมบงการเทพยุทธ์

เหนือเก้าสวรรค์ กระแสพลังแผ่กระจาย พืชพรรณย่อยยับ แม้กระทั่งครามชั่วนิรันดร์ก็แหลกสลาย ไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้ง

แสงนิรันดร์แต่ละเส้นนั้นมีพลังในการทําลายฟ้าดิน ทําให้จักรพรรดิโบราณทั้งหมดต้องสั่นสะเทือน

แม้แต่ลําแสงที่เล็กที่สุดของแสงนิรันดร์ก็สามารถทําลายจักรพรรดิทั้งหมดที่มีอยู่ได้ในทันที

นี้คือช่องว่างระหว่างการมีอยู่ของจอมยุทธ์ระดับสูงกับผู้ที่ไม่ใช่จอมยุทธ์ระดับสูง เหมือนกับมดที่มองขึ้นไปที่มังกรฟ้า ช่องว่างนั้นใหญ่มากจนสิ้นหวัง

“อะไรกัน !!”

เหนือเก้าสวรรค์ มังกรคํารามขึ้นไปบนท้องฟ้า แสงนิรันดร์นับพันล้านเบ่งบาน ร่างของจอมจักรพรรดิอสูรหายไป แทนที่ด้วยมังกรเงินมั่นเมฆา!

มังกรนั้นยิ่งใหญ่ ลําตัวทอดยาวออกไปหลายพันลี้ หัวมังกรเชิดสูงสง่า เขามังกรขนาดใหญ่เรียบลื่นแวววาวราวกับผลึก เกล็ดของมันนั้นใสและเปล่งประกาย และเสียงคํารามของมังกรก็สั่นสะเทือนไปทั่วท้องฟ้า!

กระแสพลังของจักรพรรดิโบราณเล็ดลอดออกมาจากร่างของมังกร สันสะเทือนราชวังสวรรค์นิรันดร์ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแดนร้างตะวันออกต่างก็คุกเข่าลง และโค้งคํานับไปในทิศทางหัวมังกร

นี่คือการกําราบระดับชีวิต สันสะเทือนถึงจิตวิญญาณและเป็นการยากที่จะต้านทาน !

“นั่นคือจอมจักรพรรดิอสูร… เขาได้แสดงร่างกายที่แท้จริงของเขาแล้ว !”

เสียงของกระทิงทองสั่น ดวงตาของเขาเบิกกว้าง

ในวังของจอมจักรพรรดิอสูร เขาเคยเห็นมันในป่าร้อยอนุสรณ์ที่บันทึกชีวิตของจอมจักรพรรดิอสูรเอาไว้

จอมจักรพรรดิอสูรที่น่าหวาดกลัว เดิมที่เขาคือกระต่ายหิมะ ด้วยความที่เขาตั้งใจเดินหน้าต่อไป เชือดเฉือนผู้คนมากมาย และในที่สุดก็กระโดดเข้าสู่ประตูมังกร ขึ้นไปสู่เขตแดนสูงสุด และกลายเป็นมังกร!

บนเส้นทางนิรันดร์ จอมจักรพรรดิอสูรที่ไม่มีใครเทียบได้ก็ปรากฏตัวขึ้นบนเส้นทาง และทําการต่อสู้ครั้งสุดท้าย !

หัวมังกรที่เป็นผลึกสีเงินยกขึ้นและพุ่งสู่เบื้องบน ร่างกายเปล่งแสงสีเงิน ราชันผู้สูงสุดปลดปล่อยแรงกดดันจอมจักรพรรดิทรงพลังนับแต่โบราณจวบจนปัจจุบัน

เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่านี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความหมกมุ่นของจอมจักรพรรดิอสูรเมื่อล้านปีก่อน

เพราะมังกรเงินนั้นมีอยู่จริง เกล็ดของมันขาวใสดุจดั่งหิมะ เปล่งประกายเจิดจ้า มีชีวิตชีวาราวกับทะเล เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา

มังกรแท้จริงค่ารามและต่อสู้ถึงเก้าวัน

แสงนิรันทร์อันไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออก สาดส่องไปที่ผู้คนจนแทบลืมตาไม่ขึ้น

ในที่สุด ทุกคนก็ดูเหมือนว่าจะเห็นทางเดินที่เปี่ยมไปด้วยแสงเรืองรองถูกเปิดออก และมังกรยักษ์ที่กําเนิดมาจากจอมจักรพรรดิอสูรก็เชิดหัวและหางขึ้นสูง รีบทะยานเข้าไปในเส้นทาง และต่อสู้ต่อไปในเส้นทาง…

เส้นทางค่อยๆหายไป ความว่างเปล่าระหว่างฟ้าดินค่อยๆปิดลง ทุกอย่างสิ้นสุดลง แสงของดวงอาทิตย์สว่างเจิดจ้าไปทั่วบริเวณ และร่างของจอมจักรพรรดิอสูร ที่ไม่มีใครเทียบได้ก็หายไปเหนือสวรรค์ทั้งเก้า เหลือเพียงเสียงคํารามของมังกรที่แผ่วเบา ข่มขู่ไปทั้งสิบทิศ

บนพื้น ดอกไม้ป่าที่แต่เดิมแห้งเหี่ยวไปแล้วกลับคืนสู่ความสวยงาม ใสราวกับผลึกและดูมีชีวิตชีวา มีแม้กระทั่งหยดน้ําค้างบนกลีบดอกไม้

ลมพัดโชย และกลีบดอกไม้ร่วงหล่นปลิดปลิวไปตามสายลม แปรเปลี่ยนเป็นแสง กระจ่างกระจายไปทั่วฟ้าดิน…

จอมจักรพรรดิอสูรทําสําเร็จแล้วงั้นรี ?

เหล่าจักรพรรดิแหงนหน้ามองท้องฟ้า ในตอนนี้อารมณ์ของพวกเขาซับซ้อนมาก

เขาบุกเข้าไปในเส้นทางนิรันดร์ แต่ภาพหลังจากนั้นไม่ปรากฏให้เห็นอีกต่อไป

ไม่มีผู้ใดรู้ว่าจอมจักรพรรดิอสูรเข้าสู่เส้นทางนิรันดร์และเข้าสู่เขตแดนนิรันดร์ด้วยหรือไม่
สรรพชีวิตส่วนใหญ่มุ่งหวังความสําเร็จของจอมจักรพรรดิอสูร แต่พวกเขารู้อยู่แก่ใจว่านี่เป็นเพียงความหวังที่สวยงามเท่านั้น

จอมจักรพรรดิอสูรตัวจริงอาจล่วงลับไปแล้วเมื่อล้านปีก่อน และสิ่งที่ได้กลับคืนมาเป็นเพียงเสียวหนึ่งของความลุ่มหลงที่ไม่อาจดับได้

เมื่อเขานําความรักมาต่อสู้บนเส้นทางนิรันดร์แล้ว ความลุ่มหลงของจอมจักรพรรดิอสูรก็น่าจะดับหายไปกับสายลมแล้วเช่นกัน

“ขอแสดงความยินดีกับจอมจักรพรรดิอสูรที่ไม่มีใครเทียบได้ ผู้ที่ต่อสู้บนเส้นทางนิรันดร์ ชื่อของจอมจักรพรรดิย่อมเป็นนิรันดร์ !”
กระทิงทองแผดเสียงดัง และนํากลุ่มอสูรอื่นๆ คุกเข่าไปยังเก้าสวรรค์ส่งจอมจักรพรรดิอสูรรุ่นหนึ่งจากไป

แต่ทว่า ขณะที่วิญญาณทั้งหมดในแดนร้างตะวันออกยังคงจมอยู่ในความตกใจกับการปรากฏตัวของจอมจักรพรรดิอสูรและต่อสู้ไปบนเส้นทางนิรันดร์ ในส่วนลึกของ แดนร้างตะวันออกก็ยังมีดินแดนต้องห้ามที่แม้แต่เผ่าพันธุ์หมื่นเซียนก็ไม่กล้าเข้าไป

นั่นคือภูเขาสีดําที่ไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งแต่ละแห่งจะถูกเรียกว่าราชันแห่งขุนเขาและจักรพรรดิแห่งขุนเขา

ภูเขาโบราณนั้นยิ่งใหญ่ ตระหง่านและไม่มีที่สิ้นสุดปกคลุมไปด้วยชั้นหมอกอันหนาทึบ

และในตอนนี้ ในภูเขาโบราณสีด่าลึกลับและไร้ที่สิ้นสุดนี้ ก็มีดวงแสงสว่างขึ้น ฉีกพิภพทะลุทะลวงเป็นล้านลี้ มองดูการปรากฏตัวของจอมจักรพรรดิอสูรในโลกและต่อสู้กับเส้นทางนิรันดร์ !

ยากที่จะอธิบายว่านี่เป็นแสงแบบไหน เหมือนกับว่ามันกินเวลาหลายพันปีกว่า จะมาถึงโลกนี้ มีความผันผวนและโบราณที่อธิบายไม่ได้

แสงสว่างปรากฏขึ้น ราวกับจะสัมผัสได้ถึงหมื่นวิถี และการมองเห็นที่เหนือจินตนาการก็ปรากฏขึ้น !

เมื่อการมองเห็นนั้นกวาดไปสุดสายตา ภูตผีคร่ําครวญ โลกสั่นสะท้าน ดอกไม้แสนสวยเบ่งบานขึ้นมาในโลก ฝนโลหิตหลั่งริน แสง โลหิต ดอกไม้ต่างเริงระบําไปด้วยกัน ช่างแปลกยิ่งนัก !

ขณะนี้ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแดนร้างตะวันออกดูต่างรู้สึกใจสั่นสะท้าน ราวกับว่า พวกเขาถูกเทพเจ้าผู้สูงสุดจ้องมอง และมีความกลัวมาจากส่วนลึกในใจของพวกเขา

ดวงตานั้นล็กราวกับหมู่ทะเลดาวสุริยะ ภาพลวงตาส่วนเสี้ยวของกาแลกซี่ที่น่าสะพรึงกลัว การล่มสลายของสวรรค์ การถือกําเนิดของฟ้าดิน และความเจริญรุ่งเรืองของทุกสิ่ง !

ดวงตาคู่นั้นสั่นไหว ทําให้ขนทุกเส้นตั้งขึ้นราวกับว่ากําลังเผชิญหน้ากับผู้ก่อตั้งยุคสมัย และแม้แต่จิตวิญญาณก็สั่นสะเทือนไปด้วย

แม้แต่ราชันดึกดําบรรพ์ที่เป็นที่เคารพ เมื่อเขาถูกดวงตานี้กวาดผ่าน ก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งตัว ร่างกายของเขาดูเหมือนจะถูกจับแช่แข็งอย่างลึกลับและเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

ลําแสงนี้ปรากฏขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ และมันก็หายไปในทันที แต่ความตกใจที่เกิดขึ้นกับโลกนั้นไม่สามารถจินตนาการได้เลย !

ลําแสงส่องผ่านกาลเวลา ราวกับการกําเนิดผู้ยิ่งใหญ่บนโลก หลายเผ่าพันธุ์ต้องคร่ําครวญและยอมจํานน !

แสงนี้มาจากที่ใด ?

มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงอํานาจและน่ากลัวเช่นนี้ในโลกนี้ด้วยงั้นรี ?

“เจ้าได้รับแต้มตกใจ+999999 จาก ? ? ? !

หน้าวังของจอมจักรพรรดิอสูร ฉินมู่เล็กคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นข้อความที่ปรากฏ ขึ้นบนหน้าจอระบบอย่างกระทันหันและมองไปยังทิศทางของลําแสงก่อนหน้านี้ ดวงตาของเขาก็กระจ่างขึ้นเล็กน้อย

มีเพียงสิ่งมีชีวิตเดียวเท่านั้นที่ทําให้เขามีแต้มตกใจเกือบหนึ่งล้านแต้ม !

“ข้าเดาไม่ผิดจริงๆ ในโลกนี้มีสิ่งมีชีวิตสูงสุดสมัยโบราณอยู่จริงๆ !”

ฉินมู่ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

ครั้งนี้ เขาใช้รูปลักษณ์ของจอมจักรพรรดิอสูรเป็นเกมหมากรุก และเขาจับปลาตัวใหญ่ได้จริงๆ !

ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของลําแสงนั้น ในตอนนี้เจ้าของมันต้องเป็นตัวตนที่อยู่เหนือถึงจอมจักรพรรดิอย่างแน่นอน !

อดีตจอมยุทธ์ระดับสูงบางคน เพื่อที่จะกลายเป็นนิรันดร์ พวกเขาไม่ยอมเสียชีวิต

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะลดตัวลงมาจากเขตแดนระดับสูงสุดและอ้างตน ว่าอยู่ในหมู่ราชันและจักรพรรดิ์ ชะลอการดําเนินชีวิตเพื่อเอาชีวิตรอดในโลกเป็นเวลานาน เพียงเพื่อรอโอกาสที่จะก้าวเข้าสู่ความเป็นนิรันดร์

และเหล่าจอมยุทธ์ระดับสูงเหล่านี้ ผู้ที่ยืดอายุของตนเองเหล่านี้ พวกเขามีชื่อเรียกรวมกันว่า ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ !

เมื่อครู่นี้ จอมจักรพรรดิอสูรปรากฏขึ้นและฝ่าฟันเส้นทางนิรันดร์ กระแสพลังที่ทําลายฟ้าดินจะต้องทําให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ตื่นตระหนกและส่องแสงออกมา

ด้วยวิธีนี้ ฉินมู่จึงได้รับแต้มตกใจเกือบหนึ่งล้านแต้ม !

PS: วันนี้ได้ตอนเดียวเอง เฮ้อ อยากแปลได้วันละ 10 ตอน