บทที่ 232 ขุมสมบัติ

“ได้ลาภก้อนโต? พูดได้ดี! หากใครจะได้ลาภ ก็ต้องมีเพียงฉันเท่านั้น”

เซียวเฟิงพูดอย่างไม่อดทน ชายหนุ่มยังคงตามหาร่องรอยของมอนสเตอร์ แต่ก็ไม่พบอะไรเลย อาจเป็นเพราะผู้เล่นของกิลด์วูล์ฟฆ่ามอนสเตอร์มากเกินไป

ทว่าในตอนนั้นเอง เซียวเฟิงก็เข้าใจว่าทำไมลิตเติ้ลฟ็อกซ์จึงกระตือรือร้นมากตอนที่เขามาถึงอาณาจักรออร์คเมื่อวันก่อน ปรากฎว่าเธอกำลังจับตามองเขาอยู่ อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็ยังพบแผนที่ลับ ป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึกอยู่ดี!

“เอ่อ… แม้ว่าพลังโจมตีของฉันจะไม่สูงเท่ากับนาย แต่ฉันสามารถลากมอนสเตอร์ให้นายได้นะ”

ซือเยี่ยจิ๋งพูดอย่างไม่มั่นใจ ในฐานะผู้เล่นอันดับ 2 บนกระดานผู้นำและรายชื่อผู้มีชื่อเสียงของเขตฮัวเซีย ตอนนี้ไนท์ คูนเนอร์กลายเป็นคนที่ดูเฉื่อยชาและไม่เอาไหนไปแล้ว

“เอิ่ม?”

แต่ทันใดนั้น เมื่อเซียวเฟิงมองไปข้างหน้า ชายหนุ่มก็พบเห็นพวกออร์คกำลังเดินไปมา

“ผู้เล่น? ไม่สิ มันไม่ใช่ NPC ด้วย มันเป็นมอนสเตอร์เหรอ?” ซือเยี่ยจิ๋งมองไปที่ทางเดียวกันและร้องออกมาด้วยความประหลาดใจทันที

ออร์คพวกนั้นดูเหมือน NPC ซึ่งดูเหมือนจะมีชื่อว่าทหารของพยัคฆ์ ทว่าชื่อนั้นเป็นสีเหลืองซึ่งแสดงถึงตัวตนที่เป็นกลาง

สีของแถบพลังชีวิตเป็นปัจจัยสำคัญในการแยกมิตรออกจากศัตรู สีเขียวระบุถึงมิตร ในขณะที่สีแดงระบุถึงศัตรู นอกจากนั้นก็มีสีเทาด้วย ซึ่งจะปรากฏในหมู่ผู้เล่นเท่านั้น มันเป็นตัวแทนของผู้ที่ฆ่าผู้เล่นไปทั่ว สีเทาถูกกำหนดโดยระดับของค่าบาป

แถบพลังชีวิตสีเหลืองโดยทั่วไปแล้วแสดงถึงความเป็นกลาง ปรากฏเฉพาะในหมู่มอนสเตอร์ที่ไม่ก้าวร้าวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มอนสเตอร์ที่มีสีดังกล่าวปรากฏขึ้นในตอนนี้ ซึ่งทำให้เซียวเฟิงค่อนข้างประหลาดใจ

“มอนสเตอร์ของแผนที่นี้เป็นมอนสเตอร์ที่เป็นกลางทั้งหมดเลยหรือเปล่า? มาลองกันไหม?”

ซือเยี่ยจิ๋งคิดอยู่ครู่หนึ่งและอยากลองขึ้นมา

“ไปกันเถอะ”

เซียวเฟิงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องลองดู เขาอาจจะไปถามลิตเติ้ลฟ็อกซ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในแผนที่ลับนี้ก็ได้ แต่ก็ล้มเลิกความคิดไป

“ได้ ฉันไปด้วย”

ซือเยี่ยจิ๋งก้าวไปข้างหน้าด้วยการลอบเร้น มือสังหารมีความสามารถในการโจมตีจากด้านหลังค่อนข้างสูง อีกทั้งโดยทั่วไปแล้ว มือสังหารก็ทำโดยการแอบเข้าไปทางด้านหลังของเป้าหมาย ซึ่งด้วยวิธีนี้ มันไม่เพียงแต่สามารถทำค่าความเสียหายต่อวินาทีที่ดีที่สุดได้เท่านั้น แต่ยังเข้าใกล้เป้าหมายได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม มันไม่จำเป็นในขณะนี้ เพราะออร์คมีสถานะเป็นกลางและจะไม่โจมตีซือเยี่ยจิ๋งก่อน เธอจะเดินอ้อมหลังมันไปก็ไม่เป็นไร เห็นได้ชัดว่าซือเยี่ยจิ๋งคุ้นเคยกับการทำเช่นนี้

“ระวังไว้ พวกมันคือมอนสเตอร์เลเวล 30 ระดับสูง”

เซียวเฟิงเตือนเธอ การสอดแนมขั้นสูงของชายหนุ่มสามารถตรวจสอบคุณสมบัติของมอนสเตอร์ที่เลเวลสูงหรือต่ำกว่า 15 เลเวลได้ ดังนั้นจึงสามารถตรวจสอบออร์คได้

นักรบออร์คที่หลงทาง

เลเวล: 30

ประเภท: ระดับสูง

คุณสมบัติ: ชีวิต

พลังชีวิต: 6000/6000

พลังโจมตี: 270-280

พลังป้องกัน : 120-150

ค่าป้องกันเวท : 110-140

สกิล: ต่อย ทุบ คำรามศึก คำรามและกระทืบพื้น

คำอธิบาย: นักรบออร์คที่หลงทางในป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึก

เลเวลของนักรบออร์คอยู่ที่ 30 และประเภทของมันคือระดับสูง แต่เซียวเฟิงไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ด้วยความสามารถของเขาและซือเยี่ยจิ๋ง มอนสเตอร์เลเวลไหนก็ไม่อาจคุกคามพวกเขาได้…

มันเป็นเพราะพลังป้องกันที่สูงและกินเวลาจัดการนาน ดังนั้นเซียวเฟิงก็เลยให้บัฟกับซือเยี่ยจิ๋ง

-288!

ด้วยผลของบัฟจากเซียวเฟิง พลังโจมตีของซือเยี่ยจิ๋งจึงมีมากกว่า 300 บวกกับผลพลังโจมตีเพิ่มเติมจากการโจมตีจากด้านหลัง เธอเลยสามารถลดพลังชีวิตของนักรบออร์คลงได้ 5% ซึ่งค่อนข้างน่ากลัว

สำหรับผู้เล่นทั่วไปอย่างผู้เล่นของกิลด์วูล์ฟ ด้วยพลังป้องกันของนักรบออร์คนี้ ถ้าพวกเขาสามารถทะลวงพลังป้องกันได้ก็ดีมากแล้ว แม้ว่าทีมจะมีนักบวชอยู่ด้วย แต่ความเสียหายที่ทำได้ก็ไม่เกิน 20 หรือ 30 หน่วย พวกเขาจะต้องใช้เวลาอย่างมากในการจัดการมอนสเตอร์นี้

ยิ่งกว่านั้น ผู้เล่นที่อยู่แนวหน้ายังต้องรับความเสียหายและต้องหาจังหวะฟื้นฟู แม้แต่มอนสเตอร์ธรรมดาก็ยังเป็นปัญหาสำหรับพวกเขา

สำหรับเซียวเฟิงและซือเยี่ยจิ๋ง ประสิทธิภาพในการโจมตีนั้นเกินระดับของผู้เล่นทั่วไปอย่างมาก แม้แต่มอนสเตอร์ระดับสูงเลเวล 30 ก็ยังเป็นแค่ก้อนเค้กสำหรับพวกเขาสองคน

อย่างไรแล้วทั้งสองก็เป็นถึงผู้เล่นชั้นยอดของเขตฮัวเซีย มันคงแปลกถ้าพวกเขาไม่มีประสิทธิภาพถึงขนาดนั้น

ชื่อของนักรบออร์คที่หลงทางกลายเป็นสีแดงในทันทีและเริ่มโต้กลับ แต่ไม่นานนัก มันก็ถูกสังหารโดยซือเยี่ยจิ๋งก่อนที่เวลาบัฟ 30 วินาทีของบัฟเซียวเฟิงจะหมด

“ไม่ว่ากี่ครั้งที่ฉันได้ฮีล ฉันได้แต่ต้องถอนหายใจให้กับความสามารถในการฮีลของนายเสมอเลย ถ้าฉันสู้คนเดียว เห็นทีคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 นาทีในการฆ่ามอนสเตอร์ แต่นี่ฉันใช้เวลาจัดการไม่ถึง 30 วินาทีเลยด้วยซ้ำ”

ซือเยี่ยจิ๋งเก็บมีดและถอนหายใจ ไม่ใช่ว่าเธอพูดอวยเขา แต่ความสามารถในการฮีลของเซียวเฟิงนั้นน่าทึ่งมากจริง ๆ หากปราศจากบัฟของเขา พลังโจมตีของเธอก็แค่ 100 หน่วยกว่า ๆ เท่านั้น แม้หญิงสาวจะสามารถโจมตีทะลุพลังป้องกันได้ แต่ความเสียหายที่ทำได้ก็อยู่ที่ประมาณ 20 หน่วยเท่านั้น หากเธออยากโค่นนักรบออร์ค เธอก็ต้องใช้ความพยายามและเวลาอยู่บ้าง

“ดูซิว่ามีอะไรดร็อปบ้าง”

เซียวเฟิงไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้หรือเข้าใกล้ ชายหนุ่มปล่อยให้ซือเยี่ยจิ๋งจัดการมอนสเตอร์ด้วยตัวเธอเอง ดังนั้นจึงไม่เห็นว่ามีอะไรดร็อปมาหลังจากนักรบออร์คถูกฆ่าตาย

“เอ่อ? มีบางอย่างดร็อปล่ะ! มันคือหนังสือสกิล!”

ซือเยี่ยจิ๋งตะโกนด้วยความประหลาดใจทันทีและหยิบหนังสือสกิลระดับขาวขึ้นมาจากข้าง ๆ ศพของนักรบออร์ค

หวด

ประเภท: ทั่วไป

เอฟเฟกต์: ทำความเสียหายพลังโจมตี 120% ไปยังเป้าหมายเดี่ยว การยกระดับหนึ่งขั้น ความเสียหายจะเพิ่มขึ้น 30%

เวลาคูลดาวน์: 10 วินาที

การใช้มานา: 10 หน่วย

ความต้องการ: คลาสนักรบ

“ดูเหมือนว่าหนังสือสกิลจะดร็อปจากการฆ่ามอนสเตอร์ประเภทนี้สินะ ไปกันเถอะ ค้นหาตัวต่อไปกัน”

เซียวเฟิงกล่าวด้วยความตื่นเต้น มันเป็นแผนที่สำหรับหาหนังสือสกิลโดยเฉพาะ ช่างเป็นขุมสมบัติอะไรอย่างนี้!

“สัญญากับฉันสิ หนังสือทักษะทั้งหมดที่นายไม่ต้องการจะต้องยกมันให้ฉัน ฉันถังแตกสุด ๆ ฉันจ่ายแม้แต่ค่าอาหารสำหรับเดือนนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้านายต้องแย่งหนังสือสกิลกับฉัน ฉันจะไปกินข้าวที่บ้านนาย”

ซือเยี่ยจิ๋งใส่หนังสือสกิลหวดลงในกระเป๋าของเธอ เธอเริ่มบ่นเกี่ยวกับความยากจนของตัวเอง และขู่เขาราวกับว่ากลัวว่าอีกฝ่ายจะแย่งมันไป

แม้แต่หนังสือสกิลระดับทั่วไปก็สามารถขายได้หลายร้อยหยวน มันเป็นรายได้จำนวนมากทีเดียว

เซียวเฟิงเอาให้เธอไป ยังไงมันก็เป็นหนังสือสกิลสำหรับนักรบอยู่ดี ซึ่งไม่มีประโยชน์สำหรับชายหนุ่มเองอยู่แล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะย้อนเถียงเธอ

“เหรียญทองที่ได้จากการฆ่ามอนสเตอร์และผ่านดันเจี้ยนก็น่าจะพอสำหรับเธอแล้วนี่”

“นายคิดว่าคนอื่น ๆ เป็นตัวละครที่ไม่ได้สังกัดกิลด์เหมือนนายหรือไง? ตอนที่ฉันทำงานกับกิลด์ ทุกสิ่งที่ดร็อปมาจากมอนสเตอร์จะเป็นของกิลด์ ไม่ว่าจะเป็นการลงดันเจี้ยนหรือการรวมปาร์ตี้เก็บเลเวล ถ้าฉันต้องการของสวมใส่และหนังสือสกิล ฉันต้องแลกด้วยแต้มความดีของกิลด์”

ซือเยี่ยจิ๋งกลอกตา สิ่งที่หญิงสาวเพิ่งพูดออกไปคือเหตุผลที่ทำไมเธอถึงฉายเดี่ยวและร่วมทีมกับเซียวเฟิง

“แล้วทำไมเธอถึงเข้ากิลด์เล่า?”

เซียวเฟิงทำสีหน้าที่บ่งบอกว่าซือเยี่ยจิ๋งต้องรับผลของการกระทำของเธอเอง ยิ่งกิลด์ใหญ่เท่าไหร่ กฎเกณฑ์ก็จะยิ่งเข้มงวดมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นผู้เล่นชั้นยอดและผู้เล่นระดับสูงหลายคนจึงเลือกเป็นตัวละครไร้สังกัด

“ฉันต้องช่วยลูกพี่ลูกน้องของฉัน เธอดูแลฉันดีมาก ของสวมใส่ส่วนใหญ่ของฉันเธอก็เป็นคนซื้อมา นอกจากนี้ เธอยังให้ฉันยืมเงินไปซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางด้วยนะ” เมื่อพูดถึงหลิวเฉียงเหว่ย ซือเยี่ยจิ๋งก็พูดค่อนข้างให้เกียรติเธอ เห็นได้ชัดว่าหลิวเฉียงเหว่ยเป็นคนที่น่านับถือมากในใจของเธอ

“เธอมีเงินซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารเหรอ?”

“ฉันไม่ตายเพราะอดข้าวสักมื้อสองมื้อหรอกแถมยังรักษาหุ่นได้ด้วย แต่ฉันจะตายแน่นอนถ้าฉันไม่ซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง”

“’งั้นก็สมควรแล้ว!”

“ยังไงก็เถอะ ฉันไปกินข้าวเย็นที่บ้านนายได้ไหม? ถ้าได้… ฉันจะอดมื้อกลางวันไว้เพื่อมื้อเย็นเลย”

“ไปให้พ้นเลย!”

“นายขี้เหนียวและไม่แมนเลย นายรู้ไหมว่าผู้ชายของมหาวิทยาลัยเซี่ยอยากเลี้ยงมื้อเย็นฉันกันตั้งกี่คน? ฉันให้โอกาสนายแล้ว นายก็ยังไม่คว้ามันไว้ เจ้าโอตาคุ! นายจงเป็นโสดอยู่อย่างนี้เถอะ”

“ไปให้พ้น!”

พวกเขาทะเลาะกันในขณะที่ตามหามอนสเตอร์ในป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึก ในขณะเดียวกัน การประมูลที่จัดขึ้นในอาคารหลักของร้านค้ามหาสมบัติในเมืองเทียนหลงก็เริ่มขึ้นเช่นกัน

“นี่เป็นไอเทมที่ขึ้นประมูลชิ้นแรกสำหรับวันนี้ หินมิติ ราคาตั้งต้นสำหรับหินมิติ 10 ก้อนคือ 1,000 เหรียญทอง และราคาที่เพิ่มขึ้นต้องมากกว่า 10 เหรียญ ตอนนี้การประมูลได้เริ่มขึ้นแล้ว”

หลังจากกล่าวเปิดสั้น ๆ การประมูลที่มีเฉียนโตวโตวเป็นประธานก็เริ่มขึ้นเช่นกัน

“หินมิติ? มันคืออะไร? วัตถุหายากเหรอ?”

“ฉันไม่รู้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

“ดูเหมือนว่าจะใช้สำหรับเปิดช่องเก็บของ ฉันเคยได้ยินเรื่องนี้จาก NPC ในภารกิจ”

เมื่อไอเท็มประมูลชิ้นแรกขึ้นแสดง ผู้เล่นทุกคนที่เข้าประมูลต่างก็ประหลาดใจ หลายคนไม่รู้ว่าหินมิติมีไว้เพื่ออะไรและรู้สึกสับสนกับคุณสมบัติของหินมิติที่แสดงบนเวที

อย่างไรก็ตาม พวกเขารู้อยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือ ทุกสิ่งที่มีคุณสมบัติเหมาะสมพอที่จะมาแสดงในงานประมูลที่อาคารหลักของร้านค้ามหาสมบัติจะต้องมีค่าแน่นอน

“อะไรนะ! มันคือหินมิติงั้นเรอะ! แน่ใจนะ?”

มีเพียงตัวแทนของกิลด์ต่าง ๆ เท่านั้นที่ตะโกนด้วยความประหลาดใจ

สำหรับการประมูลครั้งนี้ นอกเหนือจากอาร์ติแฟกต์ที่เป็นไอเทมที่ดีที่สุดและอยู่ท้ายสุดแล้ว เฉียนโตวโตวก็ไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลใด ๆ ของไอเทมอื่น ๆ ในฟอรั่มเลย ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่จึงไม่รู้ว่าไอเทมอื่น ๆ คืออะไรบ้าง

แต่เมื่อหินมิติปรากฏขึ้น มันก็ได้กระตุ้นความตื่นเต้นในหมู่กิลด์ต่าง ๆ

นอกจากนี้ ความตื่นเต้นก็มีอยู่แต่ในหมู่กิลด์ใหญ่เท่านั้น เพราะกิลด์เล็ก ๆ ไม่รู้จักการใช้หินมิติ

เฉพาะกิลด์ใหญ่ที่ตั้งค่ายแล้วเท่านั้นที่รู้ความหมายและคุณค่าของหินมิติ

ค่ายของกิลด์นั้นเป็นรากฐานของกิลด์ มันไม่ได้ใหญ่โตตั้งแต่ก่อตั้ง แต่ด้วยความพยายามร่วมกันของสมาชิกในกิลด์ทั้งหมด ค่ายนี้มีเป้าหมายที่จะกลายเป็นเมืองหลัก

อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาต้องการพัฒนาและยกระดับค่ายกิลด์ การก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เช่น โกดังกิลด์ จุดเทเลพอร์ตของกิลด์ เป็นต้น

และหินมิติก็เป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างจุดเทเลพอร์ตของกิลด์ เรื่องนี้เป็นที่รู้กันเฉพาะกิลด์ใหญ่ที่ก่อตั้งค่ายกิลด์แล้วหรือกำลังทำงานเพื่อสร้างค่ายกิลด์เท่านั้น ผู้เล่นธรรมดาและกิลด์ขนาดเล็กไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้เรื่องนี้เลย

จุดเทเลพอร์ตของกิลด์เป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญที่สุดในค่ายกิลด์ ตอนนี้ จุดเทเลพอร์ตของกิลด์ทั้งหมด รวมทั้งของกิลด์มิดซัมเมอร์และของกิลด์ไดนัสตี้ ถูกยืมมาจากระบบ ค่าเช่าก็ค่อนข้างแพง ทุกครั้งที่สมาชิกกิลด์ใช้จุดเทเลพอร์ตของกิลด์จะต้องจ่ายค่าเทเลพอร์ตเข้าระบบ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการสร้างจุดเทเลพอร์ตของกิลด์ของตัวเอง แต่พวกเขาขาดวัตถุดิบหลัก และวัตถุดิบหลักนั่นก็คือหินมิติ!