ตอนที่ 513 ภูตหมอเฉลียวฉลาด + ตอนที่ 514 คนบางคนที่โกรธเคือง

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 513 ภูตหมอเฉลียวฉลาด

ทันใดนั้น มีลมกระโชกผ่านมา แววตาเฟิ่งจิ่วที่นั่งดื่มชาในห้องโถงใหญ่วูบไหวเล็กน้อย เงยหน้ามองไปก็เห็นชายในชุดคลุมสีเทาอายุประมาณห้าสิบยืนอยู่ตรงหน้า ไม่รอเธอเอ่ยปาก หลังจากอีกฝ่ายมองเธอแวบหนึ่งก็หัวเราะลั่นแล้วประสานมือคารวะ

“ไม่ทราบว่าภูตหมอเดินทางมาไกล หากมีตรงไหนละเลยไป หวังว่าภูตหมอจะไม่ถือสา”

ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วขึ้น “ใต้เท้าคือหัวหน้าที่นี่หรือ?” นึกไม่ถึงว่าจะรู้ตัวตนเธอในแวบเดียว ไม่ธรรมดาเลย!

“เหอะๆๆ ข้าน้อยแซ่เคอ ภูตหมอเรียกข้าแค่เคอเหล่าก็พอ” ใบหน้าเขาระรื่นจนยากจะปิดบัง มานั่งลงตรงตำแหน่งผู้อาวุโส

“เคอ?” สีหน้าเฟิ่งจิ่วชะงักเล็กน้อย ถามว่า “หรือว่าเป็นคนบ้านเดียวกับหัวหน้าเคอแห่งแคว้นเหินเวหา?”

ได้ยินเช่นนี้ เขาพยักหน้าเอ่ยยิ้มๆ “ภูตหมอเฉลียวฉลาดนัก แค่พูดก็เดาถูกแล้ว เขาเป็นพี่น้องร่วมตระกูลของข้าเอง ข้าเคยได้ยินเขาเอ่ยถึงใต้เท้าภูตหมอถึงได้รู้ แต่ไม่นึกว่าใต้เท้าภูตหมอจะมาแคว้นมหาสันติโดยกะทันหัน ทำเอาข้าประหลาดใจมากจริงๆ”

ได้ยินเขาบอกว่าเป็นคนตระกูลเดียวกับหัวหน้าเคอแห่งแคว้นเหินเวหา เฟิ่งจิ่วโล่งใจ มิน่าถึงได้มองเธอออกในแวบเดียว ในเมื่อรู้ตัวตนเธอก็ไม่ต้องอ้อมค้อมอีก แต่เหลือบเห็นผู้ดูแลหวงยืนตรงประตูไม่กล้าเข้ามา จึงเอ่ยปากทันใด

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หัวหน้าเคอ เรื่องวันนี้หวังว่าท่านจะจัดการให้ข้าได้”

“ภูตหมอโปรดวางใจ เรื่องนี้ข้าทราบแล้ว จะลงโทษอย่างเข้มงวดแน่นอน! ป้ายประจำตลาดมืดขั้นหนึ่งของภูตหมอต่อให้คนแซ่สวี่นั่นเอาไปก็ใช้อะไรไม่ได้ ขอแค่ข้าถ่ายทอดคำสั่งลงไป ไม่ถึงหนึ่งวันเขาต้องส่งป้ายประจำตลาดมืดกลับคืนแน่”

เขารับประกัน ขณะเดียวกันก็ตะโกนบอกผู้ดูแลหวงที่ยืนสั่นอยู่ตรงประตูว่า “ยังไม่เข้ามาอีก!”

ผู้ดูแลหวงแม้แต่หน้ายังขาวซีด ได้ยินแต่หัวหน้าเรียกเด็กหนุ่มว่าภูตหมอ รู้แค่ว่าหลังจากเห็นเด็กหนุ่มคนนี้หัวหน้าก็ประหลาดใจระคนยินดียิ่ง ท่าทีก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ยิ่งเป็นเช่นนี้หัวใจเขายิ่งสั่นสะท้าน เข้าห้องโถงมาคุกเข่าลงเสียงดังตุบ

“ขออภัยท่านด้วย ขออภัยให้ด้วย…”

เฟิ่งจิ่วไม่ปริปาก แค่มองไปทางหัวหน้าเคอ หมายความว่าให้เขาจัดการทั้งหมดเอง

“ปิดบังเบื้องบนรังแกคนอื่น ขนาดกฎระเบียบก็ไม่มีแม้แต่น้อย ตำแหน่งผู้ดูแลเจ้ามาถึงจุดจบแล้ว! ตั้งแต่วันนี้จงไสหัวไปคุกมืด มองกำแพงสำนึกผิดสิบปี!” หัวหน้าเคอตะคอกเสียงเข้ม ยกมือขึ้นสะบัดแขนเสื้อคลุม สายลมแรงโหมขึ้นมา พัดผู้ดูแลหวงกระเด็นออกไปทันที

“ใครก็ได้!”

เมื่อตะโกนเสียงเข้ม สองร่างสีดำปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงใหญ่ จากนั้นคารวะด้วยความเคารพ พร้อมก้มศีรษะฟังคำสั่ง

“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป! ตรวจสอบทุกจุดสำคัญอย่างเข้มงวด! หากเห็นผู้ฝึกตนแซ่สวี่ที่นำป้ายประจำตลาดมืดขั้นหนึ่งไปต้องจับตัวกลับมาทันที!”

พอออกคำสั่ง สองคนนั้นขานรับด้วยความยำเกรง แล้วหายไปจากที่เดิมทันใด

หัวหน้าเคอถึงค่อยมองไปทางเฟิ่งจิ่วในชุดสีแดง บอกว่า “ได้ยินว่าตอนนี้ภูตหมอปักหลักอยู่โรงเตี๊ยมพรห้าประการ? ไหนเลยโรงเตี๊ยมจะสบายกว่าตลาดมืด ไม่สู้ภูตหมอย้ายมาพักที่ตลาดมืดจะดีกว่า! ตลาดมืดมีเรือนที่ยังว่าง พักอยู่ที่นี่ทั้งสะดวกสบายและเงียบสงบ ข้าจะได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างดีที่สุด และต้อนรับภูตหมออย่างดีด้วย”

“ไม่ต้องหรอก พักโรงเตี๊ยมสะดวกกว่า” เธอโบกๆ มือพลางลุกยืนขึ้น “เสียเวลาที่นี่ไปไม่น้อย ยามนี้ฟ้ามืดแล้ว ข้าขอตัวก่อน”

ได้ยินแล้วหัวหน้าเคอจึงเร่งรีบลุกขึ้นส่งแขก เอ่ยว่า “ให้ข้าไปส่งภูตหมอเถอะ! จริงด้วย ภูตหมอโปรดวางใจ เรื่องตรวจสอบข้าจะให้พวกเขาเร่งมือ ข้ามั่นใจว่าต้องทำให้ภูตหมอพอใจภายในเวลาที่สั้นที่สุด”

“เช่นนั้นต้องขอขอบคุณมาก” เธอเผยรอยยิ้มออกมา กลับเห็นเขาทำท่าทางคล้ายอยากจะพูดแต่หยุดไว้ เห็นเช่นนี้เธอพลันแสร้งมองไม่เห็น ก่อนสาวก้าวเดินออกไป

………………………………………………….

ตอนที่ 514 คนบางคนที่โกรธเคือง

ตั้งแต่รู้ตัวตนเฟิ่งจิ่วจากหัวหน้าเคอแห่งแคว้นเหินเวหา ทั้งยังคุ้นเคยกับเธอ เขาย่อมรู้แน่ว่าเธอกลั่นยาเซียนและปรุงยาเป็น ดูจากสีหน้าท่าทางเขา เป็นไปได้มากว่าถ้าไม่ขอยาอายุวัฒนะก็ขอยาอื่น ทำเป็นไม่เห็นไปเสียจะดีกว่า

เห็นเฟิ่งจิ่วเดินออกไป เมินเฉยต่อท่าทางเขาที่อยากพูดแต่หยุดไว้ หัวหน้าเคอยิ้มเจื่อนในฉับพลัน นิสัยใจคอภูตหมอผู้นี้เป็นดั่งที่น้องชายร่วมตระกูลเขาพูดไว้จริงๆ ทั้งพิลึกและประหลาด แต่เฉลียวฉลาดไม่มีใครเทียบ

ชัดเจนว่ารู้ความคิดตน กลับไม่พูดให้ชัดเจนและไม่เปิดโปง เดินไปทันทีโดยทำเป็นไม่เห็น เรื่องเช่นนี้เดาว่าคงมีเพียงเขาที่ทำได้

เขาทอดถอนใจเบาๆ อยู่ในใจ ตามหลังไปส่งพวกเขากลับ เดิมอยากจะเอ่ยปาก แต่คิดว่าเจอกันครั้งแรกก็ขอยาอายุวัฒนะเลยเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไร ยามนี้รู้ว่าอีกฝ่ายพักที่ไหน ดังนั้นต้องฝืนใจอดทนไว้ คิดว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยไปเยี่ยมที่โรงเตี๊ยมพรห้าประการเอา

คนตลาดมืดนึกไม่ถึงว่าจะเห็นหัวหน้าออกมาส่งเด็กหนุ่มชุดแดงด้วยตัวเอง แต่ละคนต่างหันมองพวกเขาอย่างอดไม่ได้ พร้อมแอบคาดเดาตัวตนของหนุ่มน้อยชุดแดงคนนั้น

ตอนนี้เอง เฟิ่งจิ่วที่มาถึงนอกประตูใหญ่ตลาดมืดก็หยุดฝีเท้าลง บอกกับหัวหน้าเคอที่มาส่งว่า “หัวหน้าเคอเรียกข้าว่าคุณชายจิ่วก็ได้ ส่วนตัวตนรวมถึงเบาะแสข้า ข้าไม่ต้องการให้ใครรับรู้”

ได้ยินเช่นนี้หัวหน้าเคอก็รีบร้อนขานรับ “ขอรับ คุณชายจิ่วโปรดวางใจ ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร”

เฟิ่งจิ่วพยักหน้า เห็นท้องฟ้าด้านนอกมืดลงแล้ว จึงนึกถึงชายหนุ่มที่ถูกเธอลืมไว้ในโรงเตี๊ยม ใจก็รู้สึกผิดทันควัน รีบเร่งพาเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวากลับไป

หัวหน้าเคอเห็นร่างเขาหายไปบนถนนใหญ่แล้วถึงจะหันตัวกลับ แอบคิดว่าต้องทำเช่นไรถึงจะขอยาอายุวัฒนะจากภูตหมอมาได้? เขาหยุดอยู่ระดับกำเนิดวิญญาณมานานนัก ขาดแค่ยาอายุวัฒนะที่สามารถช่วยเขาบรรลุ ซ้ำเขายังเคยได้ยินว่าภูตหมอเชี่ยวชาญเกี่ยวกับของจำพวกยาอายุวัฒนะด้วย

เพียงแต่ จะขอยาอายุวัฒนะเกรงว่าคงไม่ง่าย! นิสัยเขาประหลาดพิลึก อย่างเช่นเรื่องในวันนี้ หากภูตหมอเผยตัวตนตั้งแต่แรกคงไม่เกิดเรื่องภายหลัง แต่ดันมองอยู่เช่นนั้นและปล่อยให้เรื่องบานปลาย เป็นเช่นนี้ ผู้ฝึกตนแซ่สวี่ที่สับเปลี่ยนป้ายประจำตลาดมืดไปต้องลำบากเสียแล้ว

ไม่ต้องให้ฝ่ายนั้นลงมือสั่งสอนเอง พวกเขาตลาดมืดก็ต้องจัดการให้ วิธีการและอุบายเช่นนี้ทำให้เขาที่พบภูตหมอเป็นครั้งแรกเข้าใจ ที่น้องชายร่วมตระกูลเขาบอกว่าภูตหมอนิสัยแปลกๆ นั้นหมายความเช่นไร…

เวลานี้ ภายในโรงเตี๊ยม ไอหนาวทั่วร่างเจ้าตำหนักยมราชมากพอจะทำให้อุณหภูมิในห้องเปลี่ยนจากฤดูร้อนกลายเป็นฤดูหนาว

ยามมองนายท่านที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะไม่รู้ว่าดื่มน้ำชาไปมากเท่าไหร่แล้ว ฮุยหลางไม่กล้าเอ่ยปากและไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อยจริงๆ ทำได้เพียงยืนตัวเกร็งอยู่ข้างๆ อย่างไม่สะดุดตานัก

ทำไมต้องคอยอยู่ตรงนี้หรือ? ไม่มีเหตุผลอื่นใด เพราะทุกชั่วขณะนายท่านจะให้เขาลองออกไปดูว่าภูตหมอกลับมาหรือยัง ตั้งแต่ภูตหมอออกไปเดินเล่น เขาเดินออกไปดูประตูห้องข้างๆ กี่รอบแล้วก็ไม่รู้

ขณะกำลังคิดอยู่ จู่ๆ ก็เห็นนายท่านที่ดื่มน้ำชาอีกแก้ววางแก้วชาลงอย่างแรง จากนั้นลุกยืนขึ้นมาทันที เขาตกใจจนหัวใจสั่นสะท้าน รีบถามว่า “นะ นายท่าน เป็นอะไรขอรับ?”

หลิงโม่หานหันไปชำเลืองมองเขา สาวก้าวเดินออกประตูห้องไปยังชั้นหนึ่งโดยไม่พูดไม่จา และมานั่งลงข้างโต๊ะที่ใกล้ประตูใหญ่ที่สุด

ฮุยหลางตามออกมา เห็นอิ่งอีที่เฝ้าอยู่นอกประตูห้องก็กดเสียงเบาถาม “อิ่งอี เจ้าว่าต้องออกไปตามหาภูตหมอเสียหน่อยหรือไม่?”

………………………………………………….