บทที่ 99 นางถูกกู้โม่หานสั่งประหารชีวิต

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

เซียงวี่เถียงกลับทันที”หมอเจิ่งท่านอย่ามาพูดเพ้อเจ้อ มีหลักฐานอะไรบ่งบอกว่ายาของพระชายามีปัญหา?”

กู้โม่หานทำหน้าเย็นชา ดวงตาสีดำปรากฏความเยือกเย็นขึ้นมา”หนาน หว่าน เยียน!”

เพียงสามคำสั้นๆ ก็ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

ยังไม่ทันรอให้เขาพูดจบ หนานหว่านเยียนก็เดินหน้าขึ้นไป จับชีพจรของเสิ่นอี่ว์ และตกใจเลย

เป็นพิษรุนแรงที่ชื่อว่าอินูลาพิษ!

นางรีบยื่นมือเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบยาล้างพิษเม็ดหนึ่งออกมาจากห้วงเวลา

ต้องต่อชีวิตให้เขา!

สายตาของกู้โม่หานมีความเย็นชาพาดผ่าน เขาจับแขนของหนานหว่านเยียนแล้วถามด้วยเสียงเฉียบขาด”หนานหว่านเยียน เจ้าให้เขากินอะไรอีก!”

หนานหว่านเยียนผลักกู้โม่หานออกไป”นี่เป็นยาถอนพิษเร่งด่วน”

นางไม่มีเวลาพูดกับเขา สายตาราวกับใบมีดมองไปที่หมอเจิ่งอย่างเฉียบขาด

“หมอเจิ่ง เสิ่นอี่ว์โดยยาพิษรุนแรง และเพิ่งโดนเมื่อเช้านี้เอง แต่เจ้ากลับพูดว่าเขาโดนยาพิษเรื้อรัง!เป็นเพราะว่าเจ้ามีความสามารถไม่ถึง หรือเจ้าถูกคนอื่นจ้างทำแบบนี้ ถึงกล้ามาพูดมั่วซั่วที่นี่”

หากไม่ใช่ว่าเสิ่นอี่ว์มีสมรรถภาพทางร่างกายที่ดี คงรอนางกลับไปไม่ไหวหรอก แต่พิษที่รุนแรงขนาดนี้ จะเป็นพิษเรื้อรังได้อย่างไร?!

สายตาของกู้โม่หานมองไปทางหมอเจิ่ง

หมอเจิ่งเกิดความกังวลใจเล็กน้อย”พระชายา ท่านจะว่าบ่าวแบบนี้ได้อย่างไร บ่าวตรวจได้ว่าองครักษ์เสิ่นโดนพิษเรื้อรัง!”

หนานหว่านเยียนเอ่ยเสียงเย็นชา”พิษของอินูลาพิษ เจ้ากล้ามาพูดว่าเป็นยาพิษเรื้อรังหรือ?ไม่งั้นเจ้าลองชิมเองดูไหม?!”

หมอเจิ่งพูดติดอ่าง”นี่ จะเป็นอินูลาพิษได้อย่างไร?ข้า ข้ารู้สึกว่าถ้าเป็นพิษรุนแรง คนตายไปนานแล้ว……”

กู้โม่หานขมวดคิ้ว มีความเย็นชาปรากฏขึ้นบนดวงตา

ถึงแม้เขาไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ แต่เห็นได้ชัดว่าหมอเจิ่งคนนี้ความสามารถไม่ถึง

หากเป็นพิษรุนแรง หนานหว่านเยียนจะไม่ใช่คนกระทำแน่นอน สองวันนี้นางล้วนอยู่ที่จวนเฉิงเซี่ยง

เขาเก็บสายตากลับมา พูดกับหนานหว่านเยียนด้วยเสียงทุ้ม”รีบช่วยคน”

หนานหว่านเยียนทำเป็นไม่ได้ยิน ยังไม่ทันรอให้เขาสั่ง ก็เริ่มจัดการคราบเลือดให้เสิ่นอี่ว์

ส่วนกู้โม่หานทำหน้าเย็นชา หันไปพูดกับพ่อบ้านกาวว่า”พ่อบ้านกาว ไปตรวจสอบอาหารที่เสิ่นอี่ว์กินสิ!ข้าจะลองดูว่า ตกลงเป็นใครกล้าวางพิษต่อหน้าข้าเช่นนี้!”

คนนี้กล้าหาญมากนัก นึกว่าเขาไม่อยู่หรือไง!

“บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”พ่อบ้านกาวรับคำสั่งและถอยตัวลงไป

บรรยากาศในห้องอึดอัดมาก

หนานหว่านเยียนตั้งใจรักษาให้เสิ่นอี่ว์ หยิบเข็มเงินออกมาจากแขนเสื้อแล้วปล่อยเลือดออกมา จากนั้นก็ให้เขากินเม็ดยาหลายๆเม็ดอย่างต่อเนื่อง

นางขมวดคิ้ว รักษาคนไปด้วย ทำการแจกแจงไปด้วย

สูตรยาที่นางให้ไม่มียาที่ขัดแย้งกัน ยาชนิดอื่นก็ไม่มีพิษแน่นอน

ทำไมถึงให้เสิ่นอี่ว์โดนพิษอินูลาพิษล่ะ?

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการนำยาสองชนิดที่ขัดกันมาอยู่ด้วยกัน ถึงเกิดพิษรุนแรง

คิดเสร็จ นางก็นำยาในมือของสาวใช้ที่มาส่งยามาดม เพื่อแยกแยะกลิ่นในนั้น

ไม่มีคสามผิดปกติใดๆ

หนานหว่านเยียนมองไปที่สาวใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นมานาน ถามว่า”ยานี้ต้มตั้งแต่เมื่อไหร่?ต้มตามสูตรยาของข้าหรือเปล่า?”

สาวใช้คนนั้นร้องไห้อย่างหนัก”กราบทูลพระชายาเพคะ เช้าวันนี้บ่าวต้มตามสูตรยาที่ต้มให้องครักษ์เสิ่นในปกติ บ่าวไม่ใช่คนวางยาพิษแน่นอนเพคะ!”

กู้โม่หานขมวดคิ้ว ร่างกายถูกความเย็นชาปกคลุม

ในเวลานี้ พอดีว่าพ่อบ้านกาวกลับมา มือถือเข็มเงินและก้มหน้าพูดกับกู้โม่หานว่า

“ท่านอ๋อง บ่าวตรวจแล้ว อาหารขององครักษ์เสิ่นไม่มีพิษพ่ะย่ะค่ะ!”

หมอเจิ่งเลิกคิ้ว มีความแปลกประหลาดบางอย่างพาดผ่านในดวงตา

แต่คิดในอีกแง่หนึ่ง หนานหว่านเยียนกล้าทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง วันนี้เขาจะให้บทเรียนแก่นางสักหน่อย!

เขาพูดกับกู้โม่หานอย่างเคารพ”ท่านอ๋อง ฝีมือทางการแพทย์ของบ่าวอาจจะไม่ได้เก่งมาก แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา องครักษ์เสิ่นโดนยาพิษเรื้อรังแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ แต่พระชายากลับพูดว่าเป็นพิษรุนแรง หมายความว่าฝีมือทางการแพทย์ของพระชายาก็ไม่แม่นเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ ท่านรีบเชิญหมอหลวงมาดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

“และบ่าวขอพูดตรงๆพ่ะย่ะค่ะ เมื่อก่อนชื่อเสียงของพระชายาไม่ดีจริงๆ แต่ตอนนี้กว่าคนภายนอกจะเปลี่ยนแปลงความคิดกัน หากวันนี้เนื่องด้วยความหวังดีแต่กลับทำให้การรักษาองครักษ์เสิ่นต้องล่าช้าไป เกรงว่า……”

หมอเจิ่งนึกว่าเขาโง่หรือไง?

สถานการณ์ของเสิ่นอี่ว์ เขาก็เห็นมาเยอะ ดูก็รู้ว่าเป็นยาพิษรุนแรง

ความเย็นชาในสายตาของกู้โม่หานลึกกว่าเดิม เพิ่งคิดจะพูด ก็ได้ยินหนานหว่านเยียนหัวเราะเยาะออกมา

“หมอเจิ่ง ตอนนี้ข้าสงสัยอย่างยิ่ง เจ้าเคยเรียนการแพทย์จริงหรือ?”

“เจ้า เหตุใดพระชายาถึงมาดูถูกบ่าวเช่นนี้?”หมอเจิ่งโมโหจนหน้าและหูแดงไปหมด

หนานหว่านเยียนพูดด้วยเสียงเย็นชา”ไม่รู้ก็อย่าแกล้งทำเป็นรู้ แกล้งทำเป็นรู้แล้วยังโทษข้าว่าทำให้เจ้าหน้าแตกอีก?คนที่โดนยาพิษเรื้อรังจะมีอาการตัวดำ หลังจากมีเลือดพิษคั่งค้างในปอดจำนวนมากแล้วจะตายไป ส่วนการแสดงออกของเสิ่นอี่ว์ เห็นได้ชัดว่าเป็นยาพิษรุนแรง ภายนอกดูเป็นปกติ แต่อาเจียนเลือดดำออกมา”

“ในขณะเดียวกัน ยาพิษที่แตกต่างกัน อาการก็จะต่างกันออกไป สูตรยาที่ข้าออกให้เสิ่นอี่ว์มีอินูลา ใช้ในการถอนพิษและแก้อักเสบ แต่ยาเหล่านี้โอกาสที่จะก่อให้เกิดยาพิษเรื้อรังนั้นน้อยมาก ถึงแม้ข้าเอาสูตรยาให้หมอหลวงดู ก็ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น”

“เจ้าเป็นหมอ แต่แม้กระทั่งความรู้ทางการแพทย์ที่ง่ายขนาดนี้ยังไม่รู้ ยังจะรักษาโรคให้คนอื่นอีก ทำผิดก็ไม่รู้จักแก้ไข เจ้าไม่สนชีวิตของคนเลย ในฐานะที่เป็นอาชีพเดียวกันข้าว่าเจ้าควรรู้สึกอับอาย!”

ทันใดนั้นหมอเจิ่งก็จนคำพูด

เขาคิดไม่ถึงว่า ฝีมือทางการแพทย์ของหนานหว่านเยียนจนถึงระดับนี้ นั่นเป็นข้อสรุปที่แม่กระทั่งเซียนเซิงของเขายังต้องฝึกฝนมายี่สิบกว่าปีถึงวิจัยออกมาได้

พระชายาอี้อายุน้อยขนาดนี้ก็นำมาใช้ได้อย่างคุ้นเคยเลยหรือ?แถมยังบอกว่านี่เป็นแค่เรื่องง่ายๆ?!

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วสังเกตรอบๆ”ข้าว่ามีคนซ่อนอะไรอยู่ในห้อง เกิดปฏิกิริยาเคมีกับอินูลาของข้า ถึงกลายเป็นอินูลาพิษ!”

ปฏิกิริยาเคมีคืออะไรหรือ?

เซี่ยงวี่และคนอื่นๆฟังจนอึ้งไปหมด ส่วนกู้โม่หานเหล่ตา

ผู้หญิงคนนี้……

อยู่ๆก็มีกลิ่นหอมเข้าไปในจมูกของหนานหว่านเยียน ดวงตาของนางแน่นขึ้น และรีบเดินไปที่ต้นกำเนิดกลิ่นหอม

เป็นกระถางธูปหอมที่กำลังปล่อยควันออกมาอย่างต่อเนื่อง

นางขมวดคิ้วและเปิดกระถางธูปหอม พบว่าข้างในมีกลิ่นหอมของโกฐสอเล็กน้อยผสมอยู่

หนานหว่านเยียนโมโหมาก ตะโกนใส่กู้โม่หาน”ในธูปหอมได้ใส่โกฐสอ!มันขัดกับอินูลา เป็นเพราะสิ่งนี้ถึงทำให้เสิ่นอี่ว์โดนยาพิษ!”

หนานหว่านเยียนคิดไม่ถึงว่า คนที่วางยาพิษเก่งอยู่ ใช้ธูปหอมในการฆ่าคนลึกลับมาก แถมยังสามารถใส่ร้ายนางได้อีก

หากร่างกายของเสิ่นอี่ว์ไม่ได้ดีขนาดนี้ ก็จะตายไปแบบนี้

นางไม่มีโอกาสในการตรวจสอบด้วยซ้ำ ก็จะถูกกู้โม่หานสั่งประหารชีวิต