ตอนที่ 522

Elixir Supplier

522 ของขวัญวันปีใหม่

 

“เธอไม่เห็นจะต้องเอาของขวัญอะไรมาให้เลยนะจ๊ะ” จางซิวหยิงพูด

 

“ผมแค่อยากเอาของขวัญเล็กๆน้อยๆ มาอวยพรให้ทุกคนมีความสุขในวันปีใหม่ก็เท่านั้นเองครับ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

ความจริงพวกมันไม่ได้ดูเล็กน้อยเลยสักนิด เขาเอาของขวัญมาด้วยหลายห่อ มองแค่แวบเดียว ก็ดูรู้แล้วว่าเป็นของมีราคา

 

“พวกมันแพงรึเปล่าจ๊ะ?” จางซิวหยิงถาม

 

“มันไม่ได้แพงเลยครับ นี่เป็นของขวัญสำหรับคุณป้ากับคุณลุงครับ” ซุนหยุนเชิงพูด “หมอหวังออกไปข้างนอกเหรอครับ?”

 

“เขาอยู่ที่คลินิกจ๊ะ” จางซิวหยิงพูด

 

หลังจากที่อยู่พูดคุยกับจางซิวหยิงได้สักพัก ซุนหยุนเชิงก็ขอตัวกลับ

 

หวังเย้าจัดการทำความสะอาดภายในคลินิกพอเป็นพิธี เพราะภายในคลินิกนั้นสะอาดดีอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำความสะอาดมันอีกครั้ง ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเขากลับไปที่บ้านในตอนเที่ยง เขาก็เห็นของขวัญวางอยู่ภายในบ้าน

 

“มีใครมาเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ซุนหยุนเชิงเอาของขวัญมาให้จ๊ะ แล้วก็เอามาเยอะมาด้วย” จางซิวหยิงตอบ

 

หวังเย้ายิ้ม “แล้วเขาได้บอกอะไรไว้ด้วยรึเปล่าครับ?”

 

“ไม่เลยจ๊ะ” จางซิวหยิงพูด

 

“อ่อ มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ?” หวังเย้าถาม

 

“แค่เก็บจานตอนกินข้าวเสร็จก็พอแล้วจ๊ะ” จางซิวหยิงพูด

 

หลังจากจบมื้อเที่ยง ก็มีแขกมาเยือนที่บ้านในตอนที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่

 

“พี่เทียน เชิญเข้ามาข้างในก่อนสิครับ” หวังเย้าพูด

 

“ผมมาที่นี่เพื่ออวยพรวันปีใหม่ให้พ่อแม่ของนาย แล้วก็มาหานายด้วย” เทียนหยวนถูพูดในขณะที่มองไปทางหวังเย้า

 

“พี่อ้วนขึ้นนะ” หวังเย้าพูด

 

“อ้อ ใช่ งานในบริษัทกำลังไปได้สวย แล้วฉันก็เซ็นสัญญากับทีมบริษัทเรียบร้อยแล้ว ในอนาคต ฉันไม่จำเป็นต้องจัดการอะไรมาก นอกจากเรื่องใหญ่ที่ต้องรอการตัดสินใจจากฉันเท่านั้น” เทียนหยวนถูพูด เมื่อภาระทั้งหมดถูกยกออก เขาก็รู้สึกโล่งสบายไปทั้งตัว “ช่วงนี้ นายยุ่งไหม?”

 

“ช่วงก่อนก็ยุ่งนิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้ก็พอจะได้พักบ้างแล้ว” หวังเย้าพูด

 

ช่วงสิ้นปี เป็นช่วงที่ผู้คนต่างก็ยุ่งวุ่นวายในเรื่องราวหลายอย่าง

 

เทียนหยวนถูอยู่ที่บ้านของหวังเย้าเพียงครู่เดียวก็กลับออกไป เขายังมีอีกหลายที่ที่ต้องไป นอกจากบ้านพ่อแม่ของเขาแล้ว บ้านของหวังเย้าคือที่แรกที่เขาแวะมา ซึ่งแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความสำคัญของหวังเย้าในใจเขา

 

ในตอนบ่าย หวังเย้าไม่ได้กลับไปที่คลินิก แต่เขาเลือกอยู่ช่วยงานที่บ้านแทน หลักๆก็คือจัดการกับของขวัญปีใหม่

 

เช้าของวันต่อมา หวังเย้าที่ยังอยู่ภายในคลินิก แต่ที่บ้านของเขากลับมีคนมากมายมาเยี่ยมเยือน

 

ไม่นาน เว่ยห่ายก็เดินทางมาถึงด้วยรถแลนด์โรเวอร์คันเดิม ครั้งนี้ ยังมีรถบรรทุกติดตามเขามาด้วย ด้านหลังรถบรรทุกมีของบรรจุอยู่จนเต็ม และมีชายฉกรรจ์ตามมาด้วยอีกสองคน

 

“เร็วเข้า เอาของลงจากรถบรรทุกได้เลย” เว่ยห่ายพูด

 

“นั่นอะไรน่ะ?” จางซิวหยิงถาม

 

“คุณน้า นี่เป็นของขวัญจากผมให้คุณน้าทั้งสองครับ มันคืออาหารทะเลสดๆทั้งนั้นเลยนะครับ” เว่ยห่ายพูด

 

เมื่อเห็นกล่องมากมายบนหลังรถบรรทุก จางซิวหยิงก็ถึงกับพูดไม่ออก เธอพูดออกมาว่า “อาหารทะเล…รอเดี๋ยวก่อนนะ…ทำไมถึงได้มีปลาเป็นอยู่ในนั้นด้วยล่ะ?”

 

“แล้วหวังเย้าอยู่ที่ไหนเหรอครับ?” เว่ยห่ายถาม

 

“เขาอยู่คลินิกจ๊ะ” จางซิวหยิงพูด

 

“อ่อ ถ้าอย่างนั้น ผมไม่รบกวนคุณน้าทั้งสองแล้วนะครับ” เว่ยห่ายพูด

 

หลังจากจัดการขนของทั้งหมดลงแล้ว เขาก็จากไปทันที เว่ยห่ายแวะไปที่คลินิกและอยู่คุยกับหวังเย้าครู่หนึ่ง

 

ในตอนที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น ก็มีอีกคนเดินทางมาที่บ้านของหวังเย้า ตู้เฟิงขับรถมาจากเมืองจู จากนั้นเขาก็นำของขวัญปีใหม่ไปมอบให้กับหวังเย้าที่คลินิกและพูดคุยกับเขาสองสามประโยค หวังเย้าสอบถามอาการของเขาและบอกให้เขากลับมารับยาในอีกวันสองวันข้างหน้า

 

ในตอนที่หวังเย้ากำลังคุยอยู่นั้น ที่บ้านก็โทรมาหาเขา เพราะมีแขกอีกคนหนึ่งมาหาเขาที่บ้านอีกแล้ว

 

“นายคงจะยุ่ง ไว้เราค่อยเจอกันทีหลังก็แล้วกันนะ” เว่ยห่ายพูด

 

“ดีครับ ขอบคุณนะครับพี่” หวังเย้าพูด จากนั้นเขาก็กลับไปที่บ้าน

 

“ผมบอกคุณน้าแล้วว่าไม่ต้องเรียกคุณมาก็ได้” เฉินปัวหยวนพูด

 

“ดูสิ” จางซิวหยิงชี้ไปที่ข้าวของมากมายที่เฉินปัวหยวนนำมาจากปักกิ่ง ส่วนใหญ่นั้นเป็นของกินและเป็นสินค้าที่ถูกผลิตออกมาเป็นการเฉพาะ

 

เฉินปัวหยวนเดินทางมาไกลเพียงเพื่อนำของเหล่านี้มามอบให้ เหมือนที่เขาว่ากันว่า ของขวัญเพียงเล็กน้อยที่ถูกส่งมาไกลหลายพันไมล์ สามารถถ่ายทอดความรักความห่วงใยที่ยิ่งใหญ่ออกมาได้

 

“ขอบคุณนะครับ” หวังเย้าพูด

 

เมื่อได้รับของขวัญมาแล้ว มันคงจะเป็นการเสียมารยาทหากคิดจะส่งมันคืนกลับสู่เจ้าของเดิม แต่หวังเย้าก็ไม่มีของขวัญที่เหมาะสมมอบให้เขาเลย ในเมื่อพวกเขาไม่ได้ป่วย หวังเย้าก็ไม่สามารถมอบยาให้พวกเขาได้ และมันก็ไม่เป็นมงคลอีกด้วย

 

หลังจากที่คุยกันได้สักพัก เฉินปัวหยวนก็จากไป

 

ตลอดทั้งเช้า มีคนมากมายเดินทางมาเยี่ยมที่บ้านของหวังเย้าและจากไป พวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่เดินทางมาพร้อมกับของขวัญ

 

“เสี่ยวเย้าทำงานอะไรกัน? อย่างกับว่า เขาเป็นนายกเทศมนตรียังไงยังงั้นเลยนะ” ชาวบ้านคนหนึ่งพูด

 

“พูดอะไรไร้สาระ” ชาวบ้านอีกคนพูด “แล้วของขวัญที่นำไปมอบให้นายกเทศมนตรี ก็เอาไปให้ตอนกลางวันแบบนี้ไม่ได้ด้วย คนพวกนี้พากันมาเวลานี้ มันชัดเจนแจ่มแจ้งเกินไป พวกเขาอาจจะเป็นคนที่เคยมารักษากับเสี่ยวเย้าก็ได้ และก็เอาของมาเพื่อขอบคุณเขา”

 

“แต่คนพวกนั้นมีแต่คนรวยๆทั้งนั้นเลยนะ พวกเขาเอาของขวัญมาให้เยอะขนาดไหนกันเชียว?” ชาวบ้านคนหนึ่งถาม

 

ชาวบ้านหลายคนต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งที่ความจริง มันไม่ใช่เรื่องของพวกเขาเลยสักนิด บางคนพูดเพราะอิจฉา และบางคนก็ริษยา นั่นก็เพราะพวกเขาว่างและไม่มีอะไรทำกัน

 

ครอบครัวของหวังเย้า ได้ทำการจัดห้องไว้สำหรับเก็บของขวัญโดยเฉพาะ

 

“ลูกจะทำยังไงกับอาหารทะเลพวกนี้ดีล่ะ?” จางซิวหยิงมองดูอาหารทะเลสดๆที่เว่ยห่ายนำมาให้

 

“เราเอามาทำอาหารกินกันวันนี้ดีกว่านะครับ” หวังเย้ายิ้ม “แต่เราก็คงกินได้ไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าเราเก็บของพวกนี้เอาไว้นานๆ ผมก็กลัวว่ามันจะเสียเอาได้”

 

เมื่อดูจากจำนวนของทะเลที่มีอยู่แล้ว ถ้าพวกมันเกิดเน่าเสียเพราะเก็บไว้นานจนเกินไป ก็คงจะน่าเสียดาย

 

“บอกให้ป้ากับลุงของลูกมาแบ่งเอาไปก็แล้วกันนะ” จางซิวหยิงพูด

 

“ดีครับ แม่จัดการได้เลย” หวังเย้าพูด

 

“งั้นก็ช่วยแม่ที เย็นนี้ เราจะทำอาหารทะเลกินกัน” จางซิวหยิงพูด

 

ปลาที่เว่ยห่ายนำมาให้นั้นเป็นปลาที่ถูกจับจากธรรมชาติ เขาได้เลือกมันมาให้หวังเย้าโดยเฉพาะ ดังนั้น มันจึงสดและปลอดภัย

 

หวังเย้าช่วยแม่ของเขาจัดการกับปลา กุ้ง และปู

 

“พี่ของลูกจะกลับมารึยังจ๊ะ?” จางซิวหยิงถาม

 

“ผมจะลองโทรหาพี่ดูครับ” หวังเย้าพูด

 

หวังรุ่ยและตู้หมิงหยางกลับมาทันทานอาหารกลางวันพอดี และยังนำของติดไม้ติดมือมาด้วย

 

“ไม่ต้องเอาอะไรมาให้อีกนะจ๊ะ” จางซิวหยิงพูด เธอไม่ได้แสดงความมีมารยาทอะไร เพียงแต่ ในห้องมีของขวัญอยู่เยอะเกินไปแล้วต่างหาก

 

“นี่ แม่คะ ทำไมถึงได้มีอาหารทะเลเยอะแยะขนาดนั้นกันล่ะ?” หลังจากที่เห็นว่ามีปลาและกุ้งจำนวนมากอยู่ที่ลานบ้าน หวังรุ่ยก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “แม่ซื้อมาเหรอ?”

 

“เปล่าหรอก เพื่อเสี่ยวเย้าขนมาสั่งให้ตั้งคันรถหนึ่งแน่ะ” จางซิวหยิงตอบ

 

“หา พวกเขาเป็นใครกัน? พวกเขารวยมากเลยเหรอคะ?” หวังรุ่ยรู้สึกประหลาดใจ

 

“น้องเขยเจ๋งสุดๆไปเลย!” ตู้หมิงหยางที่ยืนอยู่ข้างๆยิ้มออกมา

 

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว” หวังรุ่ยพูด “ไปเอาน้ำจิ้มมาสิ ได้เวลากินข้าวกันแล้ว”

 

ทั้งครอบครัวมีความสุขกับอาหารและไวน์ดีดี ที่วางอยู่จนเต็มโต๊ะอาหาร

 

ตู้หมิงหยางดื่มเป็นเพื่อนหวังเฟิงฮวาไปสองแก้ว

 

“อย่าดื่มเยอะล่ะ เดี๋ยวตอนบ่ายยังต้องกลับไปทำงานอีก” หวังรุ่ยกระชิบ

 

“ไม่ต้องห่วง ขอแค่คุณลุงมีความสุขจะให้ผมดื่มกี่แก้วก็ได้ หรือบ่ายนี้ลางานไปเลยก็ยังได้” ตู้หมิงหยางยิ้มแย้ม

 

ทุกคนในครอบครัวต่างก็พูดคุยกันระหว่างที่ทานอาหารไปด้วยอย่างมีความสุข หลังจากที่จบมื้ออาหารแล้ว หวังรุ่ยก็เข้าไปดูห้องที่เก็บของขวัญเอาไว้ ทำให้เธอได้เห็นกองของขวัญจำนวนมากอยู่ในนั้น เธอเดินตรงเข้าไปดูของเหล่านั้น “โอ้โห้! นี่ไม่ใช่ถูกๆเลยนะ!”

 

“แม่ ใครเป็นคนซื้อของขวัญที่อยู่ในห้องนี้เหรอคะ?” หลังจากที่ออกมาจากห้องนั้นแล้ว หวังรุ่ยก็แอบไปกระซิบถามแม่ของเธอ

 

“ซื้ออะไรกัน? ของพวกนี้มีแต่คนเอามาให้ทั้งนั้นแหละ” จางซิวหยิงพูด

 

“ใครเหรอคะ?” หวังรุ่ยถาม

 

“เพื่อนๆกับคนไข้ของน้องชายลูกน่ะสิ” จางซิวหยิงพูดอย่างปลื้มอกปลื้มใจ เธอรู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายของเธอมาก

 

“เสี่ยวเย้าน่ะเหรอ?” หวังรุ่ยรู้สึกประหลาดใจ

 

“ใช่แล้วล่ะ ของขวัญที่ได้มาวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นของเขาทั้งนั้น” จางซิวหยิงพูด “พวกเขาทุกคนยังขับรถมาเองกันหมดด้วยล่ะ”

 

หวังรุ่ยอึ้งอยู่นาน แล้วเธอก็พูดขึ้นมาว่า “เขารักษาคนเก่งขนาดไหน? ดูของขวัญในห้องพวกนี้สิ ปีใหม่ปีนี้เราแทบไม่ต้องซื้ออะไรกันแล้ว!”

 

“แล้วตอนที่ลูกไปเยี่ยมบ้านของตู้หมิงหยาง ลูกก็ไม่ต้องไปซื้อของอะไรล่ะ” จางซิวหยิงพูด “แค่หยิบๆของที่อยู่ในนี้ไปให้ก็พอแล้ว เพราะยังไงเราก็ใช้ไม่หมดหรอก แล้วก็บอกตู้หมิงหยางด้วยล่ะ ว่าเวลามาที่นี่ก็ไม่ต้องซื้ออะไรมา ให้เขาเอาเงินไปใช้อย่างอื่นที่จำเป็นเถอะ เงินไม่ใช่จะหากันมาได้ง่ายๆซะที่ไหน”

 

“หนูว่า หวังเย้าคงจะหาเงินได้ง่ายมากเลยนะคะ” หวังรุ่ยพูด

 

“แต่ลูกไม่เหมือนกัน” แม่ของเธอพูด

 

“ค่ะ!” หวังรุ่ยถอนหายใจออกมา

 

ในตอนบ่าย หวังรุ่ยและตู้หมิงหยางไม่ได้กลับไปที่ทำงาน ทุกคนในครอบครัวต่างพากันล้อมวงเล่นไพ่ เมื่อถึงเวลาบ่ายสองโมง ก็มีแขกอีกคนเดินทางมาถึง พันจวินเดินทางมาพร้อมกับของขวัญในมือ

 

“สวัสดีครับ อาจารย์ คุณลุง แล้วก็คุณป้า! ผมมาเพื่ออวยพรวันปีใหม่ครับ” พันจวินพูด

 

“เข้ามาข้างในบ้านก่อนสิจ๊ะ เร็วเข้า!” จางซิวหยิงยิ้ม

 

“วันนี้ พี่ไม่ต้องเข้าเวรเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“อืม ฉันเพิ่งจะออกเวรเมื่อกี้นี้เอง” พันจวินพูด เขาดูเหนื่อยเล็กน้อย

 

“พี่ดูไม่ค่อยดีเลยนะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พักเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ใช่แล้วล่ะ ช่วงนี้มีคนไข้ที่ห้องฉุกเฉินมากเป็นพิเศษน่ะ” พันจวินตอบ

 

“คนไข้ประเภทไหนเหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ส่วนใหญ่มาเพราะอาหารไม่ย่อยน่ะ” พันจวินพูด “ตั้งแต่เริ่มวันหยุดมา พวกเพื่อนๆกับญาติๆก็พากันสังสรรค์ทุกวัน ทั้งกิน ดื่ม แถมยังกินเนื้อเข้าไปเยอะด้วย”