ตอนที่ 183: หนึ่งต่อสาม
กระบี่วายุโปรยยังเคลื่อนที่ได้เร็วมาก,ไม่มีใครสามารถแยกแยะประกายแสงเรืองรองสีเงินได้ เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษยังทันพอรับมือไหวแต่ต้องระมัดระวังมาก ในขณะที่เซียนผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถหลบหนีมันได้
กระบี่วายุโปรยสร้างหายนะไปทั่ว เนื่องจากตระกูลยู่หลานแต่ละคนไม่มีกำลังพอที่จะทำอะไรในช่วงที่คอของพวกเขาถูกเฉือน ทำให้หลอดเลือดแดงที่คอของพวกเขาขาด เซียนผู้เชี่ยวชาญมองเห็นแสงสว่างเพียงเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่คอ หลังจากนั้นแต่ละคนก็เริ่มขาดอากาศหายใจและล้มลงกับพื้น.
เจี้ยนเฉินยังคงเดินหน้าต่อไประหว่างสมาชิกตระกูลยู่หลานทีละคนในขณะที่กระบี่วายุโปรยของเขายังคงร่ายรำไปรอบ ๆ พร้อมกับปราณกระบี่ที่ห่อหุ้มมัน แต่ละคนรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่คอก่อนที่จะล้มลงสู่พื้น เมื่อใดก็ตามที่เจี้ยนเฉินขยับมือ ผู้คนก็จะล้มลง และมีเพียงเซียนผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คนที่หนีรอดไปได้
ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ เจี้ยนเฉินได้ฆ่าคนของตระกูลยู่หลานไปแล้วถึง 20 คน
เนื่องจากเพลงกระบี่ของเขานั้นรวดเร็วและแม่นยำมาก ศักยภาพในการฆ่าของเจี้ยนเฉินจึงยิ่งน่าเกรงขาม สำหรับคนที่มีความแข็งแกร่งระดับเดียวกับเจี้ยนเฉิน รับประกันได้เลยว่าการโจมตีครั้งแรกจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ในช่วงเวลาที่เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษของตระกูลยู่หลานไปถึงแนวหน้า พวกเขาก็เห็นคนของพวกเขา 20 คนเสียชีวิตไปแล้ว พวกเขาทำได้เพียงแค่จ้องมองและกัดฟันกรอด ๆ ด้วยความโกรธ .. คนที่ตายไปอาจเป็นเพียงสมาชิกระดับกลางของตระกูล แต่พวกเขามากันทั้งหมดถึง 50 คน คนในตระกูลของพวกเขาเกือบครึ่งหายไปภายในเวลาเพียง 2 ลมหายใจ นี่เป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายอย่างหาที่เปรียบมิได้สำหรับพวกเขา
” เจ้ามันรนหาที่ตาย ! “
“วู่หยุน อย่าคิดว่าเจ้าจะรอดชีวิตไปได้ ! “
บุรุษสูงวัยและบุรุษวัยกลางคนกระโดดลงจากหลังคาพร้อมกับเสียงคำรามขณะที่พุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน อาวุธเซียนของพวกเขานั้นมีพลังเซียนที่แข็งแกร่งซึ่งสั่นสะเทือนต่อหูของทุกคนเมื่อพวกเขาพุ่งผ่านอากาศไปยังเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินและบุรุษวัยกลางคนปะทะดาบกัน ชายวัยกลางคนที่มีดวงตาสีแดงคำรามและพยายามผลักเจี้ยนเฉิน.
“เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 3 คน ! ” ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเผยรอยยิ้มเย็นชาเมื่อรู้สึกถึงพลังอันแรงกล้าของผู้ใช้อาวุธเซียน 3 คน หากเขายังเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นต้น เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 3 คนจะทำให้เขาเดือดร้อนอย่างมาก มันเป็นความอัปยศสำหรับพวกเขาที่เจียนเฉินบรรลุถึงระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งกว่าขั้นต้นอย่างมาก เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งสามคนนี้สามารถต่อสู้กับความแข็งแกร่งของเขาได้ตราบใดที่พวกเขาไม่มีธาตุหรือทักษะการต่อสู้พิเศษ.
“ชิ้ง”
กระบี่วายุโปรยห่อหุ้มด้วยแสงส่องไปข้างหน้าพร้อมกับเสียงที่ทำให้แก้วหูแตก ในเวลาอันสั้น เจี้ยนเฉินได้แทงออกไป 10 ครั้งแล้ว เขาป้องกันอาวุธเซียนที่เข้ามา 3 ชิ้น ทำให้เกิดเสียงโลหะดังขึ้นหลายครั้ง
การปะทะกัน 10 ครั้งกับอาวุธเซียนเหมือนกระแสน้ำเชี่ยวกราก แม้ว่าพวกเขาจะเห็นปริมาณพลังงานที่แฝงมากับกระบี่ เจ้าของอาวุธเซียนแต่ละคนก็ไม่ได้กังวล พลังเซียนจำนวนมากระเบิดออกมาจากอาวุธของพวกเขาและเสริมกำลังการโจมตีของพวกเขาซึ่งมุ่งไปหาเจี้ยนเฉิน
แม้ว่าเขาจะต้องต่อสู้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษสามคนในขณะที่เขาเป็นเพียงเซียนผู้เชี่ยวชาญ แต่เขาก็ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย พลังการต่อสู้ของเขากลับสูงขึ้นตลอดเวลา กระบี่วายุโปรยหายไปในความพร่ามัวอีกครั้งเมื่อเขาปะทะกับอาวุธเซียนทั้งสาม
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะสามารถหลบการโจมตีได้ แต่เขาก็ต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขากับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งสาม ในที่สุดเขาก็บรรลุระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงและนี่คือการต่อสู้ครั้งแรกที่เขาต้องต่อสู้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษหลายคน เขาต้องการทราบข้อจำกัดของตัวเขา
กระบี่วายุโปรยที่เปราะบางปะทะกับอาวุธเซียนอีกครั้ง มันปล่อยพลังเซียนจำนวนมากซึ่งไม่สมกับสัดส่วนและขนาดของมัน การปะทะกันของพลังเซียนกระหน่ำทั่วพื้นที่และชนกับอาคารที่อยู่รอบ ๆ พวกเขาอีกครั้ง ทันใดนั้นกำแพงหินก็เริ่มมีรอยร้าวเหมือนใยแมงมุมที่แผ่ออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ
ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มต่อสู้ พวกเขาสั่งให้ชาวบ้านในอาคารให้อพยพออกไปเพราะพวกเขากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่จะทำอันตรายคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถนนที่ก่อนหน้านี้มีผู้คนนับร้อยพลันว่างเปล่า ผู้คนถูกอพยพออกไปทำให้มีพื้นที่โล่งกว้างสามารถสู้รบได้
ผู้คนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ต่างประหลาดใจ พวกเขาเห็นเจี้ยนเฉิน เซียนผู้เชี่ยวชาญสามารถต่อสู้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้ถึง 3 คน ไม่มีใครสักคนที่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น
“วู่หยุนคนนี้ลึกลับจริง ๆ เซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้มากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? เขาแข็งแกร่งจริง ๆ และเพลงกระบี่ของเขานั้นรวดเร็วและแม่นยำอย่างไม่มีที่เปรียบ กระบี่ของเขาได้เฉือนออกไปสองหรือสามครั้งแล้ว แต่ละกระบวนท่าราบรื่นมากเหมือนสายน้ำไหล ไม่มีการเคลื่อนไหวที่เปล่าประโยชน์แม้แต่ครั้งเดียว และการฟาดฟันแต่ละครั้งก็ลื่นไหลไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีช่องโหว่ในการเคลื่อนไหวของเขาเลย จากประสบการณ์ในการต่อสู้ เขาไม่ได้ขาดอะไรเลยแม้แต่น้อย” ผู้สูงวัยพูดด้วยความชื่นชม
“ดูเหมือนว่าวู่หยุนจะผ่านประสบการณ์ในการต่อสู้มาอย่างโชกโชนมากกว่าเรา มิฉะนั้นจะไม่มีทางที่เขาจะหลอมรวมความรู้ที่ได้รับมาประสบการณ์การต่อสู้เข้ากับเพลงกระบี่ได้เช่นนี้ ประสบการณ์การต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถสอนและเรียนรู้ได้ แต่เขาใช้ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย นี่เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้จากประสบการณ์ที่โหดร้ายเท่านั้น”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเร็วของกระบี่เขา มันเร็วเกินไปที่จะเกิดจากประสบการณ์ หรือว่ามันจะเป็นทักษะการต่อสู้แบบพิเศษ ? “
เมื่อได้ยินคำสองคำนี้ ดวงตาของทุกคนก็เริ่มเปล่งประกาย ทักษะการต่อสู้เป็นสิ่งที่มีค่ามากในทวีปเทียนหยวนและมันก็หายากมากเช่นกัน ทักษะการต่อสู้ที่เขาใช้ไม่ใช่ทักษะการต่อสู้ระดับต่ำเลย หากพวกเขาต้องศึกษาทักษะนั้นมีเพียงสมาชิกตระกูลระดับกลางเท่านั้นที่จะสามารถมีโอกาสได้เรียนรู้
คำพูดดังกล่าวมีคำล่อลวงอย่างท่วมท้น มันมากกว่าแกนอสูรระดับ 5
“เพลงกระบี่ที่วูหยุนใช้นั้นต้องเป็นทักษะการต่อสู้ขั้นสูง มิเช่นนั้นเขาจะไม่สามารถต่อสู้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้รวดเร็วขนาดนี้”
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทุกคนก็ได้ข้อสรุปดังกล่าว ในสายตาของพวกเขา นอกเหนือจากทักษะการต่อสู้ ไม่มีคำอธิบายอื่น ๆ ให้กับความเร็วหรือกำลังของเจี้ยนเฉิน
แค่คิดว่าเจี้ยนเฉินมีทักษะการต่อสู้ก็ทำให้แววตาของทุกคนเป็นประกาย ทักษะการต่อสู้เป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะทุกคนหลงใหล หากเป็นผู้บ่มเพาะจริง เขาจะไม่มีทางที่จะต้านทานเสน่ห์ของเพลงกระบี่ไปได้