บทที่ 168 ล้มเลิกความคิด เป็นไปไม่ได้

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

บทที่ 168 ล้มเลิกความคิด เป็นไปไม่ได้

 

เสิ่นหยวนหนานทำตาโตค้าง “ภายใต้ความเป็นกับความตาย ง่ายต่อการพัฒนาจริง พังก่อนและตั้งหลักทีหลัง แต่ที่ใช้ชีวิตเสี่ยงเลยนะ ไม่ระวังหน่อยก็จะตาย!”

“และถ้าแกตายไปก็ไม่มีอะไรแล้ว อย่าว่าแต่ผ่านพ้นอะไรบ้าบอเลย”

เสิ่นหยวนหนานปฏิเสธความคิดของหลัวซิวทันที อยากจะให้เขาล้มเลิกความคิดนี้

เป็นผู้แข็งแกร่งชายุทธ์ เขาเองรู้ดีว่าสัมผัสความตายและกดดันมีโอกาสทำให้ผ่านพ้นได้จริง แต่เรื่องอันตรายแบบนี้ จะต้องให้ร่างกายถึงขีดจำกัดสุดๆ รู้ว่าตนไม่มีทางไปต่อได้ถึงจะใช้วิธีแบบนี้

และหลัวซิวยังเป็นหนุ่ม แต่ตั้งใจอดทนหลายปี ผ่านพ้นแดนฝึกจิตเป็นเรื่องที่สำเร็จแน่นอน

ใจร้อนอยากไปเร็ว เหมือนคนขี้ขลาด เป็นข้อห้ามในนักยุทธ์!

หลัวซิวเองก็เข้าใจเรื่องนี้ แต่เขาไม่อยากจะเสียเวลาในการฝึกตน เพราะเหยียนเยว่เอ๋อร์ไม่รู้ไปไหน ตายเกิดก็ไม่รู้

เขาจำเป็นต้องมีพลังอันแกร่งกล้า ถึงจะช่วยเธอได้

เขาหล่อนมีอะไรเกิดขึ้น หลัวซิวจะไม่มีทางให้อภัยตนเองที่ดูแลไม่ได้แม้กระทั่งแฟนของตนเอง

“ท่านครับ ขอร้องแล้วครับ!” หลัวซิวยังคงพูดอย่างยืนหยัด

รับรู้ได้ถึงความคิดที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงของหลัวซิว เสิ่นหยวนหนานหรี่ตามองไปทางเขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเห็นชอบ ตกใจ เสียดาย หลายอารมณ์ซับซ้อน

เขาเริ่มชื่นชมผู้ชายวัยสิบห้านี้ที่อยู่ตรงหน้า

เพราะเสิ่นหยวนหนานเองใช้เวลานานถึงสิบเจ็ดปีในแดนราชายุทธ์ขั้น5 เขาถามตนเองว่ามีความคิดที่กล้าไปเสียงตายไหม

สถานการณ์ตายขอเกิด ถ้าสำเร็จก็จะไปได้ไกล ไปสู้ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่กว่า

แต่ถ้าไม่สำเร็จ มีทางเดียวคือตาย ทุกอย่างกลายเป็นว่างเปล่า!

ผู้แข็งแกร่งชายุทธ์มีอายุขัยได้มากถึงพันปี ตอนนี้เสิ่นหยวนหนานผ่านไปแล้วสามร้อยกว่าปีแล้ว ถึงแม้ชีวิตนี้จะไม่พัฒนาได้อีก แต่ก็ยังใช้ชีวิตได้อีกราวๆ เจ็ดร้อยกว่าปี

“ไอ้หลัวซิวนี่ อาจจะเป็นเพราะยังหนุ่มก็เลยไม่กลัว ดังนั้นเทียบกับไอ้แก่อย่างตัวเองถือว่าเก่งและมีเสน่ห์!”

ในสายตาของเสิ่นหยวนหนาน ข้อห้ามของนักยุทธ์ หลัวซิวก็ทำไปแล้วคืออยากรีบพัฒนาตนเอง

แล้วเขาเองไม่เคยขี้ขลาดทำผิดข้อห้ามเหรอ?

ไหนๆ ตนเองก็ทำผิดไปแล้ว มีสิทธิ์อะไรที่จะว่าหลัวซิวหล่ะ?

ตั้งแต่ที่มาอยู่ที่เขตการปกครองโตว้ไห่แก๊ง มองไปทั่วก็ไม่มีใครเป็นคู่แข่งของตนเองสักคน เสิ่นหยวนหนานก็มีความอวดของความเป็นราชายุทธ์ คนที่จะทำให้เขาชื่นชมได้ มีน้อยมาก!

“หลัวซิว แกรู้ไหมว่าทำแบบนี้อันตรายแค่ไหน? ระหว่างความตาย อย่างละครึ่ง ฉันเองก็ไม่สามารถควบคุมแรงได้ อาจจะพลาดทำให้แกตาย”

เสิ่นหยวนหนานพูดเตือนอีกครั้ง เขาตัดสินใจแล้ว ถ้าหลัวซิวไม่เปลี่ยนความคิด ถ้าเขายังยืนยันแบบเดิม ตัวเองก็จะทำให้เขาสมหวัง

เสิ่นหยวนหนานคิดว่าเขาพูดขนาดนี้แล้ว หลัวซิวก็จะคิดไตร่ตรองก่อน แต่ที่เขาคิดไม่ถึงคือ หลัวซิวไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“คุณท่าน ลงมือเถอะครับ”

หลัวซิวสายตาเฉียบคม เผยพลังออกไป ความอาฆาตเผยออกมาหมด ดูเหมือนดาบที่แหลมคม แข็งกร้าว

สัมผัสความตายแต่ไม่ตาย ไม่ใช่เพียงแต่ทำให้เป็นบาดแผลหนักใกล้ตาย จะต้องรู้สึกถึงความตายและเป็นต่อสู้จริงและคอยต่อสู้กับความตาย

“ได้!”

ดวงตาของเสิ่นหยวนหนานมีแสงประกาย ยกมือตบไปทางหลัวซิว ฝ่ามือเต็มไปด้วยผนึกรวมพลังจิตแท้ ปล่อยแสงเขียว

ในวินาทีที่เสิ่นหยวนหนานลงมือ หลังของหลัวซิวก็มีคาบออกมา ที่ตัวมีดมีไฟนรกผนึกรวม ออกแรงเต็มตัว ไม่เก็บแรงไว้ม้าแต่น้อย

การฟันครั้งนี้ของเขา บอกได้เลยว่าแรงเทียบเท่ากับปรมาจารย์แดนฝึกจิตขั้น4ได้แล้ว

“ปั้ง!”

คายที่แรงเช่นนี้พอเผชิญกับฝ่ามือของเสิ่นหยวนหนาน แค่ทำให้เขาหยุดไปสักแป๊บ พลังอันน่ากลัวส่งผ่านดาบมา ทำให้หลัวซิวเลือดพุ่งทันที ต่อด้วยร่างกายกระเด็นออกไป

นี่ไม่ได้แปลว่าร่างของเสิ่นหยวนหนานแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะฝ่ามือของเขาใช้พลังจิตแท้ห่อหุ้มอยู่ ดาบของหลัวซิวฟันไม่ขาดการป้องกันของพลังจิตแท้แม้แต่น้อย

แววตาของเสิ่นหยวนหนานก็หยุดนิ่งสักแป๊บ เขาตั้งใจควบคุมแรงของตัวเอง แต่แรงที่ออกไปเมื่อกี้ก็พอที่จะฆ่า武宗ขั้นต้นแล้ว แต่หลัวซิวแค่เลือดพุ่งและมีแผลในเพียงเล็กน้อย

“ระดับแบบนี้ยังไม่เพียงพอ ฉันไม่รู้สึกถึงความกดดันจากความตายเลย” หลัวซิวตะโกนพูด

“ทำตามที่แกขอ!”

เสิ่นหยวนหนานปลดปล่อยแรงที่ควบคุมไว้อีกหน่อย ออกพลัง4ขั้น หนึ่งทีปล่อยออกไป พลังจิตแท้ผนึกรวมเป็นระฆังสีเขียวอ่อน ทับไปทางหลัวซิว

ทักษะยุทธ์ระดับ7 วิชาเฉียนคุนติ่งเจิ้น!

แรงของการตีครั้งนี้ เป็นปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น4ไม่ตายก็เจ็บหนัก

สีหน้าของหลัวซิวเต็มไปด้วยความน่ากลัว การตีนี้ เขารับรู้ได้ถึงความตายแล้ว

“พลังแปรเสวียนเทียน!”

“ตราธรรมจุติมรณะ!”

หลัวซิวใช้วิชาอาถรรพณ์และวิชาตราประทับพร้อมกัน ขาวดำผสมเป็นร่างเงาวงเวียนอยู่ในฝ่ามือ จำนั้นฝ่ามืออีกข้างดันไปข้างหน้า เริ่มวิชาตราประทับ

“ปั้ง!……”

เงาลวงวัฏจักรความเป็นตายและเตาใหญ่เขียวกระแทกอย่างหนัก ภายใต้พลังแปรเสวียนเทียนกลายเป็นวิชาอาถรรพณ์สามเท่าและเพิ่มเรื่อยๆ เตาใหญ่เขียวและเงาลวงวัฏจักรแตกสลายพร้อมกัน

หลัวซิวเองก็ไม่ได้สบายนัก ได้รับพลังกระทบ เลือดพุ่งกระฉูด

“รับมือได้งั้นเหรอ?”

นัยน์ตาของเสิ่นหยวนหนานมีความกลัวเผยออก แรงเมื่อกี้ ปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น4ไม่ตายก็เจ็บหนัก หลัวซิวกลับรับได้ หรือพลังของเขาจะรับปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น4ได้แล้ว?

และเขา เพิ่งจะจอมยุทธ์ใหญ่ และเพิ่งจะอายุสิบห้า!

แต่เสิ่นหยวนหนานเองก็สังเกตเห็นว่า เมื่อกี้หลัวซิวใช้เวทสองแบบ หนึ่งแบบคือวิธีลับที่เบ่งความสามารถที่ซ่อนไว้ อีกแบบคือเงาเครื่องขาวดำ เป็นเวทที่เก่งและเห็นได้ยากมาก

เทียบกับปราณแท้ที่เห็นได้บ่อย พลังแห่งความเป็นตายเห็นได้ยาก เสิ่นหยวนหนานก็เลยไม่รู้

ไม่ว่าจะเป็นยังไง เขาแน่ใจได้แล้วว่าหลัวซิว ที่สุดของอัจฉริยะ ไม่ว่ายังไงก็ห้ามตีเขาให้ตาย

“คุณท่านครับ ผมต้องการแรงกดดันที่มากกว่านี้”

สองครั้งติดต่อกัน ถึงแม้หลัวซิวจะมีแผลที่หนักแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่พอ

นัยน์ตาของเสิ่นหยวนหนาน มีแสงประกายเบ่งออกมา จอยผมขาวที่อยู่ข้างๆ ไม่มีลมแต่ขยับเอง “รับครั้งที่สามของฉันไว้!”

เขาควักมือไปจับ พลังจิตรอบด้านมารวมกัน ครั้งนี้ เขาใช้ ควบคุมฟ้าดินที่มีเพียงผู้แข็งแกร่งชายุทธ์จะมี

ที่เขาใช้อยู่ก็ยังคงเป็นของ วิชาเฉียนคุนติ่งเจิ้น แต่ใช้พลังของราชายุทธ์ออกแรง ราชายุทธ์ปกติไม่ตายก้เจ็บหนัก ต่ำกว่าราชายุทธ์ตายทางเดียว!

ไม่เพียงแต่เท่านี้ ภายใต้แรงกดดันจากราชายุทธ์ หลัวซิวเองก็ถูกล็อกตัว ทำได้เพียงมองดูรังสีเขียวพุ่งมาทางหน้าผาก

นอนสะจากว่า เขาสามารถสู้กลับรอบนี้ได้ ไม่อย่างงั้นก็ดิ้นจากแรงกดดันของราชายุทธ์และหลบหนีไป

ด้วยพลังของเขาแล้ว ทำขั้นนี้ไม่ได้แน่นอน

ความตายยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้ หลัวซิวถึงขีดที่ใกล้จะตายแล้ว

และนี่ก็คือสิ่งที่เขาต้องการ!

“อ้า!……”

ระฆังสีเขียงจะมากระแทกที่หน้าผากของเขาแล้ว วินาทีต่อไปก็จะสลายตัว หลัวซิวเงยหน้าร้องดัง ดาบบินออกมา

ดาบนี้ฟัน ผนึกรวมความคิดที่ดื้อด้านของเขา!

ดาบนี้ฟัน รวบรวมความกล้าที่ไม่เคยมีมาก่อน!

คาบนี้ฟัน การรวมตัวของความอาฆาตทั้งหมด!

ใจกลางแห่งวิถียุทธ์ แดนวิชากระบี่ พลังสังหาร ทั้งหมดนี้รวมเป็นหนึ่งรวมเป็นหนึ่งดาบ!

วินาทีที่ฟันออกไป หลัวซิวรู้สึกความกดดันที่มาจากราชายุทธ์ถูกแทนที่ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ค่อยชินกับแรกกดดัน แต่ไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเขาไว้ได้แล้ว สามารถขยับตัวได้แล้ว

เห็นระฆังสีเขียวห่างไกลจากหน้าผากของหลัวซิวแค่สามคืบ นัยน์ตาของเสิ่นหยวนหนานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กำลังจะเก็บพลังกลับคืนมา ถ้าหลัวซิวถูกระฆังตีตายจริงๆ จะเสียดายอัจฉริยะไปคนหนึ่งแล้วจริงๆ

ทันใดนั้น เสิ่นหยวนหนานเห็นหลัวซิวฟันดาบออกมา ทันใดนั้นตกใจจนหุบปากไม่ได้

“ห้วงกระบี่!เขาผ่านพ้นไปแล้วงั้นเหรอ?”