เล่มที่ 10 บทที่ 283 เรดาร์ทำงาน

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

“นายท่านทั้งสอง นายท่านทั้งสอง อย่าทำเช่นนั้นขอรับ”

สายตาพลันเหลือบเห็นชายหนุ่มทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกันนัวเนีย หลินขุยตกใจจนต้องรีบเข้าไปสงบศึก

หลงเทียนอวี้เอี้ยวตัวหลบไปทางด้านขวาเพื่อมิให้ลู่หนิงแตะต้องตัวเขาได้

ทว่าลู่หนิงกลับคำรามด้วยแรงอารมณ์ เขาประกาศกร้าวว่าจะถอดเสื้อผ้าของหลงเทียนอวี้ให้ได้

ขณะนี้ห้องอ่านหนังสืออันแสนกว้างขวางถูกชายหนุ่มทั้งสองวิ่งหนีไล่ต้อนกันพัลวัน

“เจ้าเหรินเยาโรคจิต ! รีบหยุดมือเดี๋ยวนี้ ! ตำหนักฉินหวู่ของข้าหาใช่บ้านของเจ้า”

หลงเทียนอวี้กล่าวเสียงแข็งกระด้างด้วยความโกรธเกรี้ยว เห็นได้ชัดว่าลู่หนิงเพิ่งจะเข้ามาโจมตีเขาด้วยแขนข้างหนึ่ง

“ข้าเป็นหมอ หากเจ้าไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ เช่นนั้นก็สมควรถูกลงโทษ หากวันนี้ข้าไม่หักกระดูกเจ้าแล้วล่ะก็ อย่าเรียกข้าว่าลู่หนิง !”

ข้าวของที่ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น

ความโกรธเกรี้ยวของทั้งคู่ราวกับเปลวไฟที่กำลังลุกโชน เสียงขู่คำรามดังฮึ่มฮั่ม ใบหน้าของหลินขุยเริ่มบึ้งตึง

แต่เจ้านายทั้งสองกลับยังไม่ยอมหยุดมือ

ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง หลินขุยถอนตัวออกมา ดูเหมือนเขาคงต้องปรึกษากับเหล่าเติ้งดูหน่อยแล้วว่าจะจัดการซ่อมแซมสิ่งของภายในห้องนี้หลังจากทั้งคู่ทำลายเสร็จแล้วเช่นไร

ขณะที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กันพัลวัน ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าด้านนอกห้องอ่านหนังสือปรากฏร่างของหญิงสาวหน้าตางดงามด้านหน้าประตู

หลินเมิ้งหยาสั่งให้ป๋ายจีต้มน้ำแกงบำรุงร่างกายให้หลงเทียนอวี้ จากนั้นนางคิดจะมาสอบถามการตัดสินใจของเขา

ทว่าเพียงเดินผ่านประตูเข้ามา นางก็ได้เห็นเกี้ยวเล็กวางอยู่หน้าห้องอ่านหนังสือ

ชำเลืองมองอยู่หลายครั้ง แม้จะไม่ใช่เกี้ยวราคาแพง แต่กลับมีลวดลายงดงาม

ดูเหมือนจะเป็นเกี้ยวของผู้หญิงไม่ผิดแน่

ความสงสัยพลันปรากฏขึ้นในใจ หรือจะมีแขกพิเศษมา?

ตอนที่หลินเมิ้งหยาคิดจะเดินเข้าไป เสียงจากภายในพลันลอดออกมา นางเหลือบมอง ก่อนจะได้เห็นเงาของคนคู่หนึ่งในห้องอ่านหนังสือ

แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของเงาที่ปรากฏ แต่นอกจากหลงเทียนอวี้แล้ว จะยังมีใครกล้าก่อความวุ่นวายในห้องอ่านหนังสือแห่งนี้อีกหรือ

แม้จะไม่รู้ว่าหญิงสาวฝ่ายตรงข้ามคือใคร แต่ดูเหมือนนางจะเป็นหญิงสาวร้อนแรง เหตุเพราะนางเป็นฝ่ายจู่โจมเข้าหาหลงเทียนอวี้ก่อน !

อีกทั้ง…ยังช่วยหลงเทียนอวี้ถอดเสื้อผ้า

หลินเมิ้งหยารู้สึกได้ว่าใบหน้าของตนกำลังร้อนผ่าว ทั้งตกใจ โกรธเกรี้ยว ซ้ำยังผิดหวัง

หยาดน้ำตาเกือบจะรินไหลออกมา ทว่าหลินเมิ้งหยาพยายามกล้ำกลืนฝืนทน

“ไป ! พวกเรากลับ ! ต่อจากนี้ไปห้ามมิให้ใครมาเหยียบตำหนักฉินหวู่เป็นอันขาด”

หลงเทียนอวี้ตัวดี ! หลินเมิ้งหยาสบถด่าเขาในใจ นางอุตส่าห์วางแผนแทนเขา ช่วยคิดทุกอย่างแทนเขา ต้มน้ำแกงบำรุงร่างกายให้เขาดื่ม แต่ใครจะรู้….ใครจะรู้ว่าเขาจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้หญิงในห้องอ่านหนังสือ !

ทั้งที่มักแสดงท่าทางเย็นชา แต่ใครจะคิดเล่าว่าเขาชอบผู้หญิงร้อนแรงเช่นนั้น !

“สั่งโรงครัวนำองคชาติวัว องคชาติเสือ องคชาติแพะมาตุ๋นเป็นน้ำแกงให้ท่านอ๋องกินทุกวัน ใส่หัวหอมใส่กระเทียมเข้าไปเยอะๆ ท่านอ๋องทำงานหนัก พวกเราจะต้องบำรุงร่างกายพระองค์ให้ดี !”

หลินเมิ้งหยาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่นด่าชายหลายใจคนนี้ในใจ

นอกจากป๋ายจีที่ติดตามนางเข้าไปในตำหนักฉินหวู่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ป๋ายจียังคงก้มหน้าลง ใบหน้าแดงระเรื่อ

เหตุใดพระชายาจึงมีท่าทางเหมือนอยากจับใครกินอย่างนั้น?

เมื่อเทียบกับหลินเมิ้งหยาที่กำลังหึงหวง สถานการณ์ทางหลงเทียนอวี้สงบลงมาก

ผลลัพธ์หลังจากต่อสู้กับลู่หนิงพักใหญ่คือการได้รับบาดเจ็บทั้งคู่

บาดแผลที่เพิ่งจะดีขึ้นของเขาฉีกขาดอีกครั้ง สุดท้ายลู่หนิงอาศัยจังหวะที่เขากำลังอ่อนแอผลักเขาล้มลงบนเก้าอี้แล้วทำการรักษา

“ในเมื่อรู้ตัวว่าได้รับบาดเจ็บ เช่นนั้นก็ควรฟังหมอถึงจะถูก มิเช่นนั้นเจ้าก็ไปตายเสียสิ จะได้ไม่เปลืองยา”

สภาพของลู่หนิงเองก็ย่ำแย่ไม่ต่างกัน บาดแผลของหลงเทียนอวี้ฉีกขาด ส่วนใบหน้าของเขาก็บวมเป่ง

เส้นผมที่ลั่วปิงอุตส่าห์ตกแต่งให้เขาเมื่อตอนเช้ามืดยุ่งเหยิงเหมือนคนเสียสติ สีหน้าแสดงออกถึงความเจ็บปวด เครื่องประดับมากมายที่เขาใส่ล้วนเป็นของชิ้นโปรดของลั่วปิงทั้งสิ้น

หลังจากรักษาเจ้าบ้านี่เสร็จ หากลั่วปิงไม่กินเขานั่นสิแปลก

ไอ้ตัวซวย ทุกอย่างเป็นเพราะผู้ชายตรงหน้าเขาคนนี้ หลังจากพันผ้าพันแผลเสร็จแล้ว ฝ่ามือพลันตบลงบนบ่าของหลงเทียนอวี้

“ซี๊ด…”

หลงเทียนอวี้สูดลมหายใจเย็นยะเยือกลงคอ สีหน้าขาวซีด แต่สุดท้ายเขาก็มีความเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่ด่าผู้หญิง

“คุณชายลู่ได้โปรดเบามือหน่อยเถิดขอรับ ท่านอ๋องของข้าได้รับบาดเจ็บอยู่นะขอรับ”

หลินขุยแสดงสีหน้าเจ็บปวด ลู่หนิงเหลือบมองเขาก่อนจะเอ่ย

“ยาชนิดนี้จำเป็นต้องใช้กำลังภายในดูดซับเข้าไป หากออกแรงไม่มากพอ เกรงว่าเจ้านายของเจ้าจะพิการเอาได้ ทั้งที่รู้ว่าบนดาบอาบยาพิษ แต่กลับพุ่งตัวเข้าไป เวลาเพียงไม่กี่ปีที่ไม่ได้เจอกัน สมองของเจ้าถูกหมากินหมดแล้วหรือ?”

เส้นเลือดบริเวณลำคอของหลงเทียนอวี้ปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บปวดจากบาดแผลส่งออกมาท้าทายความอดทนของเขา

คิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดถากถางของลู่หนิงจะทำให้เขามิอาจทนได้อีกต่อไป

“แม้ข้าจะไม่มีสมอง แต่ข้าก็ไม่เคยทรยศหักหลังพวกพ้อง เจ้ามันคนทรยศ เมื่อเวลาครบห้าปี ข้าจะเด็ดหัวเจ้า !”

ประกายในดวงตาของลู่หนิงมืดลงเล็กน้อย

ก่อนจะเปลี่ยนเป็นปกติ

“คนทั้งโลกล้วนรู้ว่าข้าหาใช่คนขายความลับของพี่สอง มีเพียงเจ้าคนเดียวที่ไม่เชื่อ หากตอนนั้นข้าเป็นคนทำจริง เช่นนั้นลั่วปิงกับหลินหลางจะร้องขอชีวิตแทนข้าหรือ ? ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าข้าขอเวลาห้าปี หากภายในห้าปีนี้ข้ายังมิอาจหาความจริงได้ ข้ายอมตายต่อหน้าหลุมศพของพี่สองโดยที่เจ้าไม่ต้องลงมือ”

น้ำเสียงของลู่หนิงเจือไว้ซึ่งการเยาะหยัน

หลังจากหลงเทียนอวี้เหลือบมองเขาครั้งหนึ่ง เขาก็ไม่พูดอะไรอีก

ตอนนั้นเขา ลู่หนิง หนานกงจิ่นและเย่ต่างเป็นมิตรสหายที่เติบโตและถูกฝึกมาจากท่านอาจารย์คนเดียวกัน แม้อุปนิสัยใจคอจะแตกต่าง แต่ความสัมพันธ์สนิทแน่นแฟ้นอย่างยิ่ง เมื่อสามปีก่อนเพราะลู่หนิงทรยศหักหลังจึงทำให้หนานกงจิ่นต้องตาย แม้เขาจะโชคดีที่เอาชีวิตรอดมาได้ แต่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขาและลู่หนิงต้องพังทลายลง

หลักฐานทั้งหมดล้วนบ่งชี้ว่าลู่หนิงเป็นคนทรยศ

แต่เขากลับไม่ยอมรับ ซ้ำยังขอให้ลั่วปิงและหลินหลางร้องขอชีวิตให้แก่เขา

เวลาห้าปีอะไรกัน มันก็แค่ข้ออ้างในการเอาตัวรอดเท่านั้น

หากมิใช่เพราะวันนี้เขาแต่งกายเป็นหญิงมาที่นี่และใช้เกี้ยวของลั่วปิงแล้วล่ะก็ ต่อให้เขาตาย เขาก็ไม่มีวันยินยอมให้คนผู้นี้ได้เหยียบย่ำเข้ามาในจวน

“เจ้าอย่าได้เสแสร้งอีกต่อไปเลย ข้าจะเป็นผู้ล้างแค้นให้จิ่นเอง หากเจ้ายังมีความเป็นคน เช่นนั้นก็จงสำนึกผิดเสียเถิด เวลายังเหลืออีกสองปี เมื่อวันนั้นมาถึงข้าจะเด็ดหัวเจ้าเองกับมือ”

หลงเทียนอวี้มิหันหน้ากลับไป ซ้ำยังไม่คิดให้อภัยลู่หนิง

ลู่หนิงถอนหายใจยาว เขาจะยอมให้อภัยตนเองง่ายๆ ได้เช่นไร พี่สองต้องมาตายแทนเขา การที่พี่ใหญ่ไม่อภัยให้ย่อมสมเหตุสมผล

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาพยายามหาเบาะแส แต่น่าเสียดาย ดูเหมือนมันจะไร้ประโยชน์

“เชื่อหรือไม่นั่นก็แล้วแต่เจ้า ข้าได้ยินมาว่าเจ้าแต่งงานกับลูกสาวของหลินมู่จือ ลั่วปิงบอกข้าว่าเรื่องราวในคราวนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสกุลหลิน หากเจ้าอยากรู้ความจริง เช่นนั้นเจ้าไม่ลองเอ่ยถามชายาของเจ้าดูเล่า”

ลู่หนิงพูดจบ เขาหมุนก็ตัวกลับแล้วเดินจากไป

หลงเทียนอวี้ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ตกอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง

ตอนนั้นเขาเพียงแค่สงสัย ดังนั้นจึงยินยอมแต่งงานกับลูกสาวของหลินมู่จือ เหตุผลหนึ่งก็เพราะต้องการสอดแนมเรื่องของพวกเขา

หากเรื่องในตอนนั้นเกี่ยวข้องกับสกุลหลิน เช่นนั้นเขา…

มือหนากำแน่น สีหน้าลำบากใจ เขาไม่อยากทำให้หลินเมิ้งหยาต้องเสียใจ

หวังว่าหลินมู่จือจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เดินกลับมายังตำหนักของตนเองด้วยความโกรธเกรี้ยว หลินเมิ้งหยาไล่ทุกคนออกจากห้องของตนเอง

เวลาเพียงไม่นาน ทั้งหมึก กระดาษ รวมถึงเก้าอี้ของหลงเทียนอวี้ถูกโยนออกมาด้านนอกจนหมดสิ้น

หากมิใช่เพราะโต๊ะตัวนั้นหนักเกินไปแล้วล่ะก็ นางคงจะโยนออกไปเช่นเดียวกัน

หลังจากทบทวนเรื่องเมื่อครู่ ในที่สุดหยดน้ำตาก็ไหลรินลงมา

ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ หลินเมิ้งหยาพยายามบังคับตัวเองมิให้ร้องไห้

นางคิดไม่ถึงเลยว่าหลงเทียนอวี้จะกลายเป็นคนเช่นนั้น

เพราะเหตุนี้เขาจึงเปลี่ยนความคิด ซ้ำยังบอกว่านางโวยวายไร้สาระ อีกทั้งยังไปตามหาหมอเทวดาที่กลุ่มสามสหาย ทั้งหมดที่เขาทำก็เพื่อจะรับอนุภรรยาอย่างนั้นหรือ ?

มีหญิงสาวแสนดีอยู่ข้างกายแต่กลับไม่รู้จักพอ เขาถึงกับพาผู้หญิงเข้ามาเริงรักฉ่ำสวาทถึงในจวนอย่างไม่อายฟ้าดิน

หลินเมิ้งหยากำหมัดแน่น ก่อนจะฟาดลงบนโต๊ะ สบถบริภาษก่นด่าหลงเทียนอวี้ในใจ

หัวใจเจ็บปวดเหลือเกิน ตอนนี้นางเพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกของคนหัวใจแหลกสลายเพราะความรัก

หัวใจเสมือนถูกบีบเค้น เจ็บปวด เจ็บปวดจนแทบจะกรีดร้องออกมา

จู่ๆ เรดาร์ที่เคยเงียบสงบพลันส่งเสียงร้องเตือนขึ้นมา หลินเมิ้งหยารู้สึกปวดศีรษะเป็นอย่างมาก

“อารมณ์ของคุณแปรปรวนมากเกินไป ขอแนะนำให้คุณปรับสมดุลของลมหายใจเพื่อป้องกันมิให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ”

เสียงเย็นชาของเครื่องจักรร้องเตือนในสมองหลินเมิ้งหยา

หลังจากตื่นตกใจและนิ่งไปอยู่สักพัก หลินเมิ้งหยาเพิ่งรู้ว่าเรดาร์สามารถวิเคราะห์ร่างกายของนางได้

หลับตาลง รวบรวมสมาธิ พยายามนึกภาพเรดาร์ในสมองให้กลายเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์

“ติ๊ง” เสียงดังขึ้น ราวกับว่าหลินเมิ้งหยากำลังเปิดเครื่อง จู่ๆ ดวงตาเปล่งประกาย ราวกับได้เปิดการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว

“สวัสดี ยินดีต้อนรับเข้าสู่ระบบค้นหาอัตโนมัติ ได้โปรดใส่รหัสผ่านเพื่อทำการปลดล็อคเครื่องมือ”

โอ้ มาย ก็อด หลินเมิ้งหยาเกือบส่งเสียงอุทานออกมา นี่มันอะไรกันเนี่ย ? มีใครสามารถบอกนางได้หรือไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น