ตอนที่ 497 กรรมตามสนอง
จากงานคอนเสิร์ตที่ใครๆ ก็ไม่ได้สนใจ สุดท้ายกลับเกิดเหตุการณ์พลิกผันจนทุกคนล้วนตกตะลึง
ผู้คนล้นหลามต่างรื่นเริง บรรยากาศคึกคัก
เป็นความครื้นเครงที่ไม่เคยเกิดขึ้นในคอนเสิร์ตไหนมาก่อน ครึกครื้นรื่นเริง อารมณ์พลุ่งพล่าน
จนกระทั่งคอนเสิร์ตจบลง หลายๆ คนก็ยังดึงสติกลับมาไม่ได้
ส่วนคนที่ช็อกเพราะเหตุการณ์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างเห็นได้ชัดนั้น ขณะนี้ได้เกิดเป็นกระแสใหญ่บนอินเทอร์เน็ตแล้ว
“เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น ไม่คิดเลยว่าโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่างโปรดิวเซอร์หลิน จะเป็นคนต่ำช้าขนาดนี้”
“อาศัยที่เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ดังทำให้ตัวเองยืนอยู่ในวงการดนตรีมาตั้งนาน แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเมื่อถึงจุดหมายแล้วกลับถีบหัวส่งผู้มีพระคุณได้ ลืมบุญคุณคน เนรคุณจริงๆ”
“ก่อนหน้านี้ที่ให้สัมภาษณ์ยังทำท่าเย่อหยิ่งราวกับตัวเองสูงส่งมาจากไหน ทำเป็นพูดว่ารับไม่ได้กับทัศนคติที่มี่ต่อดนตรีของจี้อี้ ดนตรีกับชื่อเสียงไม่เกี่ยวข้องกันงั้นเหรอ ถุย กากเดนสังคม”
“เกือบจะทำให้ชีวิตของลูกสาวของอาจารย์ตัวเองที่ฝากฝังไว้ให้ดูแลกับมือต้องถึงจุดจบแล้ว แทนที่จะรับผิด กลับย้อนกลับมาเล่นงานอีกฝ่าย ทำไมไม่ไปตายซะ”
“แล้วยังมีนางแพศยาเฉินเชียนโหรวนั่นอีก ทั้งๆ ที่เป็นเพลงของคนอื่นแท้ๆ นางก็ยังจะดื้อด้านไม่ยอมรับผิด หน้าหนาๆ ของเธอสมควรโดนพี่สาวตบให้เละไปเสียจริง”
“ใช่ แล้วยังมีคุณย่าอะไรนั่นอีก เป็นพวกขยะสังคมทั้งนั้น”
“หลานอวิ้นเป็นบริษัทที่เน่าที่สุดในโลก ดีนะที่จี้อี้ออกมาแล้ว ไม่งั้นคงจะถูกหลานอวิ้นโขกสับเพื่อยายดาวเด่นเฉินเชียนโหรวไปทั้งชีวิต”
“ใช่ ใช่ ใช่ ยังไงพี่สาวสกุลเฉินก็เก่งที่สุด สายตาเฉียบแหลม ถึงเจอเพชรในตมอย่างจี้อี้ได้”
–
คอมเมนต์ในหน้าอินเทอร์เน็ตกระหน่ำเข้ามาเต็มหน้า เป็นการคอมเมนต์ที่ดุเดือดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ในคืนเดียวกันนั้น มีกองทัพนักข่าวและกลุ่มแฟนคลับจำนวนนับไม่ถ้วนปิดล้อมหลานอวิ้นเอาไว้ พวกเขาเฝ้าอยู่ทั้งคืน ยืนกรานว่าอย่างไรก็จะดักเจอเฉินเชียนโหรวและเจียงหรงหรงให้ได้
แม้แต่พนักงานที่มาทำงานตอนเช้าก็เข้าไปในอาคารไม่ได้
เฉินเชียนโหรวและเจียงหรงหรงเข้ามาในบริษัทด้วยกัน ยังไม่ทันลงรถ รถก็ถูกล้อมเอาไว้
พนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามาช่วยเหลือให้พวกเธอลงจากรถด้วยความยากลำบาก ทันใดนั้น คำถามของนักข่าวก็กระแทกใส่เข้ามาเป็นชุด
“คุณเฉินเชียนโหรวครับ ไม่ทราบว่าเรื่องการขโมยผลงานเพลง ‘โตวซื่ออ้าย (รักทั้งสิ้น)’ ที่ผลสุดท้ายกลับพลิกผัน คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้”
เฉินเชียนโหรวถูกเบียดจนแทบทรงตัวไม่อยู่ เธอก้มหน้าก้มตาพยายามหลีกเลี่ยงคำถาม
“ขอถามคุณเฉินเชียนโหรวหน่อยค่ะ ขโมยผลงานศิลปินในบริษัทเดียวกัน ทั้งยังชิงออกผลงานตัดหน้าเพื่อใส่ร้ายกลับ หลอกลวงศิลปินในต้นสังกัด ไม่ทราบว่าคุณจะให้คำอธิบายว่ายังไง”
เมื่อเห็นว่าเป็นตายอย่างไรเฉินเชียนโหรวก็ไม่ยอมเปิดปาก จึงมีนักข่าวโยนคำถามไปทางเจียงหรงหรงแทน
“ขอถามประธานเจียงหน่อย เฉินเชียนโหรวทำเพื่อเรื่องส่วนตัวของตนเองโดยไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัท หลอกลวงศิลปิน ใส่ร้ายจี้อี้อย่างร้ายแรงขนาดนี้ อีกทั้ง ในขณะที่พวกเราไม่ว่าจะซักถามไปกี่รอบแต่ท้ายที่สุดก็ไม่ยอมให้คำอธิบายอะไรออกมาเลย ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบหลานอวิ้น คุณตัดสินใจจะถอนรายชื่อเฉินเชียนโหรวออกจากการเป็นศิลปินในหลานอวิ้นหรือเปล่า”
สีหน้าเจียงหรงหรงเย็นชาไปชั่วขณะ
นักข่าวคนที่ถามเห็นสีหน้าของเธอที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วก็แสยะหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดจาทิ่มแทงต่อ
“ประธานเจียง รบกวนคุณตอบคำถามดิฉันด้วย คำถามนี้ไม่น่าจะเป็นคำถามที่ควรต้องใช้เวลาในการพิจารณาให้มากมายหรอกใช่ไหม คำพูดเหล่านี้ เป็นคำพูดที่คุณเคยพูดไว้ในงานแถลงข่าวของหลานอวิ้นเมื่อครึ่งเดือนก่อน คุณยังบอกอีกว่า…
หลานอวิ้นไม่อนุญาตให้มีศิลปินที่มีพฤติกรรมขโมยผลงาน คัดลอกผลงาน การประพฤติมิชอบ หรือพฤติกรรมไม่เหมาะสมร้ายแรงต่างๆ โดยเด็ดขาด ไม่เพียงเท่านี้ ในขณะเดียวกัน คุณยังประกาศอีกว่า ผู้ที่คัดลอก และขโมยผลงานจากการตรากตรำทำงานหนักของคนอื่น เอาแต่เสวยสุขจากผลพวงของความสำเร็จของผู้อื่นเป็นพวกหน้าไม่อายที่ไม่ควรให้อภัยที่สุด คนประเภทนี้ ควรจะถูกแบนจากสังคมไปเลย ไม่ทราบว่า คุณก็จะดำเนินการกับคุณเฉินเชียนโหรวด้วยวิธีนี้เช่นกันใช่ไหม”
ตอนที่ 498 มีแค่พวกคุณที่ถูกเสมอ
เจียงหรงหรงมองนักข่าวที่ถามคำถามคนนั้นด้วยสายตาดุดันทิ่มแทงพลางพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“เชียนโหรวไม่ได้เป็นคนลอกผลงาน เธอเองก็ถูกหลอกเหมือนกัน”
“เหอะๆ งั้นก็หมายความว่า เชียนโหรวจะไม่ถูกปลดชื่อออกจากหลานอวิ้น และก็จะไม่ถูกแบนด้วยงั้นเหรอ ประธานเจียง คำพูดเมื่อกี้เป็นคำพูดที่คุณเคยพูดเอาไว้เองนะ ตอนนี้สีหน้าท่าทางอย่างนี้ อยากจะเรียนถามประธานเจียงสักหน่อย หน้าของคุณรู้สึกเจ็บบ้างไหม”
“ฉันบอกแล้วไง เชียนโหรวไม่ใช่คนลอกผลงาน เธอก็ถูกหลอกอีกที เธอก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันนะ”
“โอ๊ะ เหตุผลนี้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เฉินเชียนโหรวมีปัญหา ก็มักจะทำท่าทางราวกับเป็นผู้บริสุทธิ์ไร้ความผิด ครั้งสองครั้งก็พอได้อยู่หรอก แต่นี่พอหลายครั้งเข้า ก็รู้สึกว่าเริ่มเหนื่อยหน่ายขึ้นมาบ้างแล้ว ดูเหมือนว่าทุกคนและทุกเรื่องบนโลกนี้จะผิดไปเสียหมด มีแต่พวกคุณสกุลเฉินเท่านั้นที่ถูกต้อง ที่ไร้มลทินเสมองั้นเหรอ”
เจียงหรงหรงเม้มริมฝีปาก ใบหน้าของเธอเหยเกด้วยความเคร่งเครียดจนน่าตกใจ
“เรื่องราวยังไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัด ก็ตราหน้าว่าศิลปินในบริษัทเดียวกันเป็นคนลอกผลงาน ขโมยผลงาน แล้วตอนนี้จี้อี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตัวเองบริสุทธิ์จริง อีกทั้งยังมีหลักฐานที่น่าเชื่อถืออีกมากมาย ตอนนี้คุณกลับยังไม่ยอมรับ หลานอวิ้นของคุณถือหางข้างเฉินเชียนโหรว กดขี่ข่มเหงศิลปินคนอื่นอย่างร้ายแรง ดูเหมือนครั้งนี้ ฉันจะได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว”
“เพื่อปกป้องศิลปินที่มีปัญหาด้านคุณธรรมแบบเข้าขั้นวิกฤต ถึงกับยอมสูญเสียจี้อี้ เหอะๆ…ประธานเจียง คุณยังจำคำพูดนั้นของคุณได้ไหม ใจความประมาณว่า ศิลปินในบริษัทเดียวกันถูกเฉินเชียนโหรวกดดัน ก็เป็นเพราะความสามารถพวกเขาสู้เธอไม่ได้ สมควรแล้วที่โดนกดดันแบบนั้น นับถือคุณเลยจริงๆ ดูศิลปินสาวอันดับหนึ่งผู้มากความสามารถของหลานอวิ้นของคุณสิ สร้างกระแสให้บริษัทของคุณได้มากจริงๆ ดูเหมือนเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะต้องเป็นกระแสดังระเบิดแน่”
คำพูดเสียดสีประชดชันจากนักข่าวคนเดิมดังออกมาไม่หยุด เมื่อคืนวานเขาก็ไปคอนเสิร์ตของจี้อี้เหมือนกัน ความโกรธที่สั่งสมมานั้น แน่นอนว่าต้องมีมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว
ราวกับเป็นการตอกย้ำคำพูดเหล่านั้นของเขา ทันใดนั้นเองไข่เน่าลูกหนึ่งก็ลอยกลางอากาศเข้ามา พุ่งใส่ศีรษะของเฉินเชียนโหรวอย่างจัง
“กรี๊ดดด”
เฉินเชียนโหรวกรีดร้อง กลิ่นเหม็นคาวรุนแรงอบอวลไปทั่วเพียงพริบตา
เหล่านักข่าวต่างก็พากันถอยผงะไป ปรากฏว่าทั้งไข่ไก่ มะเขือเทศ บะหมี่ ผักเน่าพุ่งเข้ามาใส่เฉินเชียนโหรวและเจียงหรงหรงหนักกว่าเดิม
“แพศยา ไสหัวออกไปจากวงการบันเทิงซะ”
“พวกลอกผลงานไปตายซะ”
“นังแพศยายเกือบจะทำให้จี้อี้ต้องตายแล้ว ขอให้แกโดนกรรมตามสนองเข้าสักวัน”
“จี้อี้ถูกพวกแกรังแกอย่างทุกข์ทรมาน ผิดชอบชั่วดี ถูกพวกแกบิดเบือนจนตาลปัตรไปหมด พวกแกเห็นพวกเราเป็นคนโง่หรือไง บ้าเอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งโมโห ถูกนังแพศยาหลอกปั่นหัวเล่น น่าโมโหจริงๆ พวกขยะเน่า”
พนักงานรักษาความปลอดคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ ตลอด แต่ว่าจำนวนคนนั้นมีจำกัด ทั้งยังต้องเผชิญหน้ากับเหล่าแฟนคลับที่อารมณ์พลุ่งพล่าน พวกเขายังต้องเดือดร้อนโดนลูกหลงจากการปกป้องเฉินเชียนโหรวและเจียงหรงหรงอีกด้วย
ทั้งอาคารหลานอวิ้นตอนนี้ชุลมุนวุ่นวาย
ส่วนอีกฟากฝั่งหนึ่ง ทางด้านของสตูดิโอของหลินสื่อเจียก็มีกลุ่มแฟนคลับและนักข่าวกลุ่มหนึ่งมาล้อมไว้เช่นกัน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมออกมาเสียที จึงพากันไปถึงที่หน้าประตูบ้าน
เดิมทีหลินสื่อเจียตั้งใจจะออกไปหาที่หลบ แต่ทว่าพอออกมาจากที่พักก็ถูกแฟนคลับและนักข่าวที่ปลอมตัวมาจับไว้ได้
“คุณหลินสื่อเจีย สำหรับเรื่องที่ ‘โตวซื่ออ้าย (รักทั้งสิ้น)’ ถูกขโมย คุณมีอะไรจะพูดไหม”
สีหน้าหลินสื่อเจียย่ำแย่ เขารีบตอบกลับทันที “เรื่องนี้น่าจะมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ ตอนนั้นผมน่าจะไม่ทันระวังจนเกิดข้อผิดพลาด ผลงานเพลงในสตูดิโอผมมีเยอะมาก เรื่องผิดพลาดเลยยากที่จะหลีกเลี่ยง…”
“อ๋อ ? ในเมื่อพูดแบบนี้ ถ้างั้นตอนนั้นที่คุณหลินไปฟ้องจี้อี้ที่ศาล คุณจะอธิบายยังไงดี”
ขณะนั้นเอง น้ำเสียงใสก้องกังวาลดังขั้น เสียงนั้นฟังดูเปี่ยมล้นไปด้วยพลังและน่าเกรงขาม