ตอนที่ 251 ขอแต่งงาน!
ในเมื่อโลกนี้เชิดชูวีรบุรุษ ผมนี่แหละจะกลายเป็นวีรบุรุษเอง!

ในเมื่อโลกนี้นับถือคนมีเงิน ผมก็จะกลายเป็นคนมีเงินเอง!

อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในแวดวงธุรกิจของประเทศก็มีข่าวร้อนให้พาดหัวทุกวัน!

“เฉินเย่กรุ๊ปซื้อบริษัทเอ๊กซ์เพรสเฟยซู่! ผู้มีอำนาจลงนามคนใหม่มารับหน้าที่แล้ว”

“เฉินเย่กรุ๊ปทุ่มเงินห้าพันล้าน (รวมค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น) ซื้อหุ้นจำนวน 80% ของบริษัทเอ๊กซ์เพรสรื่อรื่อ!”

“เฉินเย่กรุ๊ปซื้อบริษัทเอ๊กซ์เพรสจือทงและ 365 รวมไปถึงบริษัทขนส่งต่างๆ เรียบร้อยแล้ว!”

“ข่าวใหญ่! ข่าวใหญ่! เฉินเย่กรุ๊ปทุ่มเงินหกหมื่นล้านซื้อชือเลอะเมอะเป็นที่เรียบร้อย!”

“ข่าวใหญ่! ข่าวใหญ่! ข่าวใหญ่! เฉินเย่กรุ๊ปทุ่มเงินสองแสนล้านซื้อบริษัทเดลิเวอรี่ถวนถวน กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของถวนถวน!”

ใกล้ช่วงตรุษจีน พนักงานต่างก็กลับบ้านเพื่อเตรียมตัวฉลองตรุษจีน

แต่ว่าสัปดาห์นี้กลับมีข่าวสะเทือนวงการธุรกิจออกมาไม่หยุด!

“หุ้นดีด! หุ้นดีด! หลังจากที่เฉินเย่กรุ๊ปซื้อถวนถวนแล้วน ราคาหุ้นก็ดีดขึ้นจนใกล้จะเก้าแสนล้านแล้ว!”

“ถึงจะยังไม่รู้ว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ของเฉินเย่กรุ๊ปคือใคร แต่ในแวดวงธุรกิจก็มั่นใจแล้วว่าเขาเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดคนใหม่ในประเทศเรา!”

……

วิลล่าเฝยชุ่ย ภายในบ้านของหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อ

หลิวอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยาดูข่าว แววตาของคู่เต็มไปด้วยความสงสัย!

“เฉินเย่กรุ๊ป… สรุปแล้วเฉินเย่กรุ๊ปนี่มีความเป็นมายังไง? คิดไม่ถึงเลยว่าจะซื้อกิจการต่างๆ เยอะแยะขนาดนี้!”

หลิ่วอวี่เจ๋อติดใจอย่างมาก

ตอนนี้เป็นเพราะเฉินเย่กรุ๊ปซื้อบริษิทขนส่งเป็นจำนวนมาก ทำให้ตอนนี้ธุรกิจขนส่งในประเภทถูกแบ่งเป็นสามขั้วใหญ่ๆ คือ เฉินเย่ ชุนเฟิงและไป๋ลี่!

หวังเจียเหยาเองก็กล่าวต่ออย่างประหลาดใจ “ทำไมหาชื่อ CEO ของเฉินเย่กรุ๊ปไม่เจอนะ? หมอนี่ชักจะใหญ่โตเกินไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย? ซื้อบริษัทเยอะแยะขนาดนี้กระทั่งชื่อก็ไม่ต้องบอกใครด้วยเหรอเนี่ย?”

หลิ่วอวี่เจ๋ออธิบาย “เขาใช้ชื่อของตัวแทนน่ะ แต่ว่าตอนนี้ใครก็รู้ว่าคนๆ นั้นไม่ใช่คนที่กุมอำนาจของเฉินเย่อย่างแท้จริง เฉินเย่กรุ๊ปกลายเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศเราแล้ว เขา…เขากลายเป็นคนที่รำ่รวยที่สุดในประเทศนี้แล้ว!”

หวังเจียเหยาใจเต้นระรัว “คนรวยที่สุด… สวรรค์ อยากจะรู้จริงๆ ว่าคนที่ร่ำรวยที่สุดหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ หวังว่าจะมีโอกาสได้รู้จักเขานะ…”

……

และในตอนนี้เองวิลล่าข้างๆ ฉินหงเหยียนเองก็เพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน

หล่อนถอดรองเท้าส้นสูง แล้วกล่าวพลางทอดถอนใจ “ประเทศของเรานี่เต็มไปด้วยคนร่ำรวยที่ซ่อนตัวอยู่ คุณเห็นข่าวของเฉินเย่กรุ๊ปแล้วหรือยัง? คนๆ นี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว กระทั่งคุณหม่ายังพูดเลยว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเย่กรุ๊ปเสียหน่อย!”

“เขายังบอกว่าประธานเฉินเย่กรุ๊ปไม่ใช่เพิ่งจะมาเป็นคนรวยวันนี้เสียหน่อย นายว่าคนนั้นอาจจะเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศนี้ เพียงแต่ว่าเขาไม่เคยแสดงตัวมาก่อน!”

ฉินหงเหยียนถอดรองเท้าแตะ หล่อนดื่มน้ำอึกใหญ่ด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นัก

ก็ไม่แปลกหรอกฉินหงเหยียนที่เอาแต่คลุกคลีอยู่ในวงการธุรกิจ หลายวันมานี้เพิ่งได้เห็นการซื้อบริษัทอย่างบ้าคลั่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในระยะเวลาหลายสิบปีนี้ ก็รู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก!

จู่ๆ ฉินหงเหยียนก็กล่าวว่า “จริงสิ เย่เฉิน น้องสาวฉันเพิ่งโทรมา วันที่ 11 เป็นวันสิ้นปีไม่ใช่เหรอ? หล่อนบอกว่าจะไปเที่ยวมัลดีฟส์กับฉัน เราไปด้วยกันดีไหม?”

ในวันที่ก่อนสุดท้ายของปี ตามธรรมเนียมของคนในประเทศแล้วจะต้องไปพักผ่อนกับคนในครอบครัว

ฉินหงเหยียนมีฉินเสี่ยวตั่วเป็นน้องสาวแค่คนเดียว ปกติแล้วนานๆ จะได้เจอกัน ย่อมต้องฉลองปีใหม่ด้วยกัน

แต่คนในครอบครัวของเย่เฉินไม่ได้อยู่ในประเทศ จะได้ไปสนุกด้วยกันสามคนพอดี

ทว่าเย่เฉินกลับแสร้งอิดออด “ต้องไปเที่ยวไกลถึงมัลดีฟส์เลยเหรอ?”

ฉินหงเหยียนนั่งข้างตัวเย่เฉิน คว้ามือของชายหนุ่มแล้วเขย่าไปมา “แหม ไปเถอะนะ ที่รักน้องสาวฉันไปด้วย”

“อืม ก็ได้” แล้วถึงได้เย่เฉินแสร้งฝืนตอบ

“ขอบคุณนะที่รัก!” ฉินหงเหยียนจุมพิตลงบนหน้าผากเย่เฉิน แล้วลุกขึ้นมา “ฉันไปอาบน้ำแล้วนะคะ!”

มองฉินหงเหยียนเดินจากไป เย่เฉินพูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ยัยโง่ คุณยังไม่รู้ล่ะสิว่าเรื่องไปมัลดีฟส์เป็นไอเดียผม? คิกคิก”

ถูกต้อง การไปฉลองปีใหม่ที่มัลดีฟส์เป็นความคิดของเย่เฉิน!

เขาเหมาเกาะแห่งหนึ่งในมัลดีฟส์เอาไว้นานแล้ว!

ส่วนไปที่นั่นไม่ได้เป็นเพียงแค่การท่องเที่ยวเพื่อฉลองปีใหม่ เย่เฉินไปเพื่อจะขอแฟนสาวแต่งงาน!

ฉินเสี่ยวตั่วเคยพูดมาก่อน ฉินหงเหยียนอยากถูกขอแต่งงานในบรรยากาศเงียบสงบ ดังนั้นเย่เฉินถึงได้เหมาเกาะเพื่อขออีกฝ่ายแต่งงาน!

ขอแต่งงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเรื่องที่เย่เฉินวางแผนเอาไว้

บวกกับเย่เฉินต้องการจะแบไต๋กับหวังเจียเหยา บอกหล่อนว่าเขาเย่เฉินนี่แหละคือประธานเฉินเย่กรุ๊ป!

บอกหล่อนว่าตนเองไม่ได้โดนไล่ออกจากตระกูลเลยด้วยซ้ำ

ก่อนที่หวังเจียเหยาจะรู้ความจริง เขาจำเป็นต้องให้แฟนสาวของตัวเองรู้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่ยุติธรรมกับหล่อน!

……

วันก่อนสิ้นปี ณ เกาะมัลดีฟส์

เดือนนี้ถ้าเป็นทางตอนเหนือของประเทศ คงหนาวจนสวมเสื้อขนเป็ดกันไปนานแล้ว

ทว่าในสถานที่อย่างมัลดีฟส์นี้กลับค่อนข้างอบอุ่น สวมเสื้อแขนสั้นได้แล้ว เพราะอุณหภูมิที่นี่จะเฉลี่ยอยู่ที่ 26-31 องศา

“พี่คะ! พี่เขย!”

ฉินเสี่ยวตั่วที่สวมกระโปรงสั้นปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าทั้งสองคนในสนามบิน

ฉินหงเหยียนยังคิดว่าฉินเสี่ยวตั่วและเย่เฉินเพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรก จึงเปิดปากแนะนำ “เสี่ยวตั่ว…พี่จะแนะนำ”

“แหม ไม่ต้องแนะนำแล้วค่ะ พวกเราสนิทกันแล้วค่ะ!” ฉินเสี่ยวตั่วตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ครั้งก่อนตอนที่เจอกันครั้งแรกฉินเสี่ยวตั่วและเย่เฉินอยู่ด้วยกันที่โรงแรมในนิวยอร์คด้วยกันทั้งคืน

“พวกเธอสนิทสนมกันได้ยังไง? พวกเธอเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกไม่ใช่เหรอ?” ฉินหงเหยียนถามอย่างประหลาดใจ

ฉินเสี่ยวตั่วกล่าวพลางระบายยิ้ม “มี wechat กันแล้วไม่ใช่หรือไง? พวกเราวีดีโอคอลคุยกันออกจะบ่อย จริงไหม พี่เขย?”

“แค่ก อืม!” เย่เฉินพยักหน้ารับ

ฉินหงเหยียนมองเย่เฉินด้วยแววตาสงสัย “คุณคุยกับน้องสาวฉันบ่อยๆ นี่หมายความว่ายังไง? ชอบน้องสาวฉันหรือเปล่าเนี่ย?”

“ผมเปล่า…” เย่เฉินมีสีหน้าเหรอหรา

“ฮ่าๆ” เห็นท่าทางหึงหวงของพี่สาว ฉินเสี่ยวตั่วจึงยิ้มอย่างดีอกดีใจ “พอเถอะน่า พี่คะเลิกหึงได้แล้ว พวกเรารีบไปโรงแรมกันเถอะ”

ทั้งสามคนนั่งแท็กซี่ออกจากสนามบิน ไปยังเกาะ Vommuli

เมื่อมาถึงบนเกาะแล้ว ฉินหงเหยียนก็รู้สึกได้ถึงความแปลกพิกล เพราะว่าในทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตากลับไม่เหลือใครสักคน

ไม่มีนักท่องเที่ยว และไม่มีพนักงานสักคน

เมื่อเดินทอดน่องบนเกาะ ฉินหงเหยียนก็พบว่าเกาะถูกตกแต่งอย่างประณีต อีกทั้งยังแปะป้ายคำว่า “will you marry me” เต็มไปหมด

“แย่แล้ว มีคนเหมาเกาะไปแล้ว พวกเรารีบเปลี่ยนที่เที่ยวกันดีกว่า”

ฉินหงเหยียนสังเกตได้ว่าเกาะแห่งนี้ต้องโดนคนเหมาแล้วแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่น่าจะเงียบเหงาจนไม่มีใครสักคนแบบนี้

ทว่าในเวลานี้จู่ๆ เย่เฉินก็หยิบเอาแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋า คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วมองฉินหงเหยียนในชุดขาวเพื่อขอหญิงสาวแต่งงาน!

““will you marry me?”

“คุณยินดีจะแต่งงานกับผมไหมครับ?”

ฉินหงเหยียนเอามือปิดปากเอาไว้!

“คุณเป็นคนจัดการทั้งหมดนี้เลยเหรอ?”

ฉินหงเหยียนมองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่านี่น่าจะเป็นลูกเศรษฐีคนไหนตั้งใจเหมาเกาะเพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน เพราะรอบๆ เกาะแห่งนี้ล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นอายโรแมนติกในการขอแต่งงาน

หล่อนเพียงแต่คิดไม่ถึงว่าคนที่เหมาเกาะจะเป็นเย่เฉิน ส่วนผู้หญิงที่ถูกขอแต่งงานคือตัวเอง!

“ตกลงเลย! ตกลงเลย!”

ฉินเสี่ยวตั่วยืนปรบมืออยู่ข้างๆ ไม่หยุด

น้ำตาแห่งความปลื้มปิติไหลลงอาบหน้าฉินหงเหยียน จากนั้นหญิงสาวจึงหันมองเย่เฉินแล้วกล่าว

“ฉันตกลงค่ะ!”