ตอนที่ 551 ในเวลาต่อมา เขาก็รู้ความจริง! (9) / ตอนที่ 552 ในเวลาต่อมา เขาก็รู้ความจริง! (10)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 551 ในเวลาต่อมา เขาก็รู้ความจริง! (9) 

 

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของคุณนายใหญ่อวี๋ ในใจของอวี๋เยว่หานก็สงบนิ่ง 

 

 

ขมวดคิ้วมองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่ สื่อสายตาให้เธอ เห็นไหม คนที่ไม่เชื่อไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……”! 

 

 

โดนโจมตีอีกแล้ว 

 

 

เธอหน้าตาไม่เหมือนคนที่จะเป็นแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วหรือไง 

 

 

ทำไมเธอบอกไปตั้งหลายรอบ แต่ไม่มีใครคิดจะเชื่อคำพูดของเธอเลย 

 

 

อ๊าาาาา! 

 

 

เริ่มมีน้ำโหแล้วนะ…… 

 

 

ไม่เป็นธรรม! 

 

 

“เธอวางใจเถอะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีย่าคอยคุ้มครองเธออยู่” คุณนายใหญ่อวี๋เห็นหญิงสาวตัวแข็งทื่อไป จึงนึกว่าตัวเองพูดแทงใจดำ แล้วทำให้เธอเสียใจ จึงยิ่งปลอบเธออย่างรู้สึกสงสาร 

 

 

ใบหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่ แดงจนถึงขีดสุด 

 

 

พยายามเงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมกอดของคุณนายใหญ่อวี๋ มองไปที่ดวงตาของท่าน เอ่ยออกมาทีละคำ “คุณย่าคะ เรื่องที่หนูพูดเมื่อกี้มันคือเรื่องจริงนะคะ หนูไม่ได้เสียใจจนเสียสติ!” 

 

 

“……” 

 

 

เมื่อเห็นว่าท่านยังไม่ยอมเชื่อ เธอจึงหันไปดึงอวี๋เยว่หานเข้ามาอย่างร้อนรน “ไม่งั้นคุณย่าถามเขาสิคะ ถ้าเขาบอก คุณย่าคงยอมเชื่อใช่ไหม” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูดแล้วเอื้อมมือไปควานหาผลตรวจดีเอ็นเอที่อวี๋เยว่หานเพิ่งหยิบออกมาเมื่อครู่ 

 

 

หาเจอก็กำลังจะยื่นไปให้ท่านดู แต่คุณนายใหญ่อวี๋กลับลุกยืนขึ้นก่อน แอบลากอวี๋เยว่หานออกมา แล้วกระซิบเบาๆ 

 

 

“น่าสงสารจริงๆ เป็นเพราะแกเลย ทำเสี่ยวมู่มู่ของฉันสะเทือนใจจนบ้าไปแล้ว ตอนนี้หลงคิดว่าตัวเองเป็นแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วไปแล้ว ย่าจะบอกแกให้นะ ตอนนี้ห้ามมีอะไรไปกระทบกระเทือนใจเธอเด็ดขาด แกเล่นตามน้ำไปก่อน ปลอบให้เธอสงบลงก่อน แล้วค่อยโน้มน้าวให้เธอไปหาหมอ!” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……”!! 

 

 

ตอนนี้เธอจะเป็นบ้าจริงๆ แล้ว…… 

 

 

โมโหจนเป็นบ้า…… 

 

 

“ย่าครับ เธอพูดเรื่องจริง” ในที่สุดอวี๋เยว่หานก็เอ่ยพูดขึ้นนิ่งๆ ประโยคหนึ่ง ทำเอาคุณนายใหญ่อวี๋ถึงกับชะงักไป 

 

 

ระหว่างนั้น เขาก็หมุนตัวกลับ เดินไปหยิบผลตรวจดีเอ็นเอฉบับนั้นมาจากเหนียนเสี่ยวมู่ ส่งให้คุณนายใหญ่อวี๋ 

 

 

หญิงชราอ่านจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที 

 

 

หันไปมองหลายชายอย่างไม่แน่ใจ “ผลตรวจนี่ ของจริงเหรอ” 

 

 

“ครับ” อวี๋เยว่หานตอบรับเบาๆ 

 

 

ภายในห้องครัว เงียบงันไปชั่วขณะ 

 

 

เป็นความเงียบที่เกิดขึ้นอย่างน่ากลัวที่สุด 

 

 

คุณนายใหญ่อวี๋ยืนอยู่อย่างนั้น ใบหน้าที่ดูใจดีนั่น ปรากฏความซับซ้อนขึ้นมา 

 

 

นึกถึงเรื่องที่เธอด่าแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วไปมากมายเมื่อครู่ 

 

 

นี่มันน่ากระอักกระอ่วนจริงๆ! 

 

 

“หาแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วเจอแล้วเหรอ” คุณนายใหญ่อวี๋ถามอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ 

 

 

เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานยังคงพยักหน้า เธอก็ได้สติขึ้นมา 

 

 

“คือเสี่ยวมู่มู่จริงๆ เหรอ” 

 

 

“ครับ” คราวนี้ อวี๋เยว่หานให้คำตอบที่แน่ชัด 

 

 

เรื่องที่เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่มีแม่แท้ๆ นั้น เป็นปมในใจของคุณนายใหญ่อวี๋มาโดยตลอด เอาแต่กังวลว่าอวี๋เยว่หานจะดูแลแก้วตาดวงใจของเธอได้ไม่ดี 

 

 

ดังนั้น อวี๋เยว่หานจึงไม่คิดจะปิดบังท่านในเรื่องนี้ 

 

 

เมื่อได้รับคำตอบที่แน่ชัด สีหน้าของคุณนายใหญ่อวี๋ก็เปลี่ยนไปในทันที 

 

 

จับมือเหนียนเสี่ยวมู่ขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยปากพูดยิ้มๆ 

 

 

“ย่ารู้อยู่แล้ว เสี่ยวลิ่วลิ่วน่ารักขนาดนี้ แม่แท้ๆ ของเธอต้องเป็นผู้หญิงที่ดีแน่ๆ เลย!” 

 

 

“……” คุณย่า เมื่อครู่ท่านไม่ได้พูดแบบนี้นะคะ เมื่อกี้ท่านยังด่าว่าแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วใจดำอำมหิตอยู่เลย 

 

 

“ไอ้หยา ชาติที่แล้วตระกูลอวี๋ของเราต้องสะสมบุญมาเยอะแน่ๆ เลย นี่มันเรียกว่าอะไรนะ ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน ไม่มีทางได้เจอกันหรอก เสี่ยวมู่มู่ถูกฟ้ากำหนดให้มาเป็นสะใภ้ตระกูลอวี๋ของเรา!” 

 

 

“……” คุณย่าเมื่อกี้ท่านพูดไว้ว่า ชาติที่แล้วตระกูลอวี๋คงทำกรรมเอาไว้แน่ๆ เสี่ยวลิ่วลิ่วถึงได้มีแม่ที่ไม่รับผิดชอบแบบนี้ 

 

 

“เสี่ยวมู่มู่ ย่าชอบเธอ ชอบมาจากใจจริงๆ นะ!” 

 

 

  

 

 

 ตอนที่ 552 ในเวลาต่อมา เขาก็รู้ความจริง! (10) 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของคุณนายใหญ่อวี๋ อาการน้อยใจของเหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่มีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว 

 

 

คุณนายใหญ่อวี๋เอ็นดูเธอจริงๆ 

 

 

“ตอนนี้ดีแล้ว พวกเธอไม่มีอะไรต้องให้ตะขิดตะขวงใจอีก แล้วยังรออะไรอีกล่ะ” คุณนายใหญ่อวี๋นึกเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างออก ปล่อยมือของเหนียนเสี่ยวมู่ แล้วหมุนตัวเดินออกไปด้านนอก 

 

 

“พ่อบ้าน พ่อบ้าน เร็วๆ! ให้คนไปหาฤกษ์มาใหม่ เราจะเลื่อนงานหมั้นขึ้นมาอีก ยิ่งเร็วยิ่งดี……” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……”!! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะเดินตามออกไป แต่พอจะก้าวเท้าก็ถูกอวี๋เยว่หานดึงกลับไป 

 

 

“นั่งลง ทานข้าวเป็นเพื่อนผม” 

 

 

“……” ได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม เธอจึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องของอาหารเช้าอยู่ 

 

 

ก๋วยเตี๋ยวที่เธอลงมือทำเอง! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หันกลับไปมอง ก๋วยเตี๋ยวที่ทำเสร็จถูกวางไว้นานจนตอนนี้เส้นอืดหมดแล้ว 

 

 

ตอนนี้ ในชามเหลือแต่เส้นที่อืดอยู่ 

 

 

ใบหน้าเล็กหงอยลง 

 

 

เธออุตส่าห์ตั้งใจลุกขึ้นมาทำอาหารให้เขาทานตั้งแต่เช้า อยากทำเซอร์ไพส์ให้เขา 

 

 

ตอนนี้เหลือแต่ความนิ่งอึ้ง ไม่มีเซอร์ไพส์แล้ว 

 

 

ตอนนี้ขนาดก๋วยเตี๋ยวยังกินเข้าไปไม่ได้เลย…… 

 

 

“ฉันเอาอันนี้ไปทิ้ง แล้วจะให้พ่อครัวทำให้คุณใหม่นะ” เหนียนเสี่ยวมู่เอื้อมมือไปยกก๋วยเตี๋ยวขึ้นอืดสองชามนั่นขึ้นมา แต่มือกลับถูกชายหนุ่มจับไว้เสียก่อน 

 

 

“ไม่ต้อง ทานอันนี้แหล่ะ” ดวงตาสีดำขลับของอวี๋เยว่หานเป็นประกายเล็กน้อย เอ่ยขึ้นนิ่งๆ 

 

 

“แต่ว่ามันอืดแล้ว……” 

 

 

หญิงสาวยังไม่ทันจะพูดจบ อวี๋เยว่หานก็เอื้อมไปรับชามของตัวเองมา ถือตะเกียบแล้วลงมือรับประทานช้าๆ 

 

 

เส้นที่อืดทำให้รสชาติแย่มาก 

 

 

เละๆ นิ่มๆ ไม่จำเป็นต้องเคี้ยวเลยด้วยซ้ำ 

 

 

แต่ชายหนุ่มทานมันอย่างเอร็ดอร่อย คำแล้วคำเล่า ทำเอาคนที่มองอยู่ อดสงสัยไม่ได้ว่าก๋วยเตี๋ยวที่เขาทานชามนั้นมันวิเศษวิโสยังไง 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่นั่งลงตาม แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบชิม 

 

 

มันอร่อยแค่ในจินตนาการจริงๆ 

 

 

เส้นที่อืดแล้ว ไม่มีทางอร่อยไปได้ 

 

 

เป็นเพราะเธอเป็นคนทำเหรอ เขาถึงตัดใจเทมันทิ้งไปไม่ได้ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ใจสั่นเล็กน้อย อดกังวลกับกระเพาะของชายหนุ่มไม่ได้ กำลังจะบอกให้เขาหยุดกิน พอเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าเหลือแต่ชามเปล่าแล้ว 

 

 

ไม่ใช่แค่เส้น ขนาดน้ำซุปในชามยังไม่เหลือแม่แต่นิดเดียว 

 

 

ชายหนุ่มวางตะเกียบลง ดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดที่มุมปากของตัวเองด้วยท่วงท่าสง่างาม 

 

 

จากนั้นก็เงยหน้ามองมาที่เธอ 

 

 

“อิ่มแล้วเหรอ” 

 

 

“……” เธอทานไปแค่ไม่กี่คำ มัวแต่มองเขาทาน 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ก็กลัวว่าจะโดนบังคับให้ทานก๋วยเตี๋ยวในชามให้หมด จึงพยักหน้ารัวๆ อย่างไม่คิด “อิ่มแล้ว!” 

 

 

สิ้นเสียง ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ 

 

 

เอื้อมมือไปจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปที่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ ดึงเธอขึ้นมาแล้วหมุนตัวเดินไปด้านนอก 

 

 

เขาลากเธอกลับไปที่ห้องนอนโดยไม่พูดอะไรสักคำ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เห็นเตียงนอนใหญ่ในห้อง ก็ตกใจสั่นสะท้านไปทั้งร่าง มือเท้าเกาะอยู่ที่ตัวของอวี๋เยว่หานไม่ยอมลงไป “อวี๋เยว่หาน ฉันมีประจำเดือนอยู่นะ!” 

 

 

วินาทีต่อมา ก็โดนวางลงบนโซฟา 

 

 

เงาสูงใหญ่หมุนตัวกลับไปนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ 

 

 

ดวงตาดำขรึมมีแววจริงจัง 

 

 

ท่าทางแบบนี้ ทำเอาคนมองรู้สึกกลัว 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่หยิบหมอนมาใบหนึ่งเอามาบังไว้ทางด้านหน้า “อวี๋เยว่หาน คุณมีอะไรก็พูดมา อย่ามองฉันแบบนี้ ฉันกลัว!” 

 

 

สิ้นของเธอ ชายหนุ่มก็เอนตัวพิงไปด้านหลังเล็กน้อย ขายาวยกขึ้นมาไขว้ห้าง 

 

 

บรรยากาศที่เงียบสงบเกินไป ทำให้เส้นประสาทของคนตึงเครียดได้โดยง่าย 

 

 

ตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่แทบจะทนไม่ไหวนั้น ชายหนุ่มถึงเริ่มเอ่ยพูดขึ้น “คุณรู้ตอนไหน ว่าคุณคือแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว”