บทที่ 94 หนานหว่านเยียนกล้ามาปั้นน้ำเป็นตัว

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 94 หนานหว่านเยียนกล้ามาปั้นน้ำเป็นตัว
เซียงวี่พูด”บ่าวได้ยินคนใช้พูดว่า เมื่อเช้านี้ฮูหยินของเฉิงเซี่ยงนินทาท่านอยู่เพคะ นางกล่าวว่าไทเฮาพระราชทานรางวัลให้มากมายขนาดนี้ แต่ท่านกลับไม่ได้ให้ผลประโยชน์แก่จวนเฉิงเซี่ยงเลย ไม่ค่อยสมเหตุสมผล และคนใช้เหล่านั้นยังพูดว่า รอวันนี้ตอนรับประทานอาหารเช้า ฮูหยินก็จะพูดถึงเรื่องนี้กับพระชายา อยากจะขอรางวัลในมือของท่านไปให้หมดเพคะ”

หนานหว่านเยียนได้ยินเช่นนี้ก็เลิกคิ้ว”อยากได้ผลประโยชน์จากมือข้า?งั้นก็ต้องดูว่า นางมีความสามารถนี้หรือเปล่า!”

คนในจวนเฉิงเซี่ยงล้วนเป็นคนที่เห็นแต่ผลประโยชน์ ฮูหยินเห็นว่านางได้ของดีๆมากมายเช่นนี้ ต้องคิดร้ายแน่ๆ

แต่นางรอให้ฮูหยินเกิดความคิดแบบนี้ตั้งนานแล้ว!

เซียงวี่เห็นว่าหนานว่านไม่สนใจใยดี ถามว่า”แล้วเดี๋ยวพระชายาจะไปรับประทานอาหารเช้าโดยตรงเลยไหมเพคะ?”

“ไม่รีบ แล้วกู้โม่หานล่ะ?”

“ท่านอ๋องไปที่ห้องโถงรับแขกแต่เช้า คิดว่าคืนนี้คงรอรับประทานอาหารเช้าอยู่เพคะ”

หนานหว่านเยียนบิดขี้เกียจ หลังจากนอนพักผ่อนมาคืนหนึ่งอาการเมาก็ดีขึ้นมาเยอะ นางพูดอย่างสบายใจ”งั้นก็ไปหาท่านลุงก่อนละกัน”

ถึงแม้เซียงวี่ไม่เข้าใจ แต่ก็ยังแต่งหน้าให้หนานหว่านเยียนอย่างดี จากนั้นก็เดินตามหนานหว่านเยียน ไปในเรือนของโม่หวิ่นหมิง

เซียงวี่เฝ้าอยู่นอกประตู หนานหว่านเยียนผลักประตูเข้าไปก็เห็นว่าอาจี้กำลังเช็ดเครื่องประดับในห้องอยู่

หนานหว่านเยียนมองเขาด้วยรอยยิ้ม”ไม้เหล่านี้ใกล้จะถูกเจ้าเช็ดจนมีเยื่อไม้ไหลออกมาแล้ว”

อาจี้ไม่ได้เงยหน้า ยังคงเข็ดอย่างตั้งใจ”เจ้าไม่รู้หรอก เซียนเซิงชอบความสะอาด ถ้าเปื้อนฝุ่นเขาจะต้องเสียใจแน่ๆ”

หนานหว่านเยียนพยักหน้า”ท่านลุงสามารถเจอเจ้าได้ เป็นเรื่องที่ดี”

ท่านลุง?

อาจี้กว่าจะรู้สึกตัวมาได้ เห็นว่าคนที่มาคือหนานหว่านเยียน รีบพูดอย่างเคารพ”บ่าวสมควรตายจริงๆเลย ไม่เห็นว่าพระชายาเสด็จพ่ะย่ะค่ะ”

หนานหว่านเยียนหัวเราะ”ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้กับข้าหรอก ท่านลุงตื่นยังหรือ?”

อาจี้แตะหัวของตัวเอง ยิ้มและพูดว่า”เซียนเซิงตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว บ่าวพาท่านไปพบเซียนเซิงทันทีพ่ะย่ะค่ะ!”

ระหว่างที่พูด เขาก็วิ่งเข้าไปในห้อง ไปแจ้งโม่หวิ่นหมิง

หนานหว่านเยียนก็ตามอยู่ข้างหลัง เห็นว่าโม่หวิ่นหมิงกำลังพิงกับหัวเตียงและอ่านหนังสืออยู่

โม่หวิ่นหมิงเห็นหนานหว่านเยียน ก็สว่างตาทันที”หว่านหว่านมาแล้วหรือ รีบมานั่งสิ”

หนานหว่านเยียนส่ายหน้า”ไม่นั่งแล้ว เดี๋ยวข้ายังต้องไปทานอาหารเช้า ทานเสร็จก็จะกลับจวนอ๋อง”

“ท่านลุง ต่อจากนี้ไปท่านให้อาจี้มาจวนอ๋องอี้สามวันละครั้ง ข้าจะเปลี่ยนสูตรยาให้ท่านลุงครั้งหนึ่ง รอท่านดีขึ้น ก็มาเยี่ยมเด็กสองคนที่จวนอ๋องเอง ข้าสัญญาว่าท่านจะชอบพวกนางแน่นอน”

เช้านี้หนานหว่านเยียนตื่นมาก็กำหนดแผนรักษาโม่หวิ่นหมิงได้แล้ว ในเมื่อตอนนี้รับเขาออกไปไม่ได้ งั้นก็ให้เขารักษาสุขภาพให้ดี ตอนนี้หนานฉีซานก็ไม่ทำอะไรเขาหรอก

โม่หวิ่นหมิงนึกถึงหนานหว่านเยียนบอกว่าเขาจะสามารถไม่ต่างกับคนปกติ ตั้งตารอคอยวันนั้นที่จะถึง และตกลงทันที

“ได้ ข้ารอไปเยี่ยมเด็กของหลานสาว”

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดอีกว่า”ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ข้าหวังว่าท่านลุงจะไม่พูดถึงเด็กสองคนนั้นต่อหน้ากู้โม่หานและคนอื่นๆ หวังว่าท่านลุงจะสามารถเข้าใจข้าได้”

นางไม่อยากให้ใครในราชวงศ์รู้ตัวตนของเด็กสองคนทั้งสิ้น

“ได้ ทำตามที่เจ้าพูดนั่นแหละ”สายตาของโม่หวิ่นหมิงมีความสงสัยพาดผ่าน แต่เขาไม่ได้ถามเยอะ ตกลงนางเช่นกัน

ในเมื่อเป็นความลับที่หลานสาวอยากให้รักษา งั้นเขาก็จะรักษาความลับนี้ไว้

ในที่สุดหนานหว่านเยียนก็วางใจลง และพูดคุยทั่วไปกับโม่หวิ่นหมิงอีก

จากนั้นนางก็ไปห้องโถงรับแขกพร้อมกับเซียงวี่

ในระหว่างทางเซียงวี่ยังกังวลเล็กน้อย เลยถามอย่างลังเล”พระชายาเพคะ เดี๋ยวท่านเตรียมจะทำอะไร?ของขวัญเหล่านั้นจะให้ฮูหยินจริงหรือ?”

หนานหว่านเยียนยิ้มอย่างลึกลับ”เซียงยี่ เจ้ารู้ไหมว่าอะไรคือขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ?”

เซียงวี่พยักหน้า แต่กลับพูดอย่างสงสัย”เข้าใจ แต่นี่เกี่ยวอะไรกับการที่ฮูหยินจะแย่งรางวัลพระราชทานของท่านเพคะ?”

หนานหว่านเยียนไม่ได้อธิบาย เดินเข้าไปในห้องโถงรับแขกที่มีบรรยากาศจริงจังมาก

นับเวลานี้

กู้โม่หานกำลังนั่งอยู่บนที่สูง และจ้องหนานหว่านเยียนด้วยสายตาที่เย็นชา

“พระชายามาช้าขนาดนี้ อาหารจะไม่ร้อนแล้วนะ……”

ความหมายในคำพูดก็คือตำหนิหนานหว่านเยียนที่ให้เขารอนานขนาดนี้

สิ่งที่น่าโมโหกว่านี้คือ นางรู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ถูกกับหนานฉีซาน ยังปล่อยเขาอยู่ที่นี่คนเดียว!

หนานหว่านเยียนทำตัวเหมือนสำนึกผิด”หม่อมฉันขออภัยโทษที่ให้ท่านอ๋องรอนานเพคะ ระหว่างทางล่าช้าไปหน่อย เพราะเมื่อคืนท่านอ๋อง……”

นางตั้งใจพูดแบบนี้!

ใครให้กู้โม่หานรังแกนางแต่เช้า ตอนนี้ฉวยโอกาสให้เขา”เจริญความสัมพันธ์”กับหนานฉีซานบ้าง ไม่ดีหรือ?

ได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของหนานฉีซานและฮูหยินก็มีความแหลมฉบังพาดผ่าน

หนานอี่ว์ก็ยิ่งโกรธจนกัดฟัน ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย

เมื่อคืนเสียงร้องไห้ของอีเหนียงสามไม่ได้หยุดเลย กวนจนนางรำคาญและนอนไม่หลับด้วย แต่หนานหว่านเยียนที่เป็นผู้กระทำกลับมีความสุขขนาดนี้!

กู้โม่หานเอ่ยเสียงเย็นชาออกมา

หนานหว่านเยียนกล้ามาปั้นน้ำเป็นตัว

“ข้าว่าเจ้ายังไม่หายเมาเลยนะ?”เขาพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา

หนานหว่านเยียนไม่ได้สนใจเขา เพียงเดินไปนั่งลงข้างๆเขา

ในเวลานี้ ฮูหยินก็หัวเราะ”พระชายาและท่านอ๋องรักกันขนาดนี้ หม่อมฉันและนายท่านเห็นเช่นนี้ล้วนรู้สึกประทับใจมากเพคะ”

หนานหว่านเยียนและกู้โม่หานสบตากัน ในใจด่าพร้อมกันว่า”รักกันเหี้ยไร”!

ฮูหยินเหลือบตามองหนานหว่านเยียน แอบคิดว่าอีหญิงนี่ไม่เพียงแต่ได้รับการโปรดปรานจากอ๋องอี้ แถมยังได้รับของดีๆขนาดนั้นอีก ทำให้คนอิจฉาจริงๆ

“ได้ข่าวว่า เมื่อวานหลี่หมัวมัวข้างไทเฮาไปจวนอ๋องอี้โดยเฉพาะเที่ยวหนึ่ง บอกว่าเป็นของขวัญมอบกลับ ให้ท่านนำมาที่จวนเฉิงเซี่ยง”

“ข้ารู้สึกงงมาก ผ่านไปตั้งวันหนึ่งแล้ว ทำไมยังไม่เห็นพระชายาพูดถึงเรื่องนี้?”

เซียงวี่ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ข้างนอกล้วนพูดกันว่าจวนเฉิงเซี่ยงดีกับหนานหว่านเยียนมาก แต่คนฉลาดล้วนรู้ว่า ฮูหยินมองหนานหว่านเยียนเป็นคนไร้ค่าเหมือนดอกหญ้าริมทาง และลูกสาวของนางก็เป็นพระชายาเฉิง ฐานะสูงศักดิ์และยังมีวิธีการด้วย

ตอนนี้ฮูหยินถามมาแบบนี้ คิดว่ารางวัลพระราชทานของพระชายา ต้องถูกนางแย่งไปแน่นอน……