ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 107

จื่ออานต้องการที่จะออกไปให้เร็วที่สุด เมื่อออกจากพระตำหนักอี๋หลานได้ นางก็จะปลอดภัยแล้ว

อย่างไรก็ตามนางยังต้องแน่ใจว่าตนเองจะสามารถออกจากเขตพระหนักอี๋หลานได้อย่างปลอดภัย เพราะเมื่อนางจากไป แหวนแห่งจิตวิญญาณปล่อยพลังงานไฟฟ้าออกมาก็จะไม่สามารถรบกวนคลื่นสมองของพระสนมอี๋ได้อีกต่อไป พระนางจะต้องรู้สึกตัวขึ้นมาแน่ และจะส่งคนมาดักฆ่านาง

พระตำหนักเยว่ชิง

ประตูพระตำหนักปิดอยู่ พระสนมเหมยนั่งอยู่ในพระตำหนัก เซี่ยหลินก็นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในนั้น ชายสวมชุดดำคนหนึ่งที่ใบหน้าปกคลุมไปด้วยหนวดเคราเขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพระสนมเหมย

บนโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าพวกเขาต่างมีถ้วยชาวางไว้หนึ่งใบ มันยังกรุ่น ๆอยู่ แสดงให้รู้ว่าคนที่มาเพิ่งจะนั่งลงไปได้ไม่นาน

“ข้าไม่รู้จะทำยังไงแล้วก็เลยให้นางไปพระตำหนักอี๋หลาน ตามนิสัยของพระสนมอี๋แล้วจะต้องไม่ให้นางออกมาจากพระหนักอย่างปลอดภัยโดยเด็ดขาด” พระสนมเหมยกล่าวอย่างจริงจัง

“พระนางมีความมั่นใจหรือ?” ชายที่มีเคราถาม

พระสนมเหมยยิ้มเย้ยหยัน “น้องชาย พระตำหนักคือที่ของข้า หากเพียงคน ๆ เดียวข้ายังไม่สามารถฆ่าได้ แล้วจะรักษาตำแหน่งพระสนมเหมยมาได้ตั้งหลายปีได้อย่างไร?”

“กระหม่อมไม่ได้สงสัยในความสามารถของพระนาง กระหม่อมเพียงรู้สึกว่า แม้ว่านางจะรีบไปพระตำหนักอี๋หลานเป็นการส่วนตัว อย่างมากพระสนมอี๋ก็แค่ตำหนินาง จะลงมืออย่างโหดเหี้ยมได้เช่นไร?”

“อย่าถามเลย ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าควรรู้ เศษเสี้ยวนึงก็รู้ไม่ได้ มิเช่นนั้น จะเป็นภัยกับตัวเจ้าเอง” มีหรือที่พระสนมเหมยจะไม่รู้ว่าเขากำลังหยั่งเชิงนางอยู่? คนผู้นี้ก็เหมือนงูพิษที่มีอยู่อย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้อื่นรำคาญได้โดยง่าย หากไม่ใช่เพราะไม่รู้จะทำยังแล้ว นางจะไม่ยอมช่วยเขาโดยเด็ดขาด

คนผู้นี้ก็คือมหาเสนาบดีเซี่ย หวงไท่โฮ่วออกคำสั่งห้ามมิให้เขาเข้าวัง เขาก็เลยปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้ของเซี่ยหลินติดตามบุตรของเขาที่เข้าวังมาเพื่อเข้าเฝ้าเสด็จป้า

วันนี้เขามาที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่ เขารู้ว่าวันนี้เซี่ยจื่ออานจะต้องกลับจวน ถ้ากลับจวนไปแล้วจะลงมือไม่สะดวก ดังนั้นเป็นการดีที่สุด หากเกิดเรื่องกับนางที่ในวัง

เขาไม่สนว่าฮองเฮากับหวงไท่โฮ่วจะให้ความสำคัญกับจื่ออานยังไง เขาเพียงต้องการให้นางตาย เพียงแค่จื่ออานตายไป ก็จะสามารถลบล้างความอัปยศของเขาได้ และคนภายนอกก็จะค่อย ๆลืมเลือนเรื่องของจวนมหาเสนาบดีไปเช่นกัน

นอกจากเซี่ยจื่ออานจะตายแล้ว หยวนซื่อต้องโดดเดี่ยวและถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือ ถึงเวลานั้น เขาจะทรมานนางได้ตามใจชอบ

“ได้ กระหม่อมจะไม่ถาม” เขาขมวดคิ้วแล้วกัดฟันพูด “หยวนซุ่ยหยู่ เจ้าแต่งงานกับข้า แต่กลับทรยศหักหลังข้า นำร่างที่ไร้วิญญาณของลูกสาวเจ้ากลับไปให้เจ้า ให้เจ้าได้ลิ้มลองรสชาติของการอยู่ก็เหมือนตาย”

พระสนมเหมยขมวดคิ้ว “ลูกของนาง ก็คือลูกของเจ้าเช่นกันนี่”

มหาเสนาบดีเซี่ยมีสีหน้าที่ชั่วร้าย “ลูกที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับข้า จะเอาไว้ทำไม? กระหม่อมก็มีลูกสาวที่ชื่อหว่านเอ๋อ นางกำลังจะอภิเษกกับองค์รัชทายาทแล้ว”

พระสนมเหมยส่ายหัว “องค์รัชทายาทไม่ใช่เขยที่ดี เจ้าจงคิดให้รอบคอบ”

มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวในทันที “ไม่ใช่เขยที่ดีแล้วยังไงพ่ะย่ะค่ะ? ขอแค่นางสามารถรักษาตำแหน่งของกระหม่อมให้มั่นคงได้ก็พอ กระหม่อมรองรับอารมณ์โกรธของมู่หรงเจี๋ยมามากพอแล้ว”

พระสนมเหมยมองดูใบหน้าที่โหดเหี้ยมของเขา ก็รู้สึกขยะแขยงและคลื่นไส้อย่างหาใดเปรียบมิได้ นางก็เป็นแม่คน ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำไปก็ทำเพื่อลูกของนาง นางไม่เคยพบเคยเห็นใครที่ใช้กลอุบายที่อำมหิตเลือดเย็นแม้กระทั่งการใช้ทรัพย์สินทั้งหมดที่มีเพื่อการฆ่าลูกสาวของตนเอง

ขณะที่กำลังจะพูด ก็มีคนรีบร้อนเข้ามาในพระตำหนัก กล่าวเสียงค่อย “กราบทูลพระสนม เซี่ยจื่ออานออกจากพระตำหนักอี๋หลานแล้ว ต้าฉวนตามไปอยู่ ตอนนี้จะทำเช่นไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”

พระสนมเหมยยืนขึ้นในทันที “สนมอี๋ปล่อยให้นางออกไป?”

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์กล่าว

พระสนมเหมยถาม “ยังมี…?” พระสนมเหมยกะพริบตา ไม่ได้พูดคำต่อจากนั้นออกมา

องครักษ์ตอบ “มี”

พระสนมเหมยอุทาน “อะไรกัน? เป็นแบบนี้แล้วสนมอี๋ยังปล่อยให้นางจากไป?”

องครักษ์กล่าว “มันน่าแปลกมากพ่ะย่ะค่ะ นางเพิ่งจะจากไป พระสนมอี๋ก็ให้คนไปนำตัวนางกลับไป บอกว่าหากพานางกลับไปไม่ได้ก็ให้ฆ่านางทิ้งซะ”

มหาเสนาบดีเซี่ยลุกขึ้นทันที และกล่าว “พระสนมเหมย รีบส่งคนไปดักฆ่าเซี่ยจื่ออาน เพื่อช่วยพระสนมอี๋อีกแรงด้วย พ่ะย่ะค่ะ”