ความรู้สึกของมนุษย์นั้นบอบบางมากจริงๆ…
แต่ชีอ้าวชวางไม่เสียใจเลยที่ปฏิเสธพวกเขาอย่างเด็ดขาดไปในวันนี้ การทำแบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว
หลังจากหลับตาสักพัก ชีอ้าวชวางก็ลุกขึ้นเตรียมไปอาบน้ำ
ในเวลานี้ฉางคงก็ออกมานอนอยู่บนราวตากผ้าและพูดด้วยความกลัว “ชีอ้าวชวาง วันนี้น่ากลัวมากจริงๆ ข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะได้พบกับท่านจิงเฟิง”
“เขาแข็งแกร่งมาก ข้ารู้” ชีอ้าวชวางถอดเสื้อผ้าและเตรียมตัวอาบน้ำ
“ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งนะ ที่แห่งนีมีเขาคอยสนับสนุนอยู่ด้วย เขาเป็นผู้จัดการดูแลที่แห่งนี้” ฉางคงตบหน้าอกของเขาแล้วพูดอย่างตกใจ “กลุ่มของเราล้วนเชื่อฟังเขา ข้าแอบออกมา ถ้าเขาทำโทษข้าก็จบเห่แน่! เขาทำให้ข้าหายไปจากโลกนี้ได้ในพริบตาเลย อ๋าๆๆ น่ากลัวเกินไปแล้ว” ฉางคงดูท่าทางหวาดกลัวมาก
“ข้ารู้สึกได้ว่าเขารู้เรื่องราวที่ซ่อนอยู่มากมายทีเดียว เขารู้กระทั่งแผนการที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดด้วย” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและพูด “แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างจึงพูดออกมาให้ชัดเจนไม่ได้”
“ถึงอย่างไรเราก็ทำอะไรเขาไม่ได้” ฉางคงกระตุกมุมปาก “ข้าไม่อยากรู้หรอกว่าเขารู้อะไร ถ้าเขาฆ่าปิดปากล่ะ?!”
ชีอ้าวชวางเงียบคิดเล็กน้อย
“ชีอ้าวชวาง เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?” ฉางคงขึ้นเสียงถาม
“ข้ากำลังคิดว่า…คามิลล์…” ชีอ้าวชวางพูดเบาๆ
“ใคร? ใครคือคามิลล์?” ฉางคงประหลาดใจ
ชีอ้าวชวางเงียบไป แววตาดูเหม่อลอยเล็กน้อย และความคิดก็ค่อยๆ ล่องลอยไป คามิลล์ คามิลล์…เขาเป็นใครหรือ? เขาเป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้างนางมาตลอด คนดีอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่ คนเลวหรือ ก็ไม่ใช่ เขาอยู่เคียงข้างนางจนคุ้นเคยอย่างเป็นธรรมชาติไปแล้ว เขาเป็นคนที่ชงชากุหลาบให้นางพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน เขาเป็นคนที่ดูเหมือนจะแค่หยอกเล่นกับนาง แต่ที่จริงแล้วเป็นห่วงนางมาก
คามิลล์ คามิลล์…
ชีอ้าวชวางเรียกชื่อนั้นอยู่ในใจอย่างเงียบๆ
คำพูดของจิงเฟิงหมายถึงอะไรกันนะ? หรือว่าคามิลล์กำลังประสบปัญหาอยู่? คามิลล์ประสบปัญหาที่เขาแก้ไม่ได้หรือ?
“ไม่บอกข้าก็ช่างเถอะ ชิ ไม่สนใจเจ้าแล้ว” ฉางคงเห็นชีอ้าวชวางกำลังคิดอะไรบางอย่างไม่สนใจเขา จึงพูดอย่างโกรธๆ และหายเข้าไปในร่างกายของชีอ้าวชวาง
ชีอ้าวชวางกำลังอาบน้ำเงียบๆ แล้วกางมือออกช้าๆ มองมือที่คุ้นเคยแต่ไม่คุ้นเคยคู่นี้ หัวใจก็รู้สึกซับซ้อนมาก ความรู้สึกเย็นๆ ที่ติ่งหูกำลังปะทุออกมา ร่างกายนี้เป็นของเฟิงอี้เซวียน และต่างหูก็คือดวงตาของเหลิ่งหลิงยวิ๋น ตอนนี้พวกเขาทั้งสามได้กลายเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ความรู้สึกนี้แปลกและละเอียดอ่อนมากๆ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ชีอ้าวชวางก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปข้างนอก ไม่รู้ว่าทำไมในตอนนี้นางถึงอยากดื่มชากุหลาบสักถ้วยเหลือเกิน หากต้องการจะดื่มก็ต้องไปที่ถนนทางตะวันตกของสถาบันและหาร้านน้ำชาสักร้านหนึ่ง
นางออกมาเพียงคนเดียวและเจอร้านน้ำชาที่หรูหราร้านหนึ่ง ชีอ้าวชวางนั่งข้างหน้าต่างแล้วสั่งชากุหลาบมาลิ้มรสอย่างเงียบงัน แน่นอนว่าชาหอมของคามิลล์นั้นดีที่สุดแล้ว หรือควรจะบอกว่าคุ้นชินกับรสชาตินั้นกันนะ?
ข้างนอกมีฝนโปรยปรายลงมาช้าๆ กระจกหน้าต่างก็ค่อยๆ ขึ้นเป็นฝ้าไอน้ำ ชีอ้าวชวางมองไปที่กระจกหน้าต่างนั้น และความคิดก็ล่องลอยไป ในวันนั้น อากาศก็มืดมนเช่นนี้ ตอนที่ได้เจอกันตงเฟิงโฮ่วครั้งนั้น ทุกคนยืนบนกำแพงขับไล่สัตว์เวททะเล แต่คามิลล์ที่ไม่รู้ว่าไปหาร่มเล็กๆ มาจากที่ไหนกลับเอาร่มมากันน้ำทะเลที่กระเซ็นมา ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ตลกมาก แต่ท่าทางของคามิลล์กลับดูสง่างามและเป็นธรรมชาติ แม้แต่อาเป่าเองก็วิ่งไปหาคามิลล์เพื่อหลบน้ำทะเลเช่นกัน
ตอนนั้นที่ทุกคนอยู่ด้วยกันมันมีความสุขจริงๆ แต่เวลาแห่งความสุขมักสั้นเสมอ เมื่อไหร่ทุกคนจะได้พบกันอีกนะ? เหตุการณ์ในอดีตทั้งหมดวนกลับมาเรื่อยๆ ชีอ้าวชวางนึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขเหล่านั้นพร้อมรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า
“หือ ข้าคิดว่าเจ้ายิ้มไม่เป็นเสียอีก” ทันใดนั้นเสียงนุ่มนวลและมีเสน่ห์ก็ดังมาเข้าหูของชีอ้าวชวาง จากนั้นกลิ่นหอมก็เข้ามาเตะจมูก ดวงตาของชีอ้าวชวางเป็นประกาย จากนั้นอาซาเนียก็ยิ้มร่าและนั่งตรงข้ามกับชีอ้าวชวางแล้วเลิกคิ้วมองชีอ้าวชวางอย่างรักใคร่
รอยยิ้มบนใบหน้าของชีอ้าวชวางหายไปในทันทีแล้วก็มองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเย็นชาและพูดเบาๆ “รูปร่างหน้าตาของคุณหนูช่างไม่เข้ากับภายในเลยจริงๆ”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?!” สีหน้าของอาซาเนียเปลี่ยนไปทันที นางไม่ได้ยิ้มร่าแบบเมื่อครู่แล้ว แต่มองไปที่ชีอ้าวชวางและพูดด้วยความโกรธ “เจ้าหมายความว่ารูปลักษณ์ภายนอกของข้าตรงข้ามกับภายในหรือ?”
“อย่างน้อยที่สุดก็ลืมเรื่องมารยาทไปหมดแล้ว ข้าชมเชยการเลี้ยงดูของคุณหนูไม่ได้จริงๆ” ชีอ้าวชวางพูดอย่างหยาบคาย อย่างแรกเป็นเพราะผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้านี้ขัดขวางความทรงจำอันอบอุ่นของนางและอีกอย่างหนึ่งเป็นเพราะสายตาของผู้หญิงคนนี้มองนางราวกับเป็นเหยื่ออยู่เสมอ ผู้หญิงคนนี้อยากรู้อยากเห็นเรื่องของนางมาก แต่ชีอ้าวชวางจะไม่ให้โอกาสผู้หญิงคนนี้ได้รู้หรอก
“เจ้า! เจ้าพูดกับผู้หญิงแบบนี้ได้อย่างไร!” อาซาเนียมองชีอ้าวชวางอย่างโกรธจัด ใบหน้าของนางเป็นสีแดงไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดถึงนางอย่างไม่สุภาพเช่นนี้
ชีอ้าวชวางไม่ได้พูดอะไร แต่จิบชาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดสลัว บนถนนเส้นนั้น ทุกอย่างเปียกโชกไปด้วยละอองฝนที่ตกมาอย่างยาวนาน จากนั้นงก็ค่อยๆ รู้สึกสดชื่นขึ้นมา
“ชีอ้าวชวาง เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ความลับของเจ้านะ หึ!” อาซาเนียเข้าไปใกล้ชีอ้าวชวางและพูดเยาะเย้ย “จริงๆ แล้วเจ้าไม่ใช่ผู้ชาย เจ้าเป็นผู้หญิง”
หลังจากที่อาซาเนียพูดประโยคนี้ออกมาก็คอยสังเกตปฏิกิริยาของชีอ้าวชวางอย่างจดจ่อ แต่น่าเสียดายที่นางต้องผิดหวัง ชีอ้าวชวางยังคงดูเฉยเมยเช่นเดิมและไม่ได้หันมาสนใจ
“ชีอ้าวชวาง! เจ้าไร้มารยาทเกินไปแล้ว! มีผู้หญิงอยู่ข้างๆ แต่เจ้ากลับหันหลังเมินไป เจ้าแย่มาก!” เมื่อเห็นท่าทีไม่แยแสของชีอ้าวชวาง อาซาเนียก็หงุดหงิดและกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา
“ใครกันแน่ที่ไร้มารยาท? เจ้ามานั่งตรงข้ามข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตแถมยังพูดจาดูถูกข้าอีก ข้าไม่โจมตีเจ้าก็ถือว่าดีมากแล้ว” ชีอ้าวชวางหันมาเพียงเล็กน้อยแล้วพูดประชดประชันไป
อาซาเนียพูดไม่ออกและนั่งงุนงงอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน
“โอ้ เทพธิดาอาซาเนียของเราก็มีวันที่อับจนด้วยหรือ?” ทันใดนั้นเสียงขมขื่นก็ดังขึ้น
ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วมองภาพฝนตกที่นอกหน้าต่างอย่างรู้สึกหดหู่ เป็นเรื่องยากจริงๆ ที่จะหาที่เงียบๆ อยู่คนเดียวสักพัก นางไม่อยากมีปัญหา แต่เรื่องกลับเข้ามาหาจนได้ เสียงผู้หญิงคนนี้คือใครกัน?
“ไอเบล!” อาซาเนียส่งเสียงเย็นชาแล้วพูด “ข้าอับจนก็ยังดีกว่าคนรักของใครบางคนที่โลเลล่ะนะ”
“เจ้า! ผู้หญิงไร้ยางอาย เจ้าจะทำอะไรได้อีกนอกจากเกลี้ยกล่อมผู้ชายไปทั่ว? ทำไม วันนี้เล็งชีอ้าวชวางและจบลงด้วยความอับจนหรือ?” ผู้หญิงคนพูดนั่งลงข้างชีอ้าวชวางอย่างไม่เกรงใจแล้วก็พูดเยาะเย้ยถากถาง
ชีอ้าวชวางยังไม่หันไปมองฝนตกข้างนอกอย่างเงียบๆ ต่อ
ผู้หญิงสองคนกำลังฟาดฟันกันอยู่ สายตาที่พวกนางสบกันนั้นราวกับมีสายฟ้าเกิดขึ้นระหว่างสองคน
สิ่งนี้ไม่น่าแปลกใจสักนิด เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่สถาบันดวงดาวเลือกสี่ดาวสถาบันนั้น อาซาเนียมาแค่รายงานตัวกับสถาบันและหายตัวไป ต่อมาพอชื่อของดาวสถาบันทั้งสี่ออกมาเป็น เลนนี่ (คนที่ตายอย่างน่าสลด) พาริน่า (ที่ชอบแสร้งทำน่ารักปั่นหัวผู้ชาย) เบธฟินนีย์ (ผู้หญิงงที่เอาแต่ใจ ที่จริงๆ มีคนในใจอยู่แล้ว) และอีกคนก็คือไอเบลที่อยู่ตรงหน้า แต่แล้วพอทุกคนก็ได้พบกับอาซาเนีย พวกเขาก็พูดว่าอาซาเนียคือดาวสถาบันที่แท้จริง รูปลักษณ์ของนางคือที่หนึ่ง นางสิถึงจะเป็นดาวสถาบันได้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แต่รูปร่างหน้าตาของไอเบลสู้อีกสามคนที่เหลือไม่ได้ ถ้าอาซาเนียเข้ามา ไอเบลก็จะไม่ได้เป็นดาวสถาบันแล้ว ดังนั้นไอเบลจึงเป็นศัตรูกับอาซาเนียมาโดยตลอด
นี่ไม่ใช่เหตุผลหลักไอเบลเกลียดอาซาเนียขนาดนี้ แต่เป็นเพราะว่าเดิมทีไอเบลมีคนรักที่รักกันดี แต่หลังจากเขาที่ได้เจออาซาเนีย คนรักคนนั้นเปลี่ยนใจและเริ่มตามจีบอาซาเนียอย่างจริงจัง แต่หลังจากถูกอาซาเนียปฏิเสธความรู้สึก เขาก็คิดจะกลับมาหาไอเบล ไอเบลทุบตีเขาเกือบตายและบอกให้เขาไสหัวไป แต่ผลคือทั้งสองคนก็เป็นแบบนี้
“ข้าไม่เคยเกลี้ยกล่อมผู้ชาย มีแต่คนเลวๆ พวกนั้นมาติดข้าเอง” อาซาเนียพูดเสียงแข็งกว่าเดิม และคำพูดนี้ก็พุ่งตรงไปไอเบลที่คนรักของนางเปลี่ยนใจ ใบหน้าของไอเบลแดงก่ำด้วยความโกรธ และจู่ๆ ก็ยืนขึ้นตบโต๊ะอย่างโกรธเคืองแล้วชี้ไปที่อาซาเนียและพูด “นั่นเป็นเพราะผู้ชายเลวๆ ชอบผู้หญิงเลวไง!”
“ช่วยหลบๆ ไปที” ชีอ้าวชวางมองชากุหลาบที่กระเซ็นออกมาเพราะแรงตบนั้นแล้วยืนขึ้นอย่างจนใจและหันไปพูดกับไอเบล
ตอนนี้ไอเบลกำลังโกรธมาก นางไม่ได้ฟังคำพูดของชีอ้าวชวางและตะโกนออกมา “อะไรกัน? เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังมีเรื่อง?”
ชีอ้าวชวางไม่ได้พูดอะไร แค่ยื่นมือออกไปสะบัดเบาๆ แล้วไอเบลก็ยืนขึ้นไม่ได้อีก และร่างกายก็ลอยขึ้นไปในอากาศไ ปอยู่ตรงข้ามกับอาซาเนียที่กำลังมองอยู่
ผู้หญิงสองคนกรีดร้องอย่างตกใจทันที
ชีอ้าวชวางทำเพียงแค่ลุกขึ้นเรียกพนักงานและเปลี่ยนที่นั่ง หลังจากนั่งลงแล้วก็สร้างเขตกั้นขึ้นมาควบคุมไว้เพื่อปิดกั้นเสียงทั้งหมดจากโลกภายนอก จนกระทั่งเป็นเวลาดึกแล้ว ชีอ้าวชวางจึงลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างช้าๆ หลังจากจ่ายเงินเสร็จ
พอเดินไปที่ประตู ชีอ้าวชวางก็มองฝนพรำด้านนอกนั้นแล้วยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวเข้าไปในสายฝน
ตอนนี้ อาซาเนียมาอยู่ในหอพักของโจนาธานและโวยวายถึงพฤติกรรมที่ชีอ้าวชวางทำในร้านน้ำชาวันนี้ ส่วนโจนาธานก็หาวและฟังไปอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก