ตอนที่ 327

เสน่ห์คมดาบ

“ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อไม่มีใครได้รับแต่งตั้งให้มารับตำแหน่งต่อ เราก็มาเลือกกัน” ชีอ้าวชวางมองกลุ่มคนที่อยู่ในห้องโถง ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าแท้จริงแล้วคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่คนเลวทรามอะไร ดูจากความขัดแย้งระหว่างผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสี่เมื่อครู่จะเห็นได้ว่าแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจกันและกัน แต่พวกเขาไม่ได้ใช้วิธีการและคำพูดที่ชั่วร้ายเลย ดูเหมือนว่าสำนักเทียนต้าวจะใจดีกันมากกว่าที่นางคิด

“เลือกอย่างไรล่ะ?” ทุกคนมองไปที่ชีอ้าวชวางอย่างคาดหวัง

“ตอบคำถาม ทุกคนที่อยากเป็นเจ้าสำนักจะต้องเข้าร่วมกันทดสอบ” ชีอ้าวชวางยิ้มและพูดสิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึง

วินาทีต่อมา ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากมายในห้องโถงนั้น ส่วนชีอ้าวชวางก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร นางนั่งเงียบๆ มองทุกคนพูดคุยกันไป

ในห้องโถงค่อยๆ มีคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่าบรรดาศิษย์สำนักเทียนต้าวหลั่งไหลกันเข้ามามากขึ้น รวมทั้งผู้อาวุโสคนอื่นๆ ด้วย หลังจากที่ทุกคนได้ยินการเสนอแนะของชีอ้าวชวางแล้ว ภายในห้องโถงก็เกิดเสียงดังมากขึ้น

“ตลก! ไร้สาระ! เจ้าเป็นอะไร? เจ้าเป็นแค่ศิษย์ของสำนักเทียนต้าว เจ้ามีคุณสมบัติอะไรมาแนะแนวทางให้เรา มีคุณสมบัติอะไรที่จะมาตัดสินเจ้าสำนักคนต่อไป?” ชายวัยกลางคนที่เข้ามาหลังสุด พอเขาได้ยินสิ่งที่ชีอ้าวชวางพูดก็ยืนขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวและชี้ไปที่ชีอ้าวชวางพร้อมทั้งต่อว่า “เจ้าต้องรู้ตัวตนของเจ้านะ! เจ้ามีคุณสมบัติอะไรกัน?” คนคนนี้นี้แต่งตัวแตกต่างกับศิษย์คนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าน่าจะมีตำแหน่งบางอย่างในสำนัก

ชีอ้าวชวางหันไปยิ้มให้กับคนที่ยืนอยู่ นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เวลาต่อมาคนที่ตะโกนใส่ชีอ้าวชวางก็เปลี่ยนไป

หัวของเขาถูกยกขึ้นสูงและแยกออกจากร่างกายของเขาในทันที

เกิดเสียงกุกกักดังขึ้นในห้องโถง มันเป็นเสียงศีรษะของเขาที่กลิ้งไปกับพื้น

เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่

จากนั้นร่างกายที่ไร้หัวค่อยๆ ล้มลงกับพื้นอย่างช้าๆ

ทันใดนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นในห้องโถงทันที

สีหน้าของทุกคนซีดเผือดและพวกเขาก็มองไปยังศพไม่มีหัวที่นอนอยู่บนพื้นอย่างตกตะลึงแล้วความหนาวเย็นที่น่าสยดสยองก็ค่อยๆ กัดเซาะบริเวณโดยรอบทันที

ใบหน้าของชีอ้าวชวางก็ประหลาดใจเช่นกัน

“ข้าบอกว่าเขามีคุณสมบัติ ก็หมายความว่าเขามีคุณสมบัติพอ”

เสียงเย็นเยียบดังขึ้นอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงเย็นชาและไม่แยแสนั้น

ไดทันส์!

ห้องโถงเงียบสงัด และลมหายใจเย็นเยียบนั้นก็ทำให้ผู้คนในห้องหายใจไม่ออก

ไดทันส์เดินเข้ามาจากประตูช้าๆ ในแต่ละก้าวของเขาสร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นกับทุกคน จากนั้นคนรอบข้างก็พากันถอยหลังหลีกทางให้เขาทันที

ชีอ้าวชวางเรียกสติกลับมาได้แล้วแต่ไม่ได้ยืนขึ้น จากนั้นความโกรธก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในแววตาของนาง

จู่ ๆไดทันส์ก็ลงมืออย่างโหดร้ายเช่นนี้โดยไม่มีความเมตตา แม้ว่าชีอ้าวชวางจะถูกขัดขวาง แต่นางก็จะไม่ใช้วิธีการที่โหดร้ายและนองเลือดเช่นนี้หรอก

ใบหน้าของไดทันส์ดูมืดมน เขาเดินไปหาชีอ้าวชวางอย่างช้าๆ และมองชีอ้าวชวางด้วยสายตาคมกริบและมีความโกรธอยู่ในนั้น

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าไปสนใจอย่างอื่นมากเกินไป” เสียงของไดทันส์เย็นชามาก

ชีอ้าวชวางค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและมองไดทันส์อย่างเย็นชาด้วยดวงตาที่เฉียบคมต่างจากปกติ

ทั้งสองคนมองหน้ากันแบบนี้โดยไม่พูดอะไรกัน

ในห้องโถงเงียบกริบจนได้ยินเสียงลมหายใจของผู้คนในนั้น

ใจของโจนาธานรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขารู้สึกได้ว่าชีอ้าวชวางโกรธจริงๆ และไดทันส์ก็ดูเหมือนว่าจะอารมณ์ไม่ดีด้วย

ทาริน่าและคนอื่นๆ ล้วนหน้าซีด พวกเขาพอจะรู้เรื่องความแข็งแกร่งและนิสัยแปลกๆ ของไดทันส์มาบ้าง แต่ตอนนี้มาได้เห็นภาพนี้กับตาทำให้พวกเขารู้สึกประหม่ามาก คราบเลือดบนพื้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำและแข็งตัว เห็นแล้วน่าตกใจมาก เหล่าผู้อาวุโสของสำนักเทียนต้าวไม่มีใครกล้าพูดอะไร นั่นคือไดทันส์ในตำนาน ตราบใดที่เขาคิดจะทำ เกรงว่าเขาจะทำลายสำนักเทียนเป็นผุยผงได้อย่างรวดเร็ว

“เรื่องของข้า เจ้าไม่จำเป็นจะต้องมากังวลเรื่องนี้” ในที่สุดชีอ้าวชวางก็พูดออกมาอย่างเย็นชา

ทันทีที่คำพูดของชีอ้าวชวางจบ สีหน้าของไดทันส์ก็มืดมนยิ่งขึ้นอีกและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

“เจ้าไม่ควรมาที่นี่ เรื่องของข้า ข้าจะจัดการเอง” ชีอ้าวชวางไม่ให้โอกาสไดทันส์ได้พูดอะไรอีก นางยังคงพูดต่ออย่างเย็นชา “อีกอย่างนะ ไดทันส์ ข้าอยากจะบอกเจ้าว่าข้าจะเข้ามิติสูญสลายได้ก่อนเจ้าอีก ดังนั้น เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของข้า”

สีหน้าของไดทันส์เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาดูล้ำลึกขึ้นและจ้องไปที่ชีอ้าวชวาง ชีอ้าวชวางก็ไม่ได้หลบเลี่ยงและมองไดทันส์อย่างเย็นชาเช่นกัน

ทุกคนในห้องโถงรู้สึกประหม่าอย่างมาก บรรยากาศตึงเครียด

โจนาธานกังวลมาก มือของเขาสั่นและกำหมัดแน่น ชีอ้าวชวางโกรธไดทันส์เช่นนี้จะมีผลอย่างไรกันนะ? แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ให้ไดทันส์ทำร้ายชีอ้าวชวางไม่ได้แน่นอน

สีหน้าของทารีน่าก็ซีดลงเช่นกัน นางมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างประหม่าและเป็นกังวล นางกังวลเรื่องความปลอดภัยของชีอ้าวชวางมากกว่าใคร

บรรยากาศในห้องโถงเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ไม่มีใครกล้าพูดหรือกล้าขยับตัว

เวลาผ่านไปสักพัก

“ฮ่าๆๆๆๆๆ…” จู่ๆ ไดทันส์ก็หัวเราะออกมา

ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วมองไดทันส์อย่างเย็นชา

“ดี ข้าจะรอเจ้าเข้าสู่มิติสูญสลาย! ข้าจะรอดูเจ้าที่เข้าไปก่อนข้า! ถ้าเจ้าไปทีหลังข้า ข้าจะฆ่าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเสีย!” ไดทันส์พูดประโยคนี้ออกมาเบาๆ จากนั้นเขาก็ไม่รอดูการตอบสนองจากชีอ้าวชวางแล้ว เขาหันหลังและเดินจากไปด้วยท่าทางไม่แยแส ทุกคนถอยห่างออกไปอีกครั้งพร้อมกับความกลัวที่เกิดขึ้นในใจของพวกเขา

ชีอ้าวชวางมองแผ่นหลังของไดทันส์ด้วยสายตาที่เย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะนี้ ใจของชีอ้าวชวางก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา

นางต้องได้ต่อสู้กับผู้ชายคนนี้ไม่ช้าก็เร็วแน่นอน!

หลังจากที่ไดทันส์หายไปจากทางเข้าห้องโถงแล้ว ชีอ้าวชวางก็มองไปที่ผู้คนที่ยืนอยู่

สายตาของทุกคนที่มองมาที่นางนั้นดูซับซ้อนมาก

ไดทันส์ของสถาบันดวงดาวตามชีอ้าวชวางมาถึงที่สำนักเทียนต้าว แต่กลับมีการสังหารด้วยเหตุผลที่ไร้สาระ สิ่งนี้เกี่ยวอะไรกับสำนักเทียนต้าว? ทำไมคนของสำนักเทียนต้าวต้องตายเช่นนี้?

สายตาที่ซับซ้อนนี้มีทั้ง ความโกรธ ความไม่พอใจ ความเกลียดชัง การตำหนิ…

แต่ไม่มีใครกล้าแสดงท่าทางออกมา ไม่มีใครกล้าพูดอะไร พวกเขาทั้งหมดประท้วงอย่างเงียบๆ ด้วยสายตา

ชีอ้าวชวางมองทุกคนอย่างเงียบๆ และในที่สุดขยับริมฝีปากพูดอย่างยากลำบาก “ผู้อาวุโสสองสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักนะ เจ้าเหมาะสมที่สุด ผู้อาวุโสสี่ค่อนข้างประมาทเกินไป ไม่เหมาะเท่าไหร่”

ทุกคนยังคงเงียบ ไม่มีใครกล้าคัดค้านแต่ว่าดวงตาของทุกคนนั้นซับซ้อนมาก

หลังจากที่ชีอ้าวชวางพูดจบก็ไม่พูดอะไรอีก นางเหลือบมองร่างเย็นยะเยือกบนพื้นและลอบถอนหายใจแล้วก็เดินออกไปข้างนอก คนผู้นั้นไม่จำเป็นต้องตาย แต่ต้องมาตายเพราะนาง ทุกอย่างไม่ควรเลยเถิดมาถึงจุดนี้…ความตั้งใจเดิมของนางคือแก้ปัญหา ไม่ใช่การทำให้เรื่องเป็นแบบนี้

ชีอ้าวชวางเดินออกจากห้องโถงไปที่ประตูอย่างช้าๆ ผู้อาวุโสสองยืนอยู่ข้างหลังและมองแผ่นหลังของชีอ้าวชวาง เขาอยากจะเรียกไว้และพูดอะไรบางอย่าง แต่โจนาธานมาขวางหน้าเอาไว้และทำท่าทางให้หยุด สายตาของผู้อาวุโสสี่ก็อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คราวนี้โจนาธานไม่ใช่แต่ทำท่าทางแล้ว เขาลงมือ ทำให้ผู้อาวุโสสี่จับที่คอที่รู้สึกไม่ดีของตัวเอง แต่พูดอะไรออกมาไม่ได้

ทารีน่าจ้องไปที่แผ่นหลังของชีอ้าวชวางแล้วความทุกข์ใจก็แผ่กระจาย ทำไมถึงรู้สึกว่าแผ่นหลังของชีอ้าวชวางดูโดดเดี่ยวจังนะ…

ดวงตาที่แผดเผาของทุกคนในห้องโถงมองชีอ้าวชวางจนหายไป ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก ทารีน่ายืนนิ่งอยู่ที่เดิม นางเข้าใจดีว่าตั้งแต่นี้ต่อไป สำนักเทียนต้าวและชีอ้าวชวางจะค่อยๆ ห่างเหินกันไปแ ละเกรงว่าจะไม่มีทางกลับมาดีกันได้แล้วในอนาคต หรือว่าการที่นางขอความช่วยเหลือจากชีอ้าวชวางในครั้งนี้จะเป็นทางเลือกที่ผิด? หัวใจของทารีน่ารู้สึกไม่ดีเลยสักนิด

ชีอ้าวชวางเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ โดยมีโจนาธานเดินตามหลังมาและรักษาระยะห่างไว้ ไม่ทิ้งห่างเกินไปและไม่ไล่ตามจนติด เขารู้ว่าสิ่งที่ชีอ้าวชวางต้องการในตอนนี้คือความเงียบสงบ

คำพูดของไดทันส์ยังคงก้องอยู่ในใจของชีอ้าวชวาง ผู้ชายอันตรายคนนี้…เขาจะฆ่าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางก่อนที่จะเข้าสู่มิติสูญสลายหรือ? ไร้เหตุผลสิ้นดี!

ชีอ้าวชวางเดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ และโจนาธานก็ตามมาอย่างเงียบๆ เช่นกัน ชีอ้าวชวางเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว กว่าจะเรียกสติกลับมาได้ ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว และนางก็พบว่ามาอยู่ในที่ที่แปลกที่หนึ่ง

มีหุบเขาอยู่ตรงหน้า และดอกไม้ทั่วภูเขาก็มีสีสัน หอม และชวนหลงใหล ลมพัดเบาๆ และกลีบดอกไม้ก็โบยบินไปทั่วท้องฟ้าราวกับความฝัน

ที่นี่ที่ไหน? ชีอ้าวชวางเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ แต่ไม่มีใครสักคน ตอนนี้โจนาธานก็ไม่ได้อยู่ข้างหลัง ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนแล้ว

ชีอ้าวชวางลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า

โจนาธานกำลังวุ่นวายอยู่ในหุบเขาลึก นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?! แปลกมาก! เขตกั้นตรงหน้านี้ข้ามไปไม่ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่สั่นคลอน แต่ชีอ้าวชวางกลับเดินผ่านไปตามปกติเหมือนไม่มีอะไร พอโจนาธานจะตามไปก็พบว่าเขาก้าวไปข้างหน้าอีกไม่ได้ เขาเรียกชีอ้าวชวางแล้ว แต่ชีอ้าวชวางไม่ตอบสนอง ดูเหมือนว่าเขตกั้นนี่จะปิดกั้นได้ทุกอย่างรวมถึงเสียงด้วย

ชีอ้าวชวางเข้าไปในหุบเขาเพียงลำพังและเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ กลีบดอกไม้หลากสีสันกำลังโบยบินไปทั่วท้องฟ้า และดวงตาก็ค่อยๆ หลงใหลมากขึ้น ทันใดนั้น ลมแรงก็พัดมาและกลีบดอกไม้บนท้องฟ้าก็กระจายไปหมดจนชีอ้าวชวางยกมือขึ้นมาบังไว้เพราะแทบลืมตาไม่ขึ้น