อี้เฉินเฟยคลุมเสื้อบางสีขาว สวมผ้าคลุมหน้า เดินปะปนกับทาสบำเรอคนอื่นๆ

ชุดขาวบางวับๆ แวมๆ แสดงรูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเขาออกมา

รูปร่างเขาสูงโปร่ง บุคลิกโดดเด่น มีกลิ่นอายสุภาพ แม้จะยืนอยู่ในกลุ่มคนก็ยังเป็นที่ดึงดูดในแวบเดียว

กู้ชูหน่วนสวมชุดกระดูก สวมหน้ากากกระดูกที่ใบหน้า ในมือถือธงที่ปักดอกหลันฮวาคันหนึ่ง กุมตัวเหล่าทาสบำเรอให้เดินไปข้างหน้า

ระหว่างทางนางกลั้นหัวเราะตลอด สายตาหยอกเย้าทอดบนตัวอี้เฉินเฟยบ่อยๆ

อี้เฉินเฟยหน้าแดง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสวมชุดเผยผิวขนาดนี้ และเป็นครั้งแรกที่ถูกคนใช้สายตาเปิดเผยเช่นนี้มองมา

เขาเป็นคุณชายสามแห่งสำนักหรูเจีย และเป็นแบบอย่างผู้ร่ำเรียนในใต้หล้า อี้เฉินเฟยไม่กล้าคิดเลย ว่าหากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป คนทั่วหล้าจะมองสำนักหรูเจียอย่างไร

“ทาสบำเรอที่ยืนตรงกลางคนนั้นเหมือนว่าบุคลิกจะดีมาก”

“นั่นสิ ยกมือยกไม้ดูเป็นผู้ดี คงไม่ใช่คุณชายสูงศักดิ์คนไหนในพระนครหรอกกระมัง?”

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นว่าทาสบำเรอรอบนี้ไม่เลวทั้งนั้น หัวหน้ากองธงน่าจะพอใจ”

ตลอดทางที่ผ่านราบรื่นดีมาก เพียงแต่มีสายตามากมายทอดอยู่บนตัวเขา

อี้เฉินเฟยขุ่นเคือง ขณะกำลังจะเรียกกู้ชูหน่วนให้คิดหาวิธีอื่นปะปนเข้าไป ก็เห็นดวงตานางอมยิ้ม อารมณ์ดีถึงที่สุด

ครั้นเห็นนัยน์ตาเจือยิ้มของนาง

ไฟโทสะของอี้เฉินเฟยก็มอดไปทันที

ช่างเถอะ

ขอเพียงนางอารมณ์ดี จะอย่างไรก็ได้

เพราะ…

นางไม่ได้ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเช่นนี้มานานมากแล้ว

อารมณ์ยังไม่ผ่านพ้นไป เส้นสายตากู้ชูหน่วนก็ลดต่ำลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็ทอดอยู่ที่กลางเอวเขา

สมองอี้เฉินเฟยอื้ออึงทันที รีบเอามือบังไว้

นังเด็กนี่! บ้าไปแล้วหรือไร?!

เอาแต่จ้องตรงนั้นของเขาอยู่นั่นแหละ!

กู้ชูหน่วนกรอกตาขาวใส่

มีอะไรน่าปิดกัน?

ใส่เสื้อผ้าอยู่แน่ะ ไม่เห็นอะไรสักหน่อย!

แต่รูปร่างของอี้เฉินเฟยเหมือนจะไม่เลวจริงๆ ไขมันสักนิดก็ไม่มี

พอเทียบกับเย่จิ่งหานได้

แต่ขี้เหนียวเกินไป ดูนิดหนึ่งก็ไม่ได้

ด้านในหอเจ็ดชั้นแห่งหนึ่งในส่วนลึกของหอฉิวเฟิ่ง

อี้เฉินเฟยและคนอื่นๆ ถูกขังอยู่ในหอชั้นที่สาม ที่ขังอยู่ในนี้ล้วนเป็นทาสบำเรอของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ รอบนี้เป็นเพราะเป็นคนที่คัดสรรอย่างดี ดังนั้นจึงได้เกียรติเข้าอยู่ในชั้นสาม

การเฝ้าระวังในหอเข้มงวดมาก กู้ชูหน่วนใช้ความพยายามอย่างหนัก กว่าจะออกมาแล้วกลับเข้าไปใหม่ได้

นางเอามือกอดอก พิงอยู่ที่ข้างกำแพง มุมปากเผยรอยยิ้มชั่วร้าย ยิ้มมองอี้เฉินเฟยที่ยืนเป็นธรรมชาติท่ามกลางทาสบำเรอที่หดเป็นก้อนทั้งหลาย

“แหม สุดหล่อ รูปร่างไม่เลวนี่ แต่ไม่รู้ว่าทักษะด้านนั้นจะดีหรือเปล่า?”

อี้เฉินเฟยหน้าขมึงตึง ปิดส่วนนั้นไว้แน่น

“นังหนู เจ้ายังจะเชื่อไม่ได้กว่านี้อีกไหม? ยังไม่รีบหาเสื้อผ้าให้ข้าอีก!”

“อุ๊ย! มัวแต่ชื่นชมเรือนร่าง ลืมหาเสื้อผ้าให้ท่านไปเลย แต่รูปร่างท่านดีขนาดนี้ ใส่แบบนี้น่าชมจะตาย ข้าต่อไปท่านก็ใส่แบบนี้เลยเสียเถอะ สาวๆ ในพระนครต้องหลงหัวปักหัวปำแน่”

อี้เฉินเฟยมองไปรอบๆ แล้วกระชากผ้าม่านคลุมตัว พันจุดที่เผยออกของตัวเองให้มิดชิด

กู้ชูหน่วนถอนหายใจ “ไม่มีอาหารตาให้ดูแล้ว เฮ้อ!”

“เจ้าเนี่ยนะ!”

อี้เฉินเฟยดีดหน้าผากของนาง ทั้งโมโห ทั้งน่าขัน

บรรดาทาสบำเรอขดอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม พากันหวาดกลัวกู้ชูหน่วน

แต่จากการสนทนาของพวกเขา บรรดาทาสบำเรอก็ตงิดใจรู้สึกว่าพวกเขาไม่ใช่คนของเผ่าปีศาจ

หนึ่งในนั้นฮึดความกล้าเอ่ยวิงวอน “ขอร้องพวกท่านล่ะ ช่วยพวกเราด้วย”

กู้ชูหน่วนเดินขึ้นหน้า เอ่ยถาม “พวกเจ้าก็ถูกพวกเขาจับมาหรือ?”

“ใช่ พวกเขาใช้กำลังลักพาตัวเรามา จอมยุทธทั้งสอง พวกท่านช่วยพวกเราได้ไหม?”