ตอนที่ 252 ผมเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 252 ผมเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ!
เย่เฉินชันตัวลุกขึ้นแล้วสวมกอดแฟนสาวอย่างแนบแน่น

ฉินหงเหยียนหลับตาลง น้ำตาแห่งความสุขก็ไหลลงอาบใบหน้าที่งดงามของหญิงสาว

หล่อนอายุ 31 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้มีคนตามจีบมาเยอะ แต่สุดท้ายแล้วเจ้าหล่อนก็รู้สึกว่าตนเองน่าจะต้องอยู่คนเดียวตามลำพังไปจนแก่จนมาเจอเย่เฉิน

เย่เฉินดีใจอย่างมาก ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงที่ดีกับเขาที่สุดตั้งแต่ที่เคยเจอมา

ในตอนที่ทุกคนต่างก็เยาะเย้ยเขาว่าเป็นเขยที่ถูกตระกูลหวังทอดทิ้ง ในตอนที่โดนตระกูลเย่ทอดทิ้งเขา มีแค่ฉินหงเหยียนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยินยอมอยู่เคียงข้างเขา

เย่เฉินหยิบเอาแหวนเพชรที่ส่องประหายวิบวับออกมาจากกล่อง เขาเอื้อมไปสัมผัสมือเรียวงามของแฟนสาวขึ้นมาจากนั้นก็สวมแหวนลงบนนิ้วนางของหญิงสาว

ฉินหงเหยียนที่ซาบซึ้งใจอยู่ ก็สังเกตเห็นความพิเศษของแหวนเพชรวงนี้ พลันตกตะลึง “แหวนเพชรวงนี้…สวยจังเลย!”

แหวนเพชรวงนี้เป็นดีไซน์ของแบรนด์ lorraine Schwartz อันเป็นจิลเวอรี่ระดับสูง แหวนเป็นแพชรแปดแฉกขนาด 18 กะรัตและฝังเพชรบนตัวเรือนแพลตตินัม

ส่วนขาที่ยึดเกาะเพชรเอาไว้นั้นแสดงให้เห็นถึงความรักที่มีให้หญิงสาวว่ามันแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลงขนาดไหน!

ฉินเสี่ยวตั่วที่อยู่ด้านข้าง หยิบกล้อง SRT ขึ้นมาเหมือนตัวเองเป็นตากล้อง แล้วถ่ายรูปไปพร้อมๆ กับอธิบายไปด้วย “พี่คะ แหวนนี่ราคาตั้งเจ็ดล้านดอลลาร์เลยนะคะ พี่เขยสั่งทำให้พี่โดยเฉพาะเลย!”

เจ็ดล้านดอลลาร์!

ต่อให้เป็นที่เทียนไห่ก็เถอะ แต่เงินจำนวนนี้ก็ซื้อบ้านหรูได้เป็นหลังแล้ว!

บวกกับที่เหมาเกาะนี้อย่างน้อยๆ ก็น่าจะต้องใช้หลายสิบล้าน

แค่สองอย่างนี้เย่เฉินก็ใช้เงินไปเป็นร้อยล้านแล้ว!

ฉินหงเหยียนมองเย่เฉินอย่างตื่นตระหนก “คุณเอาเงินมาจากไหน?”

เย่เฉินสวมแหวนเข้าที่นิ้วนางของฉินหงเหยียนเรียบร้อยแล้ว และในวินาทีนี้เขาจำเป็นต้องบอกความจริงแฟนสาวแล้ว

“หงเหยียน ผมอยากจะขอโทษคุณ ที่จริงแล้วเรื่องที่ผมโดนขับออกจากตระกูลเป็นเรื่องโกหก ผมเป็นคนตระกูลเย่อยู่” เย่เฉินกล่าว

ฉินเสี่ยวตั่วที่รู้ความจริงนานแล้ว กล่าวพลางระบายยิ้ม “ไม่ใช่แค่นั้นนะ พี่คะตอนนี้เขาเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศแล้ว เฉินเย่กรุ๊ปที่ซื้อบริษัทต่างๆ ในตอนนี้น่ะเป็นบริษัทเขา”

ฉินหงเหยียนตกตะลึงไป

“คุณยังไม่โดนขับออกจากตระกูลเหรอ? เฉินเย่กรุ๊ปเป็นบริษัทของคุณเหรอ?”

เฉินเย่ พออ่านย้อนก็พบว่าเป็นคำพ้องเสียงของชื่อเย่เฉิน!

เย่เฉินพยักหน้า

ทว่าฉินหงเหยียนที่ได้รู้ข่าวนี้กลับมีท่าทีไม่พอจอย่างมาก “พูดแบบนี้แปลว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณหลอกฉันเหรอ? คุณไม่เชื่อใจกันขนาดนี้ก็อย่าขอฉันแต่งงานเลย!”

ฉินหงเหยียนพูดไปพลางถอดแหวนที่เย่เฉินสวมให้ออก

เย่เฉินรีบร้อนวิ่งเข้าไปกอดหญิงสาวแล้วห้ามหล่อน “หงเหยียน อย่าทำแบบนี้สิครับ คุณฟังผมอธิบายก่อน ตอนนั้นผมรู้มาว่าหวังเจียเหยาหลอกผม ทั้งที่มีอะไรกับฟางเชาแต่กลับหลอกผมว่าไม่ได้ทำอะไร ไม่เพียงเท่านั้นหลังจากที่หล่อนตั้งท้องแล้ว ก็ยังพลอดรักกับหลิ่วอวี่เจ๋อ ไปนัดเจอกันทุกวัน”

ผมอยากจะขอหย่ากับหล่อน แต่ว่าก่อนที่ย่าของหวังเจียเหยาจะตาย บังคับให้ผมรับปากว่าจะไม่หย่ากับหวังเจียเหยา ย่าเล็กของหวังเจียเหยามีบุญคุณเคยช่วยชีวิตผม ผมไม่อยากให้หล่อนไปจากโลกใบนี้อย่างมีอะไรติดค้างใจ ดังนั้นก็เลยรับปากหล่อนไป

คุณเองก็รู้ว่าผมเป็นคนให้ความสำคัญกับคำสัญญามาก ไม่อยากจะผิดสัญญาดังนั้นผมก็เลยคิดวิธีนี้ขึ้นมา ผมรู้ว่าหวังเจียเหยาชอบเงิน ทันทีที่รู้ว่าผมไม่เงินก็จะต้องขอเลิกกับผมแน่นอน”

ส่วนเรื่องชีวิตแต่งงานที่ผ่านมาของเย่เฉินกับหวังเจียเหยานั้น ฉินหงเหยียนเองก็พอจะรู้อยู่บ้าง

ฉินหงเหยียนรู้ว่าเย่เฉินเป็นคนดี จึงไม่โทษเขาแล้วย้อนถาม “งั้นพวกเราคบกันมานานขนาดนี้ ทำไมคุณไม่บอกฉัน?”

เย่เฉินกล่าว “ผมอยากจะหาโอกาสบอกคุณมาตลอดเลย แต่ผมแค่อยากจะรอให้หวังเจียเหยาคลอดลูกก่อนแล้วค่อยบอกคุณ คุณเองก็รู้ว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าผมยังไม่โดนไล่ออกจากตระกูลจะต้องวอแวผมแน่นอน”

ฉินหงเหยียนพยักหน้ารับ หล่อนเองก็พอจะรู้ว่าหวังเจียเหยาชอบเย่เฉิน ที่เลิกกับเขาก็เป็นเพราะเขาไม่มีเงิน ทันทีที่รู้ว่าเขามีเงินจะต้องแย่งเขากลับไปแน่นอน

ฉินเสี่ยวตั่วเองที่อยู่ข้างๆ ฉินหงเหยียนก็พยายามจะปลอบพี่สาว “พี่คะถึงแม้ว่าเขาจะปกปิดสถานะตัวเอง แต่เขาก็คอยช่วยพี่อย่างลับๆ อยู่ตลอดเลยนะคะ อย่างตำแหน่งรองประธานไป๋ลี่เขาก็เป็นคนหามาถวายพี่ คุณอัยอะไรนั่นเป็นน้องสาวเขา”

ฉินหงเหยียนตกใจกว่าเดิม “คุณอัยเป็นน้องคุณ?”

เย่เฉินยิ้มรับ “ครับ น้องสาวคนที่สี่ของผมเอง”

ฉินหงเหยียนถึงได้เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงได้กลายเป็นรองประธานของบริษัทแห่งนั้นอย่างงายดาย แล้วทำไมถึงกลายเป็นประธานบริษัทได้!

ที่แท้ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะตนเองดวงดี และไม่ใช่เพราะตนเองกับคุณอัยสนิทสนมกัน แต่เป็นฝีมือเย่เฉิน!

“นายมันน่ารังเกียจจริงๆ ทำไมไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้!”

ฉินหงเหยียนทุบเย่เฉินเบาๆ อยู่หลายครั้ง เพียงแต่ว่าจากสีหน้าท่าทางของเจ้าหล่อนนั้นพอจะมองออกว่าเจ้าหล่อนให้อภัยชายตรงหน้าแล้ว

โลกนี้ก็เป็นแบบนี้ ถ้าหากคนรวยแสร้งทำตัวเป็นคนก็จะได้รับการให้อภัยอย่างง่ายดาย

แต่ถาหากว่าคนจนแสร้งทำตัวเป็นคนรวยล่ะก็ หลังจากที่ฝ่ายหญิงรู้เข้าก็คงจะต้องขอเลิกรา หนำซ้ำอาจจะยังโดนสาวเจ้าด่าเปิงอีกด้วย

และแน่นอนว่าฉินหงเหยียนไม่ใช่ผู้หญิงที่หลงใหลในเงินทองใดๆ

สองวันต่อมาเย่เฉิน ฉินหงเหยียนแล้วฉินเสี่ยวตั่วก็พักผ่อนกันบนเกาะที่ไม่มีคนแห่งนี้อย่างมีความสุข

และสามวันต่อมาเย่เฉินและฉินหงเหยียนก็บินกลับเทียนไห่

ก่อนจะกลับเย่เฉินชวนฉินเสี่ยวตั่วไปเทียนไห่ให้หญิงสาวไปพักกับเขาและฉินหงเหยียน เขาสามารถจัดแจงยกตำแหน่งสูงๆ ในเฉินเย่กรุ๊ปให้เจ้าหล่อนได้

แต่ว่าฉินเสี่ยวตั่วที่เป็นตัวของตัวเองอย่างยิ่งนั้นก็บอกปัดไป

หญิงสาวบอกว่าหล่อนชอบเป็นแอร์โฮสเตส บินไปมาทั่วโลก

อาชีพไม่ได้มีสูงหรือต่ำ ในสายตาเย่เฉินนั้นจะเป็นแอร์โฮสเตสหรือประธานบริษัทก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกัน

ดังนั้นเขาจึงเคารพทางเลือกของฉินเสี่ยวตั่ว

เมื่อมาถึงสนามบินนานาชาติเทียนไห่ กลับกลายเป็นว่าตอนที่ออกมานั้นก็เจอกับนักข่าวและแฟนคลับเต็มสนามบินเพราะพวกเขาดันบังเอิญมาพร้อมกับดาราที่กำลังมีชื่อเสียงคนหนึ่ง

เพราะฉินหงเหยียนเองก็พอมีชื่อเสียงอยู่เช่นกัน แถมยังเคยออกทีวี ดังนั้นจึงมีนักข่าวจำหล่อนได้

พวกหล่อนเห็นประธานบริษัทที่สวยที่สุดของเทียนไห่อย่างฉินหงเหยียนเดินจูงมือมากับชายหนุ่มอายุน้อยหน้าตาหล่อเหลา แถมบนนิ้วเรียวยาวนั้นยังมีแหวนเพชรที่ส่องประกายวิบวับ ก็รู้ได้โดยสัญชาตญาณว่ากำลังจะได้ข่าวใหญ่ดังนั้นจึงพุ่งพรวดไปหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

พวกนักข่าวสาวถาม “คุณฉินคะๆ พอจะแนะนำผู้ชายที่คุณจูงมือคนนี้หน่อยได้ไหมคะ?”

“มีคนบอกว่าคุณเลี้ยงไอดอลเอาไว้ ใช่เขาไหมคะ? เขาใช่ดาราไหมคะ?”

ฉินหงเหยียนได้ยินคำถามเหลวไหลของพวกนักข่าวสายบันเทิงพวกนี้ ก็ไม่พอใจหล่อนหันไปคุยกับเย่เฉิน “ที่รัก มีคนบอกว่าคุณเป็นไอดอลฝึกหัด ฮ่าๆ”

เย่เฉินเองก็หัวเราะ ดูแล้วเขาคงหน้าตาดีใช้ได้ ถ้าหากไม่เปิดบริษัทบางทีอาจจะพอพิจารณาสายงานวงการบันเทิงได้

เย่เฉินในตอนนี้ค่อนข้างมีสถานะทางสังคม ฉินหงเหยียนไม่อยากให้นักข่าวพวกนี้เขียนข่าวเหลวไหล

ฉินหงเหยียนจึงชะงักฝีเท้าแล้วหันมองกล้องขณะตอบคำถามของพวกนักข่าวด้วยเสียงดังฟังชัด “ฉันขอแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับคู่หมั้นของฉันอย่าเป็นทางการ เขาชื่อเย่เฉินเป็นประธานเฉินเย่กรุ๊ป!”