ตอนที่ 501 สองพันล้าน
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป็นเพราะพวกเขาเคยเชื่อมั่นในหลินสื่อเจียและเฉินเชียนโหรวสองคนนั้น จึงได้ด่าทอและถากถางจี้อี้แบบนั้น ทั้งยังถึงกับไล่ให้เธอออกจากวงการดนตรี วงการบันเทิงไป เหล่าแฟนคลับทั้งรู้สึกผิดและปวดใจขึ้นมาชั่วขณะ
“จี้อี้ ก่อนหน้านี้ที่เข้าใจคุณผิดไป ขอโทษด้วยนะ”
“จี้อี้ ขอโทษ คุณจะต้อง…สู้ต่อไปนะ ฉันสนับสนุนคุณเสมอ”
“จี้อี้ จี้อี้ จี้อี้”
เหล่าแฟนคลับแสดงความรักความชื่นชอบที่พวกเขามีต่อเธออย่างเต็มที่ จี้อี้เพียงแค่กล่าวขอบคุณพวกเขาพร้อมกับโบกมือให้แทนความรู้สึก
ขณะนั้นเอง เฉินฝานซิงก็ลงมาจากรถ
จี้อี้รีบถอยกลับมายืนตรงหน้าเธอ สองมือประสานกันไว้ด้านหน้า ยืนอยู่ข้างเธอด้วยท่าทางราวกับเด็กหญิงผู้เชื่อฟัง
เฉินฝานซิงอยู่ในชุดจัมพ์สูทเอวสูงสีน้ำเงิน บริเวณช่วงเอวฝั่งซ้ายผูกด้วยโบว์ดอกใหญ่โทนสีเดียวกัน กางเกงขากว้างโทนสีเดียวกันโบกสะบัดพลิ้วไหวตั้งแต่ที่ลงมาจากรถ วินาทีที่เท้าทั้งสองข้างแตะลงถึงพื้น ผ้าชีฟองเกรดสูงนั้นทิ้งตัวดูสง่างาม
สีหน้านิ่งเรียบที่ทั้งงดงามและดูสูงส่ง ทั้งตัวแผ่รังสีของความหลักแหลมและเย็นชาที่ไม่เหมือนใครออกมา เด็ดเดี่ยวทรงพลังเกินอาจเอื้อม
โดยเฉพาะเมื่อเห็นท่าทางที่ดูเป็นเด็กน้อยเรียบร้อยเชื่อฟังของจี้อี้แล้ว เหล่าแฟนคลับก็ยิ่งต้องถอยเพื่อหลีกทางให้เธอ พลันตะโกนไปทางเฉินฝานซิงว่า
“ประธานเฉิน สวัสดีค่ะ/ครับ”
ทุกคนพูดออกมาด้วยความพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียวกันราวกับนัดแนะกันไว้แล้ว ท่าทางเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ
เฉินฝานซิงยิ้มมุมปากเล็กน้อย รู้สึกแปลกใหม่กับการต้อนรับแบบนี้อยู่ไม่น้อย
เธอสอดส่ายสายตาเรียบเฉยไปทางพวกเขาก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปในซิงเฉินกั๋วจี้
เหล่าแฟนคลับต้องพากันถอยหลังอีกครั้งเพื่อหลีกทางให้เฉินฝานซิงเดินโดยอัตโนมัติ
จี้อี้รีบเดินตามเฉินฝานซิงไปติดๆ
เมื่อมีเฉินฝานซิงอยู่ หลายคนก็ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้จี้อี้ไปโดยปริยาย
รอจนพนักงานรักษาความปลอดภัยคุ้มกันพวกเธอไปจนหน้าประตูซิงเฉินกั๋วจี้ เหล่าแฟนคลับก็ตะโกนออกมาด้วยท่าทางเสียดาย
“จี้อี้…”
“จี้อี้…”
กว่าจะได้เจอจี้อี้นั้นไม่ง่ายเลย พวกเขาอยากจะอยู่กับเธอให้นานกว่านี้อีกหน่อย อยากได้ลายเซ็นของเธอด้วย
เฉินฝานซิงชะงักฝีเท้า หยุดอยู่ตรงหน้าประตู แล้วหันหน้ามาหานักข่าวและแฟนคลับเหล่านั้น
นักข่าวพากันเบียดเสียดเข้ามาถึงด้านหน้าด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะเอ่ยถามกับเฉินฝานซิง
“อยากจะรบกวนถามประธานเฉินหน่อย ได้ยินมาว่า บก.นิตยสาร ‘หงซิ่ว’ มาเชิญจี้อี้ให้ไปถ่ายปกนิตยาสารฉบับต่อไปด้วยตัวเองเลย นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม”
เฉินฝานซิงพยักหน้า ตอบนิ่งๆ
“จริงค่ะ”
“ฉันยังได้ยินมาอีกว่า ‘สร้าง’ ‘บาลิน’ และนิตสารแฟชั่นในประเทศเจ้าอื่นก็เชิญจี้อี้ไปถ่ายด้วยเหมือนกัน ไม่ทราบว่าเรื่องนี้หรือเปล่า”
“จริงค่ะ”
“ฉันยังได้ข่าวมาว่าแบรนด์แฟชั่นระดับนานาชาติแบรนด์ดังมากมายต้องการให้จี้อี้เป็นพรีเซนเตอร์ในประเทศ อยากถามประธานเฉินว่านี่เป็นความจริงใช่ไหม”
เฉินฝานซิงยกมุมปาก “เป็นความจริง”
“ประธานเฉิน หลังจากที่การถ่ายทอดสดของคอนเสิร์ตเมื่อคืนจบลง เว็บไซต์ถ่ายทอดสดกว่าสิบเจ้าต่างก็พากันออกมาเปิดเผยยอดจำนวนผู้ที่รับชมถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตรวมไปถึงยอดรวมของจำนวนของรางวัล ฉันลองรวมดูแล้ว เพียงแค่ผลกำไรจากการถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตเมื่อคืนเป็นเวลาสองชั่วโมงก็มีตัวเลขถึงสองพันล้าน ไม่ทราบว่านี่เป็นความจริงไหมคะ”
เฉินฝานซิงยิ้มด้วยท่าทางมีเลศนัย ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ “เรื่องนี้น่ะ…คงบอกได้แค่ว่า เหล่าแฟนคลับกระตือรือร้นให้การต้อนรับเหลือเกิน”
ไม่ปฏิเสธเสียด้วย
เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ สายตาของเจียงหรงหรงก็ปรากฏแววเหลือเชื่ออย่างชัดเจน
งานคอนเสิร์ตงานหนึ่งที่ในตอนแรกเห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นแค่การลงทุนที่ดูจะไม่ได้อะไรตอบแทน กลับคิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ตก็มีรายได้ถึงสองพันล้าน
ตอนที่ 502 กำลังสื่อถือใครบางคน
งานคอนเสิร์ตงานหนึ่งที่ในตอนแรกเห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นแค่การลงทุนที่ดูจะไม่ได้อะไรตอบแทน กลับคิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ถ่ายทอดสดผ่านอินเทอร์เน็ตก็มีรายได้ถึงสองพันล้าน
จากตัวเลขนี้ก็เห็นได้เลยว่าเฉินฝานซิงจะต้องทำเงินได้จำนวนมากแล้วแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสิ่งที่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างในตัวจี้อี้อีก…
‘หงซิ่ว’ ‘สร้าง’ ‘บาลิน’ นี่ล้วนแต่เป็นนิตยสารแฟชั่นระดับแนวหน้าของประเทศทั้งนั้น
ทั้งยังมีงานพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ระดับนานาชาติ และงานอื่นอีกมากมาย เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้ จี้อี้เป็นศิลปินคนดังที่ได้รับกระแสนิยมมากที่สุดและมีงานเข้ามาไม่ขาดสาย เธอกลายเป็นตัวทำเงินให้กับซิงเฉินกั๋วจี้ไปแล้ว
แต่ทว่า เจียงหรงรงกลับไล่จี้อี้ออกไปจากหลานอวิ้นด้วยน้ำมือของตัวเธอเอง ทั้งยังเป็นศิลปินที่เธอป่าวประกาศว่าจะแบนอีก
เป็นเธอเอง ที่ผลักไสจี้อี้ไปให้กับเฉินฝานซิง
สองพันล้านเลยนะ…
เมื่อหันกลับมามองเฉินเชียนโหรวที่อยู่เคียงข้าง…
ไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหายกเลิกสัญญา ทั้งยังต้องเสียเงินค่าผิดสัญญาอีกต่างหาก…
นี่มันอะไรกัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ดาวนำโชคประจำสกุลเฉินของเธอ ครั้งนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
เฉินเชียนโหรวจ้องมองหน้าจอโทรทัศน์ตาเขม็ง ท่าทีของเธอนั้นราวกับจะจับเฉินฝานซิงเฉือนเป็นพันๆ ครั้งให้รู้แล้วรู้รอด
เป็นเพราะนางแพศยาเฉินฝานซิงคนเดียว
เธอเกลียดฝานซิงจนเข้ากระดูกดำ
เกลียดจนเข้ากระดูกดำ
เธอจะต้องแก้แค้นให้ได้
ส่วนที่อาคารซิงเฉินกั๋วจี้ ในเวลานี้เฉินฝานซิงกำลังพูดอะไรบางอย่าง
“ขอบคุณทุกการสนับสนุนของพวกคุณที่มีให้จี้อี้ ฉันเชื่อว่าการต้อนรับอย่างความกระตือรืนร้นของพวกคุณทำให้จี้อี้เองก็กระตือรือร้นออกผลงานใหม่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมเพิ่มเป็นเท่าตัว ส่วนฉัน ซิงเฉินกั๋วจี้ แน่นอนว่าจะสนับสนุนเธออย่างสุดกำลังเช่นกัน”
“ขอบคุณประธานเฉินที่ดีกับจี้อี้ของพวกเราขนาดนี้”
“ขอบคุณประธานเฉิน”
เฉินฝานซิงส่ายหน้า “อย่าเพิ่งรีบขอบคุณฉันเลย อย่าลืมล่ะ ฉันเป็นนักธุรกิจ ต่อไปเธอจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับตัวเธอเอง ขึ้นอยู่กับว่าท้ายที่สุดพวกคุณให้การสนับสนุนเธอแค่ไหน และจะสนับสนุนเธอไปได้นานเท่าไหร่”
คำพูดนี้ของเฉินฝานซิงฟังดูเป็นทางการ ถึงแม้จะเป็นความจริงแต่ก็พูดได้เหมาะสมพอดี เธอกำลังกระตุ้นความตื่นตัวของเหล่าแฟนคลับ และพูดถึงปัญหา ‘วันหมดอายุ’ ของศิลปินที่เป็นสัจธรรมของวงการบันเทิง
ต่อให้เธอมีวิธีมากมายก็รับประกันได้ว่ากลุ่มแฟนคลับเหล่านี้จะให้การสนับสนุนจี้อี้ไปชั่วชีวิต
สิ่งที่เธอจะทำได้ ก็มีแค่พยายามยืดระยะเวลาหมดอายุออกไปให้นานเท่าที่จะทำได้
ขณะนั้นเอง มีแฟนคลับคนหนึ่งเย้าขึ้นมา
“ประธานเฉินล้อเล่นกันแล้ว คุณเป็นคนที่เลือกที่จะสนับสนุนจี้อี้ในตอนที่เธอลำบาก และไร้ที่พึ่งที่สุดนะ…
ฉันกล้าพูดเลยว่า โลกใบนี้คงจะไม่มีใครที่กล้าหาญอย่างคุณอีกแล้ว ในตอนที่จี้อี้ตกต่ำที่สุด คุณเลือกที่จะช่วยเหลือเธอ นี่คงไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะตัดสินใจได้หรอกใช่ไหม”
เฉินฝานซิงเลิกคิ้ว “นั่นเป็นเพราะฉันสายตาเฉียบแหลม ค้นพบความสามารถและคุณค่าในตัวของจี้อี้…”
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปที่คนคนนั้น ก็จะค่อยๆ ยิ้มออกมา
“แต่ว่า ที่คุณพูดมาฉันก็พอเข้าใจอยู่ ใช่แล้ว…ในตอนที่เธอถูกทอดทิ้ง ฉันเลือกประคองเธอขึ้นมา และในตอนที่เธอถูกผู้คนทอดทิ้งอีกครั้ง ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยมือเธอง่ายๆ”
จี้อี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ หันไปมองเฉินฝานซิงด้วยสายตาซาบซึ้ง
ทว่าเฉินฝานซิงกลับพูดต่อ
“แต่ว่า ฉันไม่อาจช่วยเธอไปได้ทั้งชีวิต ไม่มีใครหรอกที่จะชอบคนอ่อนแอที่ประคองยังไงก็ลุกไม่ขึ้น ส่วนคนที่ชอบช่วยพยุงคนอ่อนแอเหล่านั้น ฉันเชื่อว่ายังไงก็มีจุดจบที่ดีไม่ได้แน่ เพราะงั้น ฉันไม่มีทางเป็นคนที่ไปช่วยประคองคนอ่อนแอคนนั้นหรอก”
หลังจากที่พูดจบด้วยท่าทางนิ่งเรียบ เธอก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในอาคารซิงเฉินกั๋วจี้
จี้อี้ยืนอยู่ที่เดิม พลางหันไปมองแฟนคลับที่ยังไม่มีการตอบสนองก่อนจะพูดปลอบโยน
“ทุกคนวางใจได้เลย ฉันไม่ใช่คนอ่อนแอที่ประคองยังไงก็ลุกไม่ขึ้นคนนั้นแน่”
เหล่าแฟนคลับส่งเสียงกรี๊ดตอบกลับทันที
“คุณไม่ใช่แน่นอน พวกเราเชื่อมั่นในตัวคุณ”
“จี้อี้สู้ๆ”
จี้อี้ส่งรอยยิ้มหวานพิมพ์ใจ จากนั้นก็รีบหันหลังวิ่งตามเฉินฝานซิงเข้าไป
ระหว่างที่มองดูจี้อี้และเฉินฝานซิงเดินจากไป เหล่าแฟนคลับก็เริ่มมีข้องใจขึ้นมา
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคนอ่อนแอที่ประคองยังไงก็ลุกไม่ขึ้นที่ประธานเฉินพูดถึงเหมือนกำลังจะสื่อถึงใครบางคนอยู่เลยล่ะ”