ตอนที่ 728 ฟู่กุ้ยถูกล้างสมอง

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

หลิวเหมยเข้าไปในห้องนอนแล้ว เลี่ยวฟู่กุ้ยยืนอยู่ในห้องรับแขกด้วยสภาพหน้าแดงหูแดง กำลังนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

 

 

“กินข้าวเช้ายัง” เสี่ยวเชี่ยนถาม

 

 

“กินแล้ว” ฟู่กุ้ยเดินไปนั่งที่โซฟา เขารู้สึกคอแห้งมากจึงหยิบน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกขึ้นมากระดกกินยกใหญ่

 

 

“วันนี้ยุ่งหรือเปล่า” เสี่ยวเชี่ยนพอเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว

 

 

“ก็ประมาณนึง มีธุระนิดหน่อย ต้องไปประชุม เธอแนะนำคนมาฝึกงานให้พี่ไม่ใช่เหรอ บอกเขามาหาสิเดี๋ยวพี่พาไปที่โรงพยาบาล”

 

 

“อ่อ ถ้าพี่ยุ่งงั้นก็ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันหาคนอื่นช่วยหลิวเหมยแทน”

 

 

“หลิวเหมยเป็นอะไรเหรอ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองไปยังห้องนอนหลิวเหมยที่ปิดสนิทอย่างมีลับลมคมใน แล้วส่งสายตาให้สุ่ยเซียน “สุ่ยเซียน ไปดูหลิวเหมยหน่อยสิ เขาอาจต้องการให้เธอช่วยเลือกชุดนะ ไปช่วยเขาหน่อย”

 

 

สุ่ยเซียนเข้าใจทันที เชี่ยนเอ๋ออยากจะคุยกับเลี่ยวฟู่กุ้ยที่ทุกคนต่างเชียร์เป็นการส่วนตัว เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการให้หลิวเหมยได้ยินด้วย

 

 

“วางใจได้ ฉันไม่ให้เขาออกมาก่อนหรอก สู้ๆนะ” สุ่ยเซียนเหลือบมองเลี่ยวฟู่กุ้ย เขารู้สึกว่าสายตาที่สุ่ยเซียนมองมาเหมือนพวกชาวบ้านเวลาเลือกเป็ดไก่ช่วงตรุษจีน

 

 

ทำไมอะ…ทำอย่างกับไม่เคยเจอกันมาก่อน

 

 

สุ่ยเซียนแน่ใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้มองคนผิดไปจึงหันไปตบบ่าเสี่ยวเชี่ยน “จากใจฉันเลยนะ นายเลี่ยวฟู่กุ้ยฆ่าหม่าลุ่ยตายในพริบตา ถ้าเธอจัดการเรื่องนี้สำเร็จ เอาไปเลยกระเป๋าอีกใบ”

 

 

สุ่ยเซียนทนดูครอบครัวหม่าลุ่ยต่อไปไม่ไหวแล้ว อยากจะเข้าไปจับแยกให้รู้แล้วรู้รอด

 

 

“ขอเป็นกระเป๋าผู้ชายแล้วกัน เสี่ยวเฉียงยังขาดกระเป๋าใส่โทรศัพท์” เสี่ยวเชี่ยนตบมือสุ่ยเซียนเบาๆ สุ่ยเซียนเห็นท่าทางของเสี่ยวเชี่ยนก็วางใจ เชี่ยนเอ๋อกล้าเอ่ยปากขอของก็แสดงว่ามั่นใจเรื่องนี้แล้ว

 

 

เลี่ยวฟู่กุ้ยมองท่าทางของผู้หญิงสองคนตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ สุ่ยเซียนทำท่าสู้ตายให้เสี่ยวเชี่ยนแล้วเดินเข้าห้องไป เธอต้องไปถ่วงเวลาหลิวเหมยเอาไว้เพื่อให้มั่นใจว่าหลิวเหมยจะไม่ออกมาก่อนเสี่ยวเชี่ยนคุยเสร็จ

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำท่ากระดิกนิ้วเรียกเลี่ยวฟู่กุ้ย เป็นสัญญาณว่าให้เอาหูมาใกล้ๆ จากนั้นก็กระซิบถาม

 

 

“พี่ฟู่กุ้ย พี่จะยอมทำตัวเป็นมือที่สามเพื่อปกป้องความยุติธรรมสักครั้งได้หรือเปล่า”

 

 

มือที่สาม คำที่มีความหมายในเชิงไม่ดีแบบนี้ คนจิตใจสูงส่งอย่างเลี่ยวฟู่กุ้ยไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้จะได้สัมผัสกับมัน

 

 

เวลาเขาเห็นใครทำตัวเป็นมือที่สามเขาแทบอยากจะพูดคำสอนของท่านผู้นำเพื่อให้ล้มเลิกความคิดไม่ดีนั้นเสีย

 

 

แต่เวลานี้คำๆนี้มาอยู่กับคำว่ายุติธรรม เลี่ยวฟู่กุ้ยถึงกับหน้านิ่ว

 

 

“เชี่ยนเอ๋อ เธอหมายความว่าไง”

 

 

ฟู่กุ้ยคิดว่าต่อให้เป็นเพื่อความยุติธรรมก็ไม่สมควรไปเป็นมือที่สามแทรกกลางระหว่างใครอยู่ดี แบบนั้นมันเกินไป ถือเป็นการผิดต่อท่านผู้นำ ผิดต่อพรรคคอมมิวนิสต์ ผิดต่อประชาชน หรือแม้กระทั่งผิดต่อพ่อเขาที่เป็นถึงผู้พิพากษา

 

 

เลี่ยวฟู่กุ้ยมีขอบเขตของตัวเอง

 

 

“ฉันหมายความว่า เพื่อความสุขของหลิวเหมย พี่จะยอมเป็นมือที่สามสักครั้ง ล้มเรื่องานแต่งของหลิวเหมยกับผู้ชายฟีนิกซ์ได้หรือเปล่า”

 

 

“เขาจะแต่งงานแล้วเหรอ”

 

 

โวะ โว้ย

 

 

ประหนึ่งมีสายฟ้าฟาดลงมาที่ใจของเลี่ยวฟู่กุ้ยกลางวันแสกๆ

 

 

“ยังพี่ แต่ถ้าพวกเราไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่แน่ได้แต่งแน่”

 

 

“เพื่อความสุขของเขา…พวกเรา…อย่า…ไปแทรกแซงเรื่องแต่งงานของเขาเลย…”

 

 

เหอๆ พูดติดๆขัดๆขนาดนี้แล้ว จริงใจเบอร์ไหน เสี่ยวเชี่ยนมองออกแต่ไม่พูดออกมา ทำเป็นพูดให้คิด

 

 

“แต่ครอบครัวของผู้ชาย…จึ๊ๆ ฉันขออธิบายแบบนี้แล้วกัน หลิวเหมยแต่งไปก็เท่ากับย้อนกลับไปในยุคโบราณ วันๆต้องตกเป็นที่ระบายอารมณ์ของแม่กับน้องสามี ส่วนผู้ชายก็ไม่เอาไหน หลับหูหลับตาทำตัวเป็นลูกกตัญญูแบบโง่ๆ”

 

 

“หลิวเหมย…ชอบ…ก็พอแล้ว…”

 

 

เสียงสั่นขนาดนี้ หน้าก็ซีด เสี่ยวเชี่ยนต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมากในการควบคุมตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมา

 

 

ปากไม่ตรงกับใจเป็นแบบไหน ดูท่าทางของเลี่ยวฟู่กุ้ยตอนนี้ก็รู้แล้ว

 

 

“แต่ผู้ชายคนนั้นไม่โอเคเลยนะ เมื่อวานอวี๋หมิงหลางบอกเขาว่าย่าหลิวเหมยป่วยไม่มีเงินรักษา พี่รู้ไหมเขาตอบว่าไง…”

 

 

“ย่าป่วยไม่มีเงินรักษาเหรอ เอาเท่าไรล่ะ เอาของพี่ไปก่อนก็ได้นะ”

 

 

“ใจเย็น ยังไม่ต้องรีบร้อนทำคะแนน ย่าหลิวเหมยไปท่องแดนสวรรค์ได้ครึ่งปีแล้ว เสี่ยวเฉียงก็แค่หาเรื่องลองใจคน ปรากฏว่าครอบครัวนั้น…”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเล่าให้ฟัง เลี่ยวฟู่กุ้ยนั่งฟังอย่างตั้งใจ

 

 

ถ้าเลี่ยวฟู่กุ้ยไม่ได้ชอบหลิวเหมย เธอเฉินเสี่ยวเชี่ยนก็ออกจากวงการจิตแพทย์ไปได้เลย นี่ขนาดไม่สนิทยังจะควักเงินให้ จึ๊ๆๆ

 

 

“แล้วพี่ยังอยากให้หลิวเหมยแต่งงานกับคนแบบนี้เหรอ”

 

 

“นิสัยแย่ขนาดนี้…แต่หลิวเหมยชอบนี่นา” นี่เป็นจุดที่ปวดใจที่สุด ถ้าน้องนุ่มนิ่มชอบผู้ชายคนนั้น แล้วเขาจะทำอะไรได้

 

 

“หลิวเหมยไม่ได้ชอบ”

 

 

“ไม่ได้ชอบเหรอ” เขาพูดออกมาเสียงดังฟังชัด เสียงไม่สั่น เลี่ยวฟู่กุ้ยกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

 

 

“ไม่ได้ชอบหรอก เรื่องนี้น่ะนะ ปัญหามันเริ่มมาจากคำทำนายดวงของอาจารย์หลิวเหมย…”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนใช้เวลาไม่นานเล่าสาเหตุของเรื่องอย่างกระชับ พยายามเน้นว่าคนครอบครัวนั้นเป็นอย่างไร พร้อมทั้งเล่าเรื่องเมื่อวานให้ฟัง

 

 

เลี่ยวฟู่กุ้ยถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด

 

 

“เชี่ยนเอ๋อ เธอคงไม่ได้จงใจใส่ร้ายคนอื่นเพื่อที่จะจับพวกเขาแยกกันหรอกนะ”

 

 

โลกนี้มีครอบครัวที่ตรรกะเพี้ยนๆแบบนี้ด้วยเหรอ เลี่ยวฟู่กุ้ยไม่ค่อยอยากเชื่อ เขารู้สึกขยะแขยงผู้ชายที่ทำตัวข่มคนอื่นแบบนี้

 

 

“จะใช่หรือเปล่าพี่ไปดูเองก็รู้ วันนี้พวกเราจะไปกินบุฟเฟ่ต์ที่โครงการของพี่ใหญ่ ไปด้วยกันไหมล่ะ”

 

 

“พี่…” เลี่ยวฟู่กุ้ยลังเล เขาเองก็ไม่ได้สนิทกับหลิวเหมยมาก อยู่ๆโผล่เข้าไปร่วมด้วย หลิวเหมยจะรู้สึกแปลกๆหรือเปล่า

 

 

พอเสี่ยวเชี่ยนพูดมาถึงตรงนี้ หลิวเหมยก็เปลี่ยนชุดเสร็จออกมาพอดี วันนี้ไปสถานที่แบบนั้นแต่งตัวธรรมดาเกินไปคงดูไม่ดี สุ่ยเซียนจึงเลือกชุดเดรสที่มีอยู่เพียงชุดเดียวให้ ฟู่กุ้ยเห็นแล้วก็เอาแต่จ้องขายาวเรียว ยาวเหลือเกิน~

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเห็นเลี่ยวฟู่กุ้ยเอาแต่จ้องขาหลิวเหมยก็นึกสนุกขึ้นมา เธอจงใจพูดเสียงดัง “อ่อ พี่ฟู่กุ้ยงานยุ่งมาก ไม่ว่างเหรอ งั้นก็ไม่เป็นไร ไปประชุมเถอะ ฉันจะผลักหลิวเหมยไปลงนรกเอง ปล่อยให้ครอบครัวหม่าที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ทรมานหลิวเหมยให้ตายทั้งเป็นไปนั่นแหละ”

 

 

“พี่ว่าง” นายเลี่ยวฟู่กุ้ยร้อนใจขึ้นมาทันที

 

 

ถ้าแค่เพื่อความยุติธรรมล่ะก็ เขาไม่มีทางไปเป็นมือที่สามแทรกกลางระหว่างใครแน่ เพราะมันผิดต่อท่านผู้นำ ผิดต่อพรรคคอมมิวนิสต์ ผิดต่อประชาชน และผิดต่อพ่อเขาที่เป็นถึงผู้พิพากษา

 

 

แต่ถ้าเพื่อน้องนุ่มนิ่ม ซิกแพ็ค ขาเรียวยาว ผิวสีน้ำผึ้งที่ชวนหลงใหล นิสัยร่าเริงเป็นกันเองแล้วล่ะก็ เลี่ยวฟู่กุ้ยคิดว่าเรื่องพวกนั้นไม่สำคัญแล้ว สลัดทิ้งไปได้

 

 

“เชี่ยนเอ๋อ เธอบอกเพื่อนหน่อยได้ไหมว่าวันมะรืนค่อยไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาล”

 

 

“หืม พี่งานยุ่งไม่ใช่เหรอ” เสี่ยวเชี่ยนแกล้งถาม

 

 

ฟู่กุ้ยมองหลิวเหมยด้วยสายตามุ่งมั่น จะยุ่งแค่ไหนก็ต้องมีเวลาให้น้องนุ่มนิ่ม ผู้หญิงดีๆแบบนี้จะปล่อยให้ไปลงนรกได้ยังไง

 

 

ท่านผู้นำกล่าวไว้ว่า เรื่องขัดแย้งที่ต่างกัน ต้องใช้วิธีที่ต่างกันเท่านั้นถึงจะแก้ปัญหาได้ ปัญหาเรื่องคู่ครองของน้องนุ่มนิ่ม เขาจะจัดการแก้ให้เอง