บทที่ 242 เลเวล 22
“แผนที่ถูกเคลียร์แล้ว”
ขณะที่มองดูสมาชิกระดับสูงเก็บกวาดสนามรบ หลิวเฉียงเหว่ยก็ส่งข้อความถึงเซียวเฟิง
กิลด์มิดซัมเมอร์ไม่ได้เสียหายอะไรมาก อัตราส่วนผู้เสียชีวิตเมื่อเทียบกับไวล์ดวูล์ฟแก๊งคือ 1:3 ผู้เล่นระดับสูงกว่า 30 คนของกิลด์มิดซัมเมอร์ถูกฆ่าตายและเสียค่าประสบการณ์ไปบางส่วน เป็นความสูญเสียที่พอมองข้ามได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือกิลด์มิดซัมเมอร์ได้รับของสวมใส่จำนวนมากกว่าที่เสียไป
ไม่เพียงแต่ไอเทมที่ดร็อปจากการตายของผู้เล่นกิลด์มิดซัมเมอร์เท่านั้น แต่ยังได้รับไอเทมที่ดร็อปจากไวล์ดวูล์ฟแก๊งอีกด้วย
เป็นเพราะผู้เล่นจำนวนมากของไวล์ดวูล์ฟแก๊งถูกฆ่าตาย ช่องเก็บของของพวกเขาจึงเต็มไปด้วยของสวมใส่มากมายที่ได้จากชั้นหนึ่งของมหาสุสานใต้พิภพ
“กิลด์มิดซัมเมอร์! คอยดูเถอะ! เรื่องนี้ไม่จบแน่! เราจะไม่ปล่อยให้พวกแกหนีไปหลังจากทำแบบนี้ได้หรอก!”
ผู้เล่นของไวล์ดวูล์ฟแก๊งไม่พอใจ แม้ว่าจะถูกฆ่าและนอนอยู่บนพื้น ก็ยังคงส่งเสียงโห่ร้อง พวกเขาไม่หยุดพูดสาปส่ง ก่อนจะกลับไปที่เมืองเพื่อทำการฟื้นฟูในจังหวะกลุ่มผู้เล่นระดับสูงของกิลด์มิดซัมเมอร์กำลังจะเหยียบย่ำซากศพของพวกเขา
“โอเค ออกจากแผนที่ได้เลย”
เซียวเฟิงเพิ่งจะหลอมของสวมใส่ระดับเริ่มต้นชิ้นสุดท้ายให้กลายเป็นเศษเหล็กเสร็จแล้ว พอได้ยินดังนั้นเขาก็ลุกขึ้นพูด ในเวลาเดียวกัน เขาก็ทำการบัฟที่ตัวเองแทนที่จะเป็นนายพลออร์คที่หลงทาง
นายพลออร์คที่หลงทางนั้นอยู่ในสถานะแข็งแกร่งสุด ๆ ตลอดเวลาด้วยผลของบัฟต่าง ๆ จากเซียวเฟิง หากผู้เล่นคนไหนเข้ามาโจมตีนายพลออร์ค พวกเขาจะพบว่าบอสแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าและถูกสังหารโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ
เอฟเฟกต์ที่ค่อนข้างโดดเด่นที่อยู่ใต้แถบพลังชีวิต ถูกเพิ่มมาด้วยสกิลของเซียวเฟิงในช่วงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
ไม่เพียงแต่ความเชี่ยวชาญของสกิลต่าง ๆ ของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเท่านั้น แต่อัญมณีที่กลายเป็นหินที่อยู่ด้านบนยอดของคทาปราชญ์ที่เสียหายก็เปล่งแสงแวววาวจาง ๆ ออกมา
นอกจากนี้ เซียวเฟิงก็รู้ในที่สุดว่าผลของค่าความเข้าใจจะนำผลดีแบบไหนมาสู่ค่าความเชี่ยวชาญสกิล นั่นคือ ค่าความเข้าใจหนึ่งหน่วยสามารถเพิ่มความเร็วของการได้ค่าประสบการณ์สกิล 0.1 หน่วย
ตัวอย่างเช่น ทุกครั้งที่ใช้สกิล จะเพิ่มค่าความเชี่ยวชาญของสกิลหนึ่งหน่วย ทว่าเมื่อมีค่าความเข้าใจ 5 หน่วย ความเชี่ยวชาญของสกิลจะเพิ่มขึ้น 1.5 หน่วยต่อครั้ง ซึ่งหมายความว่าหลังจากใช้สกิลสองครั้ง ค่าความเชี่ยวชาญของสกิลก็จะเพิ่มขึ้น 3 หน่วย
เผ่ามนุษย์มีพรสวรรค์คือได้ค่าความเข้าใจเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมผลที่ได้จากมันแล้ว ก็จัดเป็นพรสวรรค์ที่ดีอย่างแน่นอน
หนึ่งนาทีต่อมา เมื่อนายพลออร์คที่หลงทางซึ่งถูกเซียวเฟิงบัฟเล่นมาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงสูญเสียเอฟเฟกต์บัฟไป เซียวเฟิงก็ได้ฆ่ามันอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากเอฟเฟกต์บัฟของชายหนุ่มนั้นบ้าบอเกินไป ซึ่งได้ผลเหมือนกันแม้ใช้กับมอนสเตอร์ และมันก็เป็นบอสด้วย ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้เขารู้สึกถึงความโดดเด่นของผลบัฟเป็นครั้งแรก เป็นผลให้เขาไม่ได้ฆ่ามันจนกว่าระยะเวลาบัฟของตัวเองจะสิ้นสุดลง
“ทุกคนออกไป! กลับไปที่เมือง”
ในมหาสุสานใต้พิภพ หลิวเฉียงเหว่ยกำลังออกคำสั่งไปยังกลุ่มผู้เล่นระดับสูง
สมาชิกระดับสูงทุกคน รวมถึงลิลลี่ต่างประหลาดใจ พวกเขาคิดว่าหัวหน้ากิลด์เล่นใหญ่เพื่อยึดครองแผนที่นี้ก็เพื่อจะผ่านดันเจี้ยนของที่นี่ ทว่าพวกเขากลับได้รับคำสั่งให้ล่าถอยหลังจากกำจัดผู้เล่นคนอื่น ๆ ออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตามหลิวเฉียงเหว่ยยังคงมีสิทธิ์สั่งการเด็ดขาดต่อกิลด์มิดซัมเมอร์ ดังนั้นหลังจากที่เธอออกคำสั่ง สมาชิกคนอื่น ๆ ก็ต้องล่าถอยไปด้วยความสับสน
ในไม่ช้า นอกจากมอนสเตอร์อันเดดโซลที่เร่ร่อนไปมาแล้ว ก็ไม่มีใครอยู่ที่ชั้นหนึ่งของมหาสุสานใต้พิภพ
เซียวเฟิงก็ปรากฎตัวขึ้นไม่นานหลังจากที่ผู้เล่นของกิลด์มิดซัมเมอร์ออกไป เมื่อชายหนุ่มไม่พบร่องรอยของผู้เล่นคนอื่นแล้ว จึงเริ่มฆ่ามอนสเตอร์โดยไม่รอช้า
เขาใช้เวลาน้อยกว่า 10 นาทีในการกำจัดมอนสเตอร์ทั้งหมดในชั้นหนึ่งของมหาสุสานใต้พิภพ จากนั้นก็เข้าไปในชั้นสองและจัดการมอนสเตอร์ต่อไปเรื่อย ๆ
เซียวเฟิงวางแผนที่จะทิ้งเครื่องหมายห้วงมิติไว้ที่ชั้นสามของมหาสุสานใต้พิภพ เมื่อมีชั้นหนึ่งและชั้นสองเป็นกำแพงธรรมชาติ ต่อให้ผู้เล่นคนอื่นจะพบมหาสุสานใต้พิภพ พวกเขาก็จะบุกลงมาถึงที่นี่ไม่ได้
เซียวเฟิงไม่ฆ่ามอนสเตอร์ที่ชั้นหนึ่งของมหาสุสานใต้พิภพและตั้งใจปล่อยให้พวกมันเป็นอุปสรรคในการสกัดกั้นผู้เล่นคนอื่นในอนาคต ถ้าเขามาที่มหาสุสานใต้พิภพ ก็จะไปล่ามอสเตอร์ที่ชั้นสาม หากมอนสเตอร์ไม่เพียงพอ ก็ค่อยถอยจากชั้นสามกลับไปยังชั้นสอง ด้วยวิธีนี้ เขาไม่จำเป็นต้องฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดในชั้นก่อนหน้า เพราะถ้าต้องการเข้าไปในชั้นอื่น ชายหนุ่มก็สามารถถอยกลับมาแทนได้
มอนสเตอร์ในชั้นสองของมหาสุสานใต้พิภพนั้นค่อนข้างจะรับมือยาก ทุกตัวเป็นมอนสเตอร์ระดับสูงเลเวล 30 เป็นอย่างน้อย และมีบอสก็อยู่ทุกหนทุกแห่งซึ่งไม่ได้อ่อนแอกว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ในป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึก และอยู่กันอย่างหนาแน่นไปทั่ว แม้ว่าเซียวเฟิงจะได้รับคุณสมบัติที่โดดเด่นของพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาก็ฆ่าพวกมันไม่ได้ง่าย ๆ สังเกตได้จากแถบพลังชีวิตของเขาที่ยังคงขึ้น ๆ ลง ๆ
อย่างไรก็ตาม เซียวเฟิงก็คุ้นเคยกับแผนที่ ถ้าหากระมัดระวังตัวเพียงพอ มันก็ไม่อันตรายสำหรับเขาอยู่ดี
[ติ้ง! ยินดีด้วย! คุณได้เลื่อนเป็นเลเวล 22 แล้ว และได้รับแต้มค่าสถานะ 1 แต้ม]
เซียวเฟิงใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดในชั้นสองของมหาสุสานใต้พิภพ แต่เขาได้อะไรมากมาย รวมถึงของสวมใส่ วัสดุ และเหรียญทองมาเต็มถุง นอกจากนั้น ค่าประสบการณ์มหาศาลที่ได้มาทำให้เซียวเฟิงไปถึงเลเวล 22
ความเร็วในการเพิ่มเลเวลนี้ไม่มีใครเทียบได้ ดังนั้นจึงทำให้เซียวเฟิงติดอันดับ 1 ในกระดานผู้นำ
หลังจากไปถึงชั้นสามและทิ้งเครื่องหมายมิติแล้ว เซียวเฟิงก็ออกจากระบบ มันถึงเวลาอาหารเย็น เขาไม่รีบล่ามอนสเตอร์ที่ชั้นสามของมหาสุสานใต้พิภพ
“พี่เซียว ฉันติดเควสฆ่าบอสอ่ะ พี่เข้าสู่ระบบเมื่อไหร่ก็มาช่วยฉันด้วย” เซียวเฟิงเพิ่งเดินออกจากห้อง เขาก็ได้พบกับเฉียนโตวโตวที่ออกจากระบบแล้ว เธอขอร้องเซียวเฟิงทันที
“ตกลง แล้วเธอบอกหลิวเฉียงเว่ยให้เรียนรู้สกิลหลอมแล้วหรือยัง?” เซียวเฟิงพยักหน้าและถาม
“ฉันบอกเธอไปแล้ว แต่ค่าความเข้าใจของเธอต่ำเกินไปที่จะเริ่มภารกิจได้ แต่…” เฉียนโตวโตวส่ายหัวและพูดด้วยสีหน้าเขินอาย
“แต่อะไร?” เซียวเฟิงถามอย่างสับสนขณะเดินลงไปชั้นล่าง เขาสงสัยว่าเขาควรจะซื้อของสวมใส่ให้หลิวเฉียงเหว่ยเพื่อเพิ่มค่าความเข้าใจของเธอหรือไม่
“แต่ฉันได้รู้ว่าหลิวเฉียงเหว่ยนั้นไร้ความปราณีเกินไป เธอเล็งไปที่ตัว NPC คนแคระโดยเกลี้ยกล่อมให้เขาไปที่ฐานที่มั่นของกิลด์มิดซัมเมอร์โดยรับปากว่าจะให้ผลประโยชน์มากมายรวมถึงโรงตีเหล็กพิเศษและของสวมใส่มากมายให้หลอม ฉันรู้สึกว่า NPC คนแคระค่อนข้างสนใจ หากเธอได้รับค่าความโปรดปรานจาก NPC มากพอ เธออาจจะสามารถเอาตัวเขาไปได้จริง ๆ” เฉียนโตวโตวเดินตามเซียวเฟิงและตอบด้วยน้ำเสียงชื่นชม
หางตาของเขากระตุก หลิวเฉียงเหว่ยคิดจะให้อาจารย์ตี้เข้าร่วมกิลด์ของเธองั้นหรือ? ช่างทะเยอทะยานอะไรขนาดนี้!
“ถ้าเธอทำได้ หลังจากที่ฐานกิลด์อัปเลเวลไปถึงระดับหนึ่งและเปิดรับผู้เล่นทุกคนได้ เธอจะดึงดูดผู้เล่นจำนวนมากด้วยการผูกขาดสกิลหลอม แค่ค่าเทเลพอร์ตก็สามารถทำให้เธอมีรายได้มหาศาลแล้ว!” เฉียนโตวโตวยังคงพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมอย่างมาก
เซียวเฟิงมั่นใจและพูดไม่ออก เขาไม่นึกว่าหลิวเฉียงเหว่ยจะเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้
“นายท่าน… คุณโตวโตว อาหารเย็นของพวกคุณเสร็จแล้ว”
หนิงเคอเค่อสวมชุดสาวใช้ขาวดำ กำลังจัดจานบนโต๊ะ เมื่อเห็นเซียวเฟิงและเฉียนโตวโตวเธอก็รีบต้อนรับพวกเขา ด้วยชายขอบของผ้ากันเปื้อนทำให้อกสีขาวและใหญ่ของเธอค่อนข้างโดดเด่น เธอแอบเหลือบมองเซียวเฟิงแล้วรีบก้มหน้าลง แต่ยังคงทำตัวเหมือนกระต่ายขี้อาย
“เซียวหลิงอยู่ไหน” เซียวเฟิงนั่งลงใกล้ ๆ และถาม เฉียนโตวโตวมองไปที่หน้าอกที่โตอย่างน่าอัศจรรย์ของหนิงเคอเค่ออย่างไม่มีความสุขแล้วนั่งลงข้าง ๆ เซียวเฟิงด้วยท่าทางหดหู่
“ท่านเซียวหลิงยังเล่นเกม… เอ๊ย เธอกำลังทำการบ้านอยู่…” เห็นได้ชัดว่าหนิงเค่อไม่เก่งเรื่องโกหก ใบหน้าของเธอแดงขึ้นทันทีและเธอก็ก้มหน้าลง เธอหวังจะฝังใบหน้าไว้ในทรวงอกของเธอ
“บอกให้เธอมากินข้าว” เซียวเฟิงส่ายหัวด้วยอาการปวดหัว
“ค่ะ… นายท่าน”
หนิงเคอเค่อถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเดินออกจากห้องกินข้าวเพื่อขึ้นไปชั้นบน แต่เธอรีบร้อนและเกือบจะล้มลง โชคดีที่เธอจับราวบันไดทัน แต่เธอก็กลัวจนหน้าซีดและเอาแต่ตบหน้าอก ซึ่งทำให้หน้าอกอันน่าทึ่งของเธอสั่นอย่างต่อเนื่อง
“พี่เซียว พี่เลือดกำเดาไหลแล้ว” เฉียนโตวโตวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฮึ่ม ฮึ่ม”
เซียวเฟิงรีบละสายตาและแตะจมูกของเขา แต่ไม่เจอเลือดกำเดา เขาจึงรีบก้มหัวลงกินข้าว
หลิวเฉียงเหว่ยก็มาถึงแล้วเช่นกัน รถหรูของเธอจอดอยู่นอกวิลล่า จากนั้นเธอก็มาที่ห้องกินข้าวและเริ่มกินมื้อเย็น ตอนนั้นเองที่เซียวเฟิงตระหนักว่าหนิงเคอเค่อทำอาหารสำหรับห้าคน เขาไม่รู้ว่าหลิวเฉียงเหว่ยบอกหนิงเคอเค่อไว้ก่อนว่าเธอจะกินมื้อเย็นด้วย
“เราเจอปัญหาบางอย่างตอนที่ทำการเคลียร์แผนที่ในวันนี้”
หลิวเฉียงเหว่ยพูดกับเซียวเฟิงหลังจากกินโจ๊กไปเล็กน้อยด้วยท่วงท่าที่สง่าและสวยงาม
“มีปัญหาอะไร? ฉันคิดว่าเธอได้เคลียร์แผนที่ได้แล้วซะอีก” เซียวเฟิงพูดอย่างสับสนขณะกัดไข่ดาว
“มันมีกิลด์เล็ก ๆ กิลด์หนึ่งที่ค้นพบมหาสุสานใต้พิภพ ฉันฆ่าพวกเขาทั้งหมดและส่งพวกเขากลับไปที่เมือง” หลิวเฉียงเหว่ยพลิกผมของเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ ราวกับว่าการกวาดล้างกิลด์เล็ก ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเธอ
“กิลด์เล็ก? มีปัญหาอะไรตามมาหรือเปล่า?” เซียวเฟิงถาม สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ผู้เล่นที่พบในมหาสุสานใต้พิภพเป็นกิลด์เล็ก ๆ แทนที่จะเป็นผู้เล่นที่ไม่ได้สังกัดกิลด์
“กิลด์ขนาดเล็กนั้นสนิทกับกิลด์กลอรี่ ด้วยเหตุนี้หัวหน้ากิลด์กลอรี่จึงติดต่อฉันมาและกดดันฉันในนามของกิลด์กลอรี่ เรียกร้องให้ฉันขอโทษ”
หลิวเฉียงเหว่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบและบอกเซียวเฟิงว่าเกิดอะไรขึ้นในบ่ายวันนี้
แน่นอน ด้วยบุคลิกของเธอ มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะขอโทษ
“กิลด์กลอรี่? บราเธอร์ไนน์ออฟกลอรี่? เข้าใจแล้ว”
เซียวเฟิงพยักหน้า เขารู้ว่าหลิวเฉียงเหว่ยหมายถึงอะไรและไม่ได้พูดอะไรมาก ในทำนองเดียวกัน หลิวเฉียงเหว่ยก็ไม่ได้ถามอะไรมากเช่นกัน และยังคงกินข้าวต้มต่อด้วยท่วงท่าที่สวยงาม
“ฮึ่ม!”
ไม่นาน เซียวหลิงก็ลงมาข้างล่าง ดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ดี แต่เมื่อเห็นหลิวเฉียงเหว่ยเธอก็ชักสีหน้าและสะบัดผมหางม้าสองข้างสีบลอนด์ของเธอทันที เด็กสาวเริ่มกินข้าวเย็นอย่างโกรธจัด
เสน่ห์หลิวเฉียงเหว่ยเป็นแรงดึงดูดร้ายแรงต่อผู้ชายทุกคนรวมถึงเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดสำหรับผู้หญิง
เซียวเฟิงเป็นคนแรกที่กินข้าวเย็นเสร็จ หลังจากยืดเส้นยืดสายแล้ว เขาก็กลับไปที่ห้องและเข้าสู่ระบบ ชายหนุ่มตั้งใจที่จะทำภารกิจไปชั้นสามของมหาสุสานใต้พิภพต่อ
แต่ซือเยี่ยจิ๋งก็เข้าสู่ระบบและส่งข้อความถึงเซียวเฟิง เซียวเฟิงเลยต้องทิ้งแผนไปชั้นสามของมหาสุสานใต้พิภพ และเปิดใช้งานแหวนห้วงมิติเพื่อกลับไปยังชั้นสองของป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึกเพื่อออกสำรวจกับซือเยี่ยจิ๋งที่กำลังรอเขาอยู่…