ตอนที่ 35 อย่าดับฝัน

คุณแม่จ้าวที่อยู่ในชนบทกำลังพูดคุยเรื่องสัพเพเหระอยู่กับพวกพี่สาวน้องสาว แน่นอนว่าย่อมได้ยินเรื่องนี้ คุณแม่จ้าวถึงกับใจสั่นระรัว

เมื่อเช้านางเพิ่งบอกให้ลูกสะใภ้เล็กขยันและประหยัดอดออม บอกให้กลับไปช่วยควบคุมดูแลลูกชายด้วย แต่นี่กลับกลายเป็นว่า ลูกชายซื้อจักรยานกลับมาหนึ่งคัน

นางมีความคิดแบบเดียวกับคนในหมู่บ้าน คุณแม่จ้าวก็คิดว่าลูกชายของตนเองใช้เงินฟุ่มเฟือย ต่อให้คิดอยากจะค้าขาย เดินเท้าก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ? ยังต้องซื้อจักรยานอะไรอีก นี่จะทำเงินได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย!

“นังเด็กซิ่วจือนั่น รอให้กลับมาช่วงปีใหม่ก่อนเถอะคอยดูว่าจะถูกฉันด่าหรือเปล่า!” คุณแม่จ้าวรีบกลับบ้านไปพลางก็พูดด้วยความโมโหไปพลาง

ซิ่วจือมีชื่อเต็ม ๆ ว่าจ้าวซิ่วจือ ก็คือพี่สาวใหญ่จ้าวนั่นเอง

น้องชายก่อเรื่อง คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะให้ท้ายไปด้วย แถมยังซื้อจักรยานกลับบ้านมาอีกหนึ่งคันจริง ๆ

 

เมื่อวานกินบะหมี่กับหมั่นโถวขาว วันนี้ยังจะซื้อจักรยานอีก คุณแม่จ้าวคิด ๆ ดูแล้วก็เจ็บหัวใจเสียเหลือเกิน

ในเวลานี้ทุกคนต่างก็หาเงินกันแสนยากเย็นแล้ว ตอนที่คุณแม่จ้าวกลับมาถึง คนในบ้านก็ยังปกติกันอยู่

คุณพ่อจ้าวกำลังนั่งสานเล้าไก่อยู่ในห้องเงียบ ๆ พี่รองจ้าวมองจ้าวเหวินเทาที่กำลังเช็ดรถจักรยานสุดที่รักด้วยผ้าขี้ริ้วพลางทอดถอนใจ

พี่สะใภ้รองและพี่สะใภ้สามพาต้าหยาและเอ้อร์หยาไปเก็บข้าวโพดแล้ว

ส่วนเถี่ยต้าน หลูต้านและหม่าต้านกำลังห้อมล้อมรอบจักรยานของอาหกด้วยความตื่นเต้นเป็นพิเศษ

ส่วนพี่สามจ้าวกำลังมัดเชือกฟางไปพลางรอดูฉากชวนปวดหัวไปพลาง

คนที่คิดแบบเขาเช่นนี้ก็มีไม่น้อย ภายในหมู่บ้านต่างก็กำลังรอดูฉากชวนปวดหัวอยู่ แต่จ้าวเหวินเทากลับไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

เขารอให้ภรรยาของตนเองกลับมา จ้าวเหวินเทาอยากจะอวดภรรยาของเขาสักหน่อย แต่ยังไม่ทันได้อวดภรรยา แม่ของเขาก็เดินกระฟัดกระเฟียดกลับมาแล้ว

 

“โอ้โห ทำไมวันนี้แม่ของผมสวยขนาดนี้เนี่ย? นี่ถ้าอายุน้อยกว่านี้สักหน่อย สิบลี้แปดหมู่บ้านจะมีใครเทียบแม่ของผมได้?” จ้าวเหวินเทารีบพูดด้วยรอยยิ้ม

 

คุณแม่จ้าวเดินกลั้นหายใจกลับมา ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าลูกชั่วคนนี้จะทำให้นางคลายโทสะทันทีที่เดินเข้าประตู

 

“ช่างคุยให้มันน้อย ๆ หน่อย รถคันนี้มันอะไรกัน?” คุณแม่จ้าวแสร้งทำเป็นจ้องเขม็งใส่เขา

“แม่ รอให้ผมทำเงินได้แล้วทดแทนบุญคุณแม่เถอะ แม่ต้องเชื่อใจในตัวลูกชายของแม่คนนี้นะ ต่อให้คนอื่นบอกว่าลูกชายของแม่ทำไม่ได้ แต่แม่ต้องก้าวเท้าออกมา มายืนอยู่ข้าง ๆ ผมและภรรยาของผมแล้วพูดว่าผมทำได้ ถูกต้องไหมครับ?” จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิ้ม

คุณแม่จ้าวยังจะพูดอะไรได้อีก? นางทนไม่ไหวที่จะมองไปทางเย่ฉูฉู่

เย่ฉูฉู่เห็นสายตาเป็นกังวลคู่นั้นของแม่สามี คงกังวลว่าทั้งสองจะทะเลาะกัน เธอจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันเชื่อใจเหวินเทา เขาต้องทำได้แน่นอนค่ะ!” ระหว่างที่พูด เธอก็หันไปมองจ้าวเหวินเทาด้วยดวงตาเป็นประกาย

จ้าวเหวินเทาตัวลอยจนไม่ไหวแล้ว เขาหันไปพูดกับแม่ว่า “แม่ฟังสิ นี่คือภรรยาของผม แม่ดูสิว่าหล่อนเชื่อใจผมขนาดไหน?”

 

คุณแม่จ้าวอดไม่ได้ที่จะตีเขาไปหนึ่งที “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นแกก็ตั้งใจทำให้ดี อย่าทำให้ฉูฉู่ผิดหวัง แล้วก็อย่าทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังด้วย!”

เดิมทีนางกลับมาเพื่อสั่งสอนเขาสักรอบ แต่ตอนนี้จะทำอะไรได้ รถคันนี้ก็ซื้อมาแล้ว นางเองก็เข้าใจลูกชายคนเล็กดี ถึงอย่างไรก็ต้องทำอยู่แล้ว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าดับฝันด้วยการเอาน้ำเย็นไปสาด ให้เขาตั้งใจทำให้ดีก็แล้วกัน!

“ผมไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังอยู่แล้ว แม่ดูจักรยานคันนี้ของผมสิเป็นไงบ้าง? นี่โชคดีมากเลยนะ ไม่งั้นเงิน 90 หยวนไม่มีทางซื้อจักรยานดี ๆ แบบนี้ได้หรอก” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ก็ไม่เลว” คุณแม่จ้าวมองจักรยานที่ถูกผ้าเช็ดจนแวววับ คุ้มกับเงินราคา 90 หยวน ถ้าหากค้าขายนี้ไม่รุ่งรถก็ยังเปลี่ยนมือออกไปได้ ราคา 90 หยวนใช่ว่าจะไม่มีใครอยากได้

คิดเช่นนี้ คุณแม่จ้าวก็เบาใจขึ้นเยอะ

“อาหก พาพวกผมออกไปเที่ยวรอบ ๆ ได้ไหม?” เถี่ยต้านรู้สึกอิจฉามาก เขาจึงถามออกมา

หลูต้านกับหม่าต้านก็มองอาหกของพวกเขาอย่างรอคอยเช่นกัน

“ไม่ได้หรอก รถจักรยานคันนี้เป็นลูกรักของอาเลยนะ จะเอาไปขี่ตามอำเภอใจได้ยังไงกัน?” จ้าวเหวินเทาโบกมือปฏิเสธ

สามต้านผิดหวังมาก

“แต่หลังจากนี้ถ้าหากเช็ดจักรยานให้อาติดต่อกันสิบวัน อาก็จะพาพวกเธอออกไปเที่ยวรอบ ๆ ไปทางฝั่งลานตากทางนู้น” จ้าวเหวินเทากล่าว

ทั้งสามต้านจึงตื่นเต้นโดยพลัน และยังรับปากว่าหน้าที่เช็ดรถหลังจากนี้ปล่อยให้พวกเขาจัดการ พวกเขาจะเช็ดให้สะอาดเป็นพิเศษเลย!

  

เย่ฉูฉู่มองสามีตัวเองก็แอบรู้สึกอยากหัวเราะ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขายังไม่โตนะ?

จ้าวเหวินเทายิ้มตาหยี “ภรรยา กลับมาแล้วเหรอครับ? ไป พวกเราเข้าห้องกัน”

 

เย่ฉูฉู่เดินตามเขากลับมา จ้าวเหวินเทานำซาลาเปาไปวางไว้ในห้องก่อนหน้านี้แล้ว แน่นอนว่ายังมีครีมโหยวอี้ด้วย

 

“ผมถามพนักงานขายที่เคาน์เตอร์แล้ว หล่อนบอกว่าแบบนี้ใช้ดีที่สุด หอมเป็นพิเศษด้วย ผมก็เลยซื้อมาแบบนี้มา คุณลองดูสิครับว่าเป็นยังไง” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่จึงเปิดกระปุกออก เมื่อได้ดมก็พบว่ากลิ่นไม่เลวเลยจริง ๆ

จ้าวเหวินเทาเห็นเย่ฉูฉู่ยิ้มก็เบาใจ จากนั้นจึงเริ่มพูดกับเธอเกี่ยวกับเรื่องรถจักรยาน “ผมเห็นว่ามันไม่เลวเลยก็เลยซื้อมา วันนี้ผมไม่ได้เอาเงินไป ก็เลยให้พี่สาวใหญ่ช่วยออกให้ก่อน พรุ่งนี้เข้าเมืองค่อยเอาเงินไปคืนพี่สาวใหญ่นะครับ?”

 

“ก็ต้องคืนอยู่แล้วล่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่พยักหน้า “เงินของพวกเราอยู่ตรงไหนคุณก็รู้ พรุ่งนี้เช้าคุณตื่นมาก็หยิบไปเลยก็ได้”

 

จ้าวเหวินเทาหยิบเงินที่เหลือบนตัวออกมา วันนี้เขาก็ได้เนื้อมาไม่กี่ชั่งเพื่อไปขายในเมืองไม่ใช่เหรอ?

 

“ภรรยาคุณคงไม่รู้ มันขายดีมากเลยจริง ๆ นะ ป้าคนแรกอยากซื้อตั้งสามชั่ง แต่ผมไม่ได้ให้หล่อนไป” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ทำไมไม่ให้ล่ะคะ?” เย่ฉูฉู่ไม่เข้าใจ

“ก็ต้องไม่ให้อยู่แล้ว ผมไม่รู้ว่าราคานี้สูงหรือต่ำเกินไป ยังไงก็ต้องกระจายขายให้หลาย ๆ คนไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างคุณคงไม่รู้ ตอนนี้ในเมืองไม่มีใครสนใจเรื่องนี้แล้ว ผมได้ยินไช่ซื่อหู่พูดแบบนั้น ไม่แน่ปีนี้อาจจะมีเอกสารประกาศออกมาก็ได้” จ้าวเหวินเทากล่าว

  

“ฉันเห็นคนในหมู่บ้านวางแผนเลี้ยงไก่ในปีหน้าเยอะขึ้น บ้านเหล่าเฉินก็อุ้มลูกแกะกลับมาเลี้ยงด้วยล่ะค่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าว

  

ตอนที่เธอไปนั่งเย็บผ้าพูดคุยกับเฮ่อซงจือก็ไม่ได้ไปคุยเฉย ๆ เธอเองก็ได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในหมู่บ้านมาไม่น้อย

ก่อนหน้านี้แต่ละบ้านต่างก็เลี้ยงไก่กันอย่างจำกัด มีจำนวนมากก็ต้องตัดหางทิ้ง แตกต่างจากตอนนี้ที่ไม่มีใครพูดถึงสิ่งนี้แล้ว เป็นเพราะการจำกัดจำนวนถูกล้มไปเมื่อสองปีก่อนแล้ว

 

ทุกคนต่างก็ยังเหลือความกลัวอยู่ในใจก็เท่านั้น แต่นับตั้งแต่ปีนี้ ผ่อนปรนลงมากแล้วจริง ๆ

ยกตัวอย่างเช่นบ้านแม่ของเธอก็ใจกล้าไม่เบา ปีนี้เลี้ยงไก่ไปหลายสิบตัว ทั้งยังเป็นคนที่มีความกล้าหาญกลุ่มแรกด้วย นี่ก็นานแล้วยังไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นเลยแม้แต่น้อย

 

ทิศทางลมนี้ยังสามารถเห็นได้

จ้าวเหวินเทาแอบอิจฉา ลูกแกะเชียวนะ ลูกแกะหนึ่งตัวสามารถขายได้กี่หยวน? เนื้อทั้งนั้นเลย

“ตื่นเต้นใช่ไหมคะ? หรือคุณเองก็ไปซื้อกลับมาเลี้ยงสักตัวดีไหมคะ?” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“ไม่ดีกว่า พวกเรามีกระต่ายแล้ว อีกไม่กี่วันผมจะเอากรงกลับมา ถึงเวลานั้นก็ค่อยเลี้ยงแบบแยกกัน เออนี่ วันนี้แม่ไก่ออกไข่หรือเปล่าครับ?” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ออกไข่แล้ว คุณตาถึงนะคะ เลือกตัวที่ออกไข่ด้วย มีไข่ไก่ตั้งสองฟองแน่ะ” เย่ฉูฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

  

“แหงอยู่แล้ว ผมเลือกทั้งทีต้องไม่เลวอยู่แล้ว” จ้าวเหวินเทาขึ้นไปนอนบนเตียง พูดด้วยความดีใจถึงขีดสุด “หลังจากนี้อากาศก็หนาวแล้ว กลัวว่ามันจะออกไข่ได้ช้า ถ้าอยากจะกินไข่เกรงว่าคงต้องไปซื้อแล้วล่ะ”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

แทนที่จะโดนแม่ด่า แม่กลับสนับสนุนแฮะ เป็นคนคารมดีมันดีอย่างนี้นี่เอง

ไหหม่า(海馬)