ตอนที่ 537 พูดเปิดใจ การคาดเดาของกานกาน
ชอบแล้วทำไมต้องเขียนจดหมายรัก ฉันก็ชอบอาจารย์เหม่ยเหริน งั้นฉันก็ต้องเขียนจดหมายรักให้อาจารย์เหม่ยเหรินด้วยใช่ไหม
ตอนนั้นเหอสือกุยหัวเราะเกือบฟันร่วง
กลั้นเอาไว้ไม่ง่ายเลย ทำหน้าตาเคร่งเครียดที่ไม่เห็นบ่อยนัก เพื่อสื่อกับเธอว่าจดหมายรักห้ามเขียนไปเรื่อย
อวี๋กานกานส่งเสียง “อ๋อ” เบาๆ รับคำแต่กลับมีสีหน้างุนงง
ช่วงมัธยมต้นก็กลายเป็นสาวแล้ว ผ้าอนามัยห่อแรกของเด็กสาว เหอสือกุยก็เป็นคนซื้อ และต้องสอนเธอว่าใช้ยังไง สุดท้ายเธอใช้เป็นแล้วก็มองเขาพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้น
เธอตรงไปตรงมาเป็นธรรมชาติไม่เสแสร้งเลยสักนิด
แต่เขาเคอะเขินอึดอัด หน้าตากระอักกระอ่วน
หลังจากนั้นอีกเขาก็เข้าทำงาน เมื่อทำงานที่โรงพยาบาลก็ยุ่งขึ้นเรื่อยๆ กลับบ้านก็ยิ่งดึกขึ้น แต่ตอนที่กลับมาทุกวันก็จะมองไปที่ต้นไม้หอมข้างนอกคลินิกและเห็นเงาของเธอ
ทุกครั้งที่เขากลับมา เธอก็จะโบกมือให้เขาอยู่ไกลๆ และตะโกนสุดเสียง “อาจารย์เหม่ยเหริน…”
ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน ใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง หรือเป็นฤดูหนาวจะเป็นภาพที่งดงามแค่ไหนก็ไม่สวยงามและวิเศษเท่ากับภาพนี้เลย
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ขอเพียงยื่นมือออกไปคล้ายกับว่าจะสัมผัสได้ถึงความทรงจำที่สวยงามและมีชีวิตชีวาในตอนนั้น
“อาจารย์เหม่ยเหรินคะ คุณได้รับบาดเจ็บไม่ใช่อุบัติเหตุใช่ไหม คุณไม่อยากให้ฉันกลับมาก็เพราะว่าเป็นห่วงฉันใช่ไหม”
อวี๋กานกานพลันตั้งคำถามดึงเหอสือกุยกลับมาจากความทรงจำ
ตั้งแต่เด็กจนโตเธอฉลาดมาก ดูเหมือนมีหัวใจที่งดงามดวงหนึ่ง เขาคิดว่าปกปิดต่อไปก็คงไม่ได้แล้ว
เขาบอกอย่างใจเย็น “จริง เรื่องที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกับฉันล้วนไม่ใช่อุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของเธอเพราะอย่างนั้นเราถึงไม่อยากให้เธอกลับมา ใครจะรู้ว่าเธอยังหนีกลับมาแล้ว ผลคือเกิดเรื่องสวีอวี้หลันนี้ขึ้น”
“ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงฉัน แต่ว่าคุณไม่ควรจะปิดบังฉัน” ในตอนนี้อวี๋กานกานเพิ่งเข้าใจ เมื่อสักครู่ทำไมอาจารย์เหม่ยเหรินถึงได้พูดว่าจะดีแค่ไหนถ้าเขาไม่ไปก่อเรื่องยุ่งยากนั่น”
เขาคิดว่าไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือว่าเรื่องของสวีอวี้หลันล้วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนยาต้านมะเร็งของเจียงไป๋อันทั้งสิ้น
แต่ว่าเจียงไป๋อันไม่ใช่ว่า…อวี๋กานกานนึกถึงเจียงซื่อเซิ่งพ่อของเจียงไป๋อันในชั่วขณะ หรือว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาต้องการแก้แค้นเธอกับอาจารย์เหรอ
ที่เมืองหลวงเห็นหน้าฟังจือหัน เจียงซื่อเซิ่งคงไม่กล้าบุ่มบ่าม แต่พอถึงเมืองไป๋หยางก็ราวกับเสือไม่รู้จักแก่ ลิงเรียกผู้เป็นใหญ่และต้องไม่ทำตามใจชอบ
ถ้าต้องสืบสวนขึ้นมาจริงแล้วก็ถูกขวางด้วยอุปสรรคมากมาย สามารถผลักทุกอย่างให้สะอาดเอี่ยมอ่องได้ทั้งหมด
เหอสือกุยส่งยิ้มจางๆ “ก็ไม่ได้ปิดบังเธอ เพียงแต่มันไม่ใช่เรื่องดีอะไร ทำไมต้องบอกเธอให้เธอเป็นห่วงไปเรื่อย ดูสิ เธอก็ต้องรีบมา ผลคือเจอเข้ากับเรื่องยุ่งยากใช่ไหมล่ะ”
อวี๋กานกานย้อนถาม “งั้นต่อไปถ้าฉันมีปัญหาแล้ว ไม่อยากให้อาจารย์เหม่ยเหรินเป็นห่วง ฉันก็ไม่ต้องบอกคุณใช่ไหม”
เหอสือกุยโดนย้อนถามจนพูดไม่ออก
เขายิ้มอย่างจนมุม “ได้ อาจารย์ผิดไปแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็จะบอกเธอหมด ดีไหม”
“งั้นคุณต้องจำไว้ให้ดีเลย ไม่งั้นฉันจะโกรธ ไม่สนใจอาจารย์เลย” อวี๋กานกานหันหน้าหนี พ่นลมหายใจออกมาอย่างขัดใจ
“ได้ๆๆ”
“ประมาณนี้ค่ะ”
“โตแล้วก็ไม่เป็นเด็กดีแล้ว”
“เอ่อ…”
ศิษย์อาจารย์ทั้งคู่คุยเล่นกัน ส่งเสียงหัวเราะตลอดการคุยกันพักใหญ่ ในจังหวะนั้นเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าวันถัดไปอวี๋กานกานต้องไปที่สถานีตำรวจอีกรอบเกรงว่าคงจะยังคุยกันต่อ
อวี๋กานกานต้องกลับเมืองหลวงแต่คดีของสวีอวี้หลันก็มีเธอเข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าเธอไปก็ย่อมต้องรายงานสถานีตำรวจเป็นธรรมดา
ที่สถานีตำรวจ อวี๋กานกานบังเอิญเจอเข้ากับโจวโจว
ตอนที่ 538 ดูตัว แผนการของกานกาน
วันนี้โจวโจวสวมชุดตำรวจ ผมยาวถูกมวยขึ้นอย่างเรียบง่ายและเรียบร้อย ทั้งสวยและเท่ เห็นอวี๋กานกานเข้าเธอก็ค่อนข้างแปลกใจ “คุณมาทำอะไรที่สถานีตำรวจ”
อวี๋กานกานยิ้มพร้อมกับตอบ “พรุ่งนี้ฉันต้องกลับเมืองหลวงแล้วเลยอยากจะมาแจ้งไว้”
“คดีของสวีอวี้หลันตอนนี้มั่นใจได้แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับคุณ คุณไม่จำเป็นต้องมารายงานตัวแล้ว”
“อ๋อ” อวี๋กานกานพยักหน้าและเอ่ยถามขึ้นมาอีก “เจ้าหน้าที่โจวคะ คุณกลับเมืองหลวงวันไหน”
เธอคิดว่าถ้ามีสักวันที่ทุกคนไปด้วยกันได้พอดี
โจวโจวหมุนปากกาในมือ “คดียังสืบได้ไม่แน่ชัด ยังไม่รู้ว่าวันไหนถึงจะกลับไปได้”
อวี๋กานกานลังเลครู่หนึ่งและถามความสงสัยจากส่วนลึกของหัวใจออกไป “คดีของเจียงไป๋อันใช่ไหมคะ เพราะว่าเกี่ยวข้องมาถึงอุบัติเหตุของอาจารย์ฉัน เพราะอย่างนั้นระหว่างนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกเหรอคะ”
โจวโจวเม้มปาก “เรื่องนี้บอกคุณไม่ได้จริงๆ ถ้าต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ฉันจะไปหาคุณ”
อวี๋กานกานก็ไม่ได้ถามให้มาก ตำรวจสืบคดีเดิมทีก็ต้องรักษาความลับอยู่แล้ว และแน่นอนว่าอวี๋กานกานคงไม่ตามตื๊อถามเธอให้แน่ชัด
ฟังจือหันรอเธออยู่ด้านนอก อวี๋กานกานกำลังจะหันหลังเดินออกไป พลันเกิดความคิดหนึ่งไหลผ่านเข้ามาในใจราวกับไฟฟ้า
เธอหยุดก้าวเท้าและเดินไปข้างโจวโจวอีกครั้ง ตาหรี่ลงเล็กน้อยเจือรอยยิ้ม “เจ้าหน้าที่โจวคะ”
นัยน์ตาสงสัยของโจวโจวมองไปที่เธอ “ยังมีธุระอีกเหรอคะ”
“วันนั้นถ้าไม่ได้คุณช่วย ฉันก็คงไม่สามารถถูกประกันตัวออกไปได้…”
ไม่รอให้เธอพูดจบ โจวโจวก็พูดแทรกคำพูดเธอ “ตอนนั้นคุณยังถือว่าเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องประกันตัว”
อวี๋กานกานกล่าวด้วยใบหน้าจริงใจ “ถึงอย่างไรไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ต้องขอบคุณคุณ ฉันอยากเลี้ยงข้าวเพื่อขอบคุณสักมื้อหนึ่งค่ะ”
โจวโจวส่ายหน้า “ขอบคุณค่ะ แต่ว่าอีกสักครู่ยังมีประชุม ไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่”
“ฉันรอได้ค่ะ” อวี๋กานกานนั่งลงตรงข้าม พูดด้วยความใจเย็นมาก
“ไม่ต้องหรอกค่ะ หลังจากประชุมเสร็จฉันอาจต้องออกไปสืบสวน” วันนี้คุณอวี๋ทำไมแปลกๆ กันนะ
อวี๋กานกานคิดแล้วจึงเอ่ย “งั้นรอให้คุณกลับเมืองหลวงแล้วเราค่อยนัดกินข้าวกันดีไหมคะ”
“ได้ค่ะ กลับเมืองหลวงค่อยว่ากัน”
โจวโจวพูดแบบขอไปที เพียงเพราะเกรงใจอวี๋กานกาน และนึกว่าเรื่องจะจบลงเท่านี้ อวี๋กานกานก็น่าจะกลับไป
ไหนเลยจะรู้ว่าเธอยังคงนั่งเงียบอยู่ตรงข้ามพลางมองตัวเธอด้วยแววตาเป็นประกาย
โจวโจวโดนสายตาที่ตรงไปตรงมาของเธอมองเสียจนทำตัวไม่ค่อยถูก จึงยกมือจับหน้า “…ฉันทำไมเหรอคะ”
อวี๋กานกานยิ้มพร้อมกับเอ่ย “เจ้าหน้าที่โจวหน้าตาสวยจริง อีกทั้งทำงานเก่งขนาดนี้ ต้องมีผู้ชายมาชอบคุณเยอะแน่ แฟนของคุณก็น่าจะเก่งมากใช่ไหมคะ”
โจวโจวเห็นสายตาของอวี๋กานกานก็รู้สึกแปลกมากขึ้น “ฉันยังไม่มีแฟนค่ะ”
“ขอโทษด้วยค่ะ เหมือนว่าฉันจะเสียมารยาทและหยาบคายไปแล้ว” อวี๋กานกานยิ้มพร้อมกับขอโทษ
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“เป็นเพราะว่างานยุ่งเจ้าหน้าที่โจวถึงได้ไม่มีเวลามีความรักใช่ไหมคะ ที่จริงอาจารย์ของฉันก็เหมือนกัน เขาเป็นแพทย์ทางสมองชื่อดังคนหนึ่ง ยุ่งมากกว่าฉันที่เป็นแพทย์แผนจีนเสียอีก วันนั้นคุณก็เจอแล้ว ทั้งหล่อทั้งเก่งก็เลยไม่มีเวลาหาแฟน…”
โจวโจวซึ่งไปสืบคดีอย่างต่อเนื่องทุกวันพอได้ยินก็เข้าใจว่าอวี๋กานกานมีความคิดอะไรอยู่
เธอค่อนข้างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “คุณอวี๋ ฉันยังมีงาน ขอตัวไปจัดการก่อน…เชิญคุณตามสบาย”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็รีบหนีไปแล้ว
อวี๋กานกานยกมืออยากจะรั้งเอาไว้ “…”
คนหายไปจากสายตาแล้ว
ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังพร้อมกับพึมพำ “ทำไมรีบไปขนาดนั้น คู่นัดดูตัวของฉัน…”