บทที่ 200

บทที่ 202
เฒ่าประหลาดเบิกตาโต เห็นเงาคนเดินออกมาจากค่ายกล

ดวงตาเป็นประกายเหมือนดวงดาว คิ้วเหมือนกระบี่คม ผมสั้นเป็นสีขาวเล็กน้อย ใบหน้ามีความร้ายกาจเผยออกมา

ชุดคลุมนักบู๊สีดำ สง่างามและโดดเด่น มีเข็มขัดหยกมังกรดำตรงเอว เป็นหยกอุ่นฟ้า ราคาสูงมาก เมื่อพกติดตัว ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายอบอุ่น อีกทั้งยังช่วยต้านทานภัยอันตรายแทนเจ้าของอีกด้วย

มือซ้ายและมือขวา สวมแหวนอากาศธาตุ แหวนข้างซ้ายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ สลักคำว่า “หยาง” ออร่ารุนแรงมาก แหวนข้างขวาเป็นสีดำเหมือนน้ำหมึก สลักคำว่า “หยิน” ลึกลับยากจะคาดเดาได้

ตรงหน้าอกมีสัญลักษณ์หยินหยาง นี่เป็นเครื่องแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของนักบู๊คณะหยินหยาง

ผู้ชายเพิ่งเดินออกมา หุ่นวิญญาณบริเวณรอบๆ พากันง้างเคียว พุ่งเข้ามาโจมตี

ผู้ชายขมวดคิ้วเบาๆ ซัดหมัดออกไปกลางอากาศ

หมัดปะทะกับอากาศ ทันใดนั้น อากาศด้านหน้าเขา เหมือนคลื่นน้ำกระเพื่อม

“คลื่นพิพิโรธสะท้าน!”

พลังอันน่ากลัวแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง ทันใดนั้น หุ่นวิญญาณ โดนโจมตีจนกระเด็น

เฒ่าประหลาดโดนพลังอันแข็งแกร่ง พัดใส่จนกล้ามเนื้อบนใบหน้าบิดเบี้ยว ผู้ชายกวาดตามองรอบๆ ในแววตาทั้งสองข้าง มีแสงที่น่าตกใจพุ่งออกมา

เมื่อโดนแสงจากตาของผู้ชายโจมตี หุ่นวิญญาณหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม

“พระเนตรสะกด”

เฒ่าประหลาดพึมพำออกมา เขารู้จักกระบวนท่านี้ นี่เป็นเคล็ดวิชา ที่ซิงยวนชำนาญไม่ใช่เหรอ

หุ่นวิญญาณหลายสิบตัวหยุดชะงัก ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ

ผู้ชายละสายตาออกมา ยิ้มแล้วพูดว่า “สวัสดีคุณเฟิงหลิง ผมชื่อเอี๋ยนชิง”

เฒ่าประหลาดมองเอี๋ยนชิงอย่างประเมิน จากนั้นพูดว่า “อาจารย์นายคือซิงยวนใช่ไหม”

เอี๋ยนชิงพยักหน้า “ถูกต้อง”

เฒ่าประหลาดพูดต่อ “เคยได้ยินคนพูดนานแล้ว ซิงยวนรับศิษย์ที่สุดยอดมาคนหนึ่ง มีความหวังว่าจะปะทะสู้ในงานประลองบู๊ของประเทศอู่อาน คงเป็นนายสินะ”

เอี๋ยนชิงยิ้มมุมปาก เห็นได้ชัดว่า เขาก็พอใจกับผลการฝึกตนของตัวเองมาก

“คุณเฟิงหลิงชมเกินไปแล้ว ยาทิพย์ที่คุณพูดถึงเมื่อกี้ เป็นความจริงใช่ไหม”

เฒ่าประหลาดพยักหน้า “จริงอยู่แล้ว แค่นายช่วยให้ฉันอยู่ในนี้อย่างปลอดภัยสัก 3-5 วัน จะได้ยาทิพย์หนึ่งเม็ด”

รอยยิ้มบนใบหน้าเอี๋ยนชิงยิ่งกว้างขึ้น “คุณเฟิงหลิง หวังว่าคุณจะไม่เอายาเม็ดไร้คุณภาพ มาหลอกผมนะ พูดแล้วว่าคือยาทิพย์ เมื่อถึงตอนนั้นอย่าเอายาชีวิต มาทำให้ผมเสียเวลาล่ะ”

เฒ่าประหลาดหรี่ตาลง “วางใจเถอะ เป็นยาทิพย์แน่นอน”

เอี๋ยนชิงพยักหน้าอย่างพอใจ กวาดตามองรอบๆ แล้วพูดว่า “งั้นบอกมาก่อนว่าที่นี่คือที่ไหน ต่อไปเราจะทำอะไร”

……

อีกด้านหนึ่ง พวกลู่ฝาน เดินมาถึงหน้าประตู

เป็นประตูคุ้มครองอีกบานหนึ่ง แต่ไม่มีลวดลายซับซ้อน กับเสือและมังกรที่เป็นสัตว์คุ้มครองจากภาพลวงตา

ลู่ฝานมองอย่างระมัดระวัง สุดท้ายแน่ใจว่าประตูคุ้มครองบานนี้ ใช้พลังชี่พิเศษเปิดออก นั่นหมายความว่า นอกจากเจ้าของจวนแห่งนี้ คนอื่นเปิดประตูคุ้มครองบานนี้ได้ยาก

ลู่ฝานครุ่นคิด จากนั้นตัดสินใจ เอากระบี่หนักของตัวเองออกมา โจมตีประตูบานใหญ่อย่างแรง

ชิ้ง!

การกระทำของลู่ฝาน ทำให้พวกหานเฟิงสะดุ้งโหยง

ทั้งสามคนถอยหลัง และเอาอาวุธออกมาโดยอัตโนมัติ

แต่เมื่อรอสักพัก กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทั้งสามคนมองไปรอบๆ จากนั้นหานเฟิงถอนหายใจออกมา “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายอย่าทำให้ตกใจได้ไหม อาจตกใจตายได้เลยนะ”

ลู่ฝานยืนที่เดิม สัมผัสถึงพลังที่ตัวเองปล่อยออกไป ถูกประตูคุ้มครองดูดซับเข้าไป และแปรเปลี่ยนเป็นพลังป้องกันของประตูคุ้มครอง

ลู่ฝานลืมตาขึ้น “แย่แล้ว ประตูบานนี้เปิดยากมาก”

พวกหานเฟิงเดินเข้ามา ฉู่สิงพูดว่า “ไม่สามารถกดลงไปยังจุดใดจุดหนึ่ง เหมือนประตูบานนั้นเหรอ”

ลู่ฝานส่ายหน้า “ไม่ได้ เว้นแต่จะมีเครื่องรางของเซียนบำเพ็ญชี่คนที่ล่วงลับไปแล้ว หรือไม่ก็วิชาอะไรทำนองนั้น เดี๋ยว เครื่องรางอาจจะเป็น……”

เหมือนลู่ฝานนึกอะไรได้ เอาหม้อสือฟางออกมาจากเข็มขัดของตัวเอง

ด้านในหม้อสือฟางสีใส มีพลังห้าธาตุฟ้าดินเคลื่อนไหวอยู่

ลู่ฝานเอาหม้อสือฟางมาถือไว้ ใส่พลังของห้าธาตุ เข้าไปด้านใน

ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าด้านในหม้อสือฟาง มีพลังฟาดฟันอันน่ากลัวออกมา ฟาดฟันปราณชี่ที่เขาใส่เข้าไปอย่างต่อเนื่อง

ลู่ฝานสีหน้าเคร่งขรึม ปราณชี่เคลื่อนไหวทั้งตัว ปราณชี่กลายเป็นพลังชี่ ทันใดนั้น พลังชี่ 20 เท่าระเบิดออกมา ทะลักเข้าไปในหม้อสือฟาง

ทันใดนั้น ลู่ฝาน “มองเห็น” ผ่านพลังชี่ ว่าข้างในหม้อสือฟางมีรอยจารึกเล็กๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือร่องรอยประทับที่เจ้าของหม้อสือฟางหลงเหลือเอาไว้ เพื่อควบคุมหม้อสือฟาง จากรอยจารึกเล็กๆ นี้ ลู่ฝานสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเซียนบำเพ็ญชี่คนนี้

พลังลึกล้ำเหมือนทะเลกว้างใหญ่ ไม่สามารถคาดเดาได้ แม้ผ่านไปเป็นร้อยปี ในรอยประทับ ยังแฝงไปด้วยออร่า ที่ทำให้คนรู้สึกเลื่อมใส

ลู่ฝานสูดหายใจลึก เอาปราณชี่ของตัวเอง ใส่เข้าไปในรอยจารึก

วินาทีต่อมา หม้อสือฟางสว่างขึ้นมา