ตอนที่ 473 ตัวถ่วง
“ความสัมพันธ์เหรอ?” หลินเยียนคิดสักพักแล้วพูดขึ้น “เหมือนจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันนะ”
“แกว่าใครเป็นไก่กา?”
สีหน้าเฮ่อสยงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ส่วนเฮ่อหมิงไข่ลุกขึ้นมาทันทีจ้องเขม็งไปทางมั่วซูอวิ๋น
“ขอโทษครับ ฉันพูดผิดเอง” มั่วซูอวิ๋นมองไปทางเฮ่อหมิงไข่แล้วหัวเราะ “นายไม่ใช่ไก่กา นายไม่ใช่อะไรในทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเลย ถึงจะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นตัวถ่วง นาย และสมาชิกคนอื่นที่แข่งกับฉันเมื่อคืน ล้วนแต่เป็นตัวถ่วงของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ”
“พ่อครับ คนนี้ช่างไร้มารยาทจริงๆ คนแบบนี้ให้เขาเป็นกัปตันทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อได้ยังไง?” เฮ่อสยงมองไปทางผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงแข็ง
“คุณปู่ครับ พ่อพูดถูก ต่อให้มีความสามารถบ้างแล้วไง ถ้าเขาเข้าร่วมทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ พวกเราทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็ต้องแตกแล้วล่ะ!” เฮ่อหมิงไข่พูดเสริม
ไม่รอให้ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนพูดต่อ หลินเยียนเอ่ยปากพูดขึ้น “เพราะมีคนอย่างพวกคุณอยู่ ตระกูลเฮ่อถึงจะแตกสลายไปโดยสิ้นเชิง”
สิ้นเสียงหลินเยียน สองพ่อลูกเฮ่อหมิงไข่และเฮ่อสยงโมโหทันที เฮ่อสยงตะคอกขึ้นมา “แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด!”
“เธอไม่มีสิทธิ์พูด แต่คุณมีสิทธิ์งั้นเหรอ?” มั่วซูอวิ๋นจ้องไปยังเฮ่อสยงแล้วหัวเราะอย่างเย็นชา
มั่วซูอวิ๋นยังไม่ทันเอ่ยปากตอบโต้ เฮ่อสยงพูดขึ้นต่อ “แกเป็นใครกันเหรอ อย่าว่าแต่แกยังไม่ได้เข้ามาในทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ ถึงแม้แกจะเข้ามาในทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อจริง แกก็ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของฉัน!”
เฮ่อสยงพูดจบ มั่วซูอวิ๋นมองไปยังเฮ่อสยงราวกับคนสมองเบลอ “คุณพูดกับหุ้นส่วนตระกูลเฮ่อแบบนี้เหรอ?”
“หุ้นส่วนตระกูลเฮ่อ?”
เมื่อได้ยินที่มั่วซูอวิ๋นพูดแล้ว อย่าว่าแต่เฮ่อสยง ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนเองยังชะงักไปเล็กน้อย
“นายจะซื้อหุ้นเหรอ?” ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนมองไปทางมั่วซูอวิ๋น
มั่วซูอวิ๋นหัวเราะเบาๆ แล้วพูดกับผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุน “เถ้าแก่ครับ ผมคุยกับหลานสาวคุณแล้วครับ นอกจากจะเป็นกัปตันตระกูลเฮ่อแล้ว ผมจะซื้อหุ้นตระกูลเฮ่อด้วย ผมไม่ต้องการหุ้นมาก แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์พอครับ”
ทันใดนั้น หลินเยียนเหลือบมองมั่วซูอวิ๋น
ไหนตอนแรกบอกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ล่ะ ทำไมตอนนี้เป็นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ไปได้?
“การที่ผมเป็นกัปตันทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อนั้น ไม่ต้องการเงินเดือนแม้แต่สักบาท อีกทั้งยังทำหน้าที่จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับสนามแข่งและลูกทีมทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ รวมถึงจะทำการลงทุนด้วย” มั่วซูอวิ๋นพูดขึ้น
ขณะนี้สายตาของผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนมองไปทางหลินเยียนด้วยความตกใจและเหลือเชื่อ
สถานการณ์ของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเป็นยังไง ต่อให้มั่วซูอวิ๋นจะไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ถ้าทุ่มแรงลงไปก็จะเข้าใจอย่างกระจ่างได้
ตอนนี้กำลังอยู่ในจุดที่ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเกือบจะสลายตัว แรงกดดันจากภายนอกก็มหาศาลมากมาย เชื่อว่าอีกไม่นานกระแสแข่งปลอมกำลังจะมาเยือน
ถึงตอนนั้น ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อจะผ่านพ้นไปได้หรือไม่ยังถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้ แต่มั่วซูอวิ๋นผู้ที่เป็นนักแข่งรถมากความสามารถและกัปตันอดีตทีมรถแข่งชื่อดังนั้น ไม่เพียงแต่จะเข้าร่วมทีมรถแข่งตระกูลเฮ่ออีกทั้งยังจะลงทุนอีกด้วย?
สำหรับผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริงๆ
“คุณตาคะ หนูคุยกับซูอวิ๋นไว้แล้วเป็นแบบนี้จริงค่ะ” หลินเยียนอธิบายให้ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนฟัง
“สถานการณ์ของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อในตอนนี้เหมือนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นายแน่ใจว่าจะซื้อหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์จริงเหรอ?” ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนมองไปทางมั่วซูอวิ๋นแล้วพูดขึ้นด้วยความตะลึง
“เถ้าแก่ครับ ตรงนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ การลงทุนเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของผม ถ้าได้กำไรก็ดีกันทุกฝ่าย แต่ถ้าขาดทุนผมก็ไม่เสียดายหรอก ผมเห็นศักยภาพของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อถึงจะลงทุนซื้อหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์น่ะครับ”
ตอนที่ 474 คนเก่งกับคนเก่งร่วมมือกัน
พูดมาถึงจุดนี้ มั่วซูอวิ๋นชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นต่อ “แน่นอนว่า เถ้าแก่เป็นเจ้าของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ ผมจะซื้อหุ้นได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคุณ ดังนั้นเถ้าแก่ให้คำตอบผมอย่างชัดเจนว่าผมซื้อหุ้นได้หรือเปล่าครับ”
“ได้สิ!” เฮ่อติ้งคุนพูดขึ้นด้วยความรีบลน “ด้วยความสามารถของซูอวิ๋นและคอนเน็คชัน รวมถึงคอนเน็คชันของฉันในวงการและประสบการณ์การบริหารมาหลายปี ฉันเชื่อว่าพวกเราถือว่าคนเก่งกับคนเก่งมาร่วมมือกันแน่นอน”
มั่วซูอวิ๋นเผยยิ้มบางๆ ในขณะที่เถ้าแก่ชื่มชมเขาอยู่ยังไม่วายยกย่องตัวเองด้วย
“ได้ครับเถ้าแก่ งั้นเราตกลงกันแล้วนะ ผมขอซื้อหุ้นทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ หุ้นก้อนแรกคือยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนหลังจากนั้นผมจะลองพิจารณาลงทุนใหญ่ อาจจะให้เพื่อนมาซื้อหุ้นด้วย แต่ผมมีข้อแม้ว่าคนเหล่านี้ใช้ไม่ได้แล้ว สถานการณ์ของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ คุณน่าจะเข้าใจดีใช่ไหมครับ” มั่วซูอวิ๋นพูดขึ้น
“แกว่าไงนะ!” เฮ่อสยงจ้องไปยังมั่วซูอวิ๋น กัดฟันขบเขี้ยว
“เหอๆ” มั่วซูอวิ๋นมองไปยังเฮ่อสยงแล้วหัวเราะขึ้นเบาๆ “เรื่องราวของพวกคุณผมพอจะฟังมาจากคุณหลินเยียนแล้วล่ะ หลายปีที่ผ่านมานี้ ลูกชายคุณเป็นกัปตันทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ ส่วนคุณเป็นผู้จัดการทีมรถแข่ง
มันชัดเจนแล้วว่าคุณและลูกชายของคุณอาจจะไม่เหมาะกับวงการนี้ ผมเป็นคนพูดตรงๆ ครับ ดังนั้นที่ผมบอกว่าพวกคุณเป็นตัวถ่วงของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็หวังว่าพวกคุณจะเข้าใจนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาร้าย”
สีหน้าเฮ่อติ้งคุนก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะอย่างไรก็ตาม เฮ่อสยงเป็นลูกชายเขา เฮ่อหมิงไข่เป็นหลายชายเขา…
แต่ถอยออกมามองดูแล้ว ปัญหาที่มั่วซูอวิ๋นชี้ให้เห็นนั้นก็เป็นเรื่องจริง ฝีมือการขับรถของเฮ่อหมิงไข่ถ้าจัดให้อยู่ในทีมรถแข่งระดับต่ำแล้วก็เป็นได้แค่ลูกทีมธรรมดาคนหนึ่ง
ส่วนเฮ่อสยงนั้น เพียงแค่เป็นเพราะว่าเขาเป็นลูกตัวเอง ก็เลยให้ทำหน้าที่จัดการดูแลทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ
“คุณตาคะ ในเมื่อมั่วซูอวิ๋นซื้อหุ้นแล้ว ต่อไปนี้หน้าที่จัดการดูแลและกัปตันก็ให้มั่วซูอวิ๋นจัดการซะเลย เพราะยังไงเขาก็เคยเป็นกัปตันในทีมรถแข่งชื่อดังอยู่ มีประสบการณ์ในการบริหารด้วยค่ะ” หลินเยียนพูดอยู่ข้างๆ
“หลินเยียน!” จู่ๆ เฮ่อหมิงไข่จ้องเขม็งใส่หลินเยียน “แกมันเนรคุณจริงๆ หาคนมาเฉดหัวพวกเราออกงั้นเหรอ อยากทำลายทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อใช่ไหม!”
“ไอ้บัดซบ ฉันรู้ว่าแกไม่คิดดีมาตั้งนานแล้ว!” เฮ่อสยงก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงคับแค้น
มั่วซูอวิ๋นยักไหล่ขึ้นแล้วเอ่ยปาก “ถ้าพวกคุณจะพูดแบบนี้ก็ได้ ผมไม่เป็นกัปตันก็ได้ แล้วก็ไม่ซื้อหุ้นก็ได้ จะได้ไม่ทำลายทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อของพวกคุณ”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
เห็นเฮ่อสยงและเฮ่อหมิงไข่ทั้งสองคนเหมือนจะพูดอะไรอีก เฮ่อติ้งคุนขมวดคิ้วขึ้น
หลินเยียนจะคิดร้ายกับทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อทำไมกัน
ขุดกัปตันทีมรถใหญ่มา และกัปตันคนนี้ก็อยากจะเข้าร่วมทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ เขาไม่เพียงแต่ไม่เอาเงินเดือน อีกทั้งจะซื้อหุ้นอีกด้วย เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเป็นอย่างยิ่ง!
ความจริงเป็นยังไง เฮ่อติ้งคุนรู้ดีอยู่แก่ใจมากกว่าใคร
การแสดงออกเช่นนี้ของเฮ่อสยงและเฮ่อหมิงไข่ก็เป็นเพราะการเข้ามาของคนใหม่อย่างกะทันหัน ทำให้เป็นภัยต่อฐานะของพวกเขา เกิดการสั่นคลอนขึ้น แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยากให้มีคนเข้ามาในทีมรถแข่งตระกูลเฮ่ออยู่แล้ว
คนที่เห็นแก่ตัวจริงๆ คือใคร เฮ่อติ้งคุนรู้อย่างชัดเจนมากกว่าใคร
“หมิงไข่ หลังจากนี้นายเชื่อฟังมั่วซูอวิ๋นซะ ส่วนเฮ่อสยงรับหน้าที่สวัสดิการเกี่ยวข้องอื่นๆ ของทีม” เฮ่อติ้งคุนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“พ่อ…”
“คุณปู่!”
“ฉันยังพูดไม่ชัดอีกเหรอ!” ทันใดนั้น เฮ่อติ้งคุนใช้ไม้เท้าเคาะลงพื้นอย่างแรง