บทที่ 308
บทที่ 308

ราวกับไม่เห็นว่าตัวเขาถูกล้อม ถังหยินลดศีรษะลงและดึงหนามปราณออกมาจากร่างทีละอัน ๆ

ซึ่งเมื่อดึงออกหมด ชายหนุ่มก็พลันปลดปล่อยหมอกดำ สร้างเกราะปราณขึ้นคลุมกาย อันเป็นจังหวะเวลาเดียวกันกับที่อาวุธปราณของศัตรูใกล้เข้ามา !

จู่ ๆ ร่างของถังหยินก็ได้หายไปจากวงล้อมของคนทั้งห้า ก่อนจะมาปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังของแม่ทัพนายหนึ่งและคว้าคอของคนผู้นั้นเอาไว้

แม้ว่าเขาจะไม่มีอาวุธอยู่ในมือ แต่เกราะปราณในระดับปราณบรรพกาลก็แข็งแกร่งพอ ๆ กับอาวุธปราณ และถ้าใช้กรงเล็บโจมตี พลังทำลายล้างของมันก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย

แม่ทัพเปิงผู้นั้นตกใจเป็นอันมาก พร้อมทั้งพยายามหลบไปด้านข้างอย่างกระวนกระวาย ก่อนจะหันกลับไปและตั้งท่าหมายจะเฉือนคอของถังหยิน

ทว่าถังหยินรวดเร็วกว่าอีกฝ่ายมากนัก ด้วยชายหนุ่มได้ย่อร่างอย่างรวดเร็วและโค้งงอกลิ้งหลบไปข้างหน้าเหมือนลูกบอลยาง !

แม่ทัพเปิงไม่เคยเห็นการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนในชีวิต ดังนั้นก่อนที่จะทันตอบสนอง ร่างของถังหยินก็ได้กระแทกเข้ากับขาของเขาเข้าเต็ม ๆ!

…ร่างที่ถูกกระแทกเสียสมดุล ล้มลงในทันที !!!

ความเร็วของถังหยินไม่ลดลงแม้แต่น้อย เขามาหยุดอยู่ข้าง ๆ ร่างของแม่ทัพนายนั้น ทำให้อีกฝ่ายโกรธจัด ก่อนจะยกแขนเตรียมทุบใส่ถังหยิน ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือ เขาก็พลันรู้สึกเจ็บแปลบเข้าที่ซี่โครงทั้งสองข้างเสียก่อน

และเมื่อก้มหน้ามอง เขาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น ด้วยเป็นถังหยินที่ใช้มือทั้งสองข้างของตัวเองเสือกแทงเข้ามาในร่างกายบริเวณซี่โครง ซึ่งมันก็คงจะดีกว่าถ้าเขาตายไปเสียเลย เพราะมาตอนนี้ พลังปราณภายในร่างของเขาก็กำลังถูกดูดกลืนจากมือนั่น ! ทำให้เกิดความเจ็บปวดที่ยากจะทนไหว จนแม่ทัพเปิงผู้นั้นร้องออกมาอย่างน่าเวทนา !!!

…เหล่าแม่ทัพเปิงต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น จนลืมไปเลยที่จะคิดเข้ามาช่วยเหลือพวกพ้อง ทั้งยังพากันถอยไปด้วยความหวาดกลัวอีกด้วย !

เปลวไฟสีดำติดตามนิ้วของถังหยิน เข้าแผดเผาไปจนถึงลำไส้ของแม่ทัพนั่น ทำให้ร่างที่ถูกเผาส่งเสียงกรีดร้องออกมาไม่หยุด เช่นเดียวกับดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเทาหม่น ก่อนร่างที่บิดเบี้ยวจะหยุดนิ่งลง

ในเวลาเดียวกัน หมอกสีขาวหนาแน่นก็ได้ปล่อยออกจากร่างกายนั่น และถูกกลืนกินอย่างหิวกระหายโดยถังหยิน !!

“ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า !” ถังหยินหัวเราะลั่นแล้วยืนขึ้น เขาเตะร่างไร้วิญญาณให้กระเด็นไปอย่างไม่ไยดี จากนั้นจึงมองไปยังแม่ทัพเปิง

ที่เหลือและพูดว่า “เดี๋ยวพวกเจ้าที่เหลือก็จะได้ตามสหายไปแ… !”

…ก่อนที่จะทันได้พูดจบ ถังหยินที่ยืนอยู่ก็พลันพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วดั่งลูกศรที่ออกจากคันธนู ตรงไปยังแม่ทัพเปิงหนึ่งในสี่นั่น !

ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการฝึกฝนหรือพลังปราณ แม่ทัพเปิงเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่ถือว่าเก่งกาจ และหากพวกเขาร่วมมือกัน ถังหยินก็คงไม่สามารถต้านไหว !

แต่เมื่อถังหยินฆ่าหนึ่งในพวกเขาไป เรื่องทั้งหมดมันก็ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยแม่ทัพอีก 4 คนที่เหลือไม่มีความคิดสู้รบอีกต่อไปแล้ว พวกเขาพากันหันหลังหนีไปในทันที !

แต่มีหรือที่ชายหนุ่มจะปล่อยโอกาสนี้ไป ? ถังหยินไม่รอช้า ใช้วิชาสลับเงาเข้าไปหาแม่ทัพที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเขาก็ไม่ได้เข้าโจมตีในทันที ทว่าเลือกที่จะขัดขาแม่ทัพที่กำลังวิ่งหนีแทน

แม่ทัพเปิงผู้นั้นไม่ได้สังเกตเท้าที่ยื่นมาของถังหยินแม้แต่น้อย ทำให้ร่างกายเสียหลัก จนเขาถลาไปข้างหน้าและล้มลง ซึ่งก่อนที่เขาจะได้ยืนขึ้นมา ถังหยินก็ได้หมุนร่างของตนเองไปรอบ ๆ เหมือนลูกข่างหมุน พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างคว้าจับเข้าที่ลำคออีกฝ่ายก่อนจะจับเหวี่ยงร่างนั่นลงกับพื้นด้วยกำลังทั้งหมด

และร้องตะโกนว่า “จะหนีไปไหน !”

โครมมม !!

ร่างของแม่ทัพเปิงกระแทกลงกับพื้น ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นบนพื้น และก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ทันตั้งตัว ถังหยินก็ไม่รอช้า รีบใช้มือข้างหนึ่งวางกดบนหัวของคนผู้นั้น พร้อมกับซัดหมัดเข้าใส่ที่หน้าอกของอีกฝ่ายอย่างแรง !!!

พลั่ก !

กร็อบบ !

เกราะปราณถูกหมัดต่อยจนสลายหายไป ก่อนตามด้วยซี่โครงที่แตกหักเป็นชิ้น ๆ ทำให้คนโดนต่อยพ่นเลือดออกมาเป็นละอองฝอยและหมดสติในพริบตา !

เมื่อเห็นแบบนั้น ชายหนุ่มก็ไม่รอช้า วางมือที่ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีดำลงไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย

ซุ่มมมม !

สภาพของแม่ทัพเปิงผู้นี้แย่ยิ่งกว่าสหายของเขาเสียอีก ด้วยถูกแผดเผาจากเพลิงแห่งความมืดของถังหยินโดยไม่มีโอกาสจะได้ร้องด้วยซ้ำ !!!!

มาตอนนี้ถังหยินก็ได้สังหารแม่ทัพแคว้นเปิงไปแล้ว 2 คน ส่วนอีก 3 คนที่เหลือ พวกเขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะสู้อีกต่อ และได้วิ่งหนีไปแล้ว !!

ถังหยินต้องการไล่ตามต่อไป แต่ในขณะจังนั้นเอง จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงแตกหักดังจากด้านหลัง ทำให้ได้เห็นเข้ากับประตูเมืองทางเหนือที่ถูกบังคับให้เปิดออก !

หลังจากนั้นก็เป็นแม่ทัพเทียนหยวนที่ถือค้อนขนาดมหึมาวิ่งเข้ามา ทั้งยังกวัดแกว่งค้อนจนเกิดเสียงหวีดหวิวไปด้วย ทำให้ร่างของทหารโดยรอบถูกทุบจนกลายเป็นเนื้อบดในพริบตา

…พวกทหารเทียนหยวนที่เหลือก็เข้าตามมาติด ๆ พร้อมกับพากันร้องตะโกนเสียงดังและเข้าสังหารทหารกองทัพเปิงที่หนีไม่ทันอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อเห็นว่ากองทัพของตัวเองพังประตูเมืองได้สำเร็จ ถังหยินก็ถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก ด้วยตอนนี้ทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเมืองได้ตกเป็นของพวกเขาแล้ว !!

ในขณะที่ถังหยินกำลังตื่นเต้น กองทัพเทียนหยวนที่วิ่งเข้ามาก็เห็นเข้ากับทหารเปิงนายหนึ่งที่ยืนนิ่งเฉย เลยพากันตั้งหลัก พร้อมกับยิ่งธนูหน้าไม้ออกไป ทำให้ชายหนุ่มต้องตกตะลึง เพราะที่แท้ นายทหารเปิงคนนั้นก็คือเขานั้นเอง !!!

ถังหยินตกตะลึง และเมื่อได้สติ เขาก็พลันเอี้ยวตัวหลบธนู 4 ดอกที่กำลังเข้ามา ทว่าด้วยมันเร็วเกินไป ชายหนุ่มจึงไม่อาจหลบได้ทั้งหมด ทำให้เกิดเสียงก๊องแก๊ง ขณะที่พวกมันกระดอนและตกลงไปที่พื้นขึ้น

โดยไม่ต้องรอให้ทหารกองทัพเทียนหยวนยิงหน้าไม้อีกรอบ ถังหยินก็ได้ตะโกนออกมา “อย่ายิง ข้าถั… !”

ในการต่อสู้ที่วุ่นวายเช่นนี้ ใครจะฟังคำอธิบายของเขากัน ? สำหรับทหารเทียนหยวน ตราบใดที่อยู่ภายในนี้ คนพวกนั้นก็ถือเป็นศัตรูทั้งหมด !

ดังนั้นก่อนที่ชายหนุ่มจะได้พูดจบ พวกทหารเทียนหยวนก็ได้เริ่มการยิงรอบที่สองไปแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้ถังหยินทำตัวไม่ถูก ได้แต่ใช้สลับเงาเพื่อหลบหนีออกจากระยะการโจมตีของลูกศรหน้าไม้

ในเวลาเดียวกัน นายทหารแนวหน้าที่ถือค้อนยักษ์ก็จำถังหยินได้ และเมื่อเห็นว่าฝ่ายเดียวกันกำลังยิงใส่ถังหยินอย่างดุเดือด เขาก็พลันโกรธจัดจนร้องคำรามออกมา ก่อนจะรีบเดินไปด้านหน้าและใช้แขนที่หนาและยาวผลักพลหน้าไม้ให้ล้มลง

แม่ทัพผู้นี้ดุดันยิ่งนัก และด้วยความที่เขาเป็นชาวดูกี เขาจึงไม่ถนัดในเรื่องพูดคุยนัก ทำให้เน้นการแสดงออกเสียมากกว่า และหลังจากที่ผลักดันออกไป เขาก็รีบโบกมือห้าม จากนั้นจึงชี้ไปที่ถังหยินและพูดออกมาอย่างช้า ๆ “นั่นนายท่าน หยุดเดี๋ยวนี้”

พวกทหารเทียนหยวนดูจะไม่เข้าใจคำพูดนี้ ทำให้เมื่อได้ยิน พวกเขาก็พลันเกิดความสับสน ก่อนเป็นถังหยินที่ปลดเกราะออก และเดินไปข้างหน้าพร้อมร้องตะโกนเสียงดัง “ข้าคือถังหยิน !!!”

“ห๊า ?”

ตอนนี้พวกทหารเข้าใจสิ่งที่ถังหยินพูดแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัวในทันที …นี่พวกเขายิงธนูใส่ผู้บัญชาการของกองทัพงั้นหรือ ?

สายตาของทุกคนได้แต่มองไปที่ถังหยินอย่างตะลึง ก่อนที่จะตั้งสติได้และพากันเดินเข้ามาคุกเข่าตรงหน้าชายหนุ่ม “พวกข้าน้อยสมควรตาย…”

โดยไม่รอให้พวกเขาพูดจบ ถังหยินก็ได้กลอกตาไปมา พร้อมทั้งชี้นิ้วไปภายในเมืองและร้องตะโกน “จะคุกเข่าอยู่ที่นี่เพื่ออะไร ? ไปจัดการพวกศัตรูได้แล้ว !”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทหารทุกคนก็รู้ว่าถังหยินไม่ได้ตำหนิพวกเขา ทำให้ใบหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นความสุข “รับทราบขอรับ นายท่าน !” หลังจากพูดแบบนั้น โดยไม่ต้องให้ถังหยินสั่งการซ้ำ ทุกคนก็พากันลุกขึ้นและหยิบอาวุธของตนวิ่งเข้าไปทำการต่อสู้ต่อในทันที !

เมื่อเห็นว่าทหารของเขาเข้ามาได้เกือบหมดแล้ว ถังหยินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมทั้งคิดกับตัวเองว่าโชคดียิ่งนัก เพราะถ้า

จ้านหูไม่เข้ามาหยุด ชายหนุ่มก็คงถูกฆ่าแน่แล้ว !

ว่าแล้วเขาก็หันไปมองที่จ้านหู ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายและพูดว่า “จ้านหู ไปกันเถอะ ตามข้าไปเด็ดหัวเน่า ๆ ของเกิงฉวนกัน !”

จ้านหูยิ้มพร้อมทั้งพยักหน้าตาม ก่อนจะเดินตามหลังถังหยินไปติด ๆ เข้าไปในเมือง

กำแพงทั้งสี่ของเมืองสีไป่แตกทั้งสองด้านแบบนี้ มีหรือที่อีกสองด้านที่เหลือจะอยู่เฉยได้ ? พวกเขาที่เหลือไม่รอช้า รีบล่าถอยกลับเข้าไปในเมื่อง ทำให้พวกชาวบ้านที่ที่ถูกจับมาเป็นทหารใช้โอกาสนี้วิ่งหนี จนทำให้เมืองสีไป่ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย !!!

…มีเพียงสถานที่เดียวที่กองทัพเปิงสามารถล่าถอยไปได้ และนั่นก็คือจวนผู้ว่าที่อยู่ใจกลางเมืองสีไป่ !!!!

——————————————

สามารถอ่านเร็ว อ่านก่อนใครได้ที่เว็บ www.enjoybook.co นะคะ ><