ตอนที่ 511 คุณชายมีนามว่าอะไร?
ได้ยินเช่นนี้ผู้ดูแลหวงก็พยักหน้า “เช่นนี้ยิ่งดีขอรับ” ดังนั้นจึงสั่งคนเตรียมพู่กัน หมึก และกระดาษมาให้เฟิ่งจิ่ววาดรูปคน
ผ่านไปสักพัก เฟิ่งจิ่วถึงจะส่งภาพเหมือนให้เขา บอกว่า “ช่วงนี้ข้าจะอยู่ที่นี่สักระยะ อืม ข้าพักที่โรงเตี๊ยมพรห้าประการ หากมีข่าวค่อยส่งไปที่นั่น เรื่องนี้ท่านต้องรีบจัดการโดยเร็ว ข้าจะรอ”
“ขอรับ ข้าจะรีบให้คนไปตรวจสอบ” ผู้ดูแลหวงตอบรับ ถือภาพเหมือนเดินออกจากห้องโถงไปสั่งการข้ารับใช้ หลังจากยื่นภาพเหมือนให้ชายชราคนหนึ่งก็เดินกลับมาห้องโถงอีกครั้ง
เขาเห็นเฟิ่งจิ่วเล่นป้ายประจำตลาดมืดของปลอมในมืออยู่ตรงนั้น แอบถอนหายใจ ขณะกำลังจะเอ่ยปากก็ตกใจจนเบิกตากว้างกับภาพตรงหน้า
เห็นเพียงเด็กหนุ่มบีบป้ายที่เล่นอยู่จนแตกด้วยมือเดียว กลายเป็นซากเถ้ากระจัดกระจายลงพื้นทันใด เมื่อเห็นฝีมือกับการกระทำนี้อีก ผู้ดูแลหวงพลันเหงื่อออกท่วม ในใจกระซิบไม่หยุดว่า แย่แล้วๆ เขาคิดว่าหนุ่มน้อยคนนี้ไม่ใช่คนที่ขัดใจได้ง่ายๆ แม้ป้ายประจำตลาดมืดอันนี้เป็นของปลอม แต่ก็ไม่ได้ทำจากวัสดุทั่วๆ ไป ยามนี้กลับถูกเด็กหนุ่มบีบกลายเป็นผุยผง…
เฟิ่งจิ่วเป่าเศษผงที่เปื้อนบนมือจนสะอาด แล้วรับผ้าเปียกที่เหลิ่งหวายื่นให้มาเช็ดๆ มือ จากนั้นถึงมองผู้ดูแลหวงที่เบิกตาโตด้วยสีหน้าตกตะลึง เอ่ยพลางหรี่ตายิ้ม “ผู้ดูแลหวง ยังมีอีกเรื่องที่ท่านต้องไปรายงายเสียหน่อย”
“ระ ระ เรื่องอะไรขอรับ?”
ผู้ดูแลหวงคนนั้นเห็นรอยยิ้มเด็กหนุ่มที่ยิ้มเพียงภายนอก แม้แต่พูดจายังตะกุกตะกักอยู่บ้าง ใครบอกเขาได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มน้อยที่กลิ่นอายทั่วร่างพลันเปลี่ยนไป? แล้วเด็กหนุ่มที่ทั่วร่างมีแรงกดดันทรงพลังน่าสะพรึงกระจายอยู่คนนี้เป็นอะไร?
เมื่อครู่เขายังนึกอยู่เลยว่า หนุ่มน้อยคนนี้ตกใจกลัวแรงกดดันระดับหลอมแก่นพลังของเหล่าสวี่หรือไม่ แต่ตอนนี้เห็นแรงกดดันและรัศมีที่กระจายบนร่าง ขาสองข้างของเขากลับสั่นเทิ้ม…
น่ากลัว…เป็นเด็กหนุ่มที่แปลกแท้…โผล่มาจากที่ใดกัน?
“อันที่จริงก็ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร แค่ป้ายประจำตลาดมืดของข้าถูกคนขโมยไป ท่านขึ้นไปรายงานหน่อยเถอะ! ให้คนช่วยข้าตามหาที”
ผู้ดูแลหวงตาค้าง เด็กหนุ่มคนนี้พอหันหน้าก็พูดออกมาเช่นนี้ ที่แท้เขารอเรื่องนี้อยู่ตั้งแต่แรกหรอกหรือ?
ได้ยินน้ำเสียงอีกฝ่ายมีความไม่สนใจใยดีบางส่วน เขาจึงเช็ดๆ เหงื่ออย่างอดไม่ไหว “คุณชาย ระ เรื่องนี้…” เขาอยากพูดว่าป้ายประจำตลาดมือล้วนเหมือนๆ กัน ท่านทำหายแล้วไม่มีหลักฐาน นอกจากจะขึ้นไปรายงานการสูญหาย อยากจะตามหาชิ้นเดิมกลับมาก็ไม่ง่ายดายเพียงนั้น
ใครจะรู้ว่ายังไม่ทันเอ่ย ก็ได้ยินเสียงหนุ่มน้อยคนนั้นดังมาอีกครั้ง
“จริงด้วย เหมือนข้าจะลืมบอกท่านไป ป้ายประจำตลาดมืดอันนั้น นอกจากข้าแล้วคนอื่นก็ใช้ไม่ได้”
“อะ อะไรนะขอรับ?”
ผู้ดูแลหวงอุทานเสียงหลง สีหน้าพลันขาวซีด เดิมทีสองขาแค่สั่นงันงก ตอนนี้กลับสั่นเทาไปทั้งร่าง เหงื่อตรงหน้าผากหยดลงมาเม็ดใหญ่ เขามองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ยิ้มด้วยสีหน้าไร้พิษสงด้วยความตะลึงและประหลาดใจ รู้สึกว่าแม้แต่ฟันยังสั่นด้วย
หาก หากป้ายประจำตลาดมืดอันนั้นเป็นจริงอย่างที่เด็กหนุ่มตรงหน้าบอก นอกจากเขาแล้วคนอื่นใช้ไม่ได้ นะ นะ นั่นต้องเป็นป้ายประจำตลาดมืดขั้นหนึ่งแน่! แต่ก่อนหน้าเขาแค่เห็นว่าเป็นป้ายประจำตลาดมืด ไม่ได้สังเกตว่าบนป้ายนั้นมีเครื่องหมายขั้นหนึ่ง ทว่าตอนนี้ดูจากสีหน้าท่าทีและคำพูดอีกฝ่าย ชัดเจนว่าเป็นป้ายประจำตลาดมืดขั้นหนึ่ง!
ป้ายประจำตลาดมืดขั้นหนึ่ง ใช้เลือดเป็นเครื่องหมาย! บนป้ายนั้นมีเพียงผู้ถือครองถึงจะกระตุ้นเครื่องหมายโลหิตได้!
“คะ คะ คุณชาย ทะ ทะ ท่านมะ มีนามว่าอะไรหรือขอรับ?”
………………………………………………….
ตอนที่ 512 ป้ายประจำตลาดมืดขั้นหนึ่ง
เห็นผู้ดูแลหวงตกใจจนกลายเป็นเช่นนั้น จู่ๆ เฟิ่งจิ่วก็อารมณ์ดียิ่ง ดังนั้นจึงหัวเราะเบาๆ พูดอย่างหยอกล้อว่า “ข้ามีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่ถ้าบอกว่าข้าแซ่ภูต ท่านจะเชื่อหรือไม่? ช่างมันเถอะ ข้าจะไม่พูดเรื่องนี้กับท่าน ไปเชิญหัวหน้าพวกท่านมาเถอะ! ข้าจะคุยกับเขาสักหน่อย” เหมือนตอนที่ลงบันทึกจะใช้แค่ภูตหมอสองคำ
ความจริงแล้วตอนแรกสุดที่ได้รับป้ายประจำตลาดมืดนี้มา ก็เป็นแค่ป้ายประจำตลาดมืดธรรมดาจริงๆ เป็นป้ายที่สามารถทำให้ตลาดมืดปฏิบัติกับเธอเช่นแขกผู้มีเกียรติ แต่ภายหลังคบหาสมาคมกับหัวหน้าเคอแห่งตลาดมืดแคว้นเหินเวหา เขารู้ว่าเธอมีป้ายประจำตลาดมืด จึงออกปากช่วยขอป้ายขั้นหนึ่งมาให้ บอกว่าสิทธิพิเศษใดๆ จะยิ่งมากขึ้น การปรนนิบัติก็ยิ่งดี
แต่เธอไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ป้ายคำสั่งอันหนึ่ง จึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ไม่นึกว่ามาถึงที่นี่จะเจอเรื่องเช่นนี้ เดิมทีเธอคิดว่ายกเรื่องการตรวจสอบให้ผู้ดูแลตลาดมืดไปก็เพียงพอแล้ว ไม่อยากรบกวนหัวหน้าตลาดมืด แต่ไม่คิดว่าจะมีคนใช้อุบายกับป้ายประจำตลาดมืดของเธอ
เหอะๆ กล้าฉวยของไปจากมือเธอ? น่าสนใจจริงๆ!
สีหน้าผู้ดูแลหวงซีดเผือด ถูกอยู่ที่เขาเป็นผู้ดูแลตลาดมืด ปกติเรื่องเล็กใหญ่ภายในเขาก็จัดการได้ไม่เลว แต่แท้จริงผู้จัดการดูแลตลาดมืดแห่งนี้คือหัวหน้าที่อยู่เหนือกว่าเขาต่างหาก!
หากให้อีกฝ่ายรู้เรื่องนี้ ไม่กล้าจินตนาการจริงๆ ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร…
และตอนนี้ เด็กหนุ่มตรงหน้าเปิดเผยตัวตนผู้ถือครองป้ายขั้นหนึ่ง แม้ตนเป็นผู้ดูแลตลาดมืดก็เกรงว่าคงมีคุณสมบัติไม่พอจะรับรองเขา คิดถึงตรงนี้ผู้ดูแลหวงก็กลืนน้ำลาย เอ่ยเสียงสั่นว่า “คะ คุณชายเชิญนั่งรอสักครู่ ขะ ข้าจะรีบสั่งคนไปเชิญหัวหน้ามา”
หัวหน้าตลาดมืดปกติจะไม่ลงมือจัดการธุระเอง เพราะเวลาส่วนใหญ่พวกเขามักฝึกบำเพ็ญ เว้นแต่จะมีเรื่องอะไรร้ายแรงจนผู้ดูแลไม่อาจจัดการได้จริงๆ พวกเขาถึงออกหน้า ทว่าเรื่องตอนนี้มีแต่ต้องให้หัวหน้าจัดการแล้ว
เขาไม่กล้าสั่งคนไปเชิญ แต่ไปเชิญหัวหน้าด้วยตัวเอง เขาลนลานมาถึงเขตเรือนเดี่ยวที่หัวหน้าฝึกบำเพ็ญ เฝ้าอยู่นอกเรือน แล้วสั่งให้คนคุ้มกันเข้าไปแจ้งเรื่องเร่งด่วน ไม่นานนักก็เห็นชายสวมชุดคลุมสีเทาอายุราวห้าสิบเดินออกมา
คนผู้นี้คือหัวหน้าตลาดมืดแคว้นมหาสันติ เป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณที่ทั่วร่างมีกลิ่นอายผู้แข็งแกร่งกระจายอยู่
“เกิดอะไรขึ้น?” เขามีสีหน้าคร่ำเครียด มองผู้ดูแลหวงแวบหนึ่ง น้ำเสียงน่ากรงขามและมีแรงกดดันเช่นผู้แข็งแกร่ง เพียงเอ่ยปากก็ทำให้ใจสั่นไหวเล็กน้อย
เมื่อเห็นเขา สองขาของผู้ดูแลหวงสั่นเทาและทรุดลงไปทันที กล่าวอย่างตื่นตระหนกว่า “ท่านหัวหน้า…ขะ ข้าก่อเรื่องใหญ่แล้วขอรับ ขอท่านหัวหน้าช่วยข้าด้วย…”
ได้ยินเช่นนี้ คิ้วเขายิ่งขมวดมากขึ้น ยังไม่ให้ลุกขึ้นมา แต่ถามว่า “พูดมาอย่างละเอียดให้ชัดเจน!”
ผู้ดูแลหวงจึงไม่กล้าปิดบังแม้แต่น้อย เล่าเรื่องที่สองคนนั้นมาหาเขา รวมถึงเรื่องป้ายประจำตลาดมืดที่เด็กหนุ่มชุดแดงถือมาโดนสับเปลี่ยนไป เล่าถึงตรงนี้เขาก็ทำหน้าร้องไห้ สีหน้าตื่นตกใจ “ขะ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าป้ายประจำตลาดมืดนั้นเป็นป้ายขั้นหนึ่ง ของอย่างป้ายประจำตลาดมืดขั้นหนึ่งมีน้อยมาก ไม่นึกเลยว่าจะปรากฏที่แคว้นมหาสันติ หนำซ้ำผู้ถือครองยังเป็นเด็กหนุ่ม ขะ ข้า…”
“เด็กหนุ่มชุดแดง?”
หลังจากหัวหน้าคนนั้นฟังคำอธิบายผู้ดูแลหวง ในดวงตาก็เผยความประหลาดใจ เหมือนนึกเรื่องบางอย่างได้ ท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย รีบเอ่ยถามว่า “ตอนนี้เด็กหนุ่มคนนั้นอยู่ที่ไหน?”
“ยะ อยู่ในโถงใหญ่ตลาดมืดขอรับ” กล่าวจบก็เห็นหัวหน้าก้าวยาวตรงไปด้านหน้า เห็นเช่นนั้นเขาจึงรีบเร่งตามไปด้วย
………………………………………………….