บทที่ 35 ปรมาจารย์ลงมือ!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

พลังสูงสุดของนักรบผู้เชี่ยวชาญคือ 1 ล้านจิน บวกกับพลังปราณ พวกเขาสามารถใช้พลังโจมตีได้ถึง 2 ล้านจิน

นี่คือพลังการต่อสู้สูงสุดของนักรบผู้เชี่ยวชาญทั่วไป!

เมื่อเทียบกับพลังการต่อสู้สูงสุดของนักรบผู้เชี่ยวชาญแล้ว เย่เทียนก็ยังด้อยกว่ามาก

อย่างไรก็ตาม เย่เทียนมีพรสวรรค์ในการรักษาระดับสุดยอด บวกกับทักษะดาบระดับทองแดงเงาสังหารเขาไม่ด้อยไปกว่านักรบผู้เชี่ยวชาญทั่วไป

“เงาสังหารเป็นทักษะดาบไว พลังโจมตีของเราก็ไม่ได้มากมายนัก นอกเสียจากว่าเราจะสามารถฝึกฝนเงาสังหารได้จนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ เงาสังหารก็เพียงพอที่จะเพิ่มพลังโจมตีให้เราได้อีกหลายเท่าถ้าเช่นนั้นเราจะสามารถใช้พลังโจมตีทําร้ายนักรบผู้เชี่ยวชาญได้”เย่เทียนคิด

อย่างไรก็ตามการที่จะฝึกทักษะดาบระดับทองแดงให้ถึงขั้นสมบูรณ์แบบนั้นยากเกินไปเว้นเสียแต่ว่าเย่เทียนจะละทิ้งการบ่มเพาะและฝึกฝนทักษะดาบอย่างต่อเนื่องแต่นั่นเป็นไปไม่ได้

ตอนนี้นอกจากเขาจะคัดลอกพรสวรรค์ด้านดาบระดับสูงหรือพรสวรรค์ที่สูงกว่านั้น หรือได้รับทักษะดาบที่สามารถเพิ่มพลังโจมตีได้ นั้นอาจเพิ่มพลังการต่อสู้ของเขาอย่างมาก

“ทักษะดาบที่สามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้นั้นหายากมาก ก่อนหน้านี้เราเดินสํารวจตลาดมืดเป็นเวลานาน เราก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อน คงทําได้เพียงรอไป…”

เย่เทียนกล่าวกับตัวเองอย่างจนปัญญา

พลังการต่อสู้ที่พุ่งสูงขึ้นทําให้เย่เทียนตื่นเต้นมาก

แต่ตอนนี้เมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงแล้ว มันยังห่างไกล เขาจําเป็นต้องพัฒนาต่อไป

แน่นอนว่าเทียบกับเมื่อก่อนนั้น พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ยกตัวอย่างเช่น ทุกๆ 100 จิน จะเท่ากับเพิ่มพละกําลังของร่างกายขึ้นอีก 1,000 จินเนื่องจากเขามีพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับสูง หากเพิ่มพลังให้กับเงาสังหารอีกเล็กน้อยมันจะยิ่งน่ากลัวมากขึ้น

“ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเราอยู่ที่ 30,000 จิน ตราบใดที่เราไปถึงจุดสูงสุดของนักรบชั้นยอดเราก็สามารถเทียบได้กับพลังการต่อสู้สูงสุดของนักรบผู้เชี่ยวชาญ!”

แต่เย่เทียนรู้จุดอ่อนของตัวเองดี

ความเร็วของเขาด้อยลงเล็กน้อย

เนื่องจากพรสวรรค์ด้านความเร็วของเขาอยู่เพียงระดับเริ่มต้นเท่านั้น มันสามารถช่วยเขาเพิ่มความเร็วขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับระดับเดียวกันแล้วนับว่าไม่เลวแต่เมื่อเทียบกับระดับนักรบผู้เชี่ยวชาญมันต่างกันมาก

เย่เทียนตั้งเป้าหมายกับตัวเอง ในครั้งต่อไปที่เขาต้องเลือกพรสวรรค์เขาจะเลือกระดับปานกลางหรือสูงกว่านั้น

ภายในบ้าน เย่เทียนใช้เวลาหลายวันในการฝึกฝนก่อนที่จะออกไปสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์

ที่ร้านอาหารขนาดเล็ก

เย่เทียนและหมาป่าวายุกําลังพูดคุยกันอยู่ในห้องส่วนตัว

“หมาป่าวายุ ผมเก็บตัวฝึกฝนมาหลายวัน จึงไม่รู้เรื่องภายนอกเลย แผนการกวาดล้างสัตว์อสูรเป็นอย่างไรบ้าง?”

เย่เทียนถาม

หมาป่าวายุกล่าวว่า “น้องเย่เทียน ระดับของข้าต่าเกินไป ข้าจึงรู้ข้อมูลไม่มากนักรู้เพียงว่าครั้งนี้ฐานทัพทั้งสองต่างได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้แต่นักรบชั้นยอดที่ตายไปก็อาจจะมากกว่าห้าสิบคนรวมไปถึงนักรบผู้เชี่ยวชาญอีกสามคน! ”

“นักรบผู้เชี่ยวชาญตาย!!!”

เย่เทียนตกใจ

นักรบผู้เชี่ยวชาญมีพลังต่อสู้ระดับไหนกัน? มันเป็นกระสุนปืนใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์!แต่ถึงกระนั้นก็ยังตายไปถึง 3 คน!

ทันใดนั้นเขาก็ทอดถอนหายใจออกมา

เขาเดาว่าสาเหตุการตายของนักรบผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคนนั้นอาจจะเป็นเพราะมดจอมพลังระดับสูงไล่ตามพวกเขาไป

“แต่ข้าได้ยินข่าวลือบางอย่าง!” หมาป่าวายุกล่าวอย่างลึกลับว่า “ข้าได้ยินมาว่าฐานทัพระดับกลางนั้นโกรธมาก มันถึงกับทําให้ปรมาจารย์ท่านหนึ่งลงมือ! เดิมที่ข้าไม่รู้ว่าอะไรคือระดับปรมาจารย์แต่เมื่อได้ยินข่าวซุบซิบต่อไปข้าถึงได้รู้ว่าขอบเขตที่สูงกว่านักรบผู้เชี่ยวชาญนั้นเรียกว่าปรมาจารย์! ”

“ปรมาจารย์ลงมือ? แล้วผลลัพธ์ล่ะ? ”

เย่เทียนอยากรู้อยากเห็น

“ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่เดาว่าคงชนะแล้ว มันเป็นถึงระดับที่สูงกว่านักรบผู้เชี่ยวชาญมดพลังจอมพลังเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับสูงมันจะต่อกรกับตัวตนระดับนั้นได้อย่างไร!” หมาป่าวายกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เย่เทียนพยักหน้าเงียบๆ

แม้ว่ามดจอมพลังที่เป็นสัตว์อสูรระดับสูงจะมีพลังโจมตีที่แข็งแกร่ง แต่มันก็ยังด้อยกว่าระดับปรมาจารย์อยู่เล็กน้อย อีกทั้งมันยังมีข้อบกพร่องใหญ่อยู่นั่นคือปฏิกิริยาตอบสนองและความเร็วในการตอบสนองของมันด้อยกว่าระดับปรมาจารย์มาก

ตราบใดที่ปรมาจารย์คนนั้นไม่โง่พอ เขาก็สามารถฆ่ามดจอมพลังสัตว์อสูรระดับสูงได้

และมันก็เป็นความจริง

สองวันต่อมาก็มีข่าวมาแพร่กระจายออกมา

รังมดจอมพลังถูกกวาดล้าง ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดถูกทําลาย ภารกิจกวาดล้างสัตว์อสูรคงดําเนินต่อไป

เนื่องจากเย่เทียนและคนอื่นๆ ทําภารกิจสําเร็จแล้ว พวกเขาจึงไม่จําเป็นต้องออกไปข้างนอกอีก

ในพริบตา สิบวันผ่านไป ภารกิจกวาดล้างสัตว์อสูรเสร็จสิ้นแล้ว สองฐานได้เปิดช่องทางการค้าขึ้นชั่วคราว

อย่างไรก็ตามสัตว์อสูรเคลื่อนที่อยู่เสมอ วันนี้อาจจะไม่มีสัตว์อสูร แต่ไม่นานอาจมีสัตว์อสูรก็จะอพยพเข้ามาอีกครั้ง

เรื่องนี้สําหรับทั้งสองฐานทัพ เส้นทางที่ถูกเปิดขึ้นคงความปลอดภัยไว้ชั่วคราวเท่านั้นหากจะผ่านก็จําเป็นต้องระมัดระวังให้มากอยู่ดี

อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่เย่เทียนจะยังไม่เข้าใจ แต่นักรบหลายคนก็ไม่เข้าใจว่าทําไมฐานทัพทั้งสองถึงใช้ความพยายามอย่างมากในการเปิดเส้นทางนี้

สําหรับฐานหลินไห่แล้ว การที่จะสามารถซื้อขายกับฐานขนาดกลางได้นั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่แล้วในฐานหลินไหมือะไรกัน?การค้าระหว่างฐานขนาดกลางและฐานหลินไห่ไม่ได้ส่งผลดีอะไรกับฐานขนาดกลางของพวกเขาเลย!

วันนี้

หมาป่าวายุส่งทรัพยากรบางส่วนไปที่บ้านของเย่เทียน ทรัพยากรส่วนใหญ่เป็นเลือดสัตว์อสูรเนื้อสัตว์อสูรและบัตรทองอีกหลายใบนี่เป็นรางวัลสําหรับภารกิจและส่วนแบ่งของการฆ่าสัตว์อสูร

สําหรับเย่เทียนในตอนนี้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายอะไร แต่เขายังคงยอมรับมัน

แม้เขาไม่ต้องการมัน แต่เย่หยุจะสามารถฝึกฝนได้เร็วๆ นี้ ทรัพยากรเหล่านี้จึงยังจําเป็นกับเย่หยู

เดิมที่เย่เทียนต้องการฝึกฝนอย่างเงียบๆต่อไป

แต่การมาเยือนของคนแปลกหน้ารบกวนชีวิตที่เงียบสงบของเย่เทียน

“คุณเป็นใคร?”

เย่เทียนมองไปที่ชายแปลกหน้าและถาม

“ท่านเยู่เทียน ข้าคือผู้ดูแลตระกูลโม่ โม่หยวน!”

โม่หยวนเป็นเพียงนักรบดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับเย่เทียนเขาจึงแสดงความเคารพขึ้นเล็กน้อย

“ตระกูลโม่ ? ”

เย่เทียนประหลาดใจ ปฏิกิริยาแรกของเขาคือตระกูลโม่ไม่ได้ค้นพบสาเหตุการตายของโม่เน่าเป่ยแล้วใช่หรือไม่?

แต่ในพริบตาเขาก็ปฏิเสธความคิดนี้

ถ้าหากตระกูลโม่ค้นพบมันจริงๆ คนที่มานั้นคงไม่ใช่นักรบแต่เป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญ

“ตระกูลโม่ของพวกคุณ มีเรื่องอะไรกับผม? ”

เย่เทียนสงสัย

“ผู้นําตระกูลของพวกเราต้องการเชิญท่านเย่เทียนมาเป็นแขกของตระกูลโม่ !” โม่หยวนกล่าว

เย่เทียนได้ยินคําพูดเหล่านี้ก็ไม่แสดงท่าที่ใดๆ แต่ในใจกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

ตระกูลโม่ได้เชิญเขาไปเป็นแขก ถ้าหากตระกูลโม่รู้ว่าเขาฆ่าโม่เฉาเปุ๋ยไปล่ะ พวกมันคงจะบ้าเป็นแน่

“ขอโทษด้วย ช่วงนี้ผมยังไม่สะดวกที่จะพบใคร!”

เย่เทียนปฏิเสธทันที

โม่หยวนที่เดิมที่เคารพนอบน้อมก็หน้าเปลี่ยนสีทันที “ท่านเย่เทียน ตระกูลโม่ของเรามีนักรบชั้นยอดหลายคนและท่านบรรพบุรุษของตระกูลเรายังเป็นนักรบผู้เชี่ยวชาญการคบหากับตระกูลโม่ของเราย่อมมีประโยชน์ต่อท่านหากท่านล่วงเกินตระกูลโม่ของเราในอนาคตท่านคงยากที่จะก้าวไปไหนในฐานหลินไห่! ”

เย่เทียนเบิกตากว้าง เขาอยากจะถามว่า อะไรที่ทําให้มันมั่นใจจนกล้าที่จะข่มขู่นักรบชั้นยอด?

นักรบคนหนึ่งกล่าข่มขู่นักรบชั้นยอด ช่างกล้าหาญเกินไปแล้ว

“เจ้ากําลังข่มขู่ข้าหรือ?”

เย่เทียนกล่าวอย่างเย็นชา

พลังดาบได้พุ่งออกมาและแผ่กดทับโม่เหยวนทันที

ทันใดนั้นโม่หยวนก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล เหงื่อเย็นๆหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขา