ตอนที่110 กวาดล้างภายในสิบวัน

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล]

ตอนที่110 กวาดล้างภายในสิบวัน

เฉียงกุยหลิงเป็นเพียงสาวน้อยตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าแข็งข้อกับหวงตงเทียนที่กำลังหัวเสียได้โดยธรรมชาติ เธอรีบพนมมือขอโทษขอโพยเขาอย่างรวดเร็ว และขอร้องให้เวลาเธอหน่อยสักสิบนาที จากนั้นจะรีบตามไปให้บริหารเขาทันที

แต่หวงตงเทียนกลับใจร้อน ไม่รอคอยใดๆ อีกต่อไป เขากระชากแขนพยายามลากเธอออกจากห้อง นอกจากนี้ยังกล่าวขู่จ้าวเฉียนอีกว่า ให้รู้จักประมาณตัวเสียบ้าง อย่ามาทำตัวกร่างแถวนี้

จ้าวเฉียนไม่ทนอีกต่อไปแล้ว เขาลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าไปขวางหวงตงเทียนไม่ให้อีกฝ่ายได้ออกไปไหน เฉียงกุยหลิงรีบตะโกนขัดเพื่อหยุดไม่ให้จ้าวเฉียนเข้ามายุ่งโดยไว

“คุณลูกค้าอย่าทำแบบนี้เลย เขาเป็นลูกค้าคนสำคัญของที่นี่ แถมยังรู้จักกับหัวหน้าหนูอีกด้วย เขารวยมาก อย่าไปยุ่งกับเขาเลยนะคะ”

หวงตงเทียนและผู้ติดตามทั้งสี่ระเบิดหัวเราะเยาะลั่นอย่างสุขใจ พวกเขาบอกให้จ้าวเฉียนควรรับฟังเธอไว้ดีกว่า จะได้ไม่ต้องหน้าแตกโดนกระทืบต่อหน้าสาวสวย

จ้าวเฉียนแสยะยิ้มเยาะกล่าวขึ้นว่า

“รู้จักกับหัวหน้า? ฉันไม่อยากเชื่อเท่าไหร่วะ! ลองโทรหาแล้วถามดูสิว่า ระหว่างฉันกับพวกนาย เขาจะให้หน้าใครมากกว่ากัน?”

สีหน้าหวงตงเทียนเจื่อนลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามน้ำเสียงเดือดจัดกลับไปว่า

“ไอ้หนู รู้จักบาร์แบล็คเพิร์ลไหม? นั้นเป็นธุรกิจของกูเอง! แล้วมึงรู้ไหมว่าใครเป็นพี่ใหญ่คอยสนับสนุนกูอยู่เบื้องหลัง? คุณหลิวเปาเลยนะเว้ย! เขาคือเจ้าถิ่นแห่งเมืองตงไห่ ส่วนอีกคนคือคุณหยางหู่ มึงรู้จักหรือเปล่าว่าพวกเขาคือใคร? ฮ่าฮ่าๆ มึงเล่นด้วยผิดคนแล้ว ถ้ายังไม่ถอยมึงไม่ตายดีแน่!”

ไม่มีอะไรมากไปกว่าการกล่าวพาดพึงไปถึงหลิวเปา หวงตงเทียนเชื่ออย่างยิ่งว่า พอจ้าวเฉียนได้ยินชื่อนี้ มันต้องเลิกตามตื้อเขาแน่นอน

“หลิวเปางั้นเหรอ? เหอะ เหอะ…ตอนนี้ขนาดตัวมันเองยังตกที่นั่งลำบากเลย มันจะเอาเวลาไหนมาช่วยแก? ตอนนี้คงวิ่งวุ่นขอร้องคนใหญ่คนโตให้ช่วยมันอยู่เลย!”

สีหน้าของหวงตงเทียนมืดทมิฬลงทันที

“มึงรู้จักคุณหลิวเปาด้วยงั้นเหรอ?”

“เออ…ยิ่งกว่ารู้จักอีก ฉันเพิ่งถอนฟันน้องชายมันไปเองที่ชื่อหลิวซีน่ะ ล่าสุดก็เล่นมันจนเกือบเอาตัวไม่รอด ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกพวกนายหรือหลิวเปาหรอกนะ แต่มดน้อยแบบนี้เรียกว่าเจ้าถิ่นได้แล้วงั้นเหรอ?”

หวงตงเทียนเริ่มรู้สึกหวั่นเกรงขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่ลูกน้องของเขาที่อยู่ด้านหลังกลับยั่วยุตอบไปว่า จ้าวเฉียนแค่ขู่เท่าไหร่ ดูยังไงก็แค่เด็กตัวกระเปี๊ยกคนหนึ่ง มันพยายามแสร้งทำเป็นหมูกินเสือเท่านั้น

หวงตงเทียนเองก็รู้สึกเช่นกันว่า สิ่งที่ลูกน้องกล่าวไปนั้นสมเหตุสมผล ชายหนุ่มอายุแค่นี้จะมีเส้นสายใหญ่โตขนาดนั้นได้ยังไง? มองข้ามเรื่องรู้จักหลิวเปาไปได้เลย มาใช้บริการในโรงแรมเกรดแค่นี้ จะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว?

“ไอ้เวร ขู่ซะกูกลัวเลยนะ จะขี้โม้ไปถึงไหนวะ? ถือเป็นโชคร้ายของมึงแล้วกัน ที่วิ่งมาเจอกูวันนี้! พวกเรา! ไปกระทืบมัน!”

เฉียงกุยหลิงรีบก้าวออกไปหยุดทันทีและเอ่ยขอร้องน้ำเสียงสั่นว่า

“นายท่านหวง หนูขอร้อง อย่าทำอะไรเขาไปมากกว่านี้เลย เดี๋ยว…เดี๋ยวหนูจะรีบออกไปกับนายท่านตอนนี้เลย!”

หวงตงเทียนแสยะยิ้มเย้ยหยั่นกล่าวขึ้นว่า

“ฮ่าฮ่าๆๆๆ …ต้องว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิวะ! แต่สายไปแล้ว ยังไงกูก็ต้องสั่งสอนมันอยู่ดี! เห้ย! จัดการ!”

ระหว่างนั้นเอง หวงตงเทียนก็เอื้อมมือไปโอบกอดเฉียงกุยหลิงไว้ในอ้อมแขนและเดินออกไป แต่จ้าวเฉียนพุ่งเข้าไปกระชากร่างบางของเธอออกมาไว้ในอ้อมกอดตัวเองแทน

“ตอนนี้เธอกำลังนวดฉันอยู่ จะพาออกไปก่อนกำหนดไม่ได้!”

หวงตงเทียนโกรธจัด ตะคอกใส่ว่า

“มึงอยากตายจริงๆ ใช่ไหม! พวกมึงปล่อย! กูจะฆ่ามันเอง!”

เฉียงกุยหลิงรีบผละออกจากอ้อมกอดจ้าวเฉียนทันที และกล่าวปลอบโยนขึ้นว่า

“คุณลูกค้าอย่าทำแบบนี้เลยค่ะ นายท่านหวงไปกันเถอะ อย่าใช้ความรุนแรงในที่แห่งนี้เลยค่ะ”

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะอย่างสำราญใจนัก ตอบไปว่า

“ฉันบอกแล้วไง เธอยังนวดให้ฉันอยู่ จะไม่มีใครสามารถพาเธอไปไหนได้!”

“ไอ้เด็กเวร! มึงตาย!!”

หวงตงเทียนคำรามเสียงดังกึกก้อง หวดเท้าเตะถังที่อยู่เคียงข้าง

“ใครมันทำลายข้าวของในที่ของฉันวะ!”

ทันใดนั้นเอง สุ้มเสียงหนึ่งที่ฟังดูน่าเกรงขามอย่างยิ่งก็แผดดังขึ้น

หวงตงเทียนระเบิดหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ และกล่าวทักทายทันทีว่า

“หัวหน้า! ไอ้เด็กนี่มันรนหาที่ตาย!”

พอพูดจบหวงตงเทียนก็รีบวิ่งออกไปโค้งหัวให้ชายคนนั้นทันที และเอ่ยขึ้นว่า

“หัวหน้าหยวน ในที่สุดก็มาแล้ว!”

“ฮ่าฮ่า…ตงเทียน เด็กคนไหนแข็งข้อกับนายห่ะ? บอกฉันมาเดี๋ยวสั่งสอนให้เอง”

หวงตงเทียนรีบส่ายหัวและกล่าวตอบว่า

“ไม่ใช่เด็กของหัวหน้าครับ แต่เป็นไอ้เด็กเวรไร้หัวนอนปลายเท้าตรงนั้น! มันหาเรื่องพวกผมครับ”

“ใครกัน? กล้าท้าทายพวกฉันงั้นเหรอ?”

หยวนตงไห่เดินเข้ามาไปห้องนวดสาปทันที โดยมีหวงตงเทียนติดตามอยู่ท้ายหลัง เดินตามอย่างมีความสุข

หวงตงเทียนชี้นิ้วไปที่จ้าวเฉียนและกล่าวกับหยวนตงไห่ว่า

“หัวหน้าหยวน ไอ้เด็กเวรนี่แหละ! มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรปฏิบัติตัวยังไงในที่แห่งนี้ มันสู้มือผมไม่พอยังขู่อีกบอกว่า รู้จักยิ่งกว่ารู้จักกับคุณหลิวเปา ดูมันพูดเข้าสิ! คิดว่าตัวเองใหญ่มากจากไหนห่ะ? หัวหน้าหยวนช่วนสั่งสอนมันทีครับ”

ทันใดนั้นเอง หยวนตงไห่ระเบิดหัวเราะลั่นเงยหน้าชี้ขึ้นฟ้าทันที หวงตงเทียนที่เห็นแบบนั้นก็พลันหัวเราะตาม

แต่ทันใดนั้นสีหน้าการแสดงออกของหยวนตงไห่ก็เปลี่ยนไป เขาหันมาพูดกับหวงตงเทียนว่า

“ฉันคิดว่า แกนั้นแหละที่ควรหยุด ถ้ายังกล้าทำอะไรอีกฝ่าย ฉันบอกได้เลยว่า ครอบครัวที่นายรักเตรียมถูกอุ้มได้เลยในวันรุ่งขึ้น รวมไปถึงบาร์ของแกได้ถูกเผาวอดแน่นอนเชื่อไหม?”

หวงตงเทียนแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เอ่ยถามน้ำเสียงติดขัดอย่างตื่นตกใจว่า

“เอ่อ…เอ่อ…หัวหน้าหยวน นี่หมายความว่ายังไงกันครับ? พี่ต้องช่วยผมสนไม่ใช่ไปช่วยมัน?”

“ฮ่าฮ่า…ยังไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูดไปอีกงั้นเหรอ? ก็ลองตัดสินใจเอาเองแล้วกันว่าควรปฏิบัติตัวยังไง หากชีวิตยังไม่อยากชิบหาย?”

หวงตงเทียนเริ่มรู้สึกลังเลใจคล้อยเอียงขึ้นมาทันควัน

“เอ่อ…อย่างน้อยก็ช่วยบอกผมได้ไหมครับว่า อีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน?”

สีหน้าการแสดงออกของหยวนตงไห่มืดหม่นลงทันใด เขาเอ่ยตอบน้ำเสียงจริงจังขึ้นว่า

“แกไม่เข้าใจที่ฉันพูดรึไง? อย่าทำตัวให้มีปัญหาเลยดีกว่า แล้วเลิกถามคำถามโง่ๆ แบบนี้ได้แล้ว เข้าใจไหม?”

ท้ายที่สุดนี้ นี่เป็นอาณาเขตของหยวนตงไห่ หวงตงเทียนไม่กล้าแข็งข้อด้วยอยู่แล้วจึงรีบตอบกลับไปว่า

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”

เมื่อหวงตงเทียนพูดจบก็สั่งให้ลูกน้องทั้งสี่ออกไปก่อน ก่อนลาจากเขาหันมากล้าขู่จ้าวเฉียนว่า

“ไอ้หนุ่ม วันนี้ถือว่าแกโชคดีไปนะ แต่เรื่องยังไม่จบเท่านี้แน่นอน วันหน้าฉันจะสอนแกเองว่าลูกผู้ชายเขาคุยกันยังไง!”

จ้าวเฉียนหัวเราะเยาะตอบไปว่า

“โอเค ฉันจะรอให้นายสอนละกันว่า ลูกผู้ชายเขาคุยกันยังไง”

หวงตงเทียนเค้นเสียงเย็นคำโตและจากไปด้วยคาวมโกรธ

ขณะเดียวกัน หยวนตงไห่ก็ยิ้มและโค้งศีรษะขอโทษจ้าวเฉียน หวังว่าจะไม่รังเกียจเพราะเรื่องแค่นี้

เฉียงกุยหลิงตกใจอย่างมากเมื่อพบเห็นภาพฉากอันน่าตะลึงเช่นนี้เข้า คุณลูกค้าคนนี้เป็นใครกันแน่? ทำไมเจ้าของสถานที่ทำงานของเธอต้องสุภาพกับเขาขนาดนี้

จ้าวเฉียนหัวร่อคำหนึ่งตอบว่า

“ไม่เป็นไร โชคยังดีที่นายมาทันเวลาพอดี ไม่อย่างนั้นฉันคงอัดพวกนั้นเละแน่ เห้ออ…ก็ฉันเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้วล่ะนะ ไม่อยากทำบาปกับคนอื่น เอาล่ะ ส่วนแม่หนูนวดต่อเลย”

“เอาล่ะ หมายเลข68 เธอต้องดูแลปรนนิบัติบอสจ้าวให้ดีเข้าใจไหม? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหรือแม้แต่ทำให้บอสจ้าวไม่พอใจเพียงเล็กน้อย ฉันไล่เธอออกแน่นอน!”

เฉียงกุยหลิงรู้กลัวหวาดกลัวอย่างมาก เธอรีบพยักหร้าและหันกลับมารวดให้โดยเร็ว

“เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะปรนนิบัติรับใช้คุณจ้าวเป็นอย่างดีเลยค่ะ!”

หยวนตงไห่เค้นเสียงฮึมถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่เธอ ก่อนจะหันมาโค้งศีรษะให้จ้าวเฉียนอีกระลอกและจากไป

เฉียงกุยเฉินเดินตามไปปิดประตูห้องและเดินกลับเข้ามาอย่างแช่มช้า ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยคำถามมากมายหลายหลาก บอสจ้าวนี่มันหมายความว่ายังไง? ทำไมเจ้าของสถานที่ที่เธอทำงานต้องสุภาพกับเขาขนาดนี้?

จ้าวเฉียนเหลือบไปเห็นว่าเธอกำลังยืนเหม่อลอยอยู่ จึงเอ่ยทักขึ้นว่า

“แม่หนู ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดพอ บางสิ่งบนโลกนี้ไม่ควรเอ่ยถามเป็นดีที่สุด”

เฉียงกุยหลิงพยักหน้ารัวเป็นไก่จิก และรีบจุดเครื่องหอมสมุนไพร และนวดสปาให้จ้าวเฉียนต่อทันที

ยังดีที่เจ้าของแห่งนี้คือหยวนตงไห่ ในอดีตตอนที่จ้าวเฉียนยังเป็นคุณชายแสนเอาแต่ใจ ก็ได้เขาคนนี้นี่แหละที่คอยจัดหาผู้หญิงมาประเคนถึงเตียง ถึงอย่างไรเขาต้องรีบหาวิธีจัดการไอ้พวกอันตธานที่มาหาเรื่องให้สิ้นซาก ถ้าพบเจอกันบนท้องถนนพร้อมอาวุธปืน กลับเป็นตัวจ้าวเฉียนแทนที่จะเสียเปรียบได้ ดังนั้นเขาจึงส่งข้อความหาหยางหู่ผ่านทางWechatทันที

“เก็บพวกมันให้เร็วที่สุด ไอ้พวกกุ๋ยกระจอกตามท้องถนนกวาดให้สะอาด”

หยางหู่ที่เห็นข้อความของจ้าวเฉียนจากWechatเด้งขึ้นมา เขาก็รีบตอบกลับทันที

“เข้าใจแล้วครับ! ไม่ต้องกังวลคุณชายจ้าว ผมจะกวาดล้างให้หมดภายในหนึ่งเดือน”

จ้าวเฉียนรู้สึกว่าหนึ่งเดือนมันนานเกินไป เขาจึงขีดเส้นตายให้หยางหู่ไปตามตรง

“นานเกินไป ขอภายในสิบวัน เริ่มจากแก๊งในบาร์แบล็คเพิร์ลก่อน เก็บพวกมันให้เรียบ สิบวันต่อมา ถ้าฉันยังเห็นหวงตงเทียนอยู่ ถือว่าครั้งนี้นายทำล้มเหลวนะ”

หลังจากได้รับข้อความดังกล่าว หยางหู่ก็ไม่รอช้าตอบกลับทันทีว่าไม่มีปัญหา พร้อมระดมพลคนของแก๊งตัวเองเป็นการด่วน

จ้าวเฉียนวางโทรศัพท์มือถือลงด้วยความพอใจ และใช้เวลาที่เหลือเพลิดเพลินไปกับทักษะการนวดของเฉียงกุยหลิง ที่เรียกได้ว่าชำนาญระดับชั้นครู! คลอไปกับบรรยากาศห้องนวดที่แสนเงียบสงบ อบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรหอม เล่นเอาซะจ้าวเฉียนเคลิ้บเคลิ้มผ่อนคลาย