เมื่อซูฉิงกำลังสงสัย ประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง และชายร่างสูงเรียวสวมเสื้อคลุมสีดำก็ก้าวผ่านประตูเข้ามา
ทันทีที่ซูฉิงลืมตาขึ้น เธอก็พบกับดวงตาที่เย็นชาอย่างคาดไม่ถึง
เป็นเขา！
ผู้ชายที่เธอเจอที่สนามบิน
เขาก็คือหลี่เฉิงหยางประธานของBPL
และชายวัยกลางคนที่ตามหลังหลี่เฉิงหยางกลับกลายเป็นหลินเจียต้ง!
ซูฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย หลินเจียต้งเกี่ยวข้องกับหลี่เฉิงหยางตั้งแต่เมื่อไหร่?
ก่อนหน้านี้ที่เธอและฮ่อหยุนเฉิงโดนซุ่มโจมตี เกี่ยวข้องกับหลินเจียต้งหรือไม่?
ฮ่อหยุนเฉิงได้สืบสวนมานานแล้ว แต่ยังไม่พบหลักฐานที่แน่ชัด
ถ้าเป็นหลินเจียต้งทำมันจริง ๆ แต่กับไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ เรื่องนี้ก็ไม่ง่ายเลย
แต่ถ้าหลินเจียต้งต้องการยึดอำนาจโดยใช้ประโยชน์จากการหายตัวไปของฮ่อหยุนเฉิง นั้นคงเป็นหลักฐานแน่นหนา
นั่นคือคุณปู่ฮ่อคงใจอ่อนและปล่อยให้หลินเจียต้งไป
นึกไม่ถึงว่าตอนนี้หลินเจียต้งจะหันไปร่วมมือกับหลี่เฉินหยางอีกครั้ง และหันปืนไปที่ฮ่อกรุ๊ป
หลินเจียต้งทำงานให้กับฮ่อกรุ๊ปมานานกว่า 20 ปีและรู้จักการดำเนินงานของฮ่อกรุ๊ปเป็นอย่างดี
ตอนนี้หลินเจียต้งร่วมมือกับBPL ซึ่งไม่ดีสำหรับฮ่อกรุ๊ป
พิธีกรก้าวขึ้นไปบนเวที กระแอมเบา ๆ และกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับสู่การประชุมประมูลโครงการอ่าวเป๋ยไห่ ต่อไปนี้จะขอเชิญแต่ละบริษัทออกมาบรรยายแนะนำแผนของแต่ละบริษัทสำหรับโครงการอ่าวเป๋ยไห่”
เมื่อผู้ดำเนินงานกล่าวเรียก ฮ่อกรุ๊ป ซูฉิงก็เดินไปที่เวทีด้วยความมั่นใจ
“แผนของฮ่อกรุ๊ป สำหรับโครงการอ่าวเป๋ยไห่ คือการสร้างสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ อย่างที่เราทราบกันดีว่าเมือง A เป็นจุดอ่อนในพื้นที่นี้มาโดยตลอด และไม่มีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ของเราเอง แผนของเราคือการสร้างสวนสนุกระดับโลก…” ซูฉิงเริ่มพูดด้วยรอยยิ้มที่ดี
ฮ่อหยุนเฉิงนั่งบนที่นั่ง ดวงตาลึกของเขาจับจ้องไปที่ผู้หญิงที่มั่นใจบนเวที
เธอยังคงเหมือนเดิม นิ่ง สงบ มั่นใจ และสง่างาม
งดงามจนทำให้คนละสายตาจากไม่ได้
เมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงจ้องมองที่ซูฉิงชั่วขณะหนึ่งด้วยความนุ่มนวลในดวงตาของเธอที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน หัวใจของถังรั่วอิงก็ปั่นป่วนด้วยความหึงหวงไม่มีที่สิ้นสุด
เธอแอบกำหมัดและจ้องไปที่ซูฉิง
ซูฉิง เธอภูมิใจได้อีกไม่นานหรอก!!
อีกไม่นาน ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าฉันเก่งแค่ไหน!
สายตาที่ชั่วร้ายในดวงตาของถังรั่วอิง
ถึงเวลานั้นเธอจะทำให้ซูฉิงเสียชื่อเสียงและทำให้ฮ่อหยุนเฉิงขับไล่เธอออกจากฮ่อกรุ๊ป!
สองชั่วโมงต่อมา ผู้ดำเนินงานกล่าวสิ้นสุดการประชุม “ทุกฝ่ายได้แนะนำแผนของตนแล้ว และอีกสองวันต่อมา เราจะจัดประชุมประกวดราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะประกาศราคาเสนอต่ำสุดของแต่ละบริษัท และผู้เสนอให้ราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล”
กลับมาที่ฮ่อกรุ๊ป ฮ่อหยุนเฉิงเรียกซูฉิงไปที่ห้องทำงานของผู้บริหาร
“คำนวณราคาเสนอให้เร็วที่สุด” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวเบาๆ
ซูฉิงพยักหน้า “ค่ะ”
กลับมาที่ที่นั่งของเธอ ซูฉิงหมกมุ่นอยู่กับงานและทำงานหนัก เพื่อคำนวณราคาเสนอในส่วนแรกออกมา
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ซูฉิงเดินออกจากอาคารฮ่อกรุ๊ป และกำลังจะกลับไปที่เฉิงตงฮวาหยวน
จู่ๆก็มีรถมาจอดตรงหน้าเธอ
บอดี้การ์ดชุดดำสองคนลงจากรถและเดินไปที่ด้านข้างของซูฉิง “คุณซู นายน้อยของเราได้เชิญคุณไปพบ”
ซูฉิงเหลือบมองพวกเขาอย่างไม่ถี่ถ้วนนักและพูดเบา ๆ “นายน้อยของพวกคุณคือใคร?”
“ฉันเอง” กระจกรถค่อยๆ เลื่อนลงมา ใบหน้าหล่อเหลาที่มีผิวสีขาวเหมือนข้าวสาลีก็ปรากฏขึ้นในสายตาของซูฉิง ด้วยความภาคภูมิใจและไม่แยแสเล็กน้อย
“หลี่เฉิงหยาง?” เมื่อมองไปที่ชายที่นั่งเบาะหลังของรถ ซูฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทำไมถึงเป็นเขา?
“คุณซู กรุณาขึ้นรถ!” บอดี้การ์ดทั้งสองก้มลงขอร้อง
ซูฉิงคิดอยู่สองวินาทีแล้วก้าวเข้าไปในรถ
เธอต้องการดูว่า ยาที่หลี่เฉิงหยางจะขายนั้นคือยาอะไร
“มาหาฉันมีเรื่องอะไร?” ซูฉิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองไปด้านข้างที่หลี่เฉิงหยางและถาม
หลี่เฉิงหยางหรี่ตาเล็กน้อย มองที่ซูฉิงด้วยสายตาที่มีอะไรแอบแฝง “ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะเชิญคุณซูไปทานอาหารเย็นก็เท่านั้น คุณคงจะให้เกียรติใช่ไหม”
การจ้องมองของเขาเหมือนกับเสือชีตาห์ที่จ้องไปที่เหยื่อของมัน ซึ่งทำให้ซูฉิงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ซูฉิงมองเข้าไปในดวงตาของเขาและพยักหน้าเบา ๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลี่เฉิงหยางพาซูฉิงไปที่โรงแรมหรู “คุณซู เชิญครับ”
ซูฉิงตามหลี่เฉิงหยางและเดินเข้าไปในห้องอาหาร
“คุณหลี่ คุณมาหาฉัน มันคงไม่ใช่แค่การเชิญฉันไปทานอาหารเย็นใช่ไหม?” ซูฉิงนั่งลงและถามอย่างตรงไปตรงมา
หลี่เฉิงหยางขมวดคิ้ว “คุณหญิงซู คุณเคยช่วยชีวิตผมไว้ แค่เลี้ยงข้าวคุณมันคงไม่มากเกินไปหรอกใช่ไหม?”
ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบเช็คออกมาแล้วยื่นให้ซูฉิง “เงินนี้สำหรับขอบคุณคุณซู”
“ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย ใครๆ ก็ทำได้” ซูฉิงผลักเช็คกลับมาอย่างใจเย็น
เมื่อเห็นการปฏิเสธของซูฉิง หลี่เฉินหยางก็ขมวดคิ้ว “ในเมื่อคุณซูปฏิเสธที่จะยอมรับ ผมก็คงไม่บังคับ อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่าจะได้เป็นเพื่อนกับคุณซู”
“คุณและฉันมีตำแหน่งที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าคงเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ขอบคุณสำหรับอาหารค่ำวันนี้” ซูฉิงลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตูห้องอาหาร
บอดี้การ์ดที่ประตูเอื้อมมือออกไปและหยุดซูฉิง “คุณซู กรุณานั่งลง”
ดวงตาของซูฉิงแสดงถึงความหนักแน่น และเธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ไปให้พ้น!”
เสียงของซูฉิงไม่ดัง แต่มีพลังทะลุทะลวงได้ บอดี้การ์ดทั้งสองมองหน้ากัน เมื่อได้ยินเสียงที่เย็นชาของหลี่เฉินหยาง”ปล่อยคุณซูไป”
“ครับ คุณหลี่!” บอดี้การ์ดทั้งสองยืนเคียงข้างกันเพื่อเคลียร์ทางทันที
ซูฉิงเดินออกจากโรงแรมและกลับไปที่เฉิงตงฮวาหยวน หลังจากเข้าประตูชุมชนแล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทันที
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วมองลงไปก็พบว่าเป็นโทรศัพท์ของแอนโธนี่
“แอนโธนี่ มีอะไรใหม่เกี่ยวกับถังรั่วอิงไหม?” ซูฉิงจับโทรศัพท์ของเธอแน่นและรับสาย
แอนโธนี่ตอบว่า “พี่เอด้า เดาสิว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน”
ซูฉิงขมวดคิ้ว “บอกมาเลย!”
แอนโธนี่หัวเราะออกมาดัง ๆ “คุณมองขึ้นไปสิ”
ซูฉิงเงยศีรษะขึ้นโดยไม่รู้ตัว ก็มีคนกระโดดขึ้นมาจากแปลงดอกไม้ข้างถนน เด็กหนุ่มรูปร่างปานกลาง ย้อมผมสีเหลือง และเป็นคนเจ้าเล่ห์นิดๆ มองเธอด้วยรอยยิ้มครึ่งหนึ่ง
“แอนโธนี่ ทำไมคุณถึงมาที่เมือง A ล่ะ?” ซูฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
แอนโธนีเลิกคิ้ว แสร้งทำเป็นไม่พอใจ “ทำไมพี่เอด้าไม่ต้อนรับฉัน”
ซูฉิงวางสาย วางโทรศัพท์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายว่า “คุณไม่ได้เดินทางไปทั่วโลกหรือ?”
“ดังนั้นฉันจึงเดินทางไปที่เมือง A และแวะมาพบพี่เอด้า” แอนโธนีเยาะเย้ยที่มุมริมฝีปากของเขา
ซูฉิงเลิกเปลือกตาขึ้น “บอกความจริงมาเถอะ!”
ตามที่เธอรู้จักกับแอนโธนี การปรากฏตัวของเขาไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ทันทีที่เขาเดินเข้าไปที่ประตู แอนโธนี่เลิกยิ้ม และเสียงของเขาก็จริงจังขึ้น “พี่เอด้า ฉันพบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับถังรั่วอิง ฉันก็เลยมาหาพี่เป็นพิเศษ”