ตอนที่ 493 รักทั้งสิ้น (3)
ก่อนที่สุดท้ายจะทนไม่ไหวจนต้องหันหลังและวิ่งหนีออกจากห้องไป!
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้เลยนั่นก็คือ หลังจากที่เธอได้วิ่งออกไปแล้ว ผู้เป็นแม่ที่หลับใหลอยู่ก่อนหน้านั้นกลับค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา!
เธอทอดมองไปยังทิศทางที่ลูกสาววิ่งจากไป ดวงตาสงบนิ่งคู่นั้นมองขึ้นไปบนเพดาน ก่อนจะปล่อยให้ธารน้ำตาหลั่งรินออกมาจากหางตาไม่ขาดสาย
สุดท้ายเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากใต้หมอน ก่อนจะกดไปหาใครบางคน
ทว่าในขณะนั้น สีหน้าของหลินสื่อเจียที่กำลังดูถ่ายทอดสดอยู่ก็พลันเปลี่ยนไป
หลังจากที่มีคนรับสายแล้ว เสียงที่ชัดเจนของอาจารย์ซื่อซือซินก็เปล่งดังขึ้น…
“สื่อเจีย…ฉันรู้ว่านายยุ่งอยู่ ฉันไม่ว่าอะไรนายหรอก…ฉันขอร้องอะไรกับนายอย่างหนึ่งได้ไหม…จี้อี้น่ะ…หลังจากที่ฉันจากไปแล้ว เธอก็จะเหลือตัวคนเดียว เธอไร้เดียงสาเกินไป และอ่อนต่อโลกมาก…
ฉันเองก็มองออกถึงความรู้สึกที่เธอมีให้กับนาย แต่ฉันไม่บังคับอะไรพวกเธอหรอก แต่ว่า ช่วยฉันดูแลเธอให้ดีๆ หน่อยจะได้ไหม…อย่าทำให้เธอต้องเสียใจไปมากกว่านี้…
จริงๆ แล้วเธอมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีมากเลยนะ แต่เพราะฉันเข้มงวดกับเธอเกินไป จึงไปจำกัดความสามารถของเธอ…ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ ช่วยชี้นำเธอแทนฉันด้วย ต่อไปเธอจะต้องเป็นนักดนตรีที่ยอดเยี่ยมได้แน่ๆ บางที เธออาจจะช่วยผ่อนแรงนายได้บ้าง…
สื่อเจีย ที่ผ่านมาฉันไม่เคยขอร้องใคร แต่ครั้งนี้ คิดว่าฉันขอร้องนายในฐานะที่เป็นอาจารย์ของนายก็แล้วกัน เธอต้องช่วยดูแลจี้อี้นะ ดูแลลูกสาวฉันให้ดีๆ…”
น้ำเสียงสั่นเครือกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่ สุดท้ายซื่อซือซินก็ปิดริมฝีปากที่สั่นเทาลงก่อนจะพยักหน้า แล้วเอ่ยคำว่า “ขอบใจมาก” ออกมาอย่างจริงใจแล้วจึงกดวางสายไป
ทันใดนั้นจี้อี้ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาจยับยั้งตัวเอง
เธอไม่เคยดูคลิปวีดีโอนี้มาก่อน นับตั้งแต่วันที่ผู้เป็นแม่จากไป เธอก็ปิดกั้นตัวเองมาตลอด กลัวว่ายิ่งได้เห็นสิ่งที่ทำให้ระลึกถึงท่าน จะยิ่งทำให้เธอไม่กล้าสู้หน้าท่าน ดังนั้นเธอจึงไม่เคยเปิดมันดูเลยแม้แต่สักครั้ง!
จนกระทั่งวันที่ประธานเฉินช่วยชีวิตเธอกลับมา หลังจากที่ประธานเฉินหามันจนเจอ เธอก็เปิดขึ้นมาดู
เธอรู้เพียงแต่ว่าผู้เป็นแม่มักจะเย็นชากับเธอเสมอ จนเธอเองก็ชินไปเสียแล้ว เธอไม่เคยแสดงความรู้สึกใดๆ ให้คนอื่นเห็น แต่นึกไม่ถึงเลย…
ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะไม่รู้อะไรเลย…
เธอรู้ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นเรื่องยากแค่ไหน เธอรู้ว่าในฐานะบุคคลสาธารณะ สิ่งที่ควรมอบให้ทุกคนคือพลังบวกและความกระตือรือร้น เธอรู้ดีว่าเวลาแบบนี้เธอไม่ควรจะร้องไห้ออกมา แต่ว่า…
เป็นไปได้ยังไง…
เป็นไปได้ยังไง…
เมื่อผู้คนสามหมื่นกว่าคนเบื้องล่างเวทีได้ดูคลิปวีดีโอนี้น้ำตาก็พลันไหลพราก!
แต่สิ่งที่บีบหัวใจไปยิ่งกว่านั้นในเวลานี้ กลับเป็นร่างผอมบางบนเวที
“สู้ๆ นะจี้อี้! เราจะสนับสนุนเธอตลอดไป!”
“เราจะเป็นแฟนคลับเธอไปตลอดชีวิต!”
“จี้อี้ สู้เขาน้าาา!”
“จี้อี้! จี้อี้! จี้อี้!!”
พวกเขากู่ร้องจนสุดเสียง เพื่อหวังจะปลอบประโลมเด็กสาวที่น่าเห็นใจคนนี้
จัตุรัสอิ๋นเหอสุดโอ่อ่าจึงได้กึกก้องไปด้วยเสียงร้องเชียร์
ที่ดังเป็นจังหวะพร้อมเพรียง แฝงไปด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่และไร้ที่สิ้นสุด!
ดังนั้นความสำเร็จของศิลปินคนหนึ่ง สุดท้ายก็หนีไม่พ้นแรงผลักดันและความรักจากแฟนๆ!
ทว่ามันยังไม่จบเพียงเท่านั้น จอภาพขนาดยักษ์ยังคงฉายภาพของอาจารย์ซื่อซือซินที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ ร่างของเธอหันออกไปทางหน้าต่างเล็กน้อย แสงแดดสาดส่องกระทบลงบนผิวกายของเธอ ซีกหน้าที่ดูอ่อนโยนทำให้เธอดูอบอุ่นได้ไม่น้อย
จี้อี้นั่งอยู่ตรงหน้าเปียโนด้วยสีหน้ากังวล
“แม่คะ ช่วงนี้หนูกำลังแต่งเพลงเพลงหนึ่งอยู่ หนูเล่นให้แม่ฟังดีไหมคะ”
อาจารย์ซื่อซือซินพยักหน้ารับเบาๆ
จี้อี้ถูนิ้วมือไปมาด้วยความประหม่า เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ไปหนึ่งครั้ง จากนั้นนิ้วทั้งสิบจึงเคาะลงไปบนแป้นของเปียโนอย่างบรรจง
แม้ว่าจะดูไม่ค่อยคล่องแคล่วนัก ซ้ำยังไม่มีเนื้อเพลง ทว่าแม้แต่ผู้ที่ไม่เข้าใจในเสียงดนตรีก็ยังฟังออกว่าเพลงในหน้าจอที่จี้อี้กำลังบรรเลงอยู่นั้นคือเพลง ‘โตวซื่ออ้าย’ (รักทั้งสิ้น) ชัดๆ!
ตอนที่ 494 ขอโทษ
แม้ว่าจะดูไม่ค่อยคล่องแคล่วนัก ซ้ำยังไม่มีเนื้อเพลง ทว่าแม้แต่ผู้ที่ไม่เข้าใจในเสียงดนตรีก็ยังฟังออกว่าเพลงในหน้าจอที่จี้อี้กำลังบรรเลงอยู่นั้นคือเพลง ‘โตวซื่ออ้าย’ (รักทั้งสิ้น) ชัดๆ!
จากภาพที่เห็น เมื่อเปียโนถูกบรรเลงไปได้ถึงครึ่งเพลง ทุกคนก็ถึงกับตาสว่าง!
ไม่ว่าใครก็ต่างตกตะลึง
ใช่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะไม่รู้สึกย้อนแย้งเลย ท่ามกลางฝูงชนกว่าสามหมื่นชีวิต ย่อมต้องมีแฟนคลับผู้ภักดีของหลินสื่อเจียและเฉินเชียนโหรว
การที่พวกเขาถูกความสามารถของจี้อี้พิชิตใจได้อยู่หมัดตั้งแต่ครั้งแรกที่เหยียบเข้ามาในนี้ นั่นเป็นเพียงสัญชาตญาณของพวกเขาเท่านั้น แต่ทว่าหลังจากนั้น พอรู้สึกตัวอีกที คันชั่งในใจของพวกเขาก็เอนเอียงไปเสียแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเลิกสนับสนุนหลินสื่อเจียและเฉินเชียนโหรวไปเสียเลย
แต่ในตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะได้รู้ว่าตัวเองนั้นผิดมหันต์
นอกเหนือไปกว่านั้น ก็คือแรงโทสะที่ปะทุขึ้นถึงขีดสุด
“แม่งเอ๊ย! นี่เราโดนหญิงร้ายชายชั่วนั่นต้มจนเปื่อยเลย!”
“ไอ้หมาหลินสื่อเจียนี่ เสียแรงที่จี้อี้ทั้งชอบและเชื่อใจมันขนาดนั้น!”
“น่าโมโหที่สุดคือก่อนหน้านั้น ก่อนที่อาจารย์ซื่อจะจากไป ยังอุตส่าห์ลดตัวลงมาขอความช่วยเหลือมันให้ดูแลจี้อี้แทนเธอ! บ้านมันดูแลกันแบบนี้เหรอ!”
“ทั้งๆ ที่มันก๊อปผลงานของจี้อี้ไปแท้ๆ ด้วยความที่เธอเชื่อใจเลยถูกไอ้ระยำนี่แว้งกัดเข้าจนได้! คนแบบมันต่างหากถึงจะเรียกว่าปลาเน่าของวงการดนตรี!”
“ไม่! มันก็แค่เดนนรกต่ำๆ ตัวหนึ่ง มันแทบจะไม่ใช่คนด้วยซ้ำ! ไม่นึกเลยว่าอาจารย์ซื่อจะมีศิษย์ที่เลี้ยงเสียข้าวสุกแบบนี้ คิดแล้วมันแค้นแทนเธอจริงๆ!”
“โอ๊ยยย...โมโหโว้ย! ฉันล่ะอยากเข้าไปฉีกไอ้หลินสื่อเจียให้เป็นชิ้นๆ จริงๆ นี่โลกเรามีตัวหน้าด้านขนาดนี้อาศัยอยู่ได้ยังไงวะ!”
“ไหนจะเฉินเชียนโหรวอีก! นังชั่วนี่ สรุปแล้วมันเป็นอะไรกับไอ้เวรหลินสื่อเจียนั่นกันแน่! ยังมีหน้ามาบอกอีกว่าเธอเองก็มีส่วนร่วมในการเรียบเรียงด้วย? ควายเอ๊ย!”
พริบตาเดียวทั้งจัตุรัสก็เดือดพล่าน
“หลินสื่อเจีย ไอ้ห่าราก! ไปเกิดใหม่ซะ! ไสหัวออกไปจากวงการดนตรี!”
“เฉินเชียนโหรว นังชั่ว นังเมียน้อย ไสหัวออกไปจากวงการบันเทิงซะ!”
“หลินสื่อเจียไสหัวไปซะ!”
“เฉินเชียนโหรวไสหัวออกไป!”
“จี้อี้สู้ๆ ! จี้อี้ไม่ต้องร้อง!”
“จี้อี้! จี้อี้! จี้อี้!…”
แรกเริ่มทั้งจัตุรัสที่อื้ออึงไปด้วยเสียงสาปส่งหลินสื่อเจียและเฉินเชียนโหรว
สุดท้ายใครสักคนก็เงยหน้าขึ้นตะโกนชื่อจี้อี้จนสุดเสียง!
พวกเขาแปรเปลี่ยนความคับแค้นซึ่งมีต่อหลินสื่อเจียและเฉินเชียนโหรวที่ถูกบรรจุอยู่เต็มอก เป็นพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็นร้อยเท่า ข่มกลั้นความเจ็บปวดแสนสาหัสในใจไว้ แล้วแผดเสียงเชียร์จี้อี้ต่อไปอย่างสุดกำลัง!
จี้อี้ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะข่มทุกความรู้สึกกลับคืนไปได้!
เธอยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ท่าทางการปาดน้ำตาเช่นนั้นราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน
ไม่ต่างอะไรกันกับเด็กน้อยที่หกล้มลงกับพื้น และร้องจนพอใจแล้วจึงปาดน้ำตาแห่งความช้ำใจอีกครั้งแล้วลุกขึ้นมาใหม่
จี้อี้ปาดน้ำตาเสร็จแล้วก็หยิบไมค์ขึ้นมาจากเปียโนแล้วหยัดยืนขึ้นมา
“ขอบคุณกำลังใจจากทุกคนมากนะคะ! ดังนั้น…ทุกคน เชื่อว่าฉันบริสุทธิ์แล้วใช่ไหมคะ”
คำพูดของจี้อี้เพิ่งจะสิ้นสุดลง เบื้องล่างเวทีก็พลันตะโกนขึ้นเสียงดังเกรียวกราว
“เราเชื่อเธอ!”
“จี้อี้ เราจะสนับสนุนเธอตลอดไป”
สีหน้าจี้อี้ซีดเผือด ถึงแม้ว่าเครื่องสำอางบนใบหน้าจะเลอะเทอะแค่ไหน ทว่าก็ไม่มีใครบอกว่าในตอนนี้เธอขี้เหร่!
“ดังนั้นฉันไม่ใช่ความอัปยศของแม่ฉันใช่ไหมคะ ฉันเองก็เป็นความภาคภูมิใจของเธอได้ใช่ไหม”
แฟนคลับด้านล่างเวทีป่าวร้องขึ้น “ใช่! เธอไม่ใช่ความอัปยศของอาจารย์ซื่อ เธอคือความภาคภูมิใจของอาจารย์ซื่อ!”
“จี้อี้ ขอโทษนะ ที่ฉันเข้าใจเธอผิดไป!”
“ขอโทษนะจี้อี้!”
“ขอโทษ!”