เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 994 ขโมยวิญญาณอมตะ

แปลโดย iPAT

 

‘สัตว์อสูรแรกกำเนิดกระทิงหมื่นตา!’ ฟางหยวนมองศีรษะของวัวกระทิงที่กำลังจมลงสู่ทะเลสาบใต้น้ำตกสวรรค์

 

เขารีบเข้าไปและเก็บมันไว้อย่างรวดเร็ว

 

สัตว์อสูรแรกกำเนิดมีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด

 

กระทิงหมื่นตามีร่างกายใหญ่โต เพียงศีรษะของมันก็เท่ากับเนินเขาลูกหนึ่ง

 

ฟางหยวนเคยยกหุบเขาเหล่าโปมาแล้วแต่ศีรษะของกระทิงหมื่นตายังหนักกว่า

 

‘แม้มันจะเหลือเพียงศีรษะแต่มันยังหนักถึงเพียงนี้!’ ฟางหยวนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

 

เขาของกระทิงหมื่นตาเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดที่เต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งโลหะและปฐพี แต่ผิวหนังของมันกลับเต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารี

 

โชคไม่ดีที่ฟางหยวนได้รับเพียงผิวหนังบางส่วนบนศีรษะของมันเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของกระทิงหมื่นตาล้ำค่าที่สุด ดวงตาของมันเต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืด ฟางหยวนยังได้รับวิญญาณระดับห้าบนเส้นทางแห่งความมืดจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในดวงตาเหล่านี้

 

รูปแบบชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำตกสวรรค์ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งวารี เส้นทางแห่งปฐพี เส้นทางแห่งโลหะ เส้นทางแห่งวายุ เส้นทางแห่งแสง และเส้นทางแห่งความมืด มีสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งไฟอยู่ไม่มากนัก

 

‘โอ้ นี่คือแขนขวาของสัตว์อสูรบรรพกาลวานรเทพน้ำแข็ง!’

 

‘นี่คือหางของสัตว์อสูรบรรพกาลจระเข้หิมะ’

 

‘นี่คือสิ่งใด? ไม่ อย่าพึ่งคิด ข้าต้องเก็บมันก่อน’

 

ฟางหยวนเร่งปล้นสะดมทรัพยากร

 

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเศษชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์อสูร ฟางหยวนสามารถจดจำได้บ้างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด

 

มีชิ้นส่วนสัตว์อสูรบรรพกาลและพืชอสูรบรรพกาลมากมาย ท่ามกลางพวกมันยังมีชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์อสูรแรกกำเนิดปะปนอยู่เล็กน้อย แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนถูกจัดเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดทั้งสิ้น แม้พวกมันจะเป็นชิ้นส่วนเล็กๆน้อยๆแต่พวกมันยังมีคุณค่ามหาศาล

 

ฟางหยวนรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นพวกมัน

 

‘โอ้ สวรรค์! มันคือปลาล่องนภาแห่งชีวิตและความตาย’ ฟางหยวนอ้าปากค้าง

 

นี่คือปลาสีเทาที่มีขนาดใหญ่โตราวกับเรือสำเภา

 

มันไม่มีเหงือกแต่มีปีกที่เกิดจากพลังงานแห่งเต๋า

 

‘ปลาล่องนภาแห่งชีวิตและความตายเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดบนเส้นทางแห่งกฎ มันพิเศษมาก ร่างกายของมันเต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งชีวิตและความตาย มันเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งปลาครึ่งวิหค มันใช้เวลาแปดพันปีแรกของชีวิตในฐานะปลาก่อนจะวิวัฒนาการเป็นวิหค หลังจากอีกแปดพันปี มันจะกลายเป็นผีดิบที่มีชีวิต ปลาล่องนภาแห่งชีวิตและความตายตัวนี้ดูเหมือนกำลังจะวิวัฒนาการไปเป็นวิหค มันควรมีอายุมากกว่าเจ็ดพันปี’

 

มนุษย์อายุสั้นขณะที่สัตว์อสูรบรรพกาลและสัตว์อสูรแรกกำเนิดมีอายุขัยหลายพันพรือหลายหมื่นปี

 

โดยยังไม่ต้องกล่าวถึงพืช

 

ตัวอย่างเช่นภูเขากู่มู่ที่ภาคเหนือ แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ภูเขาแต่เป็นต้นปฐพีที่เก่าแก่

 

ต้นไม้ต้นนี้มีประวัติศาสตร์มานานนับล้านปี เนื่องจากมันใหญ่โตมาก มันจึงถูกเรียกว่าภูเขา

 

หากเปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับเก้า เทพอมตะแรกกำเนิดที่มีชีวิตยืนยาวมากที่สุดยังมีอายุขัยเพียงสองหมื่นห้าพันปี เทพปีศาจบัวแดงมีอายุขัยสั้นที่สุดเพียงสามพันปี ตัวตนเหล่านี้ไม่แม้แต่จะสามารถแข่งขันกับต้นปฐพี

 

ปลาล่องนภาแห่งชีวิตและความตายถูกตัดศีรษะออกไปแต่ส่วนลำตัวของมันยังอยู่ครบ

 

เมื่อพิจารณาถึงพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งชีวิตและความตาย นี่ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยาก

 

‘ปลาล่องนภาแห่งชีวิตและความตายเป็นผลประโยชน์สูงสุดในการเดินทางครั้งนี้ของข้า’ ฟางหยวนถอนหายใจหลังจากเก็บมันเข้าไปในมิติช่องว่าง

 

ตอนนี้ทะเลสาบใต้น้ำตกสวรรค์ถูกย้อมเป็นสีแดงเลือด

 

เศษชิ้นส่วนของสัตว์อสูรและพืชอสูรจำนวนมหาศาลจมอยู่ใต้น้ำ

 

ด้วยความแข็งแกร่งของฟางหยวน เขาสามารถรวบรวมเศษชิ้นส่วนที่ลอยอยู่บนผิวน้ำเท่านั้น

 

เมื่อเวลาผ่านไป ความโกลาหลจะปะทุขึ้น สัตว์อสูรจำนวนมากจะถูกดึงดูดเข้ามาและต่อสู้เพื่อแย่งอาหาร

 

นี่ทำให้ผลประโยชน์ของฟางหยวนค่อยๆลดลงขณะที่ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น

 

เขาลังเลเล็กน้อย เขาต้องการจากไปขณะที่ยังปลอดภัย แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็ต้องการสำรวจน้ำตกสวรรค์เช่นกัน

 

ท้ายที่สุดบทเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาวก็กล่าวถึงร่างของผีดิบอมตะโป้ชิง

 

แต่ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาของฟางหยวนเท่านั้น เขาไม่แน่ใจนัก

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่บทเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาวดังขึ้นในหูของฟางหยวนอีกครั้ง

 

“บทเพลงที่ล้มเหลวและวีรบุรุษที่สิ้นหวัง ความยากลำบากในการต่อต้านโชคชะตา”

 

“ดาบที่จมอยู่ใต้พื้นทรายทะยานขึ้นจากห้วงอดีตสร้างเสียงครวญครางไปทั่วน้ำตกสวรรค์”

 

“อนิจจา…”

 

“ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวนำวิญญาณสู่ความฝัน แล้วผู้ใดจะสามารถพักผ่อนอย่างสงบ?”

 

“ร่างกายและจิตใจอาจเปลี่ยนผัน แต่เจตจำนงสวรรค์ยังยิ่งใหญ่และไร้ขอบเขต”

 

เมื่อบทเพลงจบลง คลื่นข้อมูลจำนวนมากก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน

 

“ดวงวิญญาณของโม่เหยาอยู่ในร่างของโป้ชิง!” ดวงตาของฟางหยวนเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง

 

“เช่นนั้นหากข้ารับความเสี่ยงนี้? ตราบเท่าที่ข้าได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบของโป้ชิง แม้ข้าจะไม่สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มที่ แต่มันยังสามารถเทียบเคียงกับส่วนหนึ่งของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ”

 

ฟางหยวนตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวก่อนจะออกจากพื้นที่บริเวณนี้และเลือกดำลงไปใต้น้ำในสถานที่ห่างออกไป

 

บริเวณนี้เต็มไปด้วยสัตว์อสูร ฟางหยวนต้องใช้เส้นทางที่ปลอดภัยกว่า

 

แน่นอนว่าเขาฉกฉวยทรัพยากรอมตะที่อยู่ระหว่างทางมาด้วย

 

เมื่อว่ายน้ำไปถึงตำแหน่งที่ระบุไว้ในข้อมูลลึกลับ ฟางหยวนจึงหยุดเคลื่อนไหว

 

เขานำเจตจำนงของโม่เหยาออกมา

 

“ฟางหยวน เจ้าต้องการสิ่งใด…” เจตจำนงของโม่เหยาไม่พอใจแต่นางกลับอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมของฟางหยวน

 

“ดูเหมือนทุกสิ่งมีความเชื่อมโยงถึงกัน โม่เหยา เจตจำนงของท่านทำให้ข้าทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง วันนี้ข้าจะตอบแทนความเมตตาของท่านในครั้งนั้น”

 

เจตจำนงของโม่เหยาค่อยๆสลายไปและปลดปล่อยกลิ่นอายบางอย่างออกมา

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายนี้ ดาบแสงสายหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที

 

ฟางหยวนตกใจและเกือบถอยกลับ แต่ดาบแสงไม่ได้ทำร้ายเขา มันเพียงกวาดล้างทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างเท่านั้น

 

ท่ามกลางแสงดาบ ร่างของผีดิบอมตะโป้ชิงค่อยๆปรากฏขึ้น

 

ฟางหยวนจ้องมองร่างของผีดิบอมตะโป้ชิงและพบว่ามันยังปิดเปลือกตาอยู่ นี่หมายความว่าดวงวิญญาณของโม่เหยายังอยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น

 

ดวงวิญญาณของโม่เหยาถูกดึงดูดเข้ามาโดยกลิ่นอายที่ถูกปลดปล่อยออกไปโดยฟางหยวน

 

ตอนนี้ฟางหยวนยืนอยู่ท่ามกลางแสงดาบ เขาสามารถขยับได้เพียงสามเก้าเท่านั้น ระยะทางนี้คือขีดจำกัดของเขา

 

‘วิธีอื่นไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงกลิ่นอายของโม่เหยาที่สามารถอำพรางกลิ่นอายของข้าและด้วยวิธีนี้ผีดิบอมตะโป้ชิงจึงถูกล่อลวงเข้ามา’

 

ฟางหยวนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่าจะปลุกผีดิบอมตะโป้ชิงให้ตื่นขึ้น

 

วิธีที่รุนแรงที่สุดในการต่อต้านผีดิบอมตะโป้ชิงก็คือทำลายพลังงานอมตะระดับแปดทั้งหมดของเขา

 

ด้วยวิธีนี้โป้ชิงจะไม่สามารถใช้วิญญาณอมตะของตน

 

นี่ไม่รวมวิญญาณอมตะชนิดพิเศษที่ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานอมตะเช่นวิญญาณอมตะปีกแห่งความฝันของฟงจินฮวง

 

โป้ชิงเสียชีวิตไปนานแล้ว มิติช่องว่างของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ หากไม่ใช่เพราะแสงดาบที่อยู่รอบตัวเขา ฟางหยวนจะสามารถจับเขา

 

แต่ความจริงมักไม่เป็นไปตามความคาดหวัง

 

แสงดาบรอบตัวโป้ชิงจะโจมตีทุกสิ่งที่เข้ามาใกล้

 

ฟางหยวนใช้วิธีตามข้อมูลที่ได้รับและสามารถล่อลวงวิญญาณอมตะให้ออกมาได้อย่างรวดเร็ว

 

วิญญาณอมตะดวงนี้มีรูปร่างราวกับไข่หงส์ที่ปลดปล่อยแสงสีเขียวหยกออกมา เมื่อฟางหยวนเข้าไปใกล้ เขารู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากไข่หงส์ใบนี้

 

ฟางหยวนมีความสุขมาก

 

แม้เขาจะไม่รู้ว่าวิญญาณอมตะดวงนี้คือสิ่งใดและใช้งานอย่างไร แต่จากกลิ่นอายของมัน เขารู้ว่ามันเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด

 

โป้ชิงเป็นตัวตนเช่นไร? เขาเป็นที่รู้จักกันในฐานะบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นรองเพียงเทพอมตะเท่านั้น แม้เขาจะไม่ใช่เทพอมตะ แต่เขาก็สามารถปกครองภาคกลางทั้งหมด

 

ไม่มีวิญญาณอมตะดวงใดของเขาอยู่ในระดับหก วิญญาณอมตะทั้งหมดของเขาอยู่ในระดับเจ็ดเป็นอย่างน้อย แน่นอนว่าวิญญาณหลักของเขาล้วนเป็นวิญญาณระดับแปด หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เขาจะมีพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวและมีชื่อเสียงเช่นนี้ได้อย่างไร

 

ฟางหยวนใช้กลิ่นอายของโม่เหยาห่อหุ้มวิญญาณอมตะดวงนี้เอาไว้ก่อนจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาผนึกมันไว้อย่างสมบูรณ์

 

เขากำลังหลอกเจตจำนงที่อยู่ในวิญญาณอมตะและทำให้มันรู้สึกราวกับได้พบเจ้าของ

 

ฟางหยวนไม่สามารถสัมผัสมันโดยตรงแต่เก็บมันไว้ในมิติช่องว่างของเขา

 

หลังจากนั้นเขาก็ทำซ้ำอีกครั้งทำให้วิญญาณอมตะดวงที่สองลอยออกมา