วิลล่าในย่านส่วนกลางของฐานหลินไห่ แต่ละหลังมีกําแพงล้อมรอบ
นักรบชั้นยอดสิบคนจากตระกูลโม่ได้ล้อมรอบบ้านของเย่เทียนเอาไว้
ผู้รับผิดชอบคือผู้อาวุโสอันดับหนึ่งของตระกูลโม่ซิงเขาเป็นนักรบชั้นยอดขั้นกลางมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายแต่เขาไม่มีพรสวรรค์พิเศษ
“ในบ้านมีเพียงสองคนเย่เทียนและน้องสาวของเขาเย่หยูเย่หยุอายุยังไม่ถึงสิบห้าปีและยังไม่ได้เริ่มฝึกฝนเธอเป็นเพียงคนธรรมดาเราสามารถจับเย่หยูและบังคับให้เย่เทียนยอมจํานนได้แต่จําเอาไว้ อย่าทําร้ายเย่หยุไม่งั้นถ้าเย่เทียนหากเย่เทียนคลั่งขึ้นมาเราคงจะล่าบากนิดหน่อย! “โม่ซิงได้สั่งการมอบหมายภารกิจ
“ครับ ผู้อาวุโสใหญ่!”
นักรบชั้นยอดคนอื่นๆตอบเสียงเบา
นักรบชั้นยอดทั้ง 10 คน กระโดดข้ามก่าแพงและเดินไปที่ห้องของเย่หยอย่างเงียบๆ
ตระกูลโม่ได้สืบสาวเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในบ้านของเยเทียนแล้ว แม้แต่ห้องไหนที่เย่หยูอาศัยอยู่
ดังนั้นสําหรับพวกเขางานครั้งนี้ง่ายมาก
แกรัก!
ประตูห้องของเยี่หยูถูกเปิดออกโดยคนไม่กี่คน แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องของเหยูพวกเขาก็พบว่าห้องของเหยูนั้นว่างเปล่า
“ไม่ดีแล้ว เย่หยุไม่ได้อยู่ที่นี่!”
โม่ซึ่งตกใจ
แม้ว่าเสียงเปิดประตูของพวกเขาจะดังเล็กน้อย แต่สัมผัสของนักรบชั้นยอดนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมากบางทีเย่เทียนอาจจะได้ยินเสียงเปิดประตูและตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับแล้วก็ได้
ในตอนนั้นเอง เสียงเย็นชาก็ดังขึ้นมาจากไม่ไกลนัก
“พวกเจ้านี่ช่างใจกล้า บุกเข้ามาในบ้านของข้าศึกตื่นเช่นนี้!”
โม่ซิงและพวกหลบออกมาถึงลานบ้าน เห็นเงาร่างสายหนึ่ง ซึ่งคือเย่เทียนนั่นเอง
เย่เทียนมองไปที่โม่ซิงและคนอื่น ๆ ด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
คืนนี้เขากังวลว่าคนของตระกูลโม่จะมาลอบโจมตีดังนั้นเขาจึงให้เย่หยูนอนในห้องเดียวกับ เขาเพื่อเขาจะได้ปกป้องเหยูตลอดเวลา
ตอนแรกเขาแค่คิดว่าการกระทําเช่นนี้ อาจจะมากเกินความจําเป็น แต่ดูเหมือนว่าเขาจะทําถูกแล้ว
มิฉะนั้นหากเขาหลับสนิท ตระกูลโม่จับตัวเย่หยุได้ แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็ต้องกังวลและไม่สามารถสู้ได้อย่างเต็มที่
“บุกพร้อมกัน!”
โม่ซิงกล่าว
พรึบ!!!!
นักรบชั้นยอดคนหนึ่งพุ่งเข้าหาเย่เทียน และพยายามจะจับตัวเขาให้เร็วที่สุดแต่น่าเสียดาย….
“รนหาที่ตาย!”
เย่เทียนแค่นเสียงเย็นชา
เขาไม่ได้พกดาบไว้ในมือ แต่กับขยะเหล่านี้ไม่จําเป็นต้องใช้ดาบ
“พรสวรรค์ด้านความเร็ว!”
เย่เทียนกลายเป็นภาพติดตา ด้วยความเร็วที่สูงกว่านักรบชั้นยอดทั่วไป เขาพุ่งไปด้านข้างของนักรบชั้นยอดมือขวาของเขาเป็นเสมือนดาบฟันไปที่คอของชายคนนั้น
การโจมตีนี้ไม่ได้ธรรมดาสามัญ เย่เทียนกระตุ้นพรสวรรค์ด้านพละกําลังในขณะโจมตี
ตูม!
คอของชายคนนั้นถูกตัดขาดและร่างกายของเขาก็ถูกซัดกระเด็นออกไป
ปัง ปัง ปัง ปัง!!!
นักรบชั้นยอดหลายคนลอยออกไปในพริบตา แต่ละหล่นกระแทกพื้นและแน่นิ่งไปไม่มีใครที่สามารถต่อกรกับเย่เทียนได้แม้แต่นักรบชั้นยอดที่มีพรสวรรค์พิเศษเปิดใช้งานเกราะพลังปราณก็ถูกเย่เทียนทําลายด้วยมือข้างเดียวจนศีรษะของเขาระเบิดเป็นลูกแตงโม
พริบตาเดียว ก็เหลือนักรบชั้นยอดเพียง 2 คนอยู่ในสนาม
คนหนึ่งคืออาวุโสใหญ่โม่ซิง และอีกคนคืออาวุโสสิบโม่อิน
ทั้งสองคนเป็นนักรบชั้นยอดของตระกูลโม่และพวกเขาก็แข็งแกร่งมากแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เทียนพวกเขาก็เหมือนกับมดปลวก
“เป็นไปไม่ได้ เจ้าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง!!!”
โม่ซิงและโม่อนต่างสับสน
เย่เทียนไม่ใช่นักรบชั้นยอดขั้นต้นหรอกหรือ? ทําไมเขาถึงฆ่านักรบชั้นยอดได้ถึงแปดคนอย่างง่ายดาย? และ2ในนั้นก็เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์พิเศษอีกด้วยนักรบชั้นยอดสองคนนั้นเป็นผู้ที่ตระกูลโม่ได้ฝึกฝนมาพลังการต่อสู้ของพวกมันไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย แต่ในการต่อสู้เป็นตายพวกมันกลับถูกเย่เทียนฆ่าในพริบตา
นักรบชั้นยอดขั้นปลายไม่สามารถทําอะไรเช่นนี้ได้ มีเพียงนักรบผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถทําเรื่องแบบนี้
แต่ก่อนที่โม่ซึ่งจะครุ่นคิด เย่เทียนก็ระเบิดพลังปราณออกมา และโจมตีอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดส่งผลให้ทั้งโม่ซิงและโม่อนเสียชีวิตในทันที
นักรบสิบอันดับแรกของตระกูลโม่ที่น่าสงสารยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาพวกเขาก็ถูกสังหารจนหมด
“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้น?”
เย่หยุขยี้ตาและเดินออกมาจากห้อง เมื่อเธอเห็นศพที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้นเธอก็กรีดร้องออกมาทันที
“ท่านพี่ ทําไมที่นี่ถึงมีศพมากขนาดนี้?”
ใบหน้าของเหยูซีดลงเล็กน้อย
การมีพี่ชายอยู่ด้วย เธอไม่ได้หวาดกลัวนัก เพราะเธอรู้ว่าพี่ชายของเธอนั้นแข็งแกร่งมากแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นศพมากมายเช่นนี้ เธอจึงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
“คนเหล่านี้ต้องการที่จะปองร้ายพี่ แต่พวกมันทํางานผิดพลาดที่จึงได้ลงมือก่อน!”
เย่เทียนกล่าวตามความจริง
ทันใดนั้นเขาก็กําชับเย่หยูว่า “น้องพี่ พี่ต้องออกไปจัดการปัญหาบางอย่าง น้องอยู่บ้านคนเดียวก่อนได้หรือไม่?
เหยูกหมัดแน่นและพยักหน้า “เสี่ยวหยูไม่กลัว! ”
“เด็กดี แล้วพี่จะกลับมาอธิบายให้เจ้าฟังทีหลัง!”
พร้อมกันนั้น เย่เทียนก็เปิดใช้งานพรสวรรค์เงาทมิฬและหายไปในความมืด
หลังจากเย่เทียนจากไปอารมณ์ของเยี่หยก็ค่อยๆมั่นคงขึ้น
“ท่านพี่ เสี่ยวหยุจะสามารถฝึกฝนได้เร็ว ๆ นี้ เมื่อเวลานั้นมาถึง เสี่ยวหยูจะปกป้องพี่ชายเองไม่ว่ามันจะเป็นใคร เสี่ยวหยฆ่าคนเลวพวกนั้นให้หมด!
บนถนนของฐานหลินไห่
เงาดํากําลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว บนใบหน้าถูกปิดบังด้วยหน้ากากผี เขาเพิ่งเอามาจากร้านหน้ากากที่กําลังจะปิดเพื่อที่จะใช้หน้ากากผีปกปิดตัวตนของเขา
เย่เทียนวางแผนที่จะทําลายตระกูลโม่ให้สิ้นซากในคืนนี้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารคนของตระกูลโม่ทั้งหมดดังนั้นเขาจึงต้องปกปิดตัวตนของเขาเอาไว้
ราตรีแห่งการสังหารได้เปิดฉากขึ้นแล้ว!
เขาไม่ต้องการที่จะให้โอกาสตระกูลโม่หลบหนีไป หากตระกูลโม่กล้ามาจัดการเขาในคืนนี้เขาก็จะทําลายตระกูลโม่ในคืนนี้เช่นกัน
ด้วยความเร็วของเย่เทียน เขามาถึงย่านที่อยู่อาศัยของตระกูลโม่อย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลโม่ยังไม่ได้นอนแต่ยังคงรอข่าวของโม่ซึ่งอย่างเงียบๆ
มีนักรบชั้นยอดมากมายอยู่ในตระกูลโม่ แม้ว่าพวกเขาจะมีนักรบชั้นยอดหลายคนเสียชีวิตในภารกิจกวาดล้างสัตว์อสูรและเย่เทียนเพิ่งฆ่านักรบชั้นยอดไปอีกสิบคนนักรบชั้นยอดที่ยังเหลือก็ยังมีเกือบยี่สิบคน
ทุกตระกูลล้วนมีไพ่ตายที่ซ่อนไว้ และนักรบชั้นยอดเหล่านี้ก็คือพลังที่ซ่อนอยู่ของตระกูลโม่ซึ่งไม่มีใครรู้
แม้จะมีปัญหากับตระกูลอื่นๆมากมายแต่ตระกูลโม่ก็ยังไม่ถูกทําลาย เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่านักรบชั้นยอดเหล่านั้นแข็งแรงขนาดไหน
แต่ในตอนนี้เพราะได้ยั่วโมโหเย่เทียน ความรุ่งโรจน์ของตระกูลโม่จึงไม่สามารถเดินต่อได้อีกต่อไปแต่เหล่าผู้กุมอํานาจของตระกูลโม่ กลับไม่รู้ว่าความตายกําลังย่างกรายเข้ามาแล้ว
อ๊ากกก!!
เสียงกรีดร้องได้ดังกึกก้องไปทั่วตระกูลโม่
โม่ฉางเซิงและคนอื่นๆที่อยู่ในห้องโถงก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป “ไม่ดีแล้ว มีคนลอบโจมตีตระกูลเราในยามราตรี !”
ปัง!!!
พวกเขาพังประตูห้องโถงและวิ่งออกไปยังเสียงกรีดร้อง
นักรบหลายคนจากตระกูลโม่ก็ตื่นขึ้นมาจากความฝัน พวกเขารีบออกมาในชุดนอน
ตระกูลโม่ถือได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่ของฐานหลินไห่เลยก็ว่าได้ ทว่าในตอนนี้กลับมีบางคนที่กล้าพอบุกเข้ามาในรังของพวกเขา ช่างกล้าหาญยิ่งนัก !
การยั่วยุตระกูลโม่นั้นต้องใช้เลือดเพื่อชดเชย
“ไม่ว่าใครกัน ที่กล้าโจมตีตระกูลโม่ มันต้องตาย !”
เดิมที่โม่ฉางเซิงก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ตอนนี้เขาจึงตะโกนออกมาด้วยความโกรธเสียงนั้นกระจายไปทั่วตระกูลโม่