ตอนที่ 1340 ตระกูลจวินแห่งเมืองวิญญาณ (4)

 

 

หงหลิงโกรธจัด เขาตบโต๊ะอย่างแรงจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่หงหลวนก็หันหลังจากไปโดยไม่สนหงหลิงที่กำลังโกรธเลยสักนิดเดียว

 

 

“เด็กคนนี้จะก้าวร้าวเกินไปแล้ว ถึงกับกล้าพูดกับบิดาแบบนี้แล้วยังสั่งสอนข้าอีก!” หงหลิงโกรธจนไฟลุก “ถ้าไม่มีอำนาจแล้วคนจะขึ้นไปยังจุดสูงสุดได้อย่างไร คนคนหนึ่งจะใช้เพียงความแข็งแกร่งอย่างเดียวเพื่อขึ้นไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะจวนเจ้าเมืองให้ทรัพยากรในการฝึกพลังฌานกับนาง แล้วนางจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร”

 

 

ยิ่งคิด หงหลิงก็ยิ่งโกรธ เขาไม่เคยเชื่อว่าคนที่มีฐานะต่ำต้อยที่อาศัยความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวจะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่เชื่อว่าคนคนหนึ่งจะมีอำนาจได้ถ้าปราศจากการเลี้ยงดูจากครอบครัว

 

 

เป็นไปไม่ได้ที่วิหคเพลิงจะปรากฏตัวออกจากป่ามาเฉยๆ แต่วิหคเพลิงจะปรากฏตัวได้ก็ต่อเมื่อใช้วัตถุดิบและสมบัติล้ำค่าจำนวนมหาศาลเท่านั้น!

 

 

“ลืมมันเสียเถอะ ในอนาคตข้าจะไม่ยื่นมือไปยุ่งเรื่องของเจ้าอีก เจ้าอยากทำอะไรก็ทำ! ข้าพยายามใช้อำนาจทั้งหมดที่ข้ามี ทั้งต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับเมืองอุดรผ่านการแต่งงานรวมถึงการขอความช่วยเหลือจากตระกูลจวิน ทั้งหมดก็เพื่อเจ้ามิใช่หรือ แต่เจ้ากลับไม่แม้แต่จะรู้สึกขอบคุณกับสิ่งที่ข้าทำให้ เจ้าก็ดื้อดึงเหมือนมารดาเจ้านั่นแหละ ชาติที่แล้วข้าคงติดหนี้พวกเจ้าไว้มาก!” หงหลิงถอนหายใจหนักแล้วนั่งลง

 

 

ตอนนี้ยอดฝีมือที่ทั้งเมืองเคารพนับถือก็เป็นแค่บิดาที่จนปัญญาจะต่อกรกับบุตรสาวในวัยต่อต้าน เขาทำได้แค่ปล่อยให้นางตัดสินใจชีวิตด้วยตัวเอง…

 

 

 

 

หลังจากที่หงหลวนออกจากห้องทำงานก็เห็นได้ชัดว่านางเหน็ดเหนื่อย ทันทีที่นางเปิดประตูเข้าไป นางก็สังเกตเห็นชายหนุ่มในอาภรณ์สีขาวกำลังนั่งจิบชาอยู่ในห้อง

 

 

“อวิ๋นลั่วเฟิง?” หงหลวนมองด้วยสายตาว่างเปล่า “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ในห้องข้า”

 

 

อวิ๋นลัวเฟิงวางถ้วยชาแล้วเงยหน้ามองหงหลวน “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแคว้นเจ็ดเมืองคืออะไร”

 

 

หงหลวนเดินมาเทน้ำชาให้ตัวเองเหมือนว่าไม่ได้สนใจ นางค่อยๆ จิบชาก่อนวางถ้วยชาลง

 

 

“การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแคว้นเจ็ดเมืองเคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งเมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว”

 

 

หงหลวนมองหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง “เจ้าคงรู้ว่าใต้พื้นดินแคว้นเจ็ดเมืองมีบางสิ่งที่น่าหวาดกลัวถูกฝังไว้อยู่ สิ่งมีชีวิตนี้จะตื่นขึ้นมาทุกหนึ่งพันปี และเมื่อมันตื่นขึ้น แคว้นเจ็ดเมืองก็จะเกิดหายนะ แต่ไม่มีใครรู้เวลาแน่นอนที่มันจะตื่น ท่านพ่อข้ากลัวว่าเมื่อตอนที่เขานอนรอความตาย ข้าจะไม่สามารถจัดการกับมันได้ เขาก็เลยคิดว่าถ้าสามารถเชื่อมสัมพันธ์กับเมืองอุดรผ่านการแต่งงานได้ก็จะฝากความหวังไว้ได้ว่าอิทธิพลของพวกเขาจะช่วยพวกเราได้”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินเรื่องนี้

 

 

“อันที่จริง ข้าก็รู้ว่าเขาใส่ใจข้าที่สุด แต่ข้าไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา ข้าไม่เชื่อว่าตัวเองแกร่งไม่พอที่จะสู้เจ้าสิ่งมีชีวิตนั่น!” หงหลวนหัวเราะขณะอธิบาย

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้ว “ดูเหมือนไม่ใช่แค่ความคิดที่แตกต่างกันหรอกมั้งที่ทำให้เจ้ากับบิดาไม่ลงรอยกัน”

 

 

หงหลวนแปลกใจแต่ทำได้แค่พูดความจริงออกมา “เจ้าก็สังเกตหรือ เป็นเพราะว่าเขาทำให้ท่านแม่ข้าตาย ดังนั้นตั้งแต่เด็กข้าก็เลยไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้เขา”

 

 

“มารดาเจ้างั้นหรือ”

 

 

“ใช่แล้ว ท่านแม่ข้ามีนิสัยกล้าหาญและซื่อตรง อีกทั้งอารมณ์นางยังรุนแรงกว่าข้าด้วย แล้วนางก็ยังแข็งแกร่งมาก ปีนั้นท่านพ่อกับท่านแม่ช่วยกันพิชิตเมืองบูรพาจนสำเร็จ! แต่เพื่อให้คนใต้บังคับบัญชาไม่มีใจออกห่างและทรยศท่านพ่อ เขาก็เลยรับบุตรสาวพวกเขาเข้ามาเป็นอนุ!”

 

 

“แล้วคนอย่างมารดาข้าจะยอมให้เขามีภรรยาสามอนุสี่ได้อย่างไร นางเลยทิ้งท่านพ่อไปด้วยความโกรธ และเพื่อพิสูจน์ว่าท่านพ่อไม่จำเป็นต้องใช้การแต่งงานเพื่อสร้างอำนาจให้มั่นคง นางก็เลยพยายามฝืนผ่านด่านจนทำให้วิญญาณนางระเบิดออกแล้วกระจัดกระจายไปทั่ว!”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1341 ตระกูลจวินแห่งเมืองวิญญาณ (5)

 

 

หากคนตาย พวกเขาก็ยังเกิดใหม่ได้ แต่ถ้าวิญญาณถูกทำลาย นั่นหมายความว่าพวกเขาได้หายไปจากโลกใบนี้แล้ว

 

 

หงหลวนยิ้มเยาะ “ตอนนั้นข้ายังเป็นเด็กไม่รู้ความ ทำให้ความทรงจำไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่นางก็ยังเป็นท่านแม่ของข้า แล้วข้าจะไม่เกลียดเขาได้อย่างไร บางครั้งข้าก็คิดว่าข้าไม่อยากมีเขาเป็นบิดาเลย!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงจิบชาแล้วฟังหงหลวนเล่าเรื่องของตัวเองต่อ

 

 

“บางทีนี่อาจเป็นกรรม ทำให้หลายปีมานี้อนุมากมายของท่านพ่อไม่มีใครตั้งครรภ์สักคน” รอยยิ้มของหงหลวนดูเย็นชา “อวิ๋นลั่วเฟิง เหตุใดบุรุษถึงไร้ความปรานีขนาดนี้ พวกเขาพิชิตเมืองนี้ด้วยกัน แต่พริบตาเดียวหลังจากได้เมืองนี้ ท่านพ่อก็รับอนุ! สำหรับบุรุษแล้ว อำนาจและอิทธิพลสำคัญขนาดนั้นเลยหรือ”

 

 

ทันใดนั้นภาพชายหนุ่มหล่อเหลาแต่ร้ายกาจก็ปรากฏขึ้นในความคิดอวิ๋นลั่วเฟิง ทำให้นางเผยรอยยิ้มบาง

 

 

“ถ้าเขารักเจ้า เขาก็ยินดีจะสละโลกทั้งใบเพื่อเจ้า แต่ถ้าเขาไม่จริงใจ ในสายตาเขาเจ้าก็ไม่สำคัญเท่าโลกใบนี้”

 

 

ตอนที่นางเจออวิ๋นเซียวในปีนั้น นางเป็นแค่ขยะที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่ ทว่าเขาเป็นถึงจักรพรรดิปีศาจที่อยู่เหนือผู้คน!

 

 

แต่เพื่อนางแล้ว เขายินดีทิ้งตำแหน่งแล้วกลายเป็นบุรุษตามหลังนาง ถ้านางเอ่ยปากขอเขา ชายคนนั้นต้องนำโลกทั้งใบมอบให้นางแน่นอน ในชีวิตนี้นางยังจะปรารถนาอะไรอีกในเมื่อนางมีสามีที่ดีอย่างเขาแล้ว

 

 

“อวิ๋นลั่วเฟิง ข้าบอกท่านพ่อว่าหากเขายังบังคับข้าอีก ข้าก็ยินดีไม่รับตำแหน่งเจ้าเมือง แต่ความจริงข้าก็แค่ขู่เขาไปอย่างนั้นเอง ข้าเป็นบุตรสาวคนเดียวของเขา ถ้าไม่ใช่ข้า ใครจะรับตำแหน่งต่อจากเขา ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับอำนาจ ข้าก็ต้องได้รับตำแหน่งเจ้าเมือง!” สายตาของหงหลวนมุ่งมั่น “เพราะว่าเมืองบูรพาเป็นสมบัติของท่านแม่ข้า ข้าไม่มีทางยอมให้คนอื่นได้ไปแน่นอน!”

 

 

น่าขำ! นางจะยอมยกเมืองบูรพาให้ง่ายๆ ได้อย่างไร เพื่อมารดาของนางแล้ว นางไม่มีทางยกเมืองบูรพาให้คนอื่นแน่!

 

 

“ข้าเชื่อในความแข็งแกร่งของเจ้า”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม ด้วยความสามารถของหงหลวน ในอนาคตนางต้องสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีบุรุษคนใดที่ทำให้หวั่นไหวได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ หลิงเฉินไม่ได้อยู่ในตัวเลือกนั้นแน่!

 

 

สาวใช้ผลักประตูเข้ามาแล้วรีบรายงานทันที “คุณหนู นายน้อยหลิงเฉินยังอยู่ด้านนอก เขาไม่ยอมจากไปเจ้าค่ะ”

 

 

“ไม่ต้องไปสนใจเขา” หงหลวนหัวเราะเยาะ “ในเมื่อเขาอยากรอก็ปล่อยให้เขารอไป! ข้าอยากจะรู้ว่าเขาจะรอได้นานแค่ไหนกัน! ดูจากนิสัยของเขาแล้ว อีกหกชั่วโมงเขาคงจากไป!”

 

 

ดูเหมือนหงหลวนจะประเมินหลิงเฉินสูงเกินไป อย่าว่าแต่หกชั่วโมงเลย เขารอไม่ถึงสองชั่วโมงก็รีบออกไปโน้มน้าวเซี่ยชูที่เหลาแล้ว แต่เซี่ยชูก็ยืนยันว่านางจะไม่ยืนขึ้นจนกว่าจะครบห้าวัน

 

 

ด้วยเหตุนี้ หลิงเฉินจึงเกลียดหงหลวนมากขึ้น ความสงสารในใจเขาก่อนหน้านี้ก็หายไปนานแล้ว

 

 

“หงหลวน รอก่อนเถอะ เจ้ากล้าทำกับเซี่ยชูแบบนี้ ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้เป็นพันเท่า!” หลิงเฉินพูดอย่างเดือดดาล

 

 

ขณะที่หลิงเฉินกำลังโมโห เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นประกายชั่วร้ายในดวงตาของเซี่ยชู

 

 

หงหลวน นิสัยของเจ้านั่นเจ้ากี้เจ้าการและไร้เหตุผลมากเกินไป ไม่มีบุรุษคนใดจะชื่นชอบสตรีอย่างเจ้าหรอก! ตราบใดที่ข้าลงมือเพียงเล็กน้อย แม้แต่บุรุษสวมชุดขาวโดดเด่นที่อยู่ข้างเจ้าคนนั้นก็จะกลายเป็นของข้า!

 

 

ตอนนั้นภาพท่าทางยโสและเต็มไปด้วยความมั่นใจของอวิ๋นลั่วเฟิงก็ปรากฏในความคิดของเซี่ยชู ขณะที่ดวงตานางเต็มไปด้วยความหลงใหล นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยมแบบเขา!