บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 84

เมื่อเห็นเฟลิเป้ยืนอยู่คู่กับมาเดลีน ความหนาวเย็นได้ปรากฏในดวงตาของเจเรมี่

เขาช้อนสายตาอันเย็นชานั้นขึ้นมองและมาเดลีนรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะในทันที

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่เธอสนใจ แต่ร่างกายของเธอยังคงบอกเป็นนัยว่าเธอยังไม่สามารถไปจากเงาของเขาได้

“เจเรมี่?” เฟลิเป้เดินออกจากลิฟต์ด้วยความประหลาดใจ “นายมาที่นี่เพื่อรับแมดดี้งั้นหรอ?”

“มันไม่ใช่ธุระของคุณ” น้ำเสียงของเจเรมี่เย็นชา ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของมาเดลีน “ทำไมเธอถึงตัดสายผม?”

“เมื่อกี้เป็นนายเองหรอที่โทรเข้าหาแมดดี้?” เฟลิเป้กล่าวพร้อมกับหัวเราะ “แมดดี้พูดที่เล่นว่าเป็นเบอร์ของนักล่อลวงก่อนจะตัดสายทิ้งไป ทั้งสองคนทะเลาะกันงั้นหรอ?”

หลังจากที่เขาได้ยินในสิ่งที่ลุงตัวเองพูดออกมา มาเดลีนเห็นใบหน้าของเจเรมี่มืดลงอย่างน่ากลัว

เขาพุ่งสายตาจ้องมองเธอ “รออะไรอยู่? กลับกัน”

เจเรมี่พูดพร้อมจับมือมาเดลีน

เป็นฤดูหนาวในขณะนี้ที่จริงมันควรจะหนาวมาก แต่นั้นทำให้ มาเดลีนรู้สึกได้ว่ามือของเจเรมี่กำลังไหม้เเผดเผาอากาศภายนอกทั้งหมดนี้สิ้นไป

เธอจินตนาการถึงเขาที่จับมือเธอเพื่อพาข้ามถนนหลายครั้งก่อนหน้านี้มันก็แค่เมื่อก่อนนี้ เพราะงั้น ความร้อนที่แผดเผาในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอปรารถนาอีกต่อไป

“ฉันจะไปกับคุณลุง” มาเดลีนสะบัดการเกาะกุมของเจเรมี่ออกแล้วเดินไปหาเฟลิเป้

เจเรมี่รู้สึกว่ามือของเขาหลุดจากเธอมันทำให้เขายืนอึ้งไป

“คุณลุง ได้โปรด ไปกันเถอะค่ะ”

เฟลิเป้ขมวดคิ้วเล็กน้อย สองวินาทีต่อมาเขาพยักหน้าและมองไปที่เจเรมี่ “งั้น เราจะไปกันก่อนนะ เจเรมี่ แมดดี้ ไปกันเถอะ”

“โอเค” มาเดลีนตอบและหันหลังตามเฟลิเป้ไป

เธอกลัวว่าจะลังเลหากล่าช้ากว่านี้ เธอกลัวว่าจะทำตามผู้ชายคนนั้นอย่างไม่มีสติ

“มาเดลีน เธอแน่ใจแล้วหรอว่าจะไม่มากับผม?”

ก่อนที่เธอจะจากไป เธอได้ยินเจเรมี่เอ่ยถามเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

มาเดลีนกำกระเป๋าของเธอให้แน่นขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง เล็บของเธอขุดเข้าไปในฝ่ามือของตัวเอง

เธอหยุดและหันกลับไปมองเขา เจเรมี่ยืนอยู่ที่นั่นคนเดียว ร่างสูงและเพรียวของเขาดูโดดเดี่ยวด้วยบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้

เช่นนั้น บาดแผลที่ไม่ได้รับการรักษาบนร่างกายของเธอเริ่มโจมตีเธออย่างไร้เหตุผล เธอรู้สึกราวกับว่ามีแมลงนับล้านตัวกำลังแทะผิวหนังของเธอ

มันเป็นความเจ็บปวดนี้ที่ทำให้เธอตอบว่า “ฉันแน่ใจ”

มาเดลีนกล่าวโดยไม่ลังเล หลังจาเธอพูดจบ เธอรีบเดินไปทางเฟลิเป้ทันที

ในเวลาเดียวกันที่มาเดลีนและเฟลิเป้มาถึงคฤหาสน์วิทแมน เจเรมี่เองปรากฎตัวที่คฤหาสน์ในเวลาเดียวกัน

ในขณะที่รถของเขาหยุดนิ่ง เขามุ่งหน้าเดินตรงมาที่มาเดลีนอย่างรวดเร็วเเขนเเข็งแกร่งโอบรอบร่างเล็กและผอมของมาเดลีนไว้แน่นมาก และนั่นทำให้เธอก็ไม่สามารถหลุดจากการรัดกุมของเขาได้

หัวใจของมาเดลีนเริ่มเต้นแรงอีกครั้ง “เจเรมี่ นี่คุณทำบ้าอะไร?”

“แล้วเธอคิดว่าผมจะทำอะไร?” เจเรมี่ถามกลับ ดวงตาที่ลึกล้ำของเขาจ้องมองตรงไปที่มาเดลีน “คุณปู่ปรารถนาที่จะเห็นพวกเราเป็นคู่ที่รักกันปานจะกลืนกิน เธอไม่อยากทำให้ท่านมีความสุขเหรอ?”

“… ” มาเดลีนไม่มีคำพูดใดๆที่จะเอ่ยค้าน เพื่อทำให้คุณปู่มีความสุข เธอเต็มใจที่จะปรุงแต่งความสัมพันธ์กับเจเรมี่ อย่างไรก็ตาม… “คุณไม่จำเป็นต้องกอดฉันแน่นขนาดนี้ก็ได้”

เฟลิเป้เห็นเหตุหารณ์ทั้งหมด เขาเอ่ยพูดกับคนเป็นหลานว่า “เจเรมี่ ถึงแม้ว่านายจะทะเลาะกับแมดดี้แต่นายก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ไม่สังเกตเห็นหรือไงแมดดี้กำลังรู้สึกอึดอัดใจมาก?”

เจเรมี่หัวเราะเบาๆ “แล้วคุณรู้ได้ยังไงกันว่าเมียของผมอึดอัดใจหรือไม่? พวกคุณทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ”

ในคำพูดของเขามีความหมายสองแง่ในตัวมัน เขาก้มศีรษะลงและเห็นว่ามาเดลีนดูไม่เต็มใจที่ถูกเขาจับต้องเช่นนี้ เขารู้สึกโกรธท่วมท้นในอก “นี่คือเรื่องระหว่างเรา อย่าพยายามเข้ามาสอดแทรกเรื่องผัวเมีย”

เจเรมี่พูดด้วยความดุดันและเดินเข้าไปข้างในขณะที่โอบรัดมาเดลีนไว้ตลอดทาง

มาเดลีนมองไปที่เฟลิเป้อย่างเชื่องช้า เธอทำได้เพียงปล่อยให้เจเรมี่พาเธอไป

มันเป็นอาหารค่ำของครอบครัวแต่เมเรดิธก็อยู่ในห้องอาหารด้วยขณะที่ไม่ได้มีความลับใดๆการปรากฎตัวของเธอ ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสวิทแมนอยู่ในห้องของเขาและไม่ได้ลงมาชั้นล่างเพราะเขารู้สึกไม่สบายตัว