เล่ม 1 ตอนที่ 240 สังหารใต้หล้า

ราชินีพลิกสวรรค์

แม้มู่ชิงเกอจะมิได้ลงมือแต่นางกลับป้องกันการโจมตีจากข้างหลังให้เจียงหลี

ในความร่วมแรงร่วมใจของทั้งสอง เจียงหลีจึงสังหารได้อย่างสบายใจ การโจมตีจากคนนับพันมิอาจ กล้ำกรายเข้ามาได้

“ฆ่ามันนน!”

ขณะที่ทุกคนต่างกำลังตกตะลึง การโจมตีก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

การโจมตีปะทุดุเดือด ภายใต้ดอกไม้ไฟระเบิดอันสวยงามโจมตีไปในทิศทางเดียวกัน เงาร่างทั้งสองกางปีกโบยบินราวกับผีเสื้อท่ามกลางดอกไม้ไฟ

มู่ชิงเกอผลักฝ่ามือส่งเจียงหลีออกไปหมายฟาดฟันศัตรู เมื่อการรายล้อมก่อตัวขึ้นนางจึงถูกดึงกลับมาอีกครั้ง ขณะที่แขนเสื้อพลิกม้วนกลับมาการโจมตีทั้งหมดก็ไร้ร่องรอยมองไม่เห็น

และการโจมตีของเจียงหลีทุกครั้ง ฝูงชนต่างแปรผันกลายเป็นแดนชำระ ทักษะการต่อสู้ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง พลังวิญญาณของนางดูเหมือนจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

เมื่อกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็คว้าข้อมือของเจียงหลีแล้วตะโกนเสียงกึกก้อง “จูเสียยย!”

ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกาย สีหน้าปีติยินดี

ตามคำพูดของมู่ชิงเกอ คำว่าจูเสียที่ซ่อนอยู่ในข้อมือของนางเปล่งประกายอย่างน่าอัศจรรย์และมีกำไลปรากฏบนข้อมือของนาง

วูบบบบ!

เสียงดังชัดขึ้น

มือของมู่ชิงเกอกลายเป็นเนื้อหยกขาว ฟื้นฟูความเสียหายที่ได้รับจากจูเสียอย่างรวดเร็ว

แต่เพียงพริบตาเดียวกำไลก็ลอยออกมาจากข้อมือของเจียงหลีเกิดประกายแสงสีทองกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์อันน่าทึ่งตกอยู่ในมือของเจียงหลี

ทันทีที่จูเสียตกอยู่ในเงื้อมมือ เจียงหลีรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกันในสายเลือด

นางรับรู้ถึงความสุขและจิตวิญญาณการต่อสู่ที่ทอดผ่านออกมาจากจูเสีย ทั้งยังรู้สึกถึงความใกล้ชิดและการพึ่งพาอาศัยจากมัน

“เจียงหลี จำได้หรือไม่ที่ข้าบอกว่าทำไมถึงเรียกมันว่าจูเสีย” มู่ชิงเกอปล่อยมือชักมือมือกลับจากการโจมตีแล้วยิ้มให้เจียงหลีเล็กน้อย

เรือนผมของทั้งสองปลิวไสวท่ามกลางเสียงฆ่าฟันทั่วสารทิศ

เจียงหลียิ้มขำ “แน่นอนข้าจำได้ เจ้าหวังว่ามันจะติดตัวข้าเพื่อลงโทษความชั่วร้ายในใต้หล้า”

“ดี! เช่นนั้นวันนี้เราฆ่าคนพวกนี้เสียให้สิ้นซาก” มีรอยยิ้มอยู่ในดวงตาของมู่ชิงเกอ ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกนางกำลังเผชิญไม่ใช่การสังหารหมู่ แต่เป็นงานเลี้ยงแห่งการรวมตัวกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน

ดวงตาสดใสของเจียงหลีพลันเฉียบคม นางยกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเย็นเยือกทรงอำนาจราชินีของนาง “ฆ่า!”

วูบๆ!

เงาร่างขวักไขว่สำแดงเดชของจูเสียออกมา แสงคมนับไม่ถ้วนสะเทือนออกมาจากจูเสียห้ำหั่นอย่างบ้าคลั่ง

อ้าก!

อ้ากกกก!

เสียงกรีดร้องน่าเวทนาดังขึ้นไม่หยุด พวกเขามองไปยังสิ่งประดิษฐ์ในมือของเจียงหลีด้วยความหวาดกลัว

นี่มันอาวุธอะไร เหตุใดจึงร้ายกาจเยี่ยงนี้

ความกลัว! ความโลภ! ความปรารถนา! ความริษยา!

ภายใต้การโจมตีที่น่าทึ่งของจูเสีย ด้านที่ชั่วร้ายที่สุดในใจผู้คนก็ถูกนำออกมา ผู้คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้บ่มบำเพ็ญ เป็นคนที่เหนือกว่า แต่พวกเขามักจะเป็นกลุ่มคนที่เย็นชาที่สุด!

ในจัตุรัส ผู้ที่ถูกฆ่าจะหายไป ไม่เห็นศพแต่กลับตกรอบไปในที่สุด

แน่นอนว่ามันเป็นการฆ่าที่มองไม่เห็นเลือด แต่ก็ยังทำให้คนที่เหลือรู้สึกหวาดกลัว น่ากลัวเกินไป! พลังรบช่างร้ายกาจจริงๆ!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อาวุธปรากฏออกมา เจียงหลีก็ทรงพลังยิ่งขึ้นราวกับพยัคฆ์ร้าย!

“ฆ่า! ฆ่านางซะ!” เฉียนจวิ้นที่อยู่ไกลจากสนาม เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ร้องเสียงหลง ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาเตือนเขาว่าวันนี้เจียงหลีต้องตาย!

วูบบ!

ทุกหนแห่งที่จูเสียเคลื่อนผ่านจะถูกกวาดล้างราบคาบ เมื่อผ่านไปหลายครั้งฝูงชนก็ไม่กล้าเข้าใกล้เพราะเกรงว่าจะโดนอาวุธนั่นสังหาร

ส่วนคนที่เหลือล้อมรอบเจียงหลีและมู่ชิงเกอแต่ไม่กล้าเข้าใกล้พวกนาง

ขณะนั้นเองเจียงเฮ่าและลู่เสวียนที่ยังคงถูกคนไม่น้อยไล่ล่าก็แสดงการต่อสู้อันดุเดือดออกมา

โจวยวนมองลู่เสวียนระหว่างการต่อสู้ ความเกลียดชังที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของนาง ทันใดนั้นนางก็ชี้นิ้วไปที่เจียงเฮ่ากับลู่เสวียนแล้วตะโกนบอกผู้คนที่กำลังล้อมรอบเจียงหลี “จับคนทั้งสองนี้ ตรึงกำลังเจียงหลีได้แน่นอน!”

เมื่อสิ้นเสียงนาง คนเหล่านั้นพากันถอยออกมาจารการล้อมโจมตีเจียงหลีแล้วกรูเข้าโจมตีเจียงเฮ่ากับลู่เสวียนแทน

เฉียนจวิ้นมองโจวยวนด้วยสายตาชื่นชม

เจียงหลีเหลือบมองโจวยวน ขณะนี้นางมีเพียงความเยือกเย็นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจของนาง ไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจต่อสตรีที่เคยทำให้นางรู้สึกเสียใจ

โฮกกกก!

เจียงเฮ่ากับลู่เสวียนที่กดดันมากขึ้น ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมาส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธา

เงาร่างของเจียงหลีกะพริบแวบเดียวก็หายตัวไปจากจุดเดิม

จูเสียกลายร่างเป็นเส้นแสงสีทองลอยไปยังทิศทางของเจียงเฮ่าและลู่เสวียน ส่วนมู่ชิงเกอคอยคุ้มกันอยู่ด้านหลังให้นาง

เพียงอึดใจเดียวเจียงหลีก็ไปปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าโจวยวนเสียแล้ว

ใบหน้าและดวงตาอันเย็นชาของนางมองโจวยวนที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ เจียงหลีไม่ปล่อยให้นางมีโอกาสตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น เรียวนิ้วทั้งห้าก็บีบคอนางแน่นแล้วพาถอยไปด้านหลังอย่างรุนแรง

ตู้มๆ

พลังวิญญาณที่ระเบิดในความรวดเร็วของเจียงหลีจึงทำให้พื้นหินของจัตุรัสเปิดออก

ข้างหลังของนางมีเสียงกรีดร้องของคนที่ถูกจูเสียสังหารดังขึ้น

ตู้มมม!

ฟู่ววว!

ร่างของโจวยวนกระแทกกับเสาหินในจัตุรัสอย่างรุนแรงและแรงกระแทกทำให้นางอ้าปากและกระอักเลือดออกมา ช่วงลำตัวเจ็บปวดรวดร้าวราวกับถูกเพลิงแผดเผา

“เจ้าสมควรตาย!” เจียงหลีแผดน้ำเสียงเยือกเย็น

ใบหน้าของโจวยวนบิดเบี้ยวเหยเกเพราะความเจ็บปวดแต่นางกลับยิ้มเย้ยหยัน “พวกเจ้าเป็นกบฏ”

เจียงหลีหรี่ตานิ้วทั้งห้าบีบแน่นขึ้นจนได้ยินเสียงดัง กรอบ โจวยวนถูกหักคอ เมื่อนาง ‘ตาย’ ศพของนางกลายเป็นเงาภาพลวงตาที่หายลับไปในเงื้อมมือของเจียงหลี

เมื่อสังหารโจวยวนได้แล้วแต่ความเยือกเย็นบนใบหน้าของเจียงหลีก็ยังมิเสื่อมถอย นางใช้วรยุทธ์ชวนเสินอิ่นหลีกหนีไป เมื่อปรากฏตัวอีกครั้งก็มายืนข้างกายมู่ชิงเกอแล้ว จูเสียก็กลับมาอยู่ในมือของนางอีกครั้งเสมือนสายธารแห่งแสง

ส่วนคนที่เหลือก็ถูกสังหารจนแหลกเป็นชิ้นๆ

พวกเขาหวาดกลัวแล้ว!

สยดสยองแล้ว!

เสียใจที่คิดลงมือ!

เหตุใดจึงต้องไปกระตุกหนวดเสือของเทพธิดาสังหารผู้นี้ด้วย

ถึงแม้จะไม่ได้ตายจริง แต่ความรู้สึกถึงแก่ความตายมันช่างสมจริงเหลือเกิน

ส่วนผู้ที่มิได้เจตนาต่อสู้ก็เริ่มถอยออกไปช้าๆ เริ่มหลบสายตา พวกเขามิต้องการรางวัลขององค์ชายรองอีกแล้ว!

“อาหลี!”

เจียงเฮ่ากับลู่เสวียนฝ่าวงล้อมมารวมตัวกับพวกเจียงหลีอย่างรวดเร็ว

“พวกเจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เจียงหลีรีบกวาดสายตาสำรวจร่างพวกเขา

ทั้งสองส่ายหน้าช้าๆ

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่อยากพูดออกมาให้เจียงหลีต้องเป็นกังวล

“พวกเจ้ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่ข้าพวกมันให้ข้า!” เฉียนจวิ้นบันดาลโทสะ เขาไม่พอใจที่คนตั้งมากมายแต่มิสามารถทำอะไรเจียงหลีได้

“องค์ชายรอง ข้างกายนางมีทั้งยอดฝีมือและในมือของนางยังมีอาวุธวิเศษอีกด้วย” หู่อี้เอ่ยเตือนเสียงทุ้มต่ำ

“ข้าไม่สน ฆ่ามันให้ตาย อาวุธวิเศษนั่นข้าก็จะเอามาให้ได้” เฉียนจวิ้นตวาดลั่นด้วยความโกรธ ดวงตาชั่วร้ายจ้องเขม็งไปที่เจียงหลี

“องค์ชายรอง กระหม่อมไม่เอารางวัลแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ใช่ กระหม่อมก็ไม่เอาด้วยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์ชาย ยกโทษให้กระหม่อมที่ไร้ความสามารถด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“กระหม่อมยอมแพ้”

“กระหม่อมก็ขอยอมแพ้เช่นกัน”

มิว่าเฉียนจวิ้นจะหมายมั่นเอาชีวิตของเจียงหลีอย่างไร ยามนี้คนเหล่นี้ก็คิดถอนตัวออกเสียแล้ว

“พวกเจ้ากล้ารึ!” สีหน้าของเฉียนจวิ้นเต็มไปด้วยพยับเมฆ

“เหอะ พวกเจ้านึกจะฆ่าก็ฆ่า นึกจะถอนตัวก็ถอนตัว เห็นข้าเป็นอะไร” เจียงหลีแทบจะเอ่ยขึ้นพร้อมกันกับเฉียนจวิ้น

แน่นอนว่าคำพูดของเจียงหลีกลบเสียงของเฉียนจวิ้นเอาไว้ได้มิด

คนที่เหลือต่างหันมามองนางสายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและระแวดระวัง

“เจียงหลีเจ้าคิดจะทำอะไร พวกข้าไม่ได้เป็นศัตรูของเจ้าต่อไปแล้ว”

เจียงหลีแย้มยิ้มและรอยยิ้มนั้นช่างดูเย้ยหยัน

ไม่ได้เป็นศัตรูกับนางอย่างนั้นหรือ

……………….